Tag: ปฐมพยาบาล
-
วิธีการปฐมพยาบาลอุบัติเหตุต่าง ๆ ในเบื้องต้น
วิธีการปฐมพยาบาลอุบัติเหตุต่าง ๆ ในเบื้องต้น – ผงเข้าตา ไม่ควรขยี้ตา ให้รีบไปลืมตาในน้ำสะอาดและกลอกตาไปมา หากยังไม่ออกให้คนอื่นช่วยเอามุมผ้าเช็ดหน้าสะอาดเขี่ยออกให้ ถ้าไม่ได้อีกให้รีบพาไปพบแพทย์ – ไฟฟ้าช็อต รีบปิดสวิตไฟทันทัน ถ้าทำได้ แต่ถ้าทำไม่ได้ให้ใช้สิ่งที่แห้งเช่น ไม้ เก้าอี้ไม้ ที่ไม่นำไฟฟ้า เขี่ยสายไฟออกจากตัวผู้ป่วย แล้วรีบเป่าปากเพื่อช่วยหายใจค่อยนำส่งโรงพยาบาล – งูพิษกัด เขี้ยวของงูกพิษจะมีรอยเขี้ยว 1-2 จุด ให้ใช้เชือกหรือเข็มขัดรัดเหนือแผล (รัดระหว่างแผลกับหัวใจ) ให้แน่นพอควร อย่างแน่นมาก ให้นอนนิ่ง ๆ แล้วพูดปลอบใจอย่างให้กลัว ห้ามให้ดื่มเหล้า ยาดองเหล้าหรือยากล่อมประสาทเด็ดขาด แล้วรีบพาไปพบแพทย์ ควรจับงูไปด้วย หากหยุดหายใจให้เป่าปากก่อน – การเป่าปากช่วยหายใจ ใช้ในกรณีผู้ป่วยหยุดหายใจ ทำได้โดวยวางผู้ป่วยให้นอนหงายลง แล้วใช้ของหนุนไหล่ให้สูงหรือใช้มือยกคอให้สูงขึ้นโดยให้ศีรษะตกหงายไปด้านหลัง อ้าปากออก เช็ดน้ำมูกน้ำลายและล้วงของในปากออก ผู้ป่วยให้หายใจเข้าปอดให้เต็มที่ แล้วอ้าปากคร่อมไปบนปากของผู้ป่วยแล้วพ่นลมเข้าไป – แมลงเข้าหู ควรพาไปที่มืดแล้วใช้ไฟฉายส่อง แมลงจะออกมาตามแสง หรือเอาน้ำหลอดให้แมลงลอยน้ำขึ้น หรือใช้น้ำมันหรือกลีเซอรีนบอแรกซ์หลอดหุแมลงจะตายในหูแล้วเขี่ยหรือคีบออกมา หากมีประวัติหูน้ำหนวกหรือทำตามแล้วไม่ได้ผลให้รีบไปพบแพทย์ – เลือดกำเดาไหล ให้นั่งนิ่ง…
-
การปฐมพยาบาลช่วยลดการเสียชีวิตได้
การปฐมพยาบาลช่วยลดการเสียชีวิตได้ เมื่อได้พบกับอุบัติเหตุหรือสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น การปฐมพยาบาลจะลดความรุนแรงของการบาดเจ็บหรือความเจ็บป่วยได้ ช่วยบรรเทาให้เจ็บน้อยลง ทำให้ผู้ป่วยกลับสู่สภาพดีได้เร็วขึ้น ป้องกันความพิการ แต่ส่วนใหญ่แล้วคนที่แม้จะเคยเรียนการปฐมพยาบาลมา ก็มักจะมีอยู่น้อยคนที่จำได้และใช้ได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน วันนี้เรามาทบทวนกันดีกว่าค่ะว่าลำดับขั้นตอนการปฐมพยาบาลนั้นมีอะไรบ้าง เมื่อเกิดเหตุร้ายขึ้นให้ควบคุมสติให้ดี แล้ววิเคราะห์วางแผนให้ความช่วยเหลือโดยดูอาการต่าง ๆ ของผู้ป่วย แล้วให้การปฐมพยาบาลตามลำดับขั้นตอนดังนี้ – ตรวจสอบว่าผู้ป่วยยังรู้สึกตัวหรือไม่ หรือเขย่าตัวแรง ๆ เพื่อปลุกให้ตื่น – ขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น และเรียกหน่วยกู้ชีพ โทร 1669 – ไม่ควรเคลื่อนย้ายผู้ป่วยโดยไม่จำเป็น ยกเว้นเป็นจุดอันตรายเช่น บนถนน บริเวณไฟไหม้ ตึกถล่ม