Tag: ภูมิคุ้มกันต่ำ

  • รณรงค์ช่วยกันดูแลตัวเองในช่วงที่มีหมอกควัน

    รณรงค์ช่วยกันดูแลตัวเองในช่วงที่มีหมอกควัน

    รณรงค์ช่วยกันดูแลตัวเองในช่วงที่มีหมอกควัน ในบางฤดูกาลนั้น ตามต่างจังหวัดมักจะมีการเผาขยะ เผาหญ้า เผาซากพืช ฯลฯ กันอยู่เป็นจำนวนมาก ก่อให้เกิดวิกฤตหมอกควันฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานจนทำให้เกิดผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชนทั่วไป เพื่อความไม่ประมาทและความปลอดภัยของทุกคน จึงขอรณรงค์ให้ทุกคนช่วยกันปฏิบัติสิ่งต่อไปนี้ – หลีกเลี่ยงการเผาขยะ เผาหญ้าแห้ง เผาตอซังข้าว เผาวัสดุทุกชนิด หรือทำอะไรก็ตามที่ทำให้เกิดหมอกควันขึ้นในพื้นที่ ยิ่งโดยเฉพาะตามเขตชุมชน ริมข้างทาง ใกล้แนวป่า หรือในป่า เพราะอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุและเหตการณ์ไฟป่าได้ – สำหรับผู้ที่ขับรถในพื้นที่ที่มีหมอกควัน ก็ควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินทาง อย่าขับรถเร็ว ควรเปิดไฟหน้ารถหรือไฟตัดหมอก จะช่วยให้เห็นเส้นทางชัดเจนขึ้น ควรขับเว้นระยะห่างจากรถคันหน้าให้มากว่าปกติ ไม่แข่งหรือขับแซงกัน หากทัศนวิสัยแย่มากจนมองไม่เห็นถนน ให้จอดรถในที่ปลอดภัยก่อนดีกว่า – หลีกเลี่ยงการสูดดมควันไฟ หรือฝุ่นควันเข้าสู่ร่างกาย เพราะอาจทำให้มีปัญหาสุขภาพหลังจากสูดดมได้ หากมีอาการ แน่นหน้าอก หายใจติดขัด หรือแสบตา ฯลฯ ให้รีบไปพบกับแพทย์ทันที และในขณะที่มีหมอกควันในพื้นที่ควรลดการรองน้ำฝนไว้อุปโภคบริโภคด้วย – ควรรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ยิ่งโดยเฉพาะคนที่มีโรคประจำตัว เด็กเล็ก และคนชรา และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ ควรปิดหน้าต่างอาคารบ้านเรือน ปิดประตูหน้าต่างเพื่อมิให้หมอกควันลอยเข้าบ้าน ช่วงที่มีหมอกควันจัดไม่ควรออกจากบ้านโดยไม่จำเป็น หากจำเป็นต้องออกไปนอกบ้านควรสวมหน้ากากอนามัย หรือผ้าชุบน้ำหมาดๆ ปิดปากจมูกไว้ อีกทั้งควรสวมแว่นตากันฝุ่นกันควันเพื่อป้องกันการระคายเคืองตาด้วยค่ะ…

  • รู้จักกับ…โรคอัมพาตบนใบหน้า

    รู้จักกับ…โรคอัมพาตบนใบหน้า

    รู้จักกับ…โรคอัมพาตบนใบหน้า โรคอัมพาตบนใบหน้านี้นั้น มีสาเหตุมาจากเส้นประสาทที่คู่ที่ 7 ที่เลี้ยงใบหน้า ไม่ทำงานชั่วคราว กล้ามเนื้อบริเวณใบหน้าจึงขยับเขยื้อนไม่ได้ครึ่งซีก เกิดเป็นอัมพาต เกิดจากการอักเสบของเส้นประสาท หรือเกิดจากอาหารที่มาหล่อเลี้ยงเส้นประสาทคู่นี้ลดลง จึงเกิดการเกร็งตัวของหลอดเลือด ทั้งอาการขาดเลือดและขาดอาหารจึงทำให้เกิดการอักเสบบวมของเส้นประสาทได้ สาเหตุที่ทำให้เกิดการอักเสบของเส้นประสาทคู่ที่ 7 นั้นยังไม่ทราบแน่นอน สันนิษฐานว่าเกิดจากปัจจัยกระตุ้นเช่น บางคนเกิดหลังจากตากลม หรือกระทบความเย็น บางคนเคยได้รับการผ่าตัดใบหน้ามาก่อน บางคนก็พักผ่อนไม่เพียงพอ เกิดความเครียด มีโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง หรือมีการอักเสบบริเวณใบหูอยู่ รวมไปถึงการติดเชื้อไวรัสจำพวก เชื้อเริม งูสวัด อีสุกอีกใส เหล่านี้ทำให้เกิดโอกาสเป็นโรคนี้ได้ง่าย อาการของโรคนั้น มักจะเกิดอย่างเฉียบพลัน ตื่นมาก็เห็นปากเบี้ยวไปข้างหนึ่ง เวลากลืนน้ำหรือบ้วนปากจะมีน้ำไหลที่มุมปาก ยิ้มหรือยิงฟันแล้วมุมปากตก ตาปิดไม่สนิท ยักคิ้วไม่ขึ้น ลิ้นชาและรับรสไม่ได้ข้างเดียว บางรายอาจมีอาการปวดหู และหูอื้อ แต่ผู้ป่วยก็มีความรู้สึกตัวดี แขนขามีแรงปากติ ผู้ป่วยมักอาการปวดใบหน้าหรือปวดหลังหูข้างนั้นก่อนที่เป็นอัมพาตประมาณ 2-3 วัน ในด้านของการรักษาเพื่อให้ได้ผลอย่างรวดเร็ว แพทย์จะใช้ยาสเตียรอยด์ ยาเม็ดชื่อ เพร็ดนิโซโลนในขนาดที่สูง การให้ยานี้ในช่วงเวลา 4 วันแรกเชื่อว่าจะทำให้อาการอัมพาตหายได้เร็วขึ้น แต่หากเป็นการให้ยาในระยะท้ายแล้ว 4-7 วันอาจได้ผลไม่แน่นอน ส่วนยาต้านไวรัสยังเป็นความเชื้อทางทฤษฎีเพราะถ้าใช้ยาเพียงตัวเดียวยังไม่ได้ผลชัดเจนเมื่อเทียบกับสเตียรอยด์ โรคอัมพาตใบหน้านี้จะมีอาการดีขึ้น…

