Tag: นม
-
นม.. ดื่มแล้วท้องเสีย จะแก้ไขอย่างไรดี
นม.. ดื่มแล้วท้องเสีย จะแก้ไขอย่างไรดี น้ำนมของวัว แพะ แกะ หรือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดใดก็ตาม มักเป็นอาหารที่มีประโยชน์มาก มีวิตามิน เกลือแร่ ไขมัน คาร์โบไฮเดรต ที่มีสัดส่วนที่พอดีพอเหมาะสำหรับการเลี้ยงลูกน้อยให้เจริญเติบโตในช่วงที่ยังหาอาหารกินเองไม่ได้ และน้ำนมจากสัตว์หลายชนิดนั้น มนุษยเองก็สามารถนำเอามาดื่มได้ เพราะเป็นการเติมสารอาหารต่าง ๆ ให้กับร่างกาย ดังเช่น น้ำนมวัวเป็นต้น แต่หลายคนกลับดื่มนมวัวแล้วมีปัญหาท้องเสีย ทำให้เลิกดื่มไปเลย จึงเสียโอกาสในการได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์โดยเฉพาะแคลเซียมในนม ซึ่งอาหารอื่นก็สามารถทดแทนได้เช่นกัน แต่ต้องทานในปริมาณมาก แต่ในขณะที่ดื่มนมวันละ 2-3 แก้วต่อวันก็ได้รับเพียงพอแล้ว ซึ่งง่ายและสะดวกกว่ากันมาก แล้วจะทำอย่างไรดีสำหรับคนที่มีอาการท้องเสียเพราะนม การที่ดื่มนมแล้วมีอาการท้องเสีย ท้องเฟ้อ จุกเสียด แน่นท้อง ตดบ่อย ลำไส้ปั่นป่วนนั้น เพราะในน้ำนมสัตว์จะมีน้ำตาลแลคโทสเป็นส่วนประกอบ มนุษย์ทุกคนจะมีน้ำย่อยแลคโทสเหล่านั้นตั้งแต่เกิดจนถึงอายุ 5 ขวบแล้วก็จะค่อย ๆ หมดไป จนไม่สามารถย่อยน้ำตาลในนมหรือน้ำตาลแลคโทสได้ ยิ่งหากไม่ได้ดื่มนมวัวตั้งแต่เด็กก็ยิ่งมีปฏิกิริยามากขึ้นเมื่อเติบโตไป จึงทำให้เกิดอาการดังกล่าวได้เมื่อดื่มนม การแก้ปัญหาผู้ที่มีอาการท้องเสียเพราะนมนี้ ก็คือให้พยายามดื่มวันละน้อย ๆ ก่อน แล้วค่อยเพิ่มขึ้นทีละนิดไปเรื่อย ๆ ควรดื่มหลังอาหารและดื่มร่วมกับอาหารชนิดอื่น ไม่ควรดื่มตอนท้องว่าง เพราะจะทำให้เกิดอาการไม่สบายท้องได้ แต่หากยังมีอาการอยู่…
-
แพทย์ติง ดื่มนมมากเกิน อาจย่อยสลายมวลกระดูกได้
แพทย์ติง ดื่มนมมากเกิน อาจย่อยสลายมวลกระดูกได้ การดื่มนมนั้นจำเป็นต้องดื่มแต่พอดีเพื่อให้ร่างกายได้รับแคลเซียมแต่พอที่ร่างกายที่ต้องการ เพราะแคลเซียมที่อยู่ในนมนั้นมาพร้อมกับฟอสฟอรัส ซึ่งมีคุณสมบัติในการย่อยสลายมวลกระดูกได้ จึงทำให้เกิดภาวะโรคกระดูกพรุน ทำให้กระดูกหักและเปราะได้ง่าย ซึ่งโรคกระดูกพรุนนี้ มักคุกคามผู้สูงวัยอย่างเงียบ ๆ แต่มีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้นในผู้สูงวัยชาวไทย อีกทั้งการรับรู้ข่าวสารที่ไม่สมบูรณ์มากพอ ทั้งนี้การดื่มนมนั้นสามารถป้องกันภาวะกระดูกพรุนได้ แคลเซียมในนั้นนั้นมีคุณสมบัติในการยับยั้งการผุกร่อนของกระดูก และการสลายตัวของมวลกระดูก แต่ต้องดื่มในปริมาณที่เหมาะสม โดยแคลเซียมที่ควรได้รับมาจากนมน้ำไม่ควรเกิน 500 ซีซีต่อวัน จะทำให้ได้รับแคลเซียมประมาณ 500 