Tag: ผัก

  • เลือกทานผักให้ดี อย่าเลือกชนิดที่อาบสารพิษ

    เลือกทานผักให้ดี อย่าเลือกชนิดที่อาบสารพิษ

    เลือกทานผักให้ดี อย่าเลือกชนิดที่อาบสารพิษ ผักสด ๆ สวย ๆ ที่เห็นขายกันตามตลาดหรือซูปเปอร์สโตร์ก็ตามนั้น หลายชนิดพบว่าเมื่อนำมาพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้วก็พบว่าเป็นผักที่อุดมไปด้วยสารพิษจำนวนมาก เป็นสารพิษตกค้างที่เกิดขึ้นระหว่างการปลูกและการขนส่งด้วย ดังนั้นการซื้อหาผักมารับประทานก็คงต้องเลือกให้ดี และจำเป็นต้องรู้ที่มาของผักและวิธีการปลูกผักนั้น ๆ ด้วย เพื่อความปลอดภัยของเรา และถ้าเป็นไปได้ คุณอาจลองปลูกผักทานเองก็จะได้ผักที่ปลอดสารพิษจริง ๆ ทำให้สุขภาพดีและแน่นอนว่าไม่มีสารพิษตกค้างให้หวาดระแวง คุณอาจปลูกลงกระถางไว้ที่ระเบียงหรือในสวนหลังบ้านก็ได้ ไม่จำเป็นต้องปลูกขึ้นรั้วบ้านหรือปลูกลงดินให้ลำบากแต่อย่างใด แต่แน่นอนว่าหากคุณไม่สะดวกในการปลูกผัก หรือต้องการกินผักให้หลากหลายขึ้นก็ยังจำเป็นต้องมีการซื้อหาจากตลาด การเลือกผักที่จะทำให้ทานได้ปลอดภัยกว่า ก็น่าจะเลือกผักที่ขึ้นตามฤดูกาล เลือกซื้อชนิดที่มีพอมีรูพรุนจากแมลงบ้าง เลือกทานผักพื้นบ้านก็จะปลอดภัยขึ้น การเลือกทานผักที่ขึ้นนอกฤดูกาลนั้นเป็นการบอกว่าผักเหล่านั้นต้องใช้สารเคมีเร่งโตมาอย่างแน่นอนค่ะ และเพื่อความปลอดภัยให้มากขึ้นเมื่อซื้อผัก ผลไม้ต่าง ๆ มาแล้วก็ควรล้างให้สะอาดด้วยด่างทับทิม ให้ละลายด่างทับทิมลงในกะละมังแช่ผักแล้วนำผักลงไปแช่ไว้อย่างน้อยครึ่งชั่วโมง หลังจากนั้นนำมาล้างให้สะอาด ๆ หลาย ๆ น้ำ ผักก็จะปลอดสารพิษกว่า 90% ได้แล้ว หรือหากไม่มีด่างทับทิม ก็สามารถล้างด้วยการเปิดน้ำไหลผ่านแล้วเอามือช่วยถู ๆ ผัก เปิดให้ไหลผ่านผักสัก 2 นาทีก็จะช่วยให้ปลอดสารพิษได้ราว 70-80% เลยนะคะ  

