Tag: ฟัน
-
สุขภาพช่องปากและการตั้งครรภ์
สุขภาพช่องปากและการตั้งครรภ์ ในระหว่างการตั้งครรภ์นั้น ช่องปากของคุณแม่ ก็เป็นส่วนที่ต้องให้ความสำคัญเช่นกัน เพราะมีผลต่อสุขภาพโดยตรงของลูกในครรภ์ได้ค่ะ ไม่ว่าจะเป็น… – การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนทำให้ระหว่างตั้งครรภ์ทำให้เกิดเหงือกอักเสบ หรือมีหินปูนจำนวนมาก เป็นโรคปริทันต์ เหงือกบวม อักเสบมีเลือดออกได้ – ในมารดาที่มีภาวะเหงือกอักเสบรุนแรง มักจะคลอดลูกน้ำหนักตัวน้อย และคลอดก่อนกำหนดได้ – การคลื่นไส้แพ้ท้องอาเจียนบ่อย ทำให้มีกรดจากกระเพาะอาหารย้อนขึ้นมาในช่องปาก ทำให้ฟันสึกกร่อนได้เร็ว รวมไปถึงอาหารเปรี้ยว ๆ ก็เช่นกัน – หญิงตั้งครรภ์มักจะทานได้น้อย แต่ทานบ่อย การทานบ่อย ทานของหวาน อาหารเหนียวติดฟันทำให้ฟันผุได้ – การมีฟันผุที่ไม่ได้รักษาจะทำให้มีเชื้อแบคทีเรียในช่องปากเป็นจำนวนมาก อาจส่งผ่านไปสู่ลูกทางพันธุกรรม แต่ส่งผลได้ทางน้ำลาย เช่น การกอดจูบลูก การเป่าอาหาร การกัดแบ่ง และการใช้ช้อนร่วมกับลูก – สำหรับเด็กในครรภ์จะเริ่มสร้างฟันน้ำนมตั้งแต่อายุครรภ์ได้ 4-6 สัปดาห์ ซึ่งต้องการสารอาหารหลายชนิดโดยเฉพาะอย่างยิ่งจำพวกแคลเซียม ฟอสฟอรัส ซึ่งจะมีผลให้เคลือบฟันและเนื้อฟันมีความแข็งแรง ดังนั้นคำแนะนำสำหรับคุณแม่ในการดูแลช่องปากระหว่างการตั้งครรภ์ก็คือ 1. แปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันทุกวัน ควรบ้วนปากหรือแปรงฟันทุกครั้งหลังอาหารว่างด้วย 2. หากแพ้ท้องอาเจียน ควรบ้วนปากด้วยน้ำเปล่า หรือน้ำยาบ้วนปากผสมฟลูออไรด์ เพื่อลดปริมาณกรดจากกระเพาะอาหาร แต่ห้ามแปรงฟันเป็นเวลาอย่างน้อย…
-
อาหารที่..มีประโยชน์ต่อสุขภาพปากและฟัน
อาหารที่..มีประโยชน์ต่อสุขภาพปากและฟัน นอกจากอาหารที่เราทานเข้าไปจะช่วยเสริมสร้างซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของอวัยวะภายในและร่างกายแล้ว ยังมีผลต่อการทำให้ปากและฟันแข็งแรงหรืออ่อนแอลงด้วย ดังนั้นเรามาศึกษาเกี่ยวกับอาหารชนิดต่าง ๆ ที่มีทั้งประโยชน์และโทษต่อสุขภาพปากและฟัน รวมไปถึงเนื้อเยื่อต่าง ๆ ในช่องปาก เพื่อต่อไปนี้จะได้เลือกทานอาหารที่ดีมีประโยชน์กันดีกว่าค่ะ – เกลือแร่ อาหารจำพวกนี้จะช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง ได้แก่พวก แคลเซียม ฟอสฟอรัส ฟลูออไรด์ พบได้มากในอาหารทะเล ปู ปลา กุ้ง นม เนื้อสัตว์ ไข่แดง ตับ รวมไปถึงใบเมี่ยงและใบชามีฟลูออไรด์อยู่มาก ที่ทำให้กระดูกและฟันแข็งแรง – คาร์โบไฮเดรต คืออาหารกลุ่มแป้งและน้ำตาล ทำให้ฟันผุกได้ง่าย เพราะจุลินทรีย์ในช่องปากจะทำปฏิกิริยากับน้ำตาลที่ตกค้างอยู่ที่ฟัน เกิดเป็นกรดทำให้ฟันผุ ยิ่งหากเป็นอาหารที่มีความหวานและเนื้อเหนียว เช่น ท๊อฟฟี่ ตังเม คุกกี้ ช็อกโกแลต ก็ยิ่งติดฟันง่าย หากทำความสะอาดไม่ทั่วถึง ก็ทำให้ฟันผุง่ายขึ้นไปใหญ่ – ผักผลไม้ต่าง ๆ มีกากใยอาหารที่ช่วยขัดสีทำความสะอาดฟันให้สะอาด ซึ่งเหมาะสำหรับการทานหลังอาหารคาว ช่วยทำความสะอาดฟันได้อีกทางหนึ่ง ผลไม้ที่ควรทานไม่ควรเลือกชนิดที่หวานมากนัก ที่เหมาะ ๆก็น่าจะเป็น แอปเปิ้ล ฝรั่ง ชมพู่ มันแกว…
-
รู้กันบ้างไหม ในยาสีฟันประกอบไปด้วยอะไรบ้าง?
