Tag: นอนไม่หลับ

  • หลับง่ายสบายตัว ด้วยเคล็ดไม่ลับ 7 ข้อ

    หลับง่ายสบายตัว ด้วยเคล็ดไม่ลับ 7 ข้อ

    หลับง่ายสบายตัว ด้วยเคล็ดไม่ลับ 7 ข้อ อาการนอนไม่ค่อยหลับ หรือนอนหลับ ๆ ตื่น ๆ นั้น มันพาลทำให้หงุดหงิดและง่วงเหงาในเวลากลางวันจริง ๆ ลองมาใช้วิธีง่าย ๆ ต่อไปนี้ช่วยปรับปรุงการนอนของคุณหน่อยดีไหมคะ 1. ก่อนนอนไม่ควรทานอาหารหนักท้องมากเกินไป เน้นอาหารจำพวกผัก ผลไม้ ลดแป้งลง ทานเนื้อสัตว์และไขมันให้น้อยลงด้วย 2. ชาจากสมุนไพรบางชนิด ช่วยย่อยให้คุณสบายท้องได้ ลดอาการท้องอืดท้องเฟ้อ ช่วยขับลม แล้วยังทำให้หลับสบายขึ้นด้วยเพียงชงอุ่นๆ ก่อนนอนดื่มสักถ้วย มีให้เลือกหลายชนิดไม่ว่าจะเป็น ชาคาโมไมล์ ชาเปปเปอร์มิ้นท์ ชาตะไคร้ ชะเอมเทศ ฯลฯ 3. หากิจกรรมทำเพื่อผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ เช่น ฟังเพลงคลาสสิกเบาๆ เล่นโยคะ แช่น้ำอุ่น ๆ หรือนั่งสมาธิก็ได้ 4. ลองใช้น้ำมันหอมระเหยดู มีหลายกลิ่นที่ช่วยผ่อนคลายความเครียด หลับสบายได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็น กลิ่นลาเวนเดอร์ คาโมไมล์ วานิลลา ส้ม ลองหยดบนหมอนเล็กน้อย จะทำให้คุณหลับได้สนิทขึ้นมากค่ะ 5. สำหรับคนที่มีคู่รัก…

  • สวดมนต์ช่วยเยียวยารักษาโรคได้

    สวดมนต์ช่วยเยียวยารักษาโรคได้

    สวดมนต์ช่วยเยียวยารักษาโรคได้ การสวดมนต์นั้นเป็นเครื่องช่วยนำสู่สมาธิได้ ทำให้ผู้สวดจดจ่ออยู่กับบทสวด ใจไม่ฟุ้งไปที่อื่นจึงเกิดสมาธิได้ง่ายมาก เมื่อร่างกายเข้าสู่สมาธิจะหลั่งสารที่กระตุ้นระบบต่าง ๆ ในร่างกาย ทำให้จิตใจและร่างกายมีความผ่อนคลาย สร้างภูมิต้านทานได้ดีขึ้น เมื่อเจ็บป่วยก็จะดีขึ้นตามลำดับ ช่วยบำบัดอาการเจ็บป่วยและเยียวยารักษาโรคได้มากมายไม่ว่าจะเป็น โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ เบาหวาน ซึมเศร้า มะเร็ง ไมเกรน ออทิสติก โรคอ้วน นอนไม่หลับ พาร์กินสัน ฯลฯ ซึ่งสามารถทำได้หลายแบบได้แก่ 1. สวดมนต์ด้วยตนเอง อาจตื่นมาสวดตอนเช้าหรือก่อนเข้านอน แต่ไม่ควรสวดหลังกินอาหารทันที อาจสวดบทสั้น ๆ ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาทีก็จะทำให้ร่างกายหลั่งสารซีโรโทนินออกมา หากสวดบทยาวจะช่วยให้ผ่อนคลายและเกิดความศรัทธา ขณะสวดมนต์ให้หลับตาสวดให้เกิดเสียงดังให้ตัวเองได้ยิน 2. การสวดให้ผู้อื่นฟัง อาจเป็นการฟังพระสวด หรือเปิดเทปฟัง ยิ่งหากผู้สวดมีสมาธิ เสียงจะนุ่มและทุม ทำให้เกิดคลื่นที่ช่วยเยียวยาผู้ฟังได้ แต่หากผู้สวดไม่มีสมาธิหรือไม่มีความเมตตาจะไม่ช่วยเยียวยาอาการป่วยเลย 3. การสวดมนต์ให้แก่ผู้อื่น เป็นการส่งความปรารถนาดีไปสู่ผู้ป่วยจากคลื่นที่เป็นบวก เมื่อเราคิดจะส่งสัญญาณนี้ออกไปสู่ที่ไกล ๆในรูปของคลื่นไฟฟ้า ช่วยเยียวยารักษาผู้อื่นได้ บทสวดมนต์นั้นมีอยู่มากมาย สามารถเลือกบทที่ชอบสวดได้ตามต้องการ เลือกบทที่สวดแล้วสบายใจอย่างอิติปิโสก็ได้ แล้วสวดเท่าอายุ หรือหากต้องการให้ตัวเองหรือผู้อื่นหายเจ็บป่วย นิยมสวดโพชฌงค์เจ็ด ซึ่งมีความแตกต่างจากบทอื่น…

