Tag: ผู้ป่วยโรคเอดส์

  • โรคสะเก็ดเงิน สาเหตุและการรักษา

    โรคสะเก็ดเงิน สาเหตุและการรักษา

    โรคสะเก็ดเงิน สาเหตุและการรักษา หากคำนวณตามจำนวนประชากรโลกใบนี้แล้ว โรคสะเก็ดเงินสามารถพบได้ประมาณร้อยละ 2 เท่านั้น พบได้ทั้งเพศชายและเพศหญิงพอ ๆ กัน ซึ่งพบได้หลายรูปแบบดังนี้ – ผิวหนังเป็นปื้นนูนหนาขนาดใหญ่ และเป็นเรื้อรัง ปื้นมีขอบเขตชัดเจน สีชมพูถึงแดง มีสะเก็ดสีเงินปกคลุม พบได้มากบริเวณ ข้อต่อ ข้อศอก ข้อเข่า แขนขา และหลังส่วนล่าง – ปื้นรูปหยดน้ำ พบได้มากในเด็ก วัยรุ่น และผู้ใหญ่ตอนต้น เป็นปื้นนูนขนาดประมาณ 1 เซนติเมตร ขึ้นเป็นจำนวนมาก บริเวณลำตัว แขนขา และมีอาการหลังจากการเจ็บคอ – เป็นผื่นบริเวณข้อพับ ขาหนีบ รักแร้ ราวนม – ผื่นที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้า เป็นผื่นหนา ๆ ที่ทำให้ฝ่ามือ ฝ่าเท้าแตกและเจ็บ – เป็นตุ่มหนองทั่วร่างกาย มีไข้ ไม่สบายเจ็บผิวหนัง – เป็นผื่นแดงทั่วตัว มีผิวหนังอักเสบทั่วร่างกายกว่าร้อยละ 90 ขึ้นไป…

  • ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อเอดส์ รวมทั้งการถูกข่มขืน

    ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อเอดส์ รวมทั้งการถูกข่มขืน

    ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อเอดส์ รวมทั้งการถูกข่มขืน สถานการ์ของโรคเอสด์ในโลกขณะนี้นั้นมีผู้ติดเชื้อทั่วโลกแล้วสามสิบกว่าล้านคน และเสียชีวิตไปแล้วเกือบสองล้านคน แม้ในแต่ประเทศไทยเอง ก็มีผู้ป่วยโรคเอดส์ถึงกว่าสี่แสนคนแล้วด้วย ทั้งหมดนี้ติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์ถึงร้อยละ 84 ร้อยละ 4 เกิดจากการใช้ยาเสพติดชนิดฉีด และร้อยละ 3.6 เกิดจากการติดเชื้อจากแม่ลูกสู่ ในแต่ละปีประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่นับหมื่นคน และยังมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ การป้องกันตนเองจากเชื้อเอดส์ที่ดีที่สุดนั้นก็คงไม่พ้นการใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ แต่แม้จะใช้ทุกครั้ง ก็ยังพบว่ามีผู้ติดเชื้อเอดส์จากสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดเพิ่มขึ้นอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการถูกข่มขืน การโดนมอมยา หรือเมาจนไม่ได้สติ ฯลฯ ดังนั้นแล้วเราจึงควรหาทางป้องกันตนเองจากเหตุไม่คาดคิดเหล่านี้ไว้ก่อนดีกว่า ด้วยการนำเอาข้อควรระวังเหล่านี้ไปใช้ค่ะ – ไม่ควรเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในสถานการณ์ล่อแหลม หลีกเลี่ยงการอยู่ตามลำพังกับเพศตรงข้ามในที่ลับตาคน เพราะอะไร ๆ ก็เกิดขึ้นได้เสมอ (แม้แต่เพศเดียวกันก็ตามที) – การดื่มเหล้า หรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ อาจทำให้ขาดสติ เสี่ยงต่อการถูกมอมยา และการล่อลวงให้ใช้ยาเสพติด ฯลฯ เหล่านี้เพิ่มความเสี่ยงในการมีเพศสัมพันธ์ไม่พึงประสงค์ และขาดสติในการมีเพศสัมพันธ์ด้วย – แม้แต่การไปเที่ยวในสถานเริงรมย์ที่มีบรรยากาศเป็นใจ ก็อาจเป็นชนวนยั่วยุให้เกิดการมีเพศสัมพันธ์ได้ ยิ่งหากดื่มเหล้าด้วย ความเสี่ยงก็ยิ่งสูง – สำหรับสื่อยั่วยุอารมณ์ทางเพศ หากดูคนเดียวแล้วบรรเทาความต้องการของตัวเองได้ก็โอเค แต่หากคุณดูกับคนอื่น มันก็เสี่ยงมากอยู่เหมือนกันที่อารมณ์จะเตลิดจนยับยั้งไม่อยู่ – สำหรับสาว ๆ…