  • ภูมิคุ้มกันตกต่ำ เพราะนอนดึกตื่นสาย

    ภูมิคุ้มกันตกต่ำ เพราะนอนดึกตื่นสาย

    ภูมิคุ้มกันตกต่ำ เพราะนอนดึกตื่นสาย จากปกติที่ต้องตื่นเช้าไปทำงานหรือไปเรียนหนังสือกันตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์นั้น เมื่อถึงวันเสาร์อาทิตย์ ก็มักจะพักผ่อน ดูหนังดูทีวีกันจนดึกดื่นแล้วตื่นสาย หรือตื่นเที่ยงไปเลยก็มีในบางคน บางคนก็เก็บวันเสาร์อาทิตย์ไว้สำหรับนอนชดเชย การนอนดึกตื่นสายแม้จะเป็นในวันหยุด ก็สร้างปัญหาให้กับสุขภาพได้เช่นกันนะคะ เพราะเป็นวงจรที่ผิดธรรมชาติ ยิ่งถ้านอนตื่นสายมาก ๆ เช่นหลังเก้าโมงเช้าไปแล้ว อาจทำให้ร่างกายคุณมีปัญหาได้ดังต่อไปนี้ค่ะ 1. ตื่นสายก็ไม่ได้กินมื้อเช้า มื้อนี้เป็นมื้อที่สำคัญที่สุด แม้ว่าคุณจะนอนเลยมื้อเช้าจนไม่รู้สึกหิวเลย แต่ร่างกายคุณก็ยังต้องการมื้อเช้าอยู่ อาหารเช้าเป็นมื้อที่จะได้รับการดูดซึมได้ดีที่สุด เพื่อส่งไปหล่อเลี้ยงอวัยวะต่าง ๆ หากคุณไม่กินมื้อเช้าแต่ข้ามไปกินมื้อดึกแทน ร่างกายจะย่อยและดูดซึมได้ไม่ดี อวัยวะต่าง ๆ แทนที่จะได้พักผ่อนตามเวลา ก็กลับต้องลุกขึ้นทำงาน ก็ทำงานได้ไม่เต็มที่ พลังงานจึงเหลือตกค้างในร่างกายมาก ซึ่งจะสะสมจนกลายเป็นโรคอ้วนได้ในที่สุด 2. ในช่วงเช้าอากาศในห้องนอนจะเป็นพิษมากที่สุด จึงควรลุกขึ้นมาเปิดหน้าต่างระบายอากาศ ปล่อยให้แสงอาทิตย์ส่องเข้าไปทำลายเชื้อโรค และระบายอากาศเสียออกไปจากห้อง หากเอาแต่นอนหมกตัวในห้อง จะทำให้เกิดเป็นโรคภูมิแพ้  ไอ ฯลฯ ยิ่งหากห้องนอนเหม็นอับ สกปรก อากาศถ่ายเทไม่ดี ไม่ได้รับแสงแดดช่วยฆ่าเชื้อบ้าง ก็จะทำให้ไม่สบายบ่อย ๆ ได้ ในส่วนของคนที่ต้องทำงานจนดึก ๆนั้น แนะนำให้นอนก่อนเพื่อเก็บพลังเอาไว้แล้วตื่นเช้าไปทำงาน จะทำได้นานกว่า สมองปลอดโปร่งกว่า การกินกาแฟเพื่อให้ตาสว่างถึงตีสามตีสี่นั้น เป็นการดึงเอาพลังงานที่ไม่ได้ถูกสะสมไว้มาใช้…