  • ผักปลัง ผักพื้นบ้านมากประโยชน์

    ผักปลัง ผักพื้นบ้านมากประโยชน์

    ผักปลัง ผักพื้นบ้านมากประโยชน์ ผักปลัง หรือ ผักปั๋งในภาษาท้องถิ่นนั้น เป็นผักพื้นบ้านของไทยขึ้นอยู่ตามที่ชื้นทั่วไป มีอยู่สองชนิดก็คือ ผักปลังขาว และผักปลังแดง มีถิ่นกำเนิดทั้งในเอเชียและแอฟริกา ขึ้นได้ง่ายในที่ชุ่มชื้นกับดินทุกประเภท มีลักษณะเป็นไม้เลื้อย ลำต้นกลมเป็นสีเขียวหรือสีม่วงแดง อวบน้ำ แตกกิ่งก้านสาขาได้มาก ใบมีลักษณะมัน รูปร่างกลมหรือรูปไข่เรียงสลับกัน แผ่นใบอวบน้ำ กว้างประมาณ 2-6 เซนติเมตรและยาว 2.5-7.5 เซนติเมตร ส่วนดอกนั้นจะมีสีขาวหรือชมพูม่วง ไม่มีก้านดอก ออกดอกเป็นช่อ ตรงปลายแยกเป็นแฉก ๆ คุณค่าทางอาหารของผักปลัง ผักปลังให้แร่ธาตุและวิตามินมากมายโดยเฉพาะเบต้าแคโรทีน ช่วยบำรุงสายตาและช่วยป้องกันมะเร็งได้ การทานก็จะนำเอายอดอ่อน ใบอ่อน และดอกอ่อน ซึ่งมีรสจืดเย็นมากินเป็นผักจิ้มน้ำพริก หรือนำมาแกงแบบต่าง ๆ ทั้งแกงส้ม แกงแค แกงปลา นำมาผัดกับแหนมหรือใส่แกงอ่อมหอย ก็ได้ ฯลฯ ส่วนประโยชน์ทางยาของผักปลังนั้น สามารถนำเอาก้านมาแก้พิษฝี ท้องผูก ลดไข้ได้ ใบนำมาขับปัสสาวะ แก้อาการอักเสบ กลาก น้ำคั้นจากใบใช้บรรเทาอาการผื่นคัน นำดอกมาแก้เกลื้อนได้ ส่วนราก นำมารักษาอาการเท้าด่าง รังแค…

  • สารอาหารและวิตามินต่าง ๆ ที่ได้จากผัก

    สารอาหารและวิตามินต่าง ๆ ที่ได้จากผัก

    สารอาหารและวิตามินต่าง ๆ ที่ได้จากผัก เรารู้กันอยู่แล้วว่าผักเป็นอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ให้แร่ธาตุและวิตามินต่างๆ มากมาย แต่ก็ยังมีบางคนที่ไม่ชอบกินผักอยู่ดี วันนี้จะนำเอาคุณประโยชน์ที่ได้จากการกินผักมาบอกกล่าวเล่าสิบกัน เผื่อคนที่ไม่ชอบกินผักจะอยากหันมาลิ้มลองบ้างนะคะ ในผักให้เส้นใยอาหารจำนวนมาก ช่วยให้ร่างกายดูดซึมน้ำตาลช้าลงจับคอเลสเตอร์ในทางเดินอาหาร ช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น ยิ่งเป็นผักพื้นบ้านก็ยิ่งมีเส้นใยอาหารจำนวนมาก เช่น ใบมันปู สะเดา ลูกเหรียง ถั่วลันเตา ผักชีล้อม กะเฉด มะระขี้นก ผักหวาน มะเขือยาว คะน้า แครอท มะเขือเปราะ ยอดมะระหวาน ข้าวโพดอ่อน กะหล่ำปลี ตำลึง ส่วนวิตามินเอที่ช่วยในเรื่องการบำรุงรักษาดวงตารวมทั้งการมองเห็น และสร้างผนังเซลล์ในปอด ทางเดินอาหาร ทางเดินปัสสาวะ ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการของร่างกายและภูมิคุ้มกันนั้น พบมากในฟักทอง พริกหวาน แครอท ผักเหรียง กระเฉด ยอดมะม่วงหิมพานต์ ตำลึง ผักกาดขาว สะเดา ผักกูด ผักพูม ผักชีล้อม ใบมันปู ฯลฯ และวิตามินที่ช่วยในการสร้างเสริมคอลลาเจน ก็คือวิตามินซีนั่นเอง นอกจากนี้ยังช่วยดูดซึมธาตุเหล็ก รักษาบาดแผล สังเคราะห์ฮอร์โมนและเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็กไปใช้ในร่างกายด้วย…