  • การป้องกันการติดเชื้อจากผู้ป่วยโรคเอดส์

    การป้องกันการติดเชื้อจากผู้ป่วยโรคเอดส์

    การป้องกันการติดเชื้อจากผู้ป่วยโรคเอดส์ การป้องกันการติดเชื้อ เนื่องจากผู้ป่วยมีภูมิคุ้มกันที่ไม่แข็งแรงติดเชื้อได้ง่าย ผู้ดูแลจำเป็นต้องป้องกันผู้ป่วยมิให้รับเชื้อโรคซึ่งมีวิธีการดังนี้ 1. การล้างมือ เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการทำลายเชื้อโรคให้ล้างมือบ่อยๆ ล้างมือหลังจากเข้าห้องน้ำ ล้างมือก่อนทำอาหาร ก่อนป้อนอาหาร ก่อนอาบน้ำให้ผู้ป่วย ต้องล้างมือทุกครั้งเมื่อจามหรือไอ หรือเอามือจับจมูก ปาก อวัยวะเพศ เมื่อคนดูแลเปลื้อนเลือด น้ำเหลือง น้ำอสุจิจะต้องล้างมือทันที วิธีการล้างให้ล้างด้วยน้ำอุ่นและสบู่ 15 วินาที 2. ปิดแผลของท่าน ถ้าท่านมีแผลหรือตุ่มน้ำที่ผิวหนังหรือ การอักเสบที่ผิวหนังต้องระวังเป็นพิเศษที่จะนำเชื้อไปติดผู้ป่วยและอาจจะติดเชื้อจากผู้ป่วย ท่านมีแผลต้องใช้พลาสเตอร์ปิดแผลสวมถุงมือ 3. แยกคนไม่สบายออกจากผู้ที่ติดเชื้อ หากมีสมาชิกในครอบครัวปวดเป็นไข้หวัดหรือโรคอื่นต้องแยกจากผู้ที่ติดเชื้อ HIV หากเลี่ยงไม่ได้ก็ต้องสวมหน้ากาก ปิดปากและจมูก 4. ห้ามคนไข้สุกใสเข้าใกล้ผู้ป่วย ไข้สุกใสอาจจะทำให้ผู้ป่วย HIV เสียชีวิตได้ดังนั้นผู้ที่เป็นไข้สุกใสต้องไม่อยู่ห้องเดียวกับผู้ป่วยจนกระทั่งผื่นแห้ง สำหรับผู้ที่สัมผัสผู้ป่วยที่เป็นไข้สุกใสหากจะไปเยี่ยมผู้ที่ติดเชื้อ HIV ต้องหลัง 3 สัปดาห์ ผู้ที่เป็นงูสวัดก็ไม่ควรเยี่ยมผู้ป่วยติดเชื้อ HIV และถ้าท่านอยู่ใกล้ชิดกับผู้ที่เป็นโรคไข้สุกใสและท่านต้องดูแลผู้ป่วยติดเชื้อ HIV ท่านต้องสวมหน้ากากปิดปากปิดจมูก ล้างมือก่อนที่จะไปช่วยเหลือคนไข้ และอยู่ในห้องคนไข้ให้น้อยที่สุด ถ้าหากผู้ที่ติดเชื้อ HIV สัมผัสผู้ป่วยไข้สุกใสหรือโรคงูสวัดต้องแจ้งแพทย์ทราบทันที 5. สมาชิกของผู้ที่ติดเชื้อ HIV ควรจะได้รับการฉีดวัคซีนให้ครบเพื่อป้องกันโรคติดต่อไปยังผู้ป่วยและเพื่อให้แน่ใจอาจจะต้องฉีดกระตุ้นอีกครั้ง…

