Tag: มะเร็งตับ

  • 9 โรคใหม่มีสาเหตุจากบุหรี่ !!!

    9 โรคใหม่มีสาเหตุจากบุหรี่ !!!

    9 โรคใหม่มีสาเหตุจากบุหรี่ !!! ในโอกาสครบรอบห้าสิบปีของการประกาศว่า การสูบบุหรี่ เป็นสาเหตุสำคัญของ โรคมะเร็งปอด และโรคเรื้อรังอื่น ๆ ล่าสุดมีการรับรองว่า 9 โรคใหม่ ที่เกิดจากการสูบบุหรี่ หรือได้รับควันบุหรี่มือสองจากผู้อื่นได้แก่ 1. มะเร็งตับ 2. มะเร็งลำไส้ 3. วัณโรค ทำให้มีความเสี่ยงในการเป็นวัณโรคมากขึ้น เสียชีวิตมากขึ้นและกลับมาเป็นซ้ำมากขึ้นด้วย 4. เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นเบาหวานถึงร้อยละ 30-40 เทียบกับผู้ที่ไม่สูบ 5. จอประสาทตาเสื่อมซึ่งจะสัมพันธ์กับอายุที่เพิ่มขึ้น 6. เพดานปากแหว่งตั้งแต่เกิด ในแม่ที่สูบบุหรี่ 7. ตั้งครรภ์นอกมดลูก 8. โรคข้อรูมาตอยด์และภาวะภูมิต้านทานร่างกายลดลง 9. โรคเส้นเลือดในสมองตีบหรือโรคเส้นเลือดในสมองแตกจากการได้รับควันบุหรี่มือสอง ซึ่งรายงานฉบับนี้มีความสำคัญมากต่อประเทศไทย เพราะโรคมะเร็งตับ มะเร็งลำไส้ เป็นโรคมะเร็งที่ชายไทยเป็นมากที่สุด ในขณะที่เบาหวานและวัณโรคก็เป็นโรคที่คนไทยเพิ่มจำนวนมากขึ้น เป็นผลมากจากการสูบบุหรี่ของชายไทยที่สูงขึ้น งานนี้นอกจากผู้สูบบุหรี่ต้องรักษาสุขภาพของตัวเองแล้ว งานควบคุมยาสูบในประเทศไทยก็ยังต้องการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน รวมทั้งรัฐบาลอย่างจริงจังในการควบคุมด้วย

  • ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากโรคเบาหวาน

    ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากโรคเบาหวาน

    ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากโรคเบาหวาน โรคเบาหวานเป็นโรคเรื้อรังที่มักเป็นตลอดชีวิต หากปล่อยปละละเลยหรือขาดการดูแล ก็อาจทำให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำหรือสูงจนรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ รวมไปถึงอาจเกิดโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ ที่จะค่อย ๆ ทำให้อวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายเสื่อมสภาพลงจนเกิดโรคแทรกซ้อนได้ทุกระบบ ซึ่งได้แก่ – หลอดเลือดแดงทั้งเล็กและใหญ่ทั่วร่างกายแข็งและตีบ ทำให้อวัยวะต่าง ๆ เกิดความเสื่อมได้ เช่น จอประสาทตาเสื่อม ตามัว ตาบอด ไตวายเรื้อรัง ประสาทเสื้อ ทำให้มีอาการชาปลายมือปลายเท้า ท้องเดินหรือท้องผูก – โรคกระเพาะอาหารเรื้อรัง – หน้าซีดเป็นลมเวลาลุกขึ้นยืน – องคชาตไม่แข็งตัว – หลอดเลือดหัวใจตีบ ทำให้หัวใจวายเสียชีวิตได้ – อัมพาต – ความจำเสื่อม – ติดเชื้อได้ง่าย เพราะเบาหวานทำให้ภูมิคุ้มกันต่ำลง และอาจติดเชื้อซ้ำซาก เช่น กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ช่องคลอดอักเสบ โรคเชื้อราที่ผิวหนัง ฝี พุพอง – การติดเชื้อรุนแรง เช่น กรวยไตอักเสบเฉียบพลัน ปอดอักเสบ วัณโรค –…