  • ชวนลูกกินผักกัน

    ชวนลูกกินผักกัน

    ชวนลูกกินผักกัน ผักนั้นเป็นอาหารที่มีราคาประหยัด แต่ให้วิตามิน แร่ธาตุต่าง ๆ สูง มีประโยชน์มาก แต่ก็มีเด็กจำนวนมากเช่นกันที่ไม่ยอมกินผัก การหัดให้ลูกกินผักนั้นควรทำตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่หย่านมตอนหกเดือนเลย เด็กหลังหย่านมนั้น ควรให้เด็กเริ่มทานผักสุกก่อน โดยการนำเอามาบดให้ละเอียดปนไปกับข้าวต้ม โจ๊กหรือข้าวบด ก่อนการให้ผลไม้ เพราะเด็กอาจติดรสหวานจากผลไม้จนไม่ยอมกินผักได้ ให้ป้อนผักและผลไม้ชนิดใหม่ ๆ สัปดาห์ละอย่าง เด็กจะได้คุ้นกับผักผลไม้ไปเรื่อย ๆ และจะกินได้มากเมื่อโตขึ้น ในส่วนของเด็กที่เริ่มเคี้ยวได้แล้ว ควรให้ผักที่ต้มหรือลวกให้สุก จะทำให้ผักนิ่มและหวานอร่อย อาจหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่แกงจืดหรือผสมกับอาหารอื่น เด็กที่อายุมากกว่าสองขวบให้ทานได้ทั้งผักสุกและผักสด เลือกที่มีรสหวานสีสันน่ากินอย่างแครอทหั่นแท่ง หรือแตงกวาหั่นแท่ง ให้เด็กจับกินเองได้ แต่ผักบางชนิดที่ควรลวกหรือต้มก่อนก็มีเหมือนกัน อย่างข้าวโพด กะหล่ำปลี ฟักทอง เป็นต้น แต่สำหรับเด็กโตที่เกินจะเรียนรู้อาหารใหม่แล้ว ผู้ปกครองควรดัดแปลงผักให้มีรสชาติและรูปร่างที่ดูน่ากิน เช่น นำแครอท หรือถั่วผักยาว มาหั่นเป็นท่อนแล้วห่อด้วยกะหล่ำปลีแล้วนำไปนึ่ง หรือนำไปทำแกงจืดหมูสับเต้าหู้ การนำแตงกวาใหญ่มาคว้านออกแล้วใส่หมูทับเข้าแทนนำไปต้มจืด ก็หวานอร่อยเช่นกัน ฯลฯ หากเด็กไม่ยอมกิน ก็ลองมื้อต่อไป จัดผักให้ทานคู่กับอาหารที่เค้าชอบ แล้วผู้ปกครองควรชวนกินด้วยกัน ไม่ควรนำผักกลิ่นฉุนมาให้เด็กลอง เพราะเด็กอาจปฏิเสธผักทุกชนิดไปเลยได้ การชักชวนฝึกหัดให้ลูกกินผักนั้นเป็นสิ่งที่มีผลดีในระยะยาว สร้างนิสัยการกินที่ดี…