  • นักวิจัยชาวอเมริกันชี้ว่า ในอนาคต อาจใช้ยาบำบัดมะเร็งเต้านม รักษา โรคติดเชื้อรา Cryptococcus ในผู้ป่วยเอดส์ได้

    นักวิจัยชาวอเมริกันชี้ว่า ในอนาคต อาจใช้ยาบำบัดมะเร็งเต้านม รักษา โรคติดเชื้อรา Cryptococcus ในผู้ป่วยเอดส์ได้

    นักวิจัยชาวอเมริกันชี้ว่า ในอนาคต อาจใช้ยาบำบัดมะเร็งเต้านม รักษา โรคติดเชื้อรา Cryptococcus ในผู้ป่วยเอดส์ได้ ผู้เชี่ยวชาญประมาณว่ามีคนราวหนึ่งล้านคนทั่วโลกติดเชื้อรา Cryptococcus ต่อปี นั่นเป็นเพราะว่าการติดเชื้อราเป็นโรคฉวยโอกาสชนิดหนึ่งที่มักเกิดกับผู้ป่วยโรคเอดส์ ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในชาติอาฟริกาทางใต้ของทะเลทรายซาฮาร่า ประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ของผู้ติดเชื้อเอดส์อยู่ในเขตนี้ ในปัจจุบัน แพทย์บำบัดการติดเชื้อรา Cryptococcus ด้วยยาราคาเเพงสองชนิด ซึ่งไม่มีใช้ในประเทศกำลังพัฒนาและต้องใช้ฉีดเข้ากระเเสโลหิตโดยตรง ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าผู้ป่วยที่ได้รับการบำบัดดังกล่าวอย่างน้อย 10 ถึง 20 เปอร์เซ็นต์เสียชีวิต ยาอีกชนิดหนึ่งที่ใช้บำบัดการติดเชื้อรา Cryptococcus ในประเทศกำลังพัฒนา แค่มีผลชลอการเเพร่กระจายของเชื้อราให้ช้าลงเท่านั้นและอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยที่ได้รับยานี้ก็สูงกว่าการบำบัดด้วยยาสองชนิดแรก ทีมนักวิจัยที่นำโดยคุณ Damian Krysan ทำการค้นหายาที่มีคุณสมบัติในการกำจัดเขื้อรา Cryptococcus จากยารักษาโรคที่มีใช้กันอยู่ในปัจจุบันแล้วจำนวนสองพันชนิด พวกเขาค้นพบว่ายา tamoxifen ซึ่งเป็นยาที่ใช้บำบัดผู้ป่วยมะเร็งเต้านมมานานหลายสิบปีเเล้ว คุณ Krysan หัวหน้าทีมวิจัยชี้ว่ายา tamoxifen มีราคาไม่เเพงและมีคุณสมบัติที่ดีหลายประการ เขากล่าวว่าผู้ป่วยสามารถรับประทานยา tamoxifen ได้ ซึ่งเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพ เชื้อรา Cryptococcus ทำให้สมองอักเสบ ดังนั้นตัวยาจะต้องเข้าไปในสมอง การบำบัดจึงจะได้ผลดี เขากล่าวว่า ยา tamoxifen…