Tag: บริหารกล้ามเนื้อ

  • ดูแลตัวเองให้ห่างไกลจากโรคข้อเสื่อม

    ดูแลตัวเองให้ห่างไกลจากโรคข้อเสื่อม

    ดูแลตัวเองให้ห่างไกลจากโรคข้อเสื่อม ปัจจุบันมีคนไทยเป็นโรคข้อเสื่อมและกระดูกพรุนมากถึงกว่าเจ็ดล้านคนเลยทีเดียว พบมากในผู้ที่มีอายุสี่สิบปีขึ้นและผู้สูงอายุด้วย ซึ่งนับวันตัวเลขผู้ป่วยก็จะยิ่งมากขึ้น เพราะประเทศไทยกำลังจะเป็นสังคมผู้สูงอายุนั่นเอง โรคข้อเสื่อมนี้เป็นอาการที่เกิดจากการเสื่อมสภาพของกระดูกอ่อนที่ฉาบผิวกระดูกข้อต่อไว้ไม่ให้เสียดสีกันยามเคลื่อนไหว แต่เมื่อกระดูกอ่อนหรือพรุน กระดูกข้อต่อก็จะเสียดสีกันจนเป็นผลให้เกิดการอักเสบ ผู้ป่วยจะรู้สึกเจ็บปวดจนไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้ตามปกติ ทำให้กิจวัตรที่เคยทำเป็นประจำมีปัญหาได้ หากคุณไม่อยากเป็นโรคข้อเสื่อมก่อนวัย ควรดูแลร่างกายตัวเองดังต่อไปนี้นะคะ 1. ควบคุมน้ำหนักไว้ให้ได้มาตรฐาน อย่าปล่อยตัวให้อ้วน เพราะนี่คือสาเหตุใหญ่ของโรคข้อเสื่อมเลยก็ว่าได้ ยิ่งอ้วนมากเท่าไร ข้อต่อก็ยิ่งรับน้ำหนักมาขึ้นเท่านั้น หากในช่วงต้นชีวิตที่ยังไม่มีอาการโรคข้อเสื่อม ได้ลดน้ำหนักและรักษาน้ำหนักไว้ในมาตรฐานตลอดเวลา กับทั้งออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ก็จะเป็นการหลีกเลี่ยงโรคข้อเสื่อมได้ดีเลยทีเดียว 2. ไม่อยู่ในอิริยาบถที่ทำให้เกิดโรคข้อ เช่น การนั่งยอง ๆ นั่งกับพื้น ผุดลุกผุดนั่งบ่อย ๆ ขึ้นลงบันไดเป็นประจำ หรือทิ้งน้ำหนักลงขาข้างเดียว ทำให้ข้อต่อช่วงเข่า ขาลงไปมีปัญหาได้ แม้แต่ผู้ที่นั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ หากไม่หมั่นขยับท่าทางบ่อยๆ และนั่งก้มคอหรือก้มหลังทำงานมาก ๆ ก็อาจทำให้ข้อต่อบริเวณคอและกระดูกสันหลังส่วนเอวมีปัญหาได้เช่นกัน หากไม่อยากปวดข้ออย่าก้มคอนาน ๆ ให้นั่งพิงพนักเก้าอี้ไว้ และลุกขึ้นมายืดเส้นยืดสายบ่อย ๆ ด้วยนะคะ 3. ออกกำลังกายบริหารกล้ามเนื้อ เพื่อให้กล้ามเนื้อได้ช่วยพยุงกระดูกเอาไว้ ลดโรคข้อเสื่อมได้ และการออกกำลังกายเสริมสร้างกล้ามเนื้อนี้ควรปรึกษาเทรนเนอร์หรือผู้ชำนาญจะดีที่สุดค่ะ 4. การใช้อาหารและยา หากเป็นโรคข้อเสื่อในระยะแรก ๆ นั้น…