  • หลีกเลี่ยงหวัดในช่วงอากาศเปลี่ยนแปลง

    หลีกเลี่ยงหวัดในช่วงอากาศเปลี่ยนแปลง

    หลีกเลี่ยงหวัดในช่วงอากาศเปลี่ยนแปลง ในระยะที่อากาศเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง เริ่มมีฝนตกมากขึ้น ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันร่างกายค่อนข้างต่ำ หรือสุขภาพอ่อนแอเพราะปรับตัวไม่ทัน จึงเจ็บป่วยได่ง่าย ยิ่งโดยเฉพาะโรคติดเชื้อทางลมหายใจจำพวกโรคหวัด หรือไข้หวัดใหญ่ที่ติดต่อกันได้ง่ายนั้น เราจึงยิ่งจำเป็นต้องเตรียมร่างกายให้พร้อมในการป้องกันโรคติดต่อเหล่านี้นั่นเอง ซึ่งมีวิธีการดูแลตัวเองง่าย ๆ ดังต่อไปนี้ค่ะ – เมื่อรู้ตัวว่าเริ่มป่วย เริ่มเป็นไข้ ไม่สบายรู้สึกอ่อนเพลีย นอนไม่พอ ยิ่งไม่ควรเข้าไปเสี่ยงในแหล่งชุมชนที่มีคนอยู่มาก ไม่ว่าจะเป็นตลาด ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล เพราะว่าร่างกายในช่วงที่มีภูมิต้านทานต่ำจะเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย – หมั่นล้างมือบ่อย ๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรือหากไม่สะดวกในการล้างมือจะใช้เจลแอลกอฮอล์มาเช็ดก็ได้ ช่วยป้องกันเชื้อโรคต่าง ๆ ได้ดี ยิ่งหากอยู่ในช่วงที่กำลังมีอาการไอหรือจาม ยิ่มควรหมั่นล้างมือบ่อย ๆ เพราะหากนำมือไปป้ายตาก็อาจติดเชื้อตาอักเสบได้ หรือไปหยิบจับสิ่งของก็จะเท่ากับเป็นการแพร่เชื้อให้ผู้อื่นอีกทาง – หลีกเลี่ยงและอยู่ห่างจากผู้ป่วยที่มีอาการเป็นหวัด ซึ่งหากหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ควรสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง จะช่วยป้องกันเชื้อหวัดและโรคทางเดินหายใจได้ดี – หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ แล้วพักผ่อนให้เพียงพอ – ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ สองลิตร – หากในบ้านของเรามีเด็กเล็กหรือผู้สูงอายุที่ป่วยคล้ายไข้หวัดใหญ่ควรรีบไปปรึกษาแพทย์ และควรป้องกันการแพร่เชื้อให้แก่ผู้อื่นด้วยการไม่คลุกคลีกับผู้ใกล้ชิด ใช้ผ้าปิดปากปิดจมูกเมื่อไอหรือจาม และหมั่นล้างมือบ่อย ๆ ด้วย – สำหรับกลุ่มผู้เสี่ยงสูง…

  • นอนหลับยาก.ทานผักกาดหอมกันดีกว่า!

    นอนหลับยาก.ทานผักกาดหอมกันดีกว่า!

    นอนหลับยาก.ทานผักกาดหอมกันดีกว่า! อาการนอนไม่หลับเนี่ย.. ใครไม่เคยเป็นไม่เข้าใจเลยนะคะ ว่าส่งผลต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตอย่างไรบ้าง  ไม่ว่าจะเป็นสมาธิต่ำ อารมณ์แปรปรวน โมโหง่าย ภูมิคุ้มกันก็ต่ำลง เป็นหวัด ป่วยง่าย ๆ แล้วยังอ้วนได้ง่ายอีกด้วยค่ะ  แต่อย่าเพิ่งร้อนใจไป  มีผักอยู่ชนิดหนึ่งที่หาซื้อก็สะดวกแล้วยังทานง่ายอีกด้วย  มีคุณสมบัติช่วยให้คุณนอนหลับได้ง่ายขึ้น  นั่นก็คือ “ผักกาดหอม” นั่นเองค่ะ นั่นเป็นเพราะมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ค้นพบว่า  หากได้ทานผักกาดหอมสดก่อนนอน หรือทานเป็นมื้อเย็น ร่างกายจะได้รับสารรสขมที่มีชื่อว่า “แลคทูคาเรียม”  ทำให้รู้สึกง่วงนอน จิตใจผ่อนคลาย และสงบลง  ทำให้เรานอนหลับได้ง่ายขึ้น  ลองนำไปทำเป็นประจำกันดูนะคะ  จะได้ไม่ต้องหงุดหงิดหรือพึ่งยานอนหลับกันอีกต่อไปค่ะ