  • ผักสด ผลไม้สด .. ไม่ใช่ทุกคนจะทานได้

    ผักสด ผลไม้สด .. ไม่ใช่ทุกคนจะทานได้

    ผักสด ผลไม้สด .. ไม่ใช่ทุกคนจะทานได้ ผักสดผลไม้สดนั้นเป็นอาหารที่ทำให้ผู้บริโภคได้รับสารอาหารที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นน้ำตาล ที่สามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานและให้รสหวาน เกลือแร่และวิตามินที่เสริมสร้างความสมบูรณ์ของอวัยวะต่าง ๆ เส้นใยอาหารที่ช่วยให้การขับถ่ายเป็นไปได้ด้วย และลดการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ ลดเบาหวานได้ด้วย และพืชบางชนิดให้ไขมันที่มีประโยชน์ต่อร่างกายด้วยเช่นกัน ฯลฯ การบริโภคผักสดและผลไม้สด จึงเป็นเรื่องที่ควรแนะนำและส่งเสริม แต่ทุกอย่างในโลกก็ต้องมีสองด้านเสมอ แม้แต่ในผักสด ผลไม้สดก็ตาม การบริโภคสด ๆ โดยไม่ผ่านความร้อนอาจได้รับอันตรายบางประการได้ เช่น ในผักอาจมีไข่พยาธิหรือพยาธิเจือปนอยู่ หากล้างไม่สะอาดอาจทำให้เกิดโรคท้องร่วงได้ รวมไปถึงผักผลไม้บางชนิดอาจมีสารเคมีหรือยาฆ่าแมลงตกค้างอยู่ อาจก่อให้เกิดสารพิษสะสมในร่างกาย อีกทั้งผู้ที่ป่วยด้วยบางโรคจำเป็นต้องระวังผักสดผลไม้สดบางชนิดด้วย เช่น ผู้ที่ป่วยเป็นโรคไตจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงอาหารที่มีโปตัสเซี่ยมสูง ๆ เช่น กล้วย หรือส้ม เป็นต้น รวมไปถึงคนไข้อีกบางพวกที่การทานผักสดผลไม้สด เป็นเรื่องต้องห้ามที่สุด ก็คือ คนไข้ที่ได้รับเคมีบำบัดเพื่อรักษาโรคมะเร็ง เพราะคนไข้จำพวกนี้ภายหลังจากที่ได้รับยาแล้วจะทำให้ปริมาณเม็ดเลือดขาว ซึ่งทำหน้าที่ในการกำจัดเชื้อโรคต่ำลง ผู้ป่วยจึงอ่อนแอเกิดโรคติดเชื้อแทรกซ้อนได้ง่าย หากต้องการผักผลไม้ ต้องเป็นผ่านการทำให้สุกด้วยความร้อนแล้วเท่านั้น อีกทั้งผลไม้บางชนิดที่ต้องรับประทานทั้งเปลือกก็ห้ามรับประทานด้วย หากต้องการทานต้องปอกเปลือกทิ้งไปแล้วให้ทานในทันทีห้ามปล่อยทิ้งไว้ แม้การทานผักสดผลไม้สดจะเป็นเรื่องที่ดี แต่ผู้ป่วยบางโรคก็เป็นเรื่องต้องห้ามเช่นกัน ดังนั้นหากท่านเป็นผู้ที่มีโรคประจำตัวควรปรึกษาแพทย์ก่อนดีกว่านะคะ

  • หัดเด็ก…ให้กินผักตั้งแต่เล็ก

    หัดเด็ก…ให้กินผักตั้งแต่เล็ก

    หัดเด็ก…ให้กินผักตั้งแต่เล็ก เดี๋ยวนี้เราจะเห็นเด็ก ๆ มากมายที่ไม่ค่อยกินผักสักเท่าไร แถมยังชอบกินอาหารจังก์ฟู้ดที่มีไขมันสูงด้วย เด็กตัวอ้วนกลม ไม่แข็งแรง ขี้โรคจึงเต็มโรงเรียนอนุบาลไปหมด หากไม่หัดให้เด็กกินผักบ้างจะทำให้ร่างกายของเขาขาดเส้นใยอาหาร การขับถ่ายก็ไม่ดี ท้องอืด ท้องผูก และไม่ได้รับการขับถ่ายพิษออกมา แล้วยังอาจทำให้ขาดวิตามินและแร่ธาตุมากมายจากผักอีกด้วย ความจริงแล้วการหัดให้เด็กทานผักนั้นควรเริ่มตั้งแต่หลังจากเริ่มหย่านม ก็คือตั้งแต่อายุ 6 เดือนขึ้นไป โดยควรเลือกผักให้ลูกทานพร้อมอาหารหลักที่มีสารอาหารครบห้าหมู่ แล้วจึงค่อยๆ สร้างความคุ้นเคยให้เด็กกินอาหารอื่นนอกจากนมให้มากขึ้นตามลำดับ การหัดให้เด็กได้ลองกินผักมื้อแรกนั้นเป็นจุดที่สำคัญมาก ควรให้เด็กทานผักนิ่ม ๆ ก่อน เช่น ฟักทอง แครอท ผักกาดขาด ตำลึง ซึ่งลูกอาจปฏิเสธในครั้งแรก แต่ควรอดทนและลองพยายามใหม่ ซึ่งอาจลองเปลี่ยนเป็นผักนิ่ม ๆ ชนิดอื่นบ้าง การให้ลูกกินผักนั้นไม่ควรบังคับหรือขัดใจ ควรทำให้เด็กรู้สึกมีความสุขและสนุกในการกิน เพื่อให้รู้สึกดีกับการกินผัก หาไม่แล้วเด็กอาจเกลียดการกินผักไปเลยก็ได้ถ้าคุณเคี่ยวเข็ญหรือลงโทษ หลังจากเริ่มจากผักนิ่ม ๆได้แล้ว ควรทำให้เด็กคุ้นเคยกับผักที่มีกลิ่นฉุนมากขึ้นเช่น ต้นหอม ผักชี ขึ้นฉ่าย โดยให้เด็กทานตั้งแต่อายุ 9-10 เดือน เพราะในระยะนี้เด็กยังไม่รู้จักเลือกรสและกลิ่นของผักจึงสามารถกินได้ทุกอย่าง ซึ่งปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เด็กกินผักได้ก็คือ พ่อแม่ต้องเป็นตัวอย่างที่ดี ต้องกินผักให้เด็กเห็น และชมเชยลูกทุกครั้งที่เด็กชอบผักและอยากกินผัก สิ่งที่สำคัญที่สุดนั้นก็คือ เด็กต้องมีผู้ใหญ่เป็นแบบอย่างของการกินที่ดีนั้นเอง…