  • ไวรัสตับอักเสบซี อันตราย แต่ป้องกันได้ถ้าเข้าใจ

    ไวรัสตับอักเสบซี อันตราย แต่ป้องกันได้ถ้าเข้าใจ

    ไวรัสตับอักเสบซี อันตราย แต่ป้องกันได้ถ้าเข้าใจ ไวรัสตับอักเสบซี เป็นเชื้อไวรัสที่ค้นพบมาเป็นเวลาสิบกว่าปีแล้ว ทำให้ตับอักเสบได้แบบเฉียบพลันและเรื้อรัง ทำให้เกิดเป็นตับแข็งและมะเร็งตับได้ เป็นเชื้อไวรัสตับอักเสบที่รุนแรงมากกว่าเชื้อชนิดอื่น ไม่มีวัคซีนป้องกัน ทำได้เพียงให้ยาลดไวรัสและป้องกันการเกิดมะเร็งตับเท่านั้น โรคนี้สามารถติดต่อได้ทางเลือดและผลิตภัณฑ์ทางเลือดทุกชนิด โดยเฉพาะหากเคยได้รับมาก่อนปี 2535 ติดต่อได้ทางเข็มฉีดยา ทางการสักหรือเจาะหูด้วยอุปกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน การฟอกไต การสักตัว สักคิ้ว สักขอบตา อุปกรณ์เสริมสวยไม่ว่าจะเป็นการทำผม ทำเล็บที่ใช้มีดโกน กรรไกร เป็นต้น การรักษาโรคไวรัสตับอักเสบซี ในผู้ที่เป็นตับอักเสบเฉียบพลัน เนื่องจากโรคนี้ผู้ป่วยมักไม่ค่อยแสดงอาการ จึงไม่มีการรักษาใด ๆ เป็นเพียงการดูแลตามอาการเท่านั้น ไม่นอนดึกและหลีกเลี่ยงอาหารหมักดอง แต่ในผู้ที่เป็นตับอักเสบเรื้อรังนั้น มียาที่ใช้เป็นมาตรฐานในการรักษาอยู่สองตัวร่วมกันก็คือ ยาฉีดในกลุ่มอินเตอร์เฟอรอนกับยาไรบาไวริน ซึ่งเป็นยากิน ทั้งสองชนิดช่วยกำจัดไวรัสให้หมดไปและไม่เป็นซ้ำอีกมีผลถึงร้อยละ 50 ในส่วนของการป้องกันไวรัสตับอักเสบซีนั้น จึงควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อทุกอย่าง เช่น การใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน ไม่เข้าร้านสัก เจาะ หรือทำผมทำเล็บที่ไม่ได้มาตรฐาน ควรใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ รวมไปถึงการดูแลรักษาร่างกายให้แข็งแรงไว้อย่างสม่ำเสมอด้วย  

  • ทานถั่วป่นและพริกป่นมากเสี่ยงเป็นมะเร็งตับได้นะ

    ทานถั่วป่นและพริกป่นมากเสี่ยงเป็นมะเร็งตับได้นะ

    ทานถั่วป่นและพริกป่นมากเสี่ยงเป็นมะเร็งตับได้นะ นอกจากสารอะฟลาทอกซินจะพบมากในถั่วป่นแล้ว ในพริกป่นก็สามารถพบได้มากเช่นเดียวกัน โดยสารชนิดนี้เป็นสารก่อมะเร็งตับร้ายแรง พบได้ในถั่วลิสงและผลิตภัณฑ์ทำจากถั่วลิสงทุกชนิด รวมไปถึงธัญพืชและผลิตภัณฑ์แปรรูปหลากหลาย เนื่องจากสารพิษอะฟลาทอกซินนี้สามารถทนความร้อนได้ถึง 250 องศาเซลเซียส ดังนั้นแม้จะนำเอามาปรุงอาหารแล้วก็ยังไม่สามารถทำลายสารพิษชนิดนี้ได้อยู่ดี ยิ่งหากเป็นแม่ลูกอ่อนทานอาหารที่มีสารพิษนี้เข้าไป สารพิษจะถ่ายทอดสู่ลูกได้ผ่านทางน้ำนมและทำอันตรายต่อทารก ซึ่งเคยปรากฏในการศึกษาวิจัยมาแล้ว หากจำเป็นต้องทาน ก็ควรเลือกให้ดี เมื่อไปกินอาหารนอกบ้านควรระวังอาหารที่ต้องปรุงรส ไม่ว่าจะเป็น ก๊วยเตี๋ยว ผัดไทย ยำ ฯลฯ หรืออาหารที่ปรุงรสจัดอื่น ๆ หากสังเกตได้ว่าเครื่องปรุงในพวงเครื่องปรุงมีความอับชื้นและมีกลิ่นหืน จับตัวเป็นก้อนและมีสีที่ไม่ปกติ เช่น มีสีเหลืองคล้ำหรือมีเชื้อรา ฯลฯ ก็ไม่ควรตักมาปรุง หลีกเลี่ยงไปเลยจะปลอดภัยกว่า และควรกำชับให้แม่ค้าว่าไม่ใส่ถั่วป่นหรือพริกป่น แต่ให้ปรุงด้วยพริกสดแทน ก็จะได้รสชาติที่เผ็ดร้อนเหมือนกัน