  • เทคนิคช่วยรักษาอาการนอนไม่หลับ

    เทคนิคช่วยรักษาอาการนอนไม่หลับ

    เทคนิคช่วยรักษาอาการนอนไม่หลับ หากท่านเคยมีอาการนอนไม่หลับ หรือตื่นมาแล้วไม่สดชื่นเหมือนนอนไม่เต็มอิ่ม กระสับกระส่าย กว่าจะหลับได้ก็นาน หรือตื่นกลางดึกบ่อย ๆ แล้วนอนหลับต่อได้ยาก ทั้งหมดนี้เข้าข่ายอาการนอนไม่หลับได้ทั้งนั้น อาจเกิดในระยะสั้นหรือไม่เกินสองอาทิตย์ ตลอดจนเกินเป็นเดือนได้ หากไม่รีบแก้ไขอาจรบกวนการใช้ชีวิต และสร้างปัญหาให้กับสุขภาพของคุณด้วย ไม่ว่าจะเป็นความเครียด โรคหัวใจ โรคซึมเศร้า และโรคอ้วน ซึ่งสาเหตุที่พบได้มากที่ทำให้นอนไม่หลับ ก็ได้แก่ การใช้โทรศัพท์มือถือก่อนนอน การดื่มเหล้า เบียร์ ไวน์ การใช้คอมพิวเตอร์มากเกินไป รวมไปถึงความเครียดในการทำงาน ล้วนเป็นสาเหตุสำหคัญที่ทำให้นอนไม่หลับได้ทั้งสิ้น เราจึงควรปรับปรุงการนอนหลับเพราะการนอนหลับได้ลึกอย่างมีคุณภาพจะมีผลต่อความเป็นอยู่และสุขภาพ ช่วยลดความดัน ลดความเครียด รักษาน้ำหนักตัวและปริมาณไขมันในร่างกายให้อยู่ในมาตรฐานได้ง่ายขึ้น การนอนหลับยังช่วยซ่อมแซมเซลล์ที่เสื่อมสภาพ ทำให้ร่างกายสดชื่นมีพลัง การจดจำและประสิทธิภาพของสมองดีขึ้น ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคซึมเศร้าได้อีกด้วยค่ะ วิธีหนึ่งก็คือการทานอาหารที่ทำให้หลับง่าย ได้แก่ ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีต ธัญพืชไม่ขัดสี เพราะมีวิตามินบีที่ช่วยในการนอนหลับ ในช่วงเย็นให้กินแต่พอดี อย่ากินอาหารที่มีแก๊สมาก พวก หัวหอม ถั่ว กะหล่ำปลี หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำหรือเครื่องดื่มที่ทำให้ต้องลุกขึ้นมาเข้าห้องน้ำกลางดึก อย่าใช้เตียงเพื่ออ่านหนังสือ นอนเล่น หรือดูทีวี ควรใช้เพื่อการนอนเท่านั้น อีกทั้งควรลุกจากเตียงทันทีที่นอนไม่หลับ เข้านอนและตื่นนอนให้เป็นเวลา ไม่ควรงีบหลับในเวลากลางวันด้วย การจัดห้องนอนและพื้นที่สำหรับนอนหลับก็เป็นสิ่งจำเป็นเช่นกัน…