  • สารพัดวิธีล้างผักให้สะอาด ปราศจากสารเคมีเจือปน

    สารพัดวิธีล้างผักให้สะอาด ปราศจากสารเคมีเจือปน

    สารพัดวิธีล้างผักให้สะอาด ปราศจากสารเคมีเจือปน ไม่ว่าจะเป็นผักชนิดไหน ๆ ต่างก็ให้ประโยชน์กับร่างกายทั้งนั้น เพราะเป็นแหล่งของวิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระจำนวนมหาศาล และมีเส้นใยอาหารที่ช่วยลดปัญหาท้องผูก ที่อาจก่อให้เกิดการเป็นมะเร็งได้ในอนาคตด้วย แต่แม้ว่าผักทั้งหลายจะมีประโยชน์ต่อร่างกายมาก แต่ก็จำเป็นต้องตระหนักถึงอันตรายแฝงเร้นที่มากับผักด้วยเช่นกัน นั่นก็คือ สารพิษจากสารเคมีป้องกันแมลง และสารพิษตกค้างจากปุ๋ยบำรุงพืช ที่ติดมากับผักโดยที่เราไม่อาจมองเห็นได้นั่นเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผักที่มีลักษณะซ้อนกันเป็นชั้น ๆ หรือกาบ ๆ อย่างผักกาดขาว กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก ผักคะน้า ต้นหอม ฯลฯ ดังนั้นขั้นแรกของการหลีกเลี่ยงสารเคมีเหล่านี้ก็คือ การเลือกผักมาทานให้ถูกวิธีนั้นเอง ควรเลือกผักที่มีรอยแมลงกัดอยู่บ้าง เพราะนั่นแน่ใจได้ว่าเป็นผักที่ปลอดสารเคมีป้องกันแมลงแน่นอน แต่บางครั้งเราก็ไม่สามารถเลือกได้ จึงจำเป็นต้องเลือกรับสารพิษเหล่านี้เข้าสู่ร่างกายให้น้อยที่สุด ด้วยการล้างผักตามวิธีดังต่อไปนี้ คุณผู้อ่านสามารถเลือกนำไปใช้ได้ตามความสะดวกเลยค่ะ ในเบื้องต้นการล้างที่ไม่ได้ใช้ยาฆ่าแมลงหรือปุ๋ยนั้น สามารถล้างได้ด้วยน้ำสะอาดซักสองรอบ แล้วเติมเกลือลงไปแช่ผักไว้สักครู่ หนอนและแมลงต่าง ๆ ก็จะลอยขึ้นมาเอง หลังจากนั้นจึงค่อยน้ำไปล้างอีกรอบ แต่หากเป็นผักที่มีเศษดินติดอยู่ การแช่น้ำไว้ก็จะช่วยให้ดินอ่อนตัวลง เมื่อนำนิ้วไปถู ๆ ช่วยก็จะล้างดินออกได้อย่างหมดจด แต่ถ้าจะเอาให้แน่ใจว่าผักที่เราจะทานนี้ปลอดจากสารพิษได้แล้วล่ะก็ ต้องใช้เทคนิคดังนี้ค่ะ – ล้างด้วยผงโซเดียมไบคาร์บอเนต 1 ช้อนโต๊ะ กับน้ำประมาณ 20 ลิตร…