  • เช็คตัวเองว่ามีปัจจัยเสี่ยงของมะเร็งตับบ้างหรือเปล่า

    เช็คตัวเองว่ามีปัจจัยเสี่ยงของมะเร็งตับบ้างหรือเปล่า

    เช็คตัวเองว่ามีปัจจัยเสี่ยงของมะเร็งตับบ้างหรือเปล่า? มะเร็งตับเป็นมะเร็งที่ไม่ค่อยตรวจพบในระยะแรกเท่าไร แต่ผู้ป่วยมักไปพบแพทย์ก็ตอนที่เป็นในระยะท้าย ๆ แล้ว อีกทั้งยังเป็นมะเร็งที่มีระยะฟักตัวนานอีกด้วย และมีปัจจัยหลายประการในการทำให้เป็นมะเร็งตับขึ้นมาได้ วันนี้มาลองตรวจสอบตัวเองกันดูว่าคุณเข้าข่ายว่าจะเป็นมะเร็งตับบ้างหรือเปล่านะคะ ปัจจัยเสี่ยงในการเป็นมะเร็งตับได้แก่ – เพศชายจะมีโอกาสเป็นมากกว่าเพศหญิง เพราะพฤติกรรมบางประการเช่น ดื่มเหล้าและสูบบุหรี่มากกว่า – ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ ชาวเอเชีย ชาวอเมริกา ชาวเกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก มีโฮกาสเป็นมะเร็งตับสูงกว่า – ผู้ที่มีเชื้อไวรัสตับอักเสบบี ไวรัสตับอักเสบซี ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคตับแข็ง ก็สามารถเป็นโรคมะเร็งตับได้เช่นกัน เชื้อนี้สามารถติดต่อกันได้ทั้งทางเพศสัมพันธ์ การใช้เข็มฉีดยา และการถ่ายทอดจากแม่สู่ลูกในครรภ์ รวมไปถึงการรับเลือดบริจาคด้วย – เป็นโรคตับแข็ง เพราะเซลล์ตับจะถูกทำลายและเหลือรอยแผลไว้ มักเกิดจากการดื่มแอกอฮอล์, เป็นไวรัสตับอักเสบบีและซี รวมไปถึงภาวะมีธาตุเหล็กในร่างกายมากเกินไป จะพัฒนาสู่การเป็นมะเร็งตับได้ – ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานมาก โดยเฉพาะผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์มากหรือมีภาวะตับอักเสบร่วมด้วย – ผู้ที่เป็นโรคอ้วน ก็เสี่ยงเช่นกัน – มักได้รับสาร Aflatoxine เป็นเวลานาน ซึ่งสารนี้คือเชื้อราที่อยู่ในพืชตระกูลถั่วต่าง ๆ ทั้งข้าว ข้าวสาลี ข้าวโพด ถั่วลิสง เป็นต้น – เป็นผู้ที่ได้รับสาร Vinyl…