  • ดื่มกาแฟ ดื่มได้ แต่พอดีไม่มีปัญหา

    ดื่มกาแฟ ดื่มได้ แต่พอดีไม่มีปัญหา

    ดื่มกาแฟ ดื่มได้ แต่พอดีไม่มีปัญหา เดี๋ยวนี้มีคนเสพติดการกินแฟเพิ่มมากขึ้นนะคะ เคยถามตัวเองกันบ้างไหมว่า ทำไมจึงดื่มกาแฟ ติดเพราะรสชาติ? ติดเพราะความหอม? ติดเพราะคาเฟอีน? หรือติดความหวานมันในกาแฟ ? ซึ่งไม่ว่าคุณจะดื่มกาแฟเพราะอะไรก็ตาม แต่ทุกอย่างก็มีสองด้านเสมอ แม้คุณจะได้ความตื่นตัวจากกาแฟก็ตาม แต่คาเฟอีนในกาแฟก็ทำให้ใจสั่น นอนไม่หลับ ได้เหมือนกัน แล้วเราจะดื่มกาแฟอย่างไรให้เกิดผลเสียน้อยที่สุดดี? มาลองดูวิธีเหล่านี้นะคะ 1. ดื่มเท่าที่เหมาะสมเท่านั้น หากพบว่าตนเองดื่มถึงขีดสุดที่จะทำให้เกิดอาการผิดปกติแล้ว ก็อย่าฝืนดื่มต่อ ให้หยุดดื่ม และทุกวันก็ควรดื่มอย่าให้ถึงปริมาณที่อาจเป็นผลร้ายต่อร่างกาย 2. หากหลับยากก็ไม่ควรดื่มกาแฟในช่วงบ่าย หรือช่วงค่ำ 3. ไม่ควรดื่มกาแฟตอนท้องว่าง เพราะเร่งการหลั่งกรดในกระเพาะอาหารได้ 4. ไม่ควรดื่มกาแฟเพื่อให้ร่างกายฝืนทำงานหนัก หรือดื่มเพื่ออดนอน เพราะจะทำให้ประสิทธิภาพการรับรู้ลดลง ประสิทธิภาพการทำงานก็ไม่ดีเช่นเดิม สมองและร่างกายต้องการพักผ่อน จึงควรนอนหลับพักผ่อนจะดีกว่า 5. หากดื่มกาแฟประจำ ควรทานแคลเซียมเสริมด้วย ทั้ง นม โยเกิร์ต ปลาเล็กปลาน้อย เพื่อทดแทนแคลเซียมที่สูญเสียไปกับปัสสาวะ ลดความเสี่ยงกับการเป็นโรคกระดูกพรุน 6. กินผัก ผลไม้เพื่อกำจัดอนุมูลอิสระที่มีกาแฟให้ออกจากร่างกาย 7. ดื่มน้ำให้มากขึ้นเพื่อชดเชยการสูญเสียน้ำ จากฤทธิ์ของกาแฟที่ช่วยในการขับปัสสาวะ ผู้ที่มีปัญหาไขมัน หรืออ้วนน้ำหนักเกิน…