  • กะหล่ำดาว ..อาหารสำหรับคนที่อยากมีลูก

    กะหล่ำดาว ..อาหารสำหรับคนที่อยากมีลูก

    กะหล่ำดาว ..อาหารสำหรับคนที่อยากมีลูก มีผลการวิจัยออกมาว่าผักที่มีประโยชน์สำหรับคู่สามีภรรยาที่อยากมีลูกนั้น  หากได้ทาน “กะหล่ำดาว” หรือ “บรัสเซลส์ สเปราท์ส” (brussels sprouts) แล้วจะช่วยให้ภาวะเจริญพันธ์มีความสมบูรณ์ขึ้น เพราะในกระหล่ำดาวนั้นมีกรดโฟลิกสูง  จึงช่วยให้ผู้ที่ตั้งครรภ์แล้วลดอัตราเสี่ยงของการคลอดก่อนกำหนด และลดอัตราลูกที่คลอดออกมาไม่สมประกอบด้วย อีกทั้งยังอุดมไปด้วยไฟโตนิวเทรียนที่มีชื่อว่า ได อินโดลิลมีเทน  ซึ่งช่วยรักษาสมดุลของฮอร์โมนเอสโตรเจนในผู้หญิง ทำให้ภาวะเจริญพันธ์ในผู้หญิงมีความสมบูรณ์ อีกทั้งยังมีการยืนยันจากโภชนากรด้วยอีกด้วย หากคู่สามีภรรยารับประทานกะหล่ำดาวมากขึ้น ยังช่วยให้มีลูกง่ายขึ้นด้วย  ผู้ที่ลองหาอาหารเสริมสำหรับบำรุงการเจริญพันธ์  น่าลองทานกะหล่ำดาวให้เป็นประจำดูนะคะ น่าจะเป็นตัวช่วยที่ดีอีกชนิดหนึ่งเลยทีเดียวค่ะ

  • ผักผลไม้  5 ชนิดทานแล้วฟันขาวสะอาด

    ผักผลไม้ 5 ชนิดทานแล้วฟันขาวสะอาด

    ผักผลไม้  5 ชนิดทานแล้วฟันขาวสะอาด การทำให้ฟันขาวสดใสนั้น ไม่จำเป็นต้องไปเข้าคอร์สขัดฟันหรือฟอกฟันใหม่ก็ได้นะคะ หากฟันของคุณยังไม่เหลืองมากเท่าไรนัก การทานอาหารที่มีส่วนช่วยให้ฟันขาวสะอาดก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้ฟันของคุณขาวสะอาดได้อย่างง่ายดายและมีราคาไม่แพงอีกด้วย หนำซ้ำอาหารเหล่านี้ยังช่วยให้สุขภาพร่างกายโดยรวมแข็งแรงขึ้นไปพร้อม ๆ กัน มาลองดูว่าผักผลไม้ทั้งห้าชนิดนี้คืออะไรบ้างนะคะ 1. แอปเปิ้ล เพราะในแอปเปิ้ลมีกรดมาลิกที่ช่วยสลายคราบที่สะสมบนฟันได้อย่างเป็นธรรมชาตะ ช่วยทำความสะอาดฟันได้ เพิ่มน้ำลายแล้วยังป้องกันการสะสมของคราบแบคทีเรียเหนียว ๆ ที่เกาะอยู่ระหว่างคราบและผิวฟันออกไปได้อย่างง่ายดายด้วยค่ะ 2. ถั่ว เพราะในถั่วนั้นมีแคลเซียมที่ช่วยให้ฟันแข็งแรง มีฤทธิ์กัดกร่อนเล็กน้อยแต่ไม่ส่งผลต่อผิวฟัน จึงสามารถขจัดคราบต่าง ๆ บนผิวฟันได้ดี 3. คึ่นช่าย เพราะในขึ้นฉ่ายมีเส้นใยที่ทำงานเหมือนแปรงสีฟันจึงช่วยขัดคราบออกไปจากผิวฟันเมื่อคุณเคี้ยวสด ๆ ทั้งยังเป็นอาหารที่มีแคลอรี่ต่ำอีกด้วย ทานมากเท่าไรก็ไม่ต้องกลัวอ้วนค่ะ 4. สับปะรด การที่สับปะรดสามารถขัดคราบบนผิวฟันออกไปได้นั้น เพราะมีเอนไซม์บรอมีเลน นั่นเอง 5. แครอท ช่วยเติมเต็มวิตามินตามที่ร่างกายต้องการ ช่วยกระตุ้นการสร้างน้ำลาย จึงทำให้ฟันมีสุขภาพดี แต่อาหารที่ควรเลี่ยงนั้นคืออาหารที่มีฤทธิ์เป็นกรด หรือมีวิตามินซีสูงนั้นเอง เพราะจะเป็นการทำลายเคลือบฟันก่อให้เกิดอาการเสียวฟันในอนาคตได้