  • ป้องกันมะเร็งแบบไม่ยาก ทำตามได้ทุกคน

    ป้องกันมะเร็งแบบไม่ยาก ทำตามได้ทุกคน

    ป้องกันมะเร็งแบบไม่ยาก ทำตามได้ทุกคน โรคมะเร็งเป็นโรคที่ใคร ๆ ก็หวาดผวา เพราะอาการของโรคจะสร้างความเจ็บปวดทรมานมาก ลุกลามไปอวัยวะอื่น ๆ ได้ และมักคิดกันว่าคงรักษาไม่หาย รอวันตายอย่างเดียว แต่ความจริงแล้วมะเร็งบางโรคสามารถป้องกันได้และรักษาให้หายขาดได้หากพบตั้งแต่ในระยะแรก ๆ วันนี้จึงขอนำเอาวิธีการป้องกันมะเร็งแบบไม่ฝาก แบบที่สามารถทำตามได้ทุกคนมาฝากกันนะคะ 1. หมั่นตรวจร่างกายบ่อย ๆ สำคัญมาก แม้จะแข็งแรงอยู่แล้ว เพราะคนที่พบว่าตนเองเป็นมะเร็งแล้วต้องตายหรือรักษาไม่ได้นั้นมักเป็นเพราะว่า ผู้นั้นมักตรวจพบว่าตนเป็นมะเร็งในระยะรุนแรงแล้ว ซึ่งตลอดมาก็วินิจฉัยโรคเอง ซื้อยากินเอง อาการเตือนเหล่านี้หากไม่ได้รับการวินิจฉัยให้ละเอียดก็ทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นโรคอื่น ๆ ได้เช่นกัน ดังนั้นจึงควรตรวจสุขภาพทุกปี และในระหว่างนั้นหากมีสิ่งผิดปกติอื่น ๆ ตามร่างกายเช่น มีตุ่มมีเนื้องอก หรือมีเลือดออก ฯลฯ ควรรีบไปตรวจเลยนะคะ 2. เลือกทานอาหารที่ช่วยต้านทานเซลล์มะเร็งได้ ซึ่งได้แก่ ผักและผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระได้ ไม่ว่าจะเป็นผักคะน้า กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก มะเขือเทศ กระเทียม หัวหอม ขึ้นฉ่าย ผักโขม หัวหอม ผักโขม แอปเปิ้ล แครอท ฯลฯ, ดื่มชาเขียวที่มีสารคาเตชินและสารต้านอนุมูลอิสระมากมาย, น้ำสะอาด ๆ…

  • ภัยจากการแพ้นมวัวในเด็กเล็ก

    ภัยจากการแพ้นมวัวในเด็กเล็ก

    ภัยจากการแพ้นมวัวในเด็กเล็ก ส่วนใหญ่แล้วเด็กที่มีเด็กที่แพ้โปรตีนในนมวัวนั้น กว่าครึ่งจะแสดงอาการออกมาให้เห็นตั้งแต่อายุน้อยกว่า 1 เดือน โดยจะแสดงอาการเป็นผื่น รองลงมาเป็นอาการทางระบบทางเดินอาหาร ในจำนวนของเด็กที่กินนมวัวก่อนอายุครบหกเดือนนั้น ครึ่งหนึ่งจะแพ้นมวัว โดยจะมีอาการอย่างละเอียดดังต่อไปนี้ 1. แสดงอาการที่ระบบทางเดินอาหาร มักจะปวดท้อง ท้องอืด ท้องผูก ท้องเสีย โคลิก อาเจียน กรดไหลย้อน ถ่ายเป็นเลือดและน้ำหนักขึ้นน้อย 2. มีอาการผิวหนังอักเสบ มีผื่นคัน ชันตุ น้ำเหลืองเยิ้ม ลมพิษ ผิวแห้ง 3. มีปัญหาในระยะหายใจ ทั้งการนอนกรน คัดจมูก น้ำมูกไหล คันตาคันจมูก เลือดกำเดาไหล มีเสมหะในคอ หอบหืด กระแอมบ่อย ไซนัสอักเสบ ทอลซิลอักเสบ หูชั้นล่างอักเสบ ต่อมอดีนอยด์โต ต่อมน้ำเหลืองโต ตับและม้ามโต ภาวะหลับตายเนื่องจากแพ้โปรตีนนมวัว 4. มะเร็งในส่วนต่าง ๆ ทั้งต่อมน้ำเหลือง เต้านม รังไข่ ต่อมลูกหมาก ปอด ไต ตับ ลำไส้…