  • กินมื้อดึก…ร่างกายเสื่อมโทรมรวดเร็ว

    กินมื้อดึก…ร่างกายเสื่อมโทรมรวดเร็ว

    กินมื้อดึก…ร่างกายเสื่อมโทรมรวดเร็ว คนที่ชอบทานอาหารมื้อดึก ๆ นั้น ถ้าสังเกตสุขภาพร่างกายของเค้าจะพบว่าเป็นคนที่ไม่แข็งแรง และมีความไม่ปกติกับร่างกายหลายส่วน ทั้งการตื่นสาย ท้องอืด ระบบการย่อยรวนเร เป็นโรคกรดไหลย้อน หรือโรคกระเพาะอาหาร ตลอดจนคนที่กินมื้อดึกยังทำให้ร่างกายทำงานหนักกว่าปกติ แทนที่ร่างกายจะได้พักผ่อนในยามค่ำคืนกลับต้องมาย่อยอาหารที่มักจะเป็นมื้อใหญ่เสียด้วย ดังนั้นร่างกายก็จะเริ่มเสื่อมสภาพด้วยการเริ่มต้นเป็นโรคอ้วน เบาหวาน โรคความดัน นอนไม่หลับ ฯลฯ จนสุขภาพทรุดโทรมลงอย่างรวดเร็ว เรียกได้ว่าร่างกายแก่กว่าอายุจริงไปมากเลยนั่นล่ะค่ะ การจะทราบได้ว่าคุณเป็นคนที่กินมื้อดึกหรือเปล่า ก็ให้ลองสังเกตที่มื้อเช้านั่นล่ะค่ะว่า รู้สึกจุกตื้ออยู่ หรือไม่อยากอาหารเช้าหรือเปล่า นั่นเป็นเพราะยังอิ่มจากการที่กินไว้ตั้งแต่เมื่อคืน กว่าจะได้กินก็มื้อเที่ยงไปแล้ว หรือไปมื้อบ่ายเลย ส่วนมื้อเย็นก็มักจะเป็นหลังสองทุ่มขึ้นไปและมักจะกินมื้อใหญ่ด้วย คนที่กินมื้อดึกมักจะนอนไม่หลับในเวลากลางคืน (เพราะร่างกายกำลังย่อยอาหาร) แต่มาง่วงเหงาในเวลากลางวัน อีกอย่างที่เห็นได้ชัดก็คือคนกินดึกจะเจ้าเนื้อจนอวบอ้วนกว่าคนอื่น ๆ ด้วย หากไม่อยากเจ็บป่วยด้วยโรคภัยนานาชนิดและโรคอ้วนด้วยแล้ว ควรปรับพฤติกรรมการกินเสียใหม่ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ ด้วยการทานข้าวเช้าทุกวัน และทานทุกมื้อให้เป็นเวลาด้วย มื้อเย็นควรทานก่อนนอนประมาณ 3 ชั่วโมง หรือก่อนหกโมงเย็น เพื่อให้ร่างกายได้ย่อยอาหารได้อย่างเต็มที่ เข้าใจว่าช่วงแรกนั้นทำได้ยาก แต่ก็ค่อย ๆ ต้องปรับไปค่ะ ระหว่างนี้มื้อเย็นสามารถทานอาหารที่สร้างเมลาโทนินได้ เช่น แกงขี้เหล็กหรือข้าวโพด เพื่อให้หลับได้ง่ายจะได้ไม่ต้องหิวตอนดึก ๆ ค่ะ