  • เคล็ดลับการกินบุฟเฟ่ต์ให้ดีต่อสุขภาพ

    เคล็ดลับการกินบุฟเฟ่ต์ให้ดีต่อสุขภาพ

    เคล็ดลับการกินบุฟเฟ่ต์ให้ดีต่อสุขภาพ สำหรับคนที่มักชอบทานบุฟเฟต์หรือไปกินเลี้ยงบุฟเฟ่ต์กันบ่อย ๆ วันนี้ลองมาดูเคล็ดลับการทานบุฟเฟ่ต์แบบที่ไม่ทำให้เสียสุขภาพกันนะคะ – เลือกทานผักและทานปลาให้มากหน่อย เพราะย่อยง่ายไม่ทำให้ท้องอืดหรือจุกเสียดท้องเหมือนเนื้อหมู เนื้อวัว แล้วยังเป็นมีไขมันน้อยกว่าอีกด้วย – เน้นทานบุฟเฟ่ต์แบบต้ม หรือลวก จะดีกว่าแบบปิ้ง ย่าง หรือทอด จะได้ไม่เสี่ยงต่อสารก่อมะเร็ง – ปกติทานอาหารบุฟเฟ่ต์ก็ทานเป็นปริมาณมากอยู่แล้ว หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์หรือน้ำอัดลมไปด้วยจะดีกว่า เดี๋ยวจะอ้วนมากเกินไป ทั้งยังทำให้ย่อยยาก แล้วก็จะอ้วนขึ้นได้ง่าย ๆ ดื่มน้ำชาหรือน้ำเปล่าจะดีกว่าเยอะค่ะ – เวลาตักของสด หรือเนื้อสัตว์ต่าง ๆ จากไลน์บุฟเฟ่ต์ สังเกตสภาพของอาหาร ทั้งรูปลักษณ์ สีและกลิ่นด้วย ว่ามีความแตกต่างไปจากปกติหรือเปล่า เพราะเมืองไทยอากาศร้อน อาหารจะบูดได้ง่าย – หากทานเป็นบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่าง อย่าเกรงใจเจ้าของร้านหรือน้อง ๆ เด็กเสิร์ฟเลย หากกระทะหรือเตาย่างเริ่มไหม้เกรียมแล้ว ก็เปลี่ยนอันใหม่ดีกว่า ห่างไกลมะเร็งแล้วยังทำให้อาหารสุกเร็วขึ้นอีกด้วยนะ – ค่อย ๆ ทานไปเรื่อย ๆ อาจจะลุกเดินไปย่อยบ้าง จะได้ไม่ทานเยอะเกินไปจนท้องอืด อาหารไม่ย่อยได้ หรือจะทานไปคุยเฮฮาสังสรรค์ไปด้วยก็น่าจะดีกว่า – หลังจากการทานบุฟเฟต์แล้ว อย่าเพิ่งกลับบ้านนอน…