  • ภาวะไขมันคั่งในตับ

    ภาวะไขมันคั่งในตับ

    ภาวะไขมันคั่งในตับ  โรคตับแข็งหรือมะเร็งตับที่เพิ่มอัตราผู้ป่วยมากขึ้นในระยะหลายปีมานี้ มักจะเป็นผู้ที่ไม่เคยดื่มเหล้า หรือติดเชื้อไว้รัสตับอักเสบมาก่อนเลย แต่จะมีลักษณะร่วมคล้าย ๆ กันก็คือ ผู้ป่วยอ้วนน้ำหนักเกิน เป็นเบาหวาน มีไขมันในเลือดสูง ในตับจึงตรวจพบไตรกลีเซอร์ไดร์คั่งสะสมอยู่เป็นจำนวนมาก ตับอักเสบเป็นเวลานาน จนเกิดพังผืดขึ้นและลุกลามจนกลายเป็นตับแข็งในที่สุด ตับนั้นเป็นอวัยวะที่สำคัญชิ้นหนึ่งในร่างกาย ทำหน้าที่หลายอย่าง ทั้งกักเก็บสารอาหาร สังเคราะห์โปรตีน โคเลสเตอรอล วิตามิน ควบคุมการสันดาปของฮอร์โมน ผลิตน้ำดีเพื่อย่อยไขมัน ผลิตสารที่นำเกล็ดเลือดไปห้ามเลือดเมื่อผนังหลอดเลือดได้รับบาดเจ็บ ช่วยกำจัดสารพิษของร่างกายได้ด้วย ฯลฯ เมื่อตับมีไขมันมาคั่งอยู่เป็นจำนวนมาก การทำงานของตับจึงผิดปกติ ส่งผลกระทบไปทั่วร่างกาย ภัยแฝงจากภาวะไขมันคั่งในตับนี้มักจะเกิดขึ้นแบบไม่รู้ตัว แรก ๆ จะมีสุขภาพเป็นปกติ อาจพบโดยบังเอิญจากการตรวจสุขภาพ แล้วพบว่าค่าเอนไซม์ตับสูงผิดปกติ หากไม่เคยตรวจเลยก็อาการก็อาจพัฒนาไปสู่ภัยร้ายได้มากขึ้น เมื่อภาวะไขมันคั่งในตับรุนแรง ผู้ป่วยจะรู้สึกปวดแน่นชายโครงขวา อึดอัด เบื่ออาหาร ท้องอืดเฟ้อ อ่อนเพลีย อาจมีท้องผูกสลับกับท้องเสีย บางคนก็มีอาการดีซ่าน คลื่นไส้อาเจียน จนกลายเป็นตับแข็ง และมะเร็งตับในที่สุด ผู้ที่มีภาวะไขมันตั่งตับนั้น ควรดูแลสุขภาพตัวเอง ด้วยการควบคุมอาหารและดูแลน้ำหนักตัว ยิ่งคนที่อ้วนน้ำหนักเกินเป็นเบาหวาน และมีไขมันสูงด้วยแล้วจะมีโอกาสเกิดภาวะไขมันสะสมในตับได้ถึงร้อยละ 90 ควรใส่ใจในเรื่องของอาหาร ทานแต่อาหารที่ปรุงแต่งน้อย ๆ เช่น…

  • มะเร็งตับ พบได้มากเป็นอันดับหนึ่งในผู้ชาย

    มะเร็งตับ พบได้มากเป็นอันดับหนึ่งในผู้ชาย

    มะเร็งตับ พบได้มากเป็นอันดับหนึ่งในผู้ชาย มะเร็งตับนั้นเป็นมะเร็งที่พบได้มากในคนไทยค่ะ เป็นอันดับหนึ่งของผู้ชาย และเป็นอันดับที่สี่ของทั้งสองเพศรวมกัน ผู้ชายจะพบว่าเป็นได้มากกว่าผู้หญิงถึง 2-3 เท่าตัว โรคมะเร็งตับนี้มักจะพบเมื่อแสดงอาการแล้ว เช่น อ่อนเพลีย น้ำหนักลด เจ็บชายโครงด้านขวา มักได้รับการวินิจฉัยแล้วว่าเป็นมะเร็งตับระยะสุดท้าย ในบ้านเรามีมะเร็งตับอยู่สองแบบได้แก่ 1. มะเร็งตับที่เกิดจากโรคพยาธิใบไม้ในตับ จากการกินปลาดิบ ทำให้เป็นมะเร็งท่อน้ำดี ซึ่งก็คือมะเร็งที่เกิดจากเซลล์ภายท่อน้ำดีส่วนที่อยู่ภายในตับ พบมากในภาคอีสานและภาคเหนือ 2. มะเร็งตับที่เกิดจากเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดบีหรือซี หรือสองตัวรวมกัน สามารถติดต่อได้ทางเพศสัมพันธ์ ทางเลือด หรือถ่ายทอดจากแม่ไปสู่ลูกในครรภ์ เมื่อติดเชื้อแล้วจะแฝงตัวอยู่ในร่างกายได้นานเป็นสิบปี สามารถแพร่เชื้อเป็นพาหะได้ กลายเป็นโรคตับอักเสบในที่สุด จะกลายเป็นโรคตับแข็งและมะเร็งเซลล์ตับ อาจกินเวลาฟักตัวเป็นโรคนานถึง 30-50 ปี ยิ่งหากผู้ป่วยดื่มเหล้าก็จะยิ่งทำให้เกิดโรคตับได้เร็วขึ้นด้วย ในด้านของการป้องกันมะเร็งตับนั้น สามารถทำได้โดยไม่กินปลาน้ำจืดดิบ ๆ เด็ดขาด ควรกินเฉพาะที่สุกเท่านั้น หากตรวจพบว่าเป็นโรคพยาธิใบไม้ในตับให้รีบกินยารักษาแล้วอย่ากินปลาดิบอีก งดการดื่มสุรา และไปฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี ซึ่งโรงพยาบาลส่วนใหญ่จะฉีดให้ทารกตั้งแต่แรกเกิด แล้วหมั่นตรวจสุขภาพ ตรวจเลือดเป็นประจำด้วย หากเป็นพาหะหรือเป็นโรคตับอักเสบเรื้อรัง ควรรักษากับแพทย์ทุก 3-6 เดือนตามนัดอย่างสม่ำเสมอ หากพบว่าเป็นมะเร็งตับระยะแรกจะได้รักษาให้หายได้  