  • ฟิตแอนด์เฟิร์มด้วย Jumping Jack Workout  ฟิตหุ่นง่าย ไม่เปลืองพื้นที่

    ฟิตแอนด์เฟิร์มด้วย Jumping Jack Workout ฟิตหุ่นง่าย ไม่เปลืองพื้นที่

    ฟิตแอนด์เฟิร์มด้วย Jumping Jack Workout  ฟิตหุ่นง่าย ไม่เปลืองพื้นที่ การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอนั้นไม่จำเป็นต้องอาศัยพื้นที่หรือเครื่องจักรเสมอไป เพราะคาร์ดิโอที่เราจะนำมาแนะนำคุณวันนี้นั้น ง่าย และทำได้แม้แต่ในคอนโดของคุณเอง ช่วยบริหารกล้ามเนื้อน่อง ข้อเท้า ขา กล้ามเนื้อหน้าอก กล้ามเนื้อแกนกลางร่างกาย ไบเซปส์ และไตรเซปส์ให้แข็งแรงขึ้นอีกด้วย  นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับผุ้ที่ต้องการลดน้ำหนักอยากให้ร่างกายฟิตแอนด์เฟิร์ม  ไว้อวดหุ่นสาว ๆ ท่าแรก Jumping Jack – เหมือนการกระโดดตบของเรานั่นเอง  ซึ่งวิธีการก็เพียงยืนเท้าชิดมืออยู่ด้านข้างของลำตัว แล้วกระโดดพร้อมแยกขาออกจากกัน มือนั้นยกขึ้นตบกันเหนือศีรษะ แล้วกลับมาท่าเดิม ทำซ้ำ ๆ เช่นนี้ 20 ครั้งต่อ 1 เซต ท่าที่สอง Cross-Jacks  – เป็นการกระโดสลับขาและแขนนั่นเอง  เริ่มต้นโดยการยืนตัวตรงแล้วกระโดดให้ขาและแขนอยู่ในลักษณะไขว้กัน คล้ายรูปกากบาท ทำทั้งหมด 10 ครั้งต่อ 1 เซต ท่าที่สาม Squat Jacks –  เป็นท่าที่เริ่มต้นด้วยท่า Squat ก่อน เริ่มจากยืนตัวตรงแยกข้างทั้งสองข้างออกจากกัน …

  • 4 ท่าฟิตขาเรียว สุดเซ็กซี่

    4 ท่าฟิตขาเรียว สุดเซ็กซี่

    4 ท่าฟิตขาเรียว สุดเซ็กซี่ สาว ๆ คนไหนก็อยากอวดเรียวขาสวย ๆ  ใส่กระโปรงหรือกางเกงขาสั้นได้อย่างมั่นใจ  แต่หากต้นขาของคุณมีเซลลูไลท์สะสมอยู่  คงไม่มีใครอยากอวดให้อับอายเป็นแน่  แต่หากคุณต้องการกระชับกล้ามเนื้อต้นขาและน่องให้เรียวสวยเป๊ะ แล้วล่ะก็ การออกกำลังกายกล้ามเนื้อต้นขาช่วยคุณได้อย่างแน่อน   นอกจากช่วยลดเซลลูไลท์ทำให้ผิวสวยเรียบแล้วยัง ทำให้กล้ามเนื้อมีขนาดเล็กลง เรียวสวยได้รูปอย่างแน่นอน  ขอแค่มีวินัยในการบริหารกล้ามเนื้อเท่านั้นเอง  เพียงบริหารตามท่าต่อไปนี้ค่ะ ท่าที่ 1 บริหารต้นขาข้างขวา  เตรียมพร้อมในท่า ยืนตรง มือจับไว้ตรงเอว ก้าวเท้าขวาไปด้านหลัง  แล้วย่อหัวเข่าลงช้า ๆ ให้รู้สึกตึงบริเวณต้นขาขวามากที่สุดเท่าที่ทำได้ จากนั้นยืดตัวขึ้นกลับสู่ท่าเตรียมพร้อม  นับ 1 ครั้ง  ทำทั้งหมด 15 ครั้ง  ท่าที่ 2 บริหารต้นขาข้างซ้าย เตรียมพร้อมในท่า ยืนตรง มือจับไว้ตรงเอว ก้าวเท้าซ้ายไปด้านหลัง  แล้วย่อหัวเข่าลงช้า ๆ ให้รู้สึกตึงบริเวณต้นขาซ้ายมากที่สุดเท่าที่ทำได้ จากนั้นยืดตัวขึ้นกลับสู่ท่าเตรียมพร้อม  นับ 1 ครั้ง  ทำทั้งหมด 15 ครั้ง  ท่าที่ 3 บริหารต้นขาขวา-ด้านข้าง…

