Tag: ปวดหัว
-
ความรู้เกี่ยวกับโรคไมเกรน หรือโรคลมตะกัง
ความรู้เกี่ยวกับโรคไมเกรน หรือโรคลมตะกัง สาเหตุของโรคไมเกรน หรือโรคลมตะกัง นั้นยังไม่ทราบแน่ชัด แต่ทุกครั้งที่อาการกำเริบจะมีการเปลี่ยนแปลงของสารเคมีในสมอง ทำให้มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของหลอดเลือดและประสาทบนใบหน้า ทำให้หลอดเลือดภายในกะโหลกศรีษะหดตัว แต่หลอดเลือดภายนอกศีรษะ พองตัว ประสาทไวมากขึ้น จึงมีอาการปวดศรีษะและอาการอื่น ๆ ตามมา กว่าร้อยละ 70 นั้นโรคนี้จะถ่ายทอดทางพันธุกรรมด้วย สาเหตุหรือปัจจัยที่กระตุ้นให้โรคกำเริบ มักจะมีอาการปวดหัวเป็นครั้งคราว และทุกครั้งจะมีการกระตุ้นล่วงหน้าเป็นชั่วโมงถึงสองวันเสมอ ผู้ป่วยควรสังเกตตัวเองว่ามีสาเหตุกระตุ้นอะไรบ้าง ซึ่งอาจมีมากกว่าแค่หนึ่งอย่าง ตัวกระตุ้นก็อาทิ แสงแดด แสงจ้า แสงระยิบระยับ หรือการใช้สายตานาน ๆ เสียงดัง เสียงจอแจต่าง ๆ , กลิ่นฉุน ควันบุหรี่ กลิ่นน้ำหอม , อาหารบางชนิด เช่น เครื่องในสัตว์ อาหารทะเล ช็อกโกแลต กล้วยหอม ชูรส น้ำตาลเทียม แอลกอฮอล์ กาแฟ ยาคุมกำเนิด ยานอนหลับ, อากาศที่ร้อนจัด เย็นจัด หิวจัด อิ่มจัด อดนอน หรือนอนมากเกินไป รวมไปถึงความเครียด…
-
ระวังภัย…จากการย่ำน้ำท่วมขังในฤดูฝน
ระวังภัย…จากการย่ำน้ำท่วมขังในฤดูฝน นอกจากโรคทางเดินหายใจที่เราควรต้องดูแลสุขภาพให้ดีกันในระยะหน้าฝนนี้แล้ว ภาวะน้ำท่วมขัง น้ำขังตามท้องถนนหรือริมฟุตบาทต่าง ๆ ก็เป็นเรื่องที่เราต้องระวังเช่นกัน เพราะภัยอันตรายมีอยู่มากที่มากับน้ำเหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็น แมลงหรือสัตว์มีพิษต่างๆ อุบัติเหตุพลัดตกท่อ ไฟฟ้ารั่ว และเชื้อโรคต่าง ๆ รวมไปถึงสารเคมีที่น้ำนั้นได้ชะล้างออกมา หากเท้าของเราต้องสัมผัสกับน้ำเหล่านั้นอาจติดเชื้อหรือได้รับอันตรายได้ ดังนั้นในระยะที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงการย่ำเท้าในพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขัง ควรดูแลตัวเองดังต่อไปนี้ค่ะ 1. หลีกเลี่ยงการเดินเท้าเปล่าในที่ที่มีน้ำท่วมขังหรือพื้นที่ชื้นแฉะ เพื่ออาจถูกเศษวัสดุ เศษแก้ว ตะปู ตำเอาจนเกิดบาดแผลและเชื้อโรคเข้าสู่บาดแผลได้ง่ายค่ะ 2. หากจำเป็นต้องแช่น้ำ อย่าอยู่ในน้ำนาน ๆ และต้องสวมรองเท้าบู้ทด้วยทุกครั้ง 3. หลังการสัมผัสกับน้ำสกปรกทั้งหลาย ควรรักษาความสะอาดของร่างกาย อาบน้ำฟอกสบู่ให้สะอาดและซับให้แห้ง 