  • ใช้ชีวิตให้ดี ห่างไกลจากโรคไต

    ใช้ชีวิตให้ดี ห่างไกลจากโรคไต

    ใช้ชีวิตให้ดี ห่างไกลจากโรคไต  ไตของคนเรานั้น เป็นอวัยวะที่มีขนาดเท่ากับกำปั้นของเจ้าของ มีรูปร่างคล้ายถั่วแดง อยู่บริเวณด้านหลังของลำตัวในระดับของกระดูกซี่โครงส่วนล่าง ทำหน้าที่ควบคุมปริมาณน้ำและเกลือแร่ ควบคุมการทำงานของฮอร์โมนในร่างกาย กรองของเสียในร่างกาย หากไตบกพร่องก็อาจทำให้คุณเป็นโรคไตได้ด้วย โรคไตนั้นมีหลายชนิด แต่ที่อันตรายที่สุดเห็นจะเป็นไตวายเรื้อรัง มีอาการที่เห็นได้ก็คือ นอนไม่หลับ เบื่ออาหาร คลื่นไส้ ซึม วิงเวียน ปวดหัว การรับรสเปลี่ยนไป มีอาการชาตามปลายมือและปลายเท้า รวมทั้งน้ำหนักตัวลดลงได้ และที่เป็นสัญญาณเตือนของโรคไตที่สำคัญคือ พฤติกรรมการถ่ายปัสสาวะเปลี่ยนไปทั้งในเรื่องความถี่ ปริมาณของน้ำปัสสาวะ สีของปัสสาวะ เช่น เข้าห้องน้ำบ่อยขึ้นเวลากลางคืน ปริมาณลดน้อยลง ปัสสาวะเป็นสีน้ำล้างเนื้อ หรือมีเลือดปนออกมา รวมทังปวดหลังปวดเอว ความดันโลหิตสูง หน้าบวม เท้าบวมและท้องบวม กลุ่มเสี่ยงในการเป็นโรคไตวายนั้นจะมีอยู่สองกลุ่มก็คือ กลุ่มที่เป็นโรคที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคไตอยู่แล้ว เช่น ความดันสูง หรือเบาหวาน กับอีกกลุ่มคือเป็นโรคไตซ่อนอยู่ และไม่เคยแสดงอาการอะไรออกมาเลย ไม่เคยป่วยเจ้าโรงพยาบาลแต่ความจริงมีโรคไตซ่อนอยู่ หากไม่ตรวจก็จะไม่รู้ว่าเป็นโรคไต โรคไตนี้สามารถป้องกันและหลีกเลี่ยงได้โดย – อย่าทรมานไตมากเกินไป ด้วยการกินยาที่ซื้อมาเอง หรือกินยาผิดขนาด ผิดชนิด และปริมาณ รวมทั้งกินยาซ้ำซ้อนไปหมด หากซื้อยามากินเองไม่ปรึกษาแพทย์อาจทำให้เกิดผลเสียต่อไต ทำให้ไตอักเสบและเป็นโรคไตได้ –…

  • สูตรไม่ลับ! ล้างไขมันลำไส้ ง่ายๆที่บ้าน

    สูตรไม่ลับ! ล้างไขมันลำไส้ ง่ายๆที่บ้าน

    สูตรไม่ลับ! ล้างไขมันลำไส้ ง่ายๆที่บ้าน หนุ่มๆ สาวๆ ท่านไหน ที่สะสมไขมันไว้ในร่างกายมากๆ ขอบอกเลยนะ ว่าไม่ใช่ผลดีเลย เพราะไขมันที่อยู่ในร่างกายของเรา ถ้าหากมีปริมาณมากเกินไป จะส่งผลให้โทษกับร่างกาย ซึ่งโทษที่เกิดจากการที่ไขมันสะสม ที่เกาะผนังลำไส้ กระเพาะอาการ จะทำให้เกิดโรคต่างๆได้ เช่น – ถุงน้ำดี โรคนี้จะมีอาการนอนไม่หลับ เป็นนิ่วในไต สายตาเสื่อมลง และจะปวดเมื่อยตามร่างกาย – เลือดเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ จะทำให้มึนศรีษะ – ไตเสื่อม ทำให้ความจำลดลง และจะกลายเป็นคนขี้หนาว – ม้ามชื้น ทำมห้อาหารที่เราทานเข้าไป แปรสภาพเป็นไขมัน และส่งผลให้เป็นคนอ้วนง่าย – ม้ามโต ทำให้มีอาการเหนื่อยง่าย เนื่องจากม้ามไปเบียดปอด – หากไขมันเกาะลำไส้เล็กมากๆ จะส่งผลให้ลำไส้เล็ก ไม่สามารถดูดซึมวิตามินซีได้ และจะทำให้เป็นหวัดในตอนเช้า หรือเป็นหวัดเรื้อรัง อาจจะมีอาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ เกิดโรคภูมิแพ้ และมักจะมีอาการจามในตอนเช้า – ถ้ามีไขมันในตับสูง จะส่งผลให้การสร้างเม็ดเลือดไม่ปกติ หากดื่มตามสูตรนี้ จะช่วยลดหน้าท้อง และยังส่งผลให้อาการทั้ง 7…