และควรเคลื่อนย้ายให้ถูกวิธีด้วย – หากผู้ป่วยมีสติให้สอบถามอาการบาดเจ็บและให้การปฐมพยาบาล แต่หากผู้ป่วยหมดสติให้สำรวจว่ามีเลือดออกหรือไม่ ให้ห้ามเลือดก่อน หากไม่มีบาดแผลให้ตรวจร่างกายดูว่าร่างกายอบอุ่นหรือเปล่า เพราะหากช็อกร่างกายจะเย็นและซีด ควรห่มผ้าให้อบอุ่น จัดท่าการนอนให้ลำตัวสูงกว่าศีรษะเล็กน้อยเพื่อให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงสมองให้เพียงพอ – ตรวจดูสิ่งของในปาก เช่น เศษอาหาร ฟันปลอม หากมีให้ล้วงออกมาป้องกันการสำลักหรืออุดตันทางเดินหายใจ ให้ผู้ป่วยนอนหงายดันหัวให้แหงนขึ้น เพื่อให้หายใจได้โล่งขึ้น – คลายเสื้อผ้าให้หลวม อย่าให้คนมุง – สำรวจอาการบาดเจ็บทางร่างกายอื่น ๆ เช่น บาดแผล…
-
หลักการปฐมพยาบาลเบื้องต้นที่ทุกคนควรรู้
หลักการปฐมพยาบาลเบื้องต้นที่ทุกคนควรรู้ แม้ตอนเด็ก ๆ เราจะได้เคยเรียนรู้การปฐมพยาบาลมาบ้างในวิชาลูกเสือ แต่ก็ใช่ว่าถ้าได้เจอกับอุบัติเหตุเข้าจริง ๆ และพบผู้ที่บาดเจ็บจริง ๆ แล้วจะสามารถให้ความช่วยเหลือได้อย่างถูกวิธี ซึ่งส่วนใหญ่เรามักจะลังเลว่าที่กำลังจะไปช่วยเขานั้น จะทำให้เขาแย่ลงบ้างหรือเปล่า วันนี้เราจะขอนำหลักการปฐมพยาบาลที่ถูกต้องมาช่วยกันเผยแพร่ เพื่อช่วยกันให้ความช่วยเหลือผู้อื่นที่บาดเจ็บจากเหตุไม่คาดถึงกันได้ เพื่อลดความสูญเสียให้น้อยลงกันค่ะ วัตถุประสงค์หลักของการปฐมพยาบาลก็คือเพื่อลดความรุนแรงของการบาดเจ็บหรือความเจ็บป่วยลง ลดความเจ็บทรมาน ช่วยยืดชีวิตให้มากพอจนกว่าจะถึงมือหมอได้จริง ทั้งยังป้องกันความพิการและทำให้ผู้ป่วยฟื้นสภาพได้เร็วขึ้นด้วย โดยผู้ที่ต้องเข้าไปปฐมพยาบาลนั้นควรวิเคราะห์อาการต่าง ๆ ของผู้ได้รับบาดเจ็บก่อน แล้วจึงค่อยให้ความช่วยเหลืออย่างมีสติ ตามลำดับความจำเป็นดังต่อไปนี้ 1. อันดับแรกให้โทรเรียก หน่วยกู้ชีพ 1669 ก่อน อย่าเพิ่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วยไปไหน ยกเว้นว่าจุดนั้นจะมีอันตราย เช่น ไฟไหม้ หรืออยู่กลางถนน ตึกถล่ม เป็นต้น และควรย้ายอย่างถูกวิธีด้วย 2. หากผู้ป่วยยังพอมีสติให้ถามว่าเจ็บตรงไหนแล้วให้การช่วยเหลือ หากผู้ป่วยมีเลือดออกให้ทำการห้ามเลือด หากไม่มีให้ความอบอุ่นกับตัวผู้ป่วย เพราะผู้ที่ตกใจนั้นส่วนใหญ่มักจะตัวเย็นและซีด ควรห่มผ้าให้อบอุ่น และหนุนลำตัวให้สูงกว่าหัวนิดหน่อยเพื่อให้เลือดไหลไปเลี้ยงสมองได้ดีขึ้น 3. หากมีสิ่งของในปากผู้ป่วยให้ล้วงออกมา เช่น ฟันปลอม ของกินอื่น ๆ เพื่อป้องกันมิให้สำลักหรือหลุดลงคอไปอุดทางเดินหายใจ ให้ผู้ป่วยนอนหงาย แหงนศีรษะขึ้นเพื่อให้หายได้สะดวก 4. ตรวจร่างกายว่ามีรอยบาดเจ็บหรือไม่ เช่น…