  • ทำความรู้จักกับ…ไวรัสตับอักเสบซี

    ทำความรู้จักกับ…ไวรัสตับอักเสบซี

    ทำความรู้จักกับ…ไวรัสตับอักเสบซี ส่วนใหญ่แล้วคนไทยมักจะคุ้นเคยกับโรคไวรัสตับอักเสบเอ และบี กันมากกว่า โรคไวรัสตับอักเสบซีนะคะ ความจริงแล้วโรคนี้เป็นปัญหาสาธารณสุขของประเทศไทยในปัจจุบันเลยทีเดียว มีผู้ที่ติดเชื้อนี้ไปแล้วกว่า แปดแสนคน ซึ่งเกือบทั้งหมดจะอยู่ในกลุ่มผู้ใช้ยาเสพติดผ่านเข็มร่วมกับผู้อื่น เชื้อไวรัสตับอักเสบซีนี้จะอยู่ในเลือดและน้ำคัดหลั่งส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ติดต่อสู่ผู้อื่นคล้ายโรคไวรัสตับอักเสบบีและเอดส์ ผู้ที่มีกลุ่มเสี่ยงก็ได้แก่ กลุ่มผู้ใช้ยาเสพติดที่ใช้เข็มร่วมกับผู้อื่น การสักหรือการเจาะผิวหนัง การฝังเข็ม การใช้เครื่องใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็น มีดโกน กรรไกรตัดเล็บ หรือติดต่อจากการทำฟัน รวมไปถึงเพศสัมพันธ์ และการติดเชื้อจากแม่สู่ลูกก็ด้วย ส่วนมากมักจะติดต่อกันทางเลือดมากกว่าทางเพศสัมพันธ์ อาการของไวรัสตับอักเสบซีนี้จะมีอาการ ตัวเหลือง ดีซ่าน ตาเหลือง ปัสสาวะสีเข้ม เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย บวม มีน้ำในช่องท้อง การจะคัดแยกผู้ป่วยต้องผ่านทางห้องปฏิบัติการเท่านั้นจึงจะทราบ อาการของผู้ที่ได้รับเชื้อไวรัสตับอักเสบซีส่วนใหญ่จะแสดงออกมาหลังจาก 10 ปีผ่านไปแล้ว เข้าสู่ปีที่ 12 จะเริ่มแสดงอาการตับอักเสบเรื้อรังมากขึ้น และเมื่อผ่านไป 30 ปี ตับก็จะถูกทำลายจนมีอาการของตับแข็ง ผู้ป่วยจำนวนหนึ่งจะเป็นมะเร็งตับ การดำเนินโรคของโรคนี้จะเป็นไปโดยช้า ๆ ผู้ป่วยไม่เคยรู้ตัวเลยว่ามีโรคนี้ซ่อนอยู่หากไม่ได้ตรวจเลือด มีผู้ติดเชื้ออยู่ประมาณร้อยละ 15-20 ที่หายได้เอง แต่ส่วนใหญ่แล้วหากไม่ได้รับการรักษาก็มักจะกลายเป็นโรคตับแข็ง มะเร็งตับในที่สุด โรคไวรัสตับอักเสบซีนี้ยังไม่มีไวรัสป้องกันเหมือนไวรัสตับชนิดอื่น…