  • นอนหลับยาก.ทานผักกาดหอมกันดีกว่า!

    นอนหลับยาก.ทานผักกาดหอมกันดีกว่า!

    นอนหลับยาก.ทานผักกาดหอมกันดีกว่า! อาการนอนไม่หลับเนี่ย.. ใครไม่เคยเป็นไม่เข้าใจเลยนะคะ ว่าส่งผลต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตอย่างไรบ้าง  ไม่ว่าจะเป็นสมาธิต่ำ อารมณ์แปรปรวน โมโหง่าย ภูมิคุ้มกันก็ต่ำลง เป็นหวัด ป่วยง่าย ๆ แล้วยังอ้วนได้ง่ายอีกด้วยค่ะ  แต่อย่าเพิ่งร้อนใจไป  มีผักอยู่ชนิดหนึ่งที่หาซื้อก็สะดวกแล้วยังทานง่ายอีกด้วย  มีคุณสมบัติช่วยให้คุณนอนหลับได้ง่ายขึ้น  นั่นก็คือ “ผักกาดหอม” นั่นเองค่ะ นั่นเป็นเพราะมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ค้นพบว่า  หากได้ทานผักกาดหอมสดก่อนนอน หรือทานเป็นมื้อเย็น ร่างกายจะได้รับสารรสขมที่มีชื่อว่า “แลคทูคาเรียม”  ทำให้รู้สึกง่วงนอน จิตใจผ่อนคลาย และสงบลง  ทำให้เรานอนหลับได้ง่ายขึ้น  ลองนำไปทำเป็นประจำกันดูนะคะ  จะได้ไม่ต้องหงุดหงิดหรือพึ่งยานอนหลับกันอีกต่อไปค่ะ  

  • อาหารต้องห้ามของ 10 โรค

    อาหารต้องห้ามของ 10 โรค

    อาหารต้องห้ามของ 10 โรค อาหารต้องห้ามหรือของแสลง ก็คืออาหารท่านเข้าไปแล้วทำให้อาการกำเริบหรือโรคที่เป็นอยู่หายช้าลง มีพื้นฐานมาจากภูมิปัญญาทางการแพทย์พื้นบ้าน รู้ไว้จะดีกว่านะคะ ..หากเป็นโรคกระเพาะ หลีกเลี่ยงอาหารจำพวกกาแฟ ชาแก่ ๆ ของทอด อาหารรสเผ็ด หรือมีไขมันสูง อาจทำให้โรคหายยากขึ้น ควรทานอาหารให้ตรงเวลาและเลือกอาหารที่ย่อยง่ายดีกว่า .. หากเป็นไข้ หรือเป็นไข้หวัด เลี่ยงอาหารที่มีความเย็น ของทอด ของมัน ที่ย่อยยาก จะยิ่งทำให้ตัวร้อนขึ้น .. หากเป็นโรคความดันโลหิตสูง หลีกเลี่ยงอาหารที่ไขมัน และคอเลสเตอรอลสูง เช่น โกโก้ ไข่ปลา ไขกระดูก หมูสามชั้น สุรา แอลกอฮอล์ต่าง ๆ รวมทั้งหลีกเลี่ยงอาหารรสเผ็ดจัดและผลไม้ที่มีความหวานอย่างขนุน ทุเรียน ลำไย ด้วย .. หากเป็นโรคตับหรือถุงน้ำดี เลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอลด์ อาหารติดมัน เนื้อสัตว์ติดมัน เครื่องใน ของทอด ของหวานจั เพราะอาจทำให้ประสิทธิภาพของการย่อยอาหารลดลง เพิ่มภาระให้กับตับและถุงน้ำดี ..หากเป็นโรคหัวใจและโรคไต เลี่ยงอาหารที่มีความเค็ม เพราะจะทำให้การไหลเวียนของเลือดช้าลง หัวใจทำงานหนักขึ้น ไตเองก็ต้องขับเกลือมากขึ้น…