4. อย่าให้น้ำเหล่านั้นเข้าตาและเข้าปาก หากน้ำกระเด็นใส่ควรใช้น้ำดื่มจากขวดล้างออก โดยเทผ่านดวงตา แต่อย่าขยี้เพราะอาจทำให้เกิดแผลลุกลามได้ 5. ในระยะฤดูฝนควรระมัดระวังน้ำดื่มและอาหาร เพราะอาจเกิดโรคท้องเดินได้ง่าย 6. รักษาร่างกายให้มีสุขภาพแข็งแรง ปล่อยวางความเครียด เพราะยิ่งเครียดร่างกายก็จะยิ่งอ่อนแอลง การรักษาสุขภาพจิตให้แข็งแรงก็จะพลอยทำให้ร่างกายแข็งแรงด้วย หากสัมผัสถูกน้ำเหล่านี้แล้วเกิดมีอาการผิดปกติขึ้น ไม่ว่าจะเป็นตาแดง หรือเจ็บเคืองตา ถ่ายท้องเกินสามครั้งต่อวัน หรือถ่ายเป็นเลือด มีไข้สูง ปวดหัวและปวดเมื่อยหนักมาก ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาโดยด่วนค่ะ
-
เนื้อสัตว์ดิบๆ ทำให้คุณเสียชีวิตโดยไม่ทันรู้ตัว
เนื้อสัตว์ดิบๆ ทำให้คุณเสียชีวิตโดยไม่ทันรู้ตัว แทบทุกภาคของประเทศไทย ต่างก็มีอาหารประจำภาคที่นำเอาเนื้อสัตว์ดิบ ๆ มาทำเป็นอาหารทั้งนั้น นัยว่าอร่อยถูกปากกว่าเนื้อสัตว์ที่ปรุงจนสุก เช่น ลาบหรือหลู้ทางภาคเหนือมักนิยมใช้เนื้อหมูปนเลือดสด หรือเนื้อวัว เนื้อควายมาปรุงทาน เพราะมีรสอร่อยกว่า ทั้งที่ความจริงแล้วอาหารแบบนี้เสี่ยงต่ออันตรายอย่างมาก เพราะในเนื้อดิบ ๆ นั้นมีเชื้อแบคทีเรียและพยาธิอื่น ๆ ปะปนอยู่มาก ดังที่มีข่าวการเสียชีวิตจากการทานของดิบ ๆ อยู่เนือง ๆ เพราะมีคนที่มักเข้าใจผิดเอาความอร่อยเพียงไม่กี่มื้อแลกกับชีวิตของตัวเองมากนักต่อนักแล้วนั่นเอง เนื้อสัตว์ดิบทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นหมู วัว ควาย นก สัตว์ป่าต่าง ๆ รวมไปถึงปลาน้ำจืด กุ้ง ปลาดิบ อาหารหมักดองพวก แหนม ปลาส้ม ปลาจ่อม อาหารทะเลสุก ๆ ดิบ ๆ ทำให้เกิดความเสี่ยงการเกิดโรคภัยต่อร่างกายนับไม่ถ้วน ทั้งโรคจากพยาธิที่ปนเปื้อนในเนื้อสัตว์ พยาธิใบไม้ตับ พยาธิขึ้นสมอง มะเร็งท่อน้ำดี เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ที่ทำให้มีไข้สูง ปวดหัว คลื่นไส้อาเจียน หูดับ ตาบอด ชัก เป็นอัมพาต บางอาจก็อาจทำให้เยื่อหุ้มหัวใจ…
-
ดูแล…อาการปวดศีรษะด้วยตัวคุณเอง
ดูแล…อาการปวดศีรษะด้วยตัวคุณเอง การปวดศีรษะเป็นอาการป่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่พบเห็นได้บ่อย ๆ อยู่แล้ว ซึ่งสามารถก็ได้แก่ การใช้สายตานานและมากเกินไป นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ มีความเครียดหรือมีปัญหาจากไมเกรน ซึ่งการดูแลอาการปวดศีรษะเหล่านี้แบบเบื้องต้นก็คือการให้ยาหม่องทาถูกนวดบริเวณจุดที่ปวด