  • 6 ท่ากายบริหารลดหน้าท้อง…หุ่นเป๊ะแค่วันละไม่กี่นาที

    6 ท่ากายบริหารลดหน้าท้อง…หุ่นเป๊ะแค่วันละไม่กี่นาที

    6 ท่ากายบริหารลดหน้าท้อง..  หุ่นเป๊ะแค่วันละไม่กี่นาที สำหรับสาว ๆ ที่อยากได้ท่าบริหารหน้าท้องที่หย่อนคล้อยหรือพุงปลิ้นด้วยไขมันที่สะสมไว้ก่อนหน้านี้ มาลองบริหารหน้าท้องด้วยท่ากายบริหารสุดยอด 6 ท่านี้กันดีกว่า รับรองได้เป็นเจ้าของหุ่นเป๊ะเว่อในเวลาไม่กี่วันแน่นอนค่ะ 1. ท่าบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้องโดยรวม เตรียมพร้อมด้วยการนอนราบไปกับพื้น ประสานมือสองข้างไว้ที่ท้ายทอย ชันเข่าเล็กน้อย แล้วออกแรงเกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้อง ยกศีรษะขึ้นจากพื้น ทำมุมประมาณ 40 องศาก็พอ อย่าใช้ท่อนแขนหรือไหล่ออกแรง เพราะจะทำให้คุณปวดคอและปวดหลังได้ มือสองข้างต้องกางออกจากลำตัว อย่างองุ้ม 2. ท่าบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้องส่วนบน นอนราบกับพื้น ยกขาทั้งสองข้างขึ้นให้ตั้งฉากกับพื้น ไขว้ขาไว้ ประสานมือที่ท้ายทอย แล้วออกแรงกล้ามเนื้อหน้าท้องยกศีรษะและลำตัวขึ้น สองแขนแค่ประคองศีรษะไว้อย่าออกแรง 3. ท่าบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้องด้านข้าง นอนราบลงแล้วชันเข่าซ้ายขึ้น พับเท้าขวาขึ้นมาพักไว้ที่เข่าซ้าย ประสานมือไว้ที่ท้ายทอย แล้วออกแรงที่ท้องยกตัวขึ้นด้วยแรงยกจากลำตัวท่อนบน ใช้แขนและมือประคองศีรษะไว้ ท่านี้จะบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้องด้านซ้าย หากต้องการบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้องด้านขวา ให้สลับเข่าขวาชันขึ้นแล้วนำเท้าซ้ายมาพักไว้ที่เข่าขวา แล้วยกตัวขึ้นเช่นกัน 4. ท่าบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้องส่วนล่าง หรือท้องน้อย นอนราบกับพื้น แล้วพับเข่าทั้งสองข้าง ให้เท้าทั้งคู่มาประกอบกัน คล้ายการพนมมือ แล้วประสานมือทั้งสองข้างไว้รองศีรษะ ออกแรงจากหน้าท้องเพื่อยกศีรษะและลำตัวขึ้น ด้วยใช้มือทั้งสองข้างประคองศีรษะเอาไว้ 5. ท่าบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้องส่วนล่าง…