  • เคล็ดลับการกินบุฟเฟ่ต์ให้ดีต่อสุขภาพ

    เคล็ดลับการกินบุฟเฟ่ต์ให้ดีต่อสุขภาพ

    เคล็ดลับการกินบุฟเฟ่ต์ให้ดีต่อสุขภาพ สำหรับคนที่มักชอบทานบุฟเฟต์หรือไปกินเลี้ยงบุฟเฟ่ต์กันบ่อย ๆ วันนี้ลองมาดูเคล็ดลับการทานบุฟเฟ่ต์แบบที่ไม่ทำให้เสียสุขภาพกันนะคะ – เลือกทานผักและทานปลาให้มากหน่อย เพราะย่อยง่ายไม่ทำให้ท้องอืดหรือจุกเสียดท้องเหมือนเนื้อหมู เนื้อวัว แล้วยังเป็นมีไขมันน้อยกว่าอีกด้วย – เน้นทานบุฟเฟ่ต์แบบต้ม หรือลวก จะดีกว่าแบบปิ้ง ย่าง หรือทอด จะได้ไม่เสี่ยงต่อสารก่อมะเร็ง – ปกติทานอาหารบุฟเฟ่ต์ก็ทานเป็นปริมาณมากอยู่แล้ว หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์หรือน้ำอัดลมไปด้วยจะดีกว่า เดี๋ยวจะอ้วนมากเกินไป ทั้งยังทำให้ย่อยยาก แล้วก็จะอ้วนขึ้นได้ง่าย ๆ ดื่มน้ำชาหรือน้ำเปล่าจะดีกว่าเยอะค่ะ – เวลาตักของสด หรือเนื้อสัตว์ต่าง ๆ จากไลน์บุฟเฟ่ต์ สังเกตสภาพของอาหาร ทั้งรูปลักษณ์ สีและกลิ่นด้วย ว่ามีความแตกต่างไปจากปกติหรือเปล่า เพราะเมืองไทยอากาศร้อน อาหารจะบูดได้ง่าย – หากทานเป็นบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่าง อย่าเกรงใจเจ้าของร้านหรือน้อง ๆ เด็กเสิร์ฟเลย หากกระทะหรือเตาย่างเริ่มไหม้เกรียมแล้ว ก็เปลี่ยนอันใหม่ดีกว่า ห่างไกลมะเร็งแล้วยังทำให้อาหารสุกเร็วขึ้นอีกด้วยนะ – ค่อย ๆ ทานไปเรื่อย ๆ อาจจะลุกเดินไปย่อยบ้าง จะได้ไม่ทานเยอะเกินไปจนท้องอืด อาหารไม่ย่อยได้ หรือจะทานไปคุยเฮฮาสังสรรค์ไปด้วยก็น่าจะดีกว่า – หลังจากการทานบุฟเฟต์แล้ว อย่าเพิ่งกลับบ้านนอน…