หากยังไม่หายดีก็ให้ทานยาพาราเซตามอลตามขนาด แล้วหากยังไม่หายขาดก็ควรรีบไปพบแพทย์ทันที แต่หากเป็นอาการปวดหัวที่เกิดจากความเครียดควรผ่อนคลายตัวเองลง แล้วหาทางพักผ่อน อาจเป็นการทำจิตใจให้ผ่อนคลาย นอนหลับให้เพียงพอ อาบน้ำสบาย ๆ แล้วพักผ่อนก็จะช่วยได้ด้วย หรือในบางกรณีอาจปรึกษานักจิตวิทยาเพื่อช่วยกันหาทางออกก็ได้ สำหรับผู้ที่มีอาการปวดหัวไมเกรน ซึ่งก็ไม่มีอันตรายร้ายแรงมาก โรคปวดหัวไมเกรนนี้มักเกิดกับผู้ท่มีอายุตั้งแต่ 15-55 ปี โดยเริ่มปวดครั้งแรกเมื่อเข้าสู่วัยรุ่นหรือวัยทำงาน โดยเริ่มจากตาพร่า เวียนศีรษะ หรือคลื่นไส้ แล้วจะจะปวดตุบ ๆ ตรงขมับข้างเดียวหรือสองข้าง และจะรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ระยะเวลาการปวดอาจนานเป็นชั่วโมงหรือนานถึง 1-2 วัน อาจเป็น ๆ หาย ๆ ตามสิ่งที่กระตุ้น ซึ่งหากท่านมีอาการไมเกรนควรดูแลตนเองดังต่อไปนี้ 1. เมื่อเริ่มปวดหัว ให้ทานยาพาราเซตามอลทันที 1-2 เม็ด เพราะหากปล่อยไว้เกินครั้งชั่วโมง ยาแก้ปวดจะใช้ไม่ได้ผล เมื่อทานยาแล้วควรทานพักในห้องเย็น ๆ…
-
ผู้ป่วย “ไมเกรน” ระวังอาหารดังต่อไปนี้
ผู้ป่วย “ไมเกรน” ระวังอาหารดังต่อไปนี้ คนที่มีโรคประจำตัว อย่างโรคไมเกรนนี่ จำเป็นต้องระวังการใช้ชีวิตประจำวันมากกว่าคนทั่วไป ยิ่งโดยเฉพาะอาหารแล้ว หากทานไม่ระวังอาจทำให้ร่างกายได้รับสารไทรามีน และ ไนไตรต์ เข้าไป เมื่อร่างกายได้รับปุ๊บก็จะทำให้ระบบประสาทและหลอดเลือดหดตัวทันที จึงปวดหัวจี๊ดขึ้นมาอย่างฉับพลัน ดังนั้นจึงควรระวังอาหาร 5 ชนิดนี้ไว้ค่ะ 1. กุนเชียงและเนื้อหรือหมูแดดเดียว เพราะสีแดง ๆ ของอาหารทั้งสองชนิดนี้จะเติมดินประสิวลงไปด้วย และในดินประสิวนี่แหล่ะมีสารไนไตรต์ผสมอยู่เยอะมาก ดังนั้นจึงทำให้คุณปวดหัวจี๊ดได้ทันที 2. ช็อกโกแลต คนเป็นไมเกรนทานแล้วปวดหัวทุกที แต่ทันทีสามารถทานช็อกโกแลตขาวได้ ซึ่งมีส่วนประกอบเป็นนมมากกว่านั่นเอง 3. แอสปาแทม หรือสารให้ความหวานแทนน้ำตาล มีผลการสำรวจมากว่าคนที่เป็นไมเกรนมักจะปวดหัวเมื่อกินสารชนิดนี้เข้าไป 4. ไวน์แดง มีไทรามีและไนไตรต์สูงมาก ดังนั้นหลีกเลี่ยงจะดีกว่า 5. ลูกชิ้นเด้งดึ๋ง ก็มีมากเหมือนกัน แต่ไม่ใช่ทุกร้านที่เติมสารบอแร็กซ์ที่ทำให้ลูกชิ้นเด้งดึ๋ง นอกจากทำห้ปวดศีรษะแล้ว ยังเป็นสารก่อมะเร็งอีกด้วยค่ะ ระวังไว้ก่อนจะดีกว่านะคะ จะได้ไม่ปวดหัวจี๊ดค่ะ
-
อาหาร 11 ชนิดที่อาจทำให้คุณแก่เร็วขึ้น!