  • บริหารกล้ามเนื้อหลัง วันละ 150 วินาที  คลายอาการปวด

    บริหารกล้ามเนื้อหลัง วันละ 150 วินาที คลายอาการปวด

    บริหารกล้ามเนื้อหลัง วันละ 150 วินาที  คลายอาการปวด ผู้เขียนบันทึกนี้มีโรคประจำตัวคือโรคปวดหลังจากหมอนรองกระดูกสันหลังกดทับเส้นประสาทมาย 20 ปี เคยผ่าตัดมาแล้วสองหน ส่วนครั้งที่สามที่โรงพยาบาลเลิดสินหมดไม่ผ่าให้เพราะไม่รุนแรงมากถึงขั้นดำรงชีวิตไม่ได้ ไปรับคำปรึกษาและหาหมอมาหลายท่านตลอดเวลาที่ปวด แม้จะเป็นหมอที่มือชื่อเสียงโด่งดังแต่ก็ไม่สามารถหยุดอาการปวดได้ วันนี้พอมีอาการดีขึ้นแล้วจึงมาเขียนเรื่องราวเล่าให้ผู้ที่เป็นโรคนี้เช่นได้อ่านบ้าง ตอนแรกที่เป็นโรคนี้เกิดจากยกของไม่ถูกจึงเจ็บแปลบขึ้นที่กระดูกสันหลังบริเวณบั้นเอว แล้วก็ขยับขาสองข้างไม่ได้ พอคลายบ้างจึงเริ่มขับรถไปหาหมอ แต่ก็ต้องลากขาเบา ๆ หมอที่คลินิกบอกว่ากล้ามเนื้อักเสบจึงฉีดยาและจ่ายยาให้กลับบ้านแต่ก็ต้องหยุดงานไปสามวัน หลังจากนั้นก็จะมีอาการแปลบ ๆ ปีละสองสามครั้งอยู่หลายปี ต้องหยุดงานครั้งละสามสี่วัน เมื่อไปพบหมอทางออร์โธปีดิคของจังหวะก็เริ่มรักษาตั้งแต่ ยากิน ยาฉีด และ Ctscan จนไปทำ MRI ที่ รพ.บำรุงราษฎร์ ก็พบว่าหมอนรองกระดูกมันปลิ้นออกมาและดันไขสันหลังและเส้นประสาทจนชาไปถึงหลังเท้า หมอจึงตัดสินใจผ่าตัดเพื่อขูดหมอนรองกระดูกที่แตกออก โดยเปิดแผลหนึ่งคืบที่หน้าท้อง แล้วตัดเอากระดูเชิงกรานมาแว่นหนึ่งเท่ากับหมอนรองกระดูที่ขูดออกไปแล้วอัดเข้าช่องว่างระหว่างข้อกระดูกสันหลังแทน เมื่อเวลาผ่านไปก็จะเชื่อมข้อต่อบนและล่างเข้าด้วยกัน การผ่าตัดนี้ต้องหยุดงานไปร่วมเดือน หลังผ่าตัดก็ยังดูเหมือนไม่หายขาดแต่ก็ดีกว่าเก่ามาก หมอจึงขอแก้มือด้วยการผ่าตัดจากด้านหลัง เปิดแผลช่วยกระดูกสันหลังที่มีปัญหา แล้วยึดโยงข้อกระดูกสันหลังบนและล่างด้วยโลหะ เพื่อให้แข็งแรงไม่ให้เกิดเสียดสีหรือกดทับเส้นประสาทอีก หนนี้หยุดงานไปสามอาทิตย์ แต่ก็ยังคงชาหลังเท้าอยู่ดี เลยปลงละ เพราะนานปีจะเจ็บหนักสักหนหนึ่ง ก็เลยยอมรับเลยว่าร่างกายคงเป็นแบบนี้ไปอีกนาน ช่วงปี 2544 เริ่มปวดหลังมากจนถี่ขึ้นจึงพบแพทย์ประจำโรงพยาบาลเลิดสิน ที่เชี่ยวชาญเรื่องกระดูกมา เอกซเรย์ก็แล้ว CTScan ก็แล้ว…