รู้กันบ้างไหม ในยาสีฟันประกอบไปด้วยอะไรบ้าง? ยาสีฟันที่เรานำมาทำความสะอาดฟันของเราทุกเช้าเย็นนั้น มีส่วนประกอบของอะไรบ้าง เรามาลองดูส่วนประกอบเหล่านี้กันค่ะ กว่า 15-70% ของเนื้อยาสีฟันที่เราใช้กันอยู่เป็นประจำนั้นคือสารรักษาความชื้น ที่ช่วยในการรักษาปริมาณน้ำในเนื้อยาสีฟันไม่ให้แข็งตัวเวลาถูกเก็บไว้ในหลอดเป็นเวลานาน ซึ่งสารรักษาความชื้นที่นิยมนำมาใช้กันคือ กลีเซอรีน, ซอร์บิทอล และไซบิทอล อีกทั้งประกอบไปด้วยน้ำอีกประมาณ 0-50% ซึ่งก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้ยาสีฟันไม่แข็งตัว ยกเว้นยาสีฟันประเภทที่เป็นผง นอกจากนี้ยังมีผงขัดฟันอีกราว ๆ 10-50% ซึ่งทำหน้าที่ในการขจัดเศษอาหารที่ตกค้าง และรวมถึงคราบจุลินทรีย์ที่ติดอยู่บนฟัน โดยสารที่นิยมนำมาผสมเป็นผงขัดฟันได้แก่ อะลูมินา, แคลเซียมฟอสเฟต, แคลเซียมคาร์บอนเนต, เกลือ เป็นต้น รวมไปถึงมีสารลดแรงตึงผิวและสารแต่งกลิ่นอีกเล็กน้อยราว ๆ 2% ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยขจัดคราบและทำให้เป็นฟอง และที่ทำให้ยาสีฟันมีรสชาติดีก็คือสารให้ความหวานจะมีส่วนผสมอยู่ถึง 40% ทำให้ยาสีฟันมีรสชาติที่ดีขึ้นกว่าการอมสารเคมีอื่น ๆ สารที่มักใช้ก็คือ แอสปาร์แทม และสารที่ทำให้ยาสีฟันเกาะกันเป็นเนื้อเดียว ไม่เละเทะ ก็คือ คาราจีแนน ยาเซลลูลส และ โซเดียมคาร์บอกซีเมทิลเซลลูโลส อีกทั้งสารสำคัญที่ช่วยป้องกันฟันผุ ทำหน้าที่เคลือบฟันเพื่อให้ทนต่อกรดที่เกิดจากแบคทีเรียในช่องปาก ก็คือ ฟลูออไรด์นั่นเองค่ะ ความรู้นี้มีประโยชน์สำหรับคนที่เป็นภูมิแพ้หรือมีอาการแพ้สารเคมีต่าง ๆ ให้ลองสังเกตดูได้ว่าที่ข้างหลอดยาสีฟันนั้นระบุไว้ว่ามีสารอะไรผสมอยู่บ้าง เพื่อการหลีกเลี่ยงสารก่ออาการแพ้ได้ค่ะ