อาหาร 11 ชนิดที่อาจทำให้คุณแก่เร็วขึ้น! ขึ้นชื่อว่าอาหารแล้ว มีทั้งอาหารที่เป็นคุณและเป็นโทษต่อร่างกายนะคะ ดังนั้นการทานอาหาร จึงใช่การสักแต่ทานเพราะเห็นว่าเป็นอาหารเท่านั้น แต่หากคุณไม่อยากแก่ และไม่อยากให้ร่างกายและอวัยวะต่าง ๆ เสื่อมสภาพก่อนวัยอันควร ก็ควรหลีกเลี่ยงอาหาร 11 ชนิดดังต่อไปนี้ด้วย 1. เกลือ เพราะเกลือจะไปดูดซึมน้ำในร่างกาย ทำให้อ่อนเพลียและมีความเสี่ยงในการเป็นโรคความดันโลหิต และโรคไต 2. น้ำตาล เมื่อบริโภคน้ำตาลเข้าไป จะไปจับกับคอลลาเจนในร่างกาย ทำให้ผิวหนังเกิดรอยเหี่ยวย่อน ทำให้ดูแก่ลง 3. น้ำตาลเทียม แม้น้ำตาลเทียมจะไม่ทำให้คุณเป็นเบาหวาน แต่ก็อาจก่อปัญหากับร่างกายได้ด้วย ทำให้เกิดอาการปวดหัว และปวดข้อ ตลอดจนอยากทานน้ำตาลจริง ๆ ขึ้นมาได้ 4. ลูกอม มีน้ำตาล น้ำเชื่อมต่าง ๆ เป็นส่วนประกอบ ทำให้ร่างกายเกิดความระคายเคือง และทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย 5. น้ำอัดลม ทำให้ร่างกายขาดน้ำและรู้สึกอ่อนเพลียได้ 6. เครื่องดื่มชูกำลังต่าง ๆ ทำลายเคลือบฟัน ทำให้ฟันสึก และผุกร่อนเร็ว 7. กาแฟ ดูดซึมน้ำในร่างกาย จึงทำให้รู้สึกเหนื่อยล้า…
-
ผงชูรส.. ยิ่งกินก็ยิ่งอ้วน
ผงชูรส.. ยิ่งกินก็ยิ่งอ้วน สำหรับคนไทยแล้วการเติมผงชูรสลงไปในอาหารนั้น สุดแสนจะเป็นเรื่องธรรมดา แต่หารู้ไม่ว่าผงชูรสนั้นทำให้คุณอ้วนขึ้นได้อีกด้วย! โดยผลการวิจัยนี้มาจากการค้นคว่าของมหาวิทยาลัยนอร์ทแคโรไลน่ากับนักวิทยาศาสตร์จีน โดยได้ทำการทดสอบกับชาวจีนทั้งหมด 750 คน ที่ทำกับข้าวกันเองและไม่ได้ใช้ผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูป ประมาณ 82% ใช้ผงชูรส ยิ่งครอบครัวใดใช้ผงชูรสมากก็ยิ่งมีคนอ้วนมาเป็นสามเท่าของผู้ที่ไม่ได้ใช้ ซึ่งการทดสอบนี้ได้คำนวณในด้านปัจจัยอื่น ๆ เกี่ยวกับการออกกำลังกาย และแคลอรี่ที่กินเข้าไป และอื่น ๆ มาพิจารณาร่วมด้วย แต่ก็ยังสรุปได้ว่ายิ่งกินผงชูรสมาก ก็ยิ่งอ้วนขึ้นอยู่ดี ผงชูรส หรือ monosodium glutamate เป็นสารที่ทำให้มีรสชาติเพิ่มมากขึ้น คือนอกเหนือจากรสชาติประจำอาหารทั้งสี่คือ เปรี้ยว หวาน เค็ม และขม และออกฤทธิ์กระตุ้นเซลล์ในสมองด้านการรับรู้รสชาติ โดยประมาณกันว่าในสหรัฐอเมริกานั้น 50 ปีที่แล้วนั้น ใช้ผงชูรสในการประกอบอาหารถึงกว่าห้าร้อยตันต่อปี แต่ทุกวันนี้ปริมาณที่ใช้กลับทวีจำนวนขึ้นอีกกว่า 300 เท่า ดังนั้นจำนวนของคนที่น้ำหนักเกินจึงมากขึ้นหลายเท่าตัว นอกจากทำให้อ้วนลงพุง มีปัญหาน้ำหนักตัวแล้ว ในบางคนที่แพ้ผงชูรส ยังมีอาการข้างเคียงอื่น ๆ คือ ปวดหัวอย่างหนัก และหัวใจเต้นเร็วได้อีกด้วยค่ะ นอกจากไม่มีประโยชน์แล้วยังก่อโทษกับร่างกายอีกต่างหาก เรามาลด ละ เลิก ผงชูรสกันเถอะนะคะ
-
การเมืองทำคนเครียดป่วย “โรคเครียดการเมือง” ล้นประเทศ
การเมืองทำคนเครียดป่วย “โรคเครียดการเมือง” ล้นประเทศ กรมสุขภาพจิตห่วงคนไทยหวั่นเกิดโรคเครียดสะสมจากการเมืองจนกลายเป็นโรคชนิดใหม่.. โรคเครียดการเมือง หรือ Political Stress Syndrome (PSS) ซึ่งมีอาการดังต่อไปนี้ อาการทางร่างกาย 1. ปวดหัว 2. ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ 3. มีอาการตึงบริเวณต้นคอ ขมับ หรือแขนขา 4. นอนไม่หลับ หรือหลับไม่สนิท หลับ ๆ ตื่น ๆ หรือตื่นแล้วนอนต่อไม่ได้ 5. ใจสั่น หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ ทั้ง ๆ ที่อยู่ในสภาพปกติ 6. หายใจไม่อิ่ม 7. แน่นท้อง ปวดท้อง อึดอัดในช่องท้อง 8. ชาตามร่างกาย อาการทางจิตใจ ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้กับทั้งผู้ชุมนุม นักการเมือง ผู้ติดตามข่าวสารและผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจิต 1. มีความวิตกกังวล ครุ่นคิดตลอด 2. หงุดหงิดฉุนเฉียวได้ง่าย 3. มีความก้าวร้าว 4. รู้สึกสิ้นหวัง เบื่อหน่าย…
-
อาการของโรคไมเกรน!
อาการของโรคไมเกรน! ไมเกรนเป็นโรคปวดหัวอย่างหนึ่งทีเกิดจากระบบประสาทส่วนกลางที่ทำหน้าที่รับรู้ทำงานมากกว่าปกติ ส่วนใหญ่อาการปวดหัวของคนที่เป็นโรคไมเกรนค่อนข้างจะจำเพาะ ปวดศีรษะข้างเดียว ปวดตุบ ๆ หรืออาจสลับไปมาระหว่างสองข้างได้ ระยะเวลาการปวดกินเวลาหลายชั่วโมงถึงเป็นวัน สำหรับผู้ที่สงสัยว่าจะเป็นโรคไมเกรนก่อนอื่นก็ต้องเข้ารับการตรวจจากแพทย์ก่อน ว่าอาการปวดหัวนั้นมีสาเหตุมาจากอย่างอื่นหรือเปล่า ซึ่งหากสงสัยก็อาจต้องทำการตรวจเพิ่มเติม อาจจะเป็นการเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ เอกซเรย์คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ถ้าไม่ได้เป็นโรคอื่นจริง ๆ และได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นไมเกรนจริงก็สามารถรักษาให้หายได้ด้วยการรับประทานยา
-
อาการร้อนจัด ระวังโรคหวัดแดด
อาการร้อนจัด ระวังโรคหวัดแดด ช่วงนี้อากาศในเมืองไทยร้อนจนแผ่นดินแทบเดือนกันเลยทีเดียว นอกจากแสงแดดจะทำร้ายทำลายผิวแล้ว ความร้อนจากอากาศยังอาจทำให้เสียสุขภาพได้อีกด้วย เพราะอุณหภูมิสูง ๆ ของแดดร้อน ๆ ทำให้ร่างกายมีอาการเพลียแดด แม้จะเป่าพัดลมหรือดื่มน้ำแล้ว ความร้อนก็ดูจะไม่ยอมจางลงเลย แต่ทำท่าจะสะสมอยู่ข้างในเหมือนคนเป็นไข้เข้าไปอีก ยิ่งคนที่ทำงานกลางแจ้งยิ่งต้องระวัง ไม่ควรดื่มน้ำเย็นจัดเพื่อดับร้อนทันที ควรดื่มน้ำธรรมดาดีกว่า และพยายามใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดหน้าเข้าจะช่วยบรรเทาอากาศร้อนได้นะคะ แม้แต่คนที่ทำงานนั่งห้องแอร์ก็ไม่ควรชะล่าใจนัก เพราะถ้าออกไปปะทะกับอากาศร้อนแล้วจะทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทัน มีอาการเหมือนจับไข้ได้ แม้จะดูไม่หนักหนาแต่ก็ไม่ยอมหายขาดเสียที ทำให้ร่างกายอ่อนแอลงเรื่อย ๆ โอกาสติดเชื้อจากโรคอื่น ๆ ก็มากขึ้น ซึ่งอาการของโรคหวัดแดดนั้นเป็นดังนี้ค่ะ 1. มีไข้ต่ำ ๆรุม ๆ ปากแห้งแข็ง แต่ไม่แตกลอก 2. ปากแห้ง คอแห้ง แสบคอ 3. ปวดศีรษะ แต่บางท่านที่ร้อนจัด ๆ อาจะรู้สึกเหมือนถูกกระตุก 4. ขมปากทานอาหารไม่อร่อย เบื่ออาหาร 5. นอนไม่ค่อยหลับ หรือหลับ ๆ ตื่น ๆ 6. ขับถ่ายไม่ปกติ ถ่ายยาก ไม่เป็นเวลา…