มิลลิกรัมต่อวัน แต่ในน้ำนมนั้นจะประกอบไปด้วยแคลเซียมและฟอสฟอรัสในอัตรา 3 ต่อ 2 ส่วน หากเราดื่มนมมากกว่าครึ่งลิตรต่อวัน ก็อาจทำให้ร่างกายได้รับฟอสฟอรัสมากเกินความต้องการของร่างกาย ซึ่งจะไปกระตุ้นการทำงานของต่อมพาราไทรอยด์ให้หลั่งฮอร์โมนออกมาจนสลายกระดูกจนเป็นเหตุให้กระดูกพรุน กระดูกเปราะ เพราะเนื้อหรือมวลกระดูกบางลงนั่นเอง ในแต่ละช่วงอายุนั้นร่างกายมีความต้องการแคลเซียมที่แตกต่างกันไป – วัยเด็ก ควรได้รับแคลเซียม 600 มิลลิกรัมต่อวัน – วัยรุ่น ควรได้รับแคลเซียม 1,000-1,500 มิลลิกรัมต่อวัน – ผู้ใหญ่ ควรได้รับแคลเซียม 800-1,000 มิลลิกรัมต่อวัน – หญิงตั้งครรภ์ ควรได้รับแคลเซียม 1,500 มิลลิกรัมต่อวัน – ผู้สูงอายุหรือวัยทอง…
-
เคล็ดลับเลือกเครื่องดื่ม ดื่มอะไรเวลาไหน..ช่วยแก้ไขปัญหาสุขภาพ
เคล็ดลับเลือกเครื่องดื่ม ดื่มอะไรเวลาไหน..ช่วยแก้ไขปัญหาสุขภาพ นอกจากน้ำสะอาดแล้ว เครื่องดื่มที่เหมาะกับร่างกายยังมีเครื่องดื่มอื่น ๆ อีกมาก แล้วเราจะทราบได้อย่างไรว่าเครื่องดื่มแต่ละชนิดนั้นควรดื่มเวลาไหนดี ร่างกายจึงจะได้รับประโยชน์สูงสุด มาดูกันทีรายการเลยค่ะว่าตอนไหนควรดื่มเครื่องดื่มอะไรกันบ้าง – อยากสร้างซิกแพคให้ดื่มน้ำนม เพราะในน้ำนมมีเวย์โปรตีนและเคซีนซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่สำคัญต่อการสร้างกล้ามเนื้อในร่างกาย ดังนั้นใครอยากมีซิกแพคต้องดื่มนมค่ะ – อยากลดน้ำหนัก ชาเขียวไงทำได้ชัวร์ เพราะมีประสิทธิภาพในการกระตุ้นการเผาผลาญ หากอยากลดน้ำหนักอย่างได้ผลถาวรควรดื่มชาเขียวอุ่น ๆ ไม่เติมน้ำตาลวันละ 4 ถ้วยเป็นประจำ – อยากสดชื่นกระฉับกระเฉง ดื่มนมช็อกโกแลตเลย หรือจะดื่มน้ำเย็น ๆ ก็สดชื่นได้เหมือนกัน แต่ในนมช็อกโกแลตจะมีคุณค่าทางอาหารคือ โปรตีน โพแทสเซียม และโซเดียมจึงช่วยเติมพลังให้กับร่างกายได้มากเลยค่ะ – อยากคืนพลังหลังการวิ่ง ต้องดื่มน้ำมะพร้าว นอกจากน้ำสะอาดเย็น ๆ ที่จะคืนความสดใสให้กับร่างกายแล้ว น้ำมะพร้าว ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายกลับมาสดชื่น ทำให้เกิดความอึดและมีความทนทานมากขึ้น ให้พลังงานกับร่างกายได้มากพอ ๆ กับเครื่องดื่มชูกำลังทั้งหลาย แต่ให้แคลอรี่น้อยกว่าเพราะมีความหวานน้อยกว่า คุณสามารถดื่มน้ำมะพร้าวก่อนวิ่งซัก 1-2 ชั่วโมงก็จะช่วยเพิ่มความอึดในการวิ่งให้กับคุณได้อย่างเหลือเชื่อค่ะ – อยากหายมวนท้อง น้ำขิงช่วยได้ค่ะ ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการย่อย เช่น ท้องอืดเฟ้อ หรืออาหารไม่ค่อยย่อย…
-
รู้จักเลี่ยง! สิ่งใดบ้างทำให้เซลล์มะเร็งเติบโตได้ดี
รู้จักเลี่ยง! สิ่งใดบ้างทำให้เซลล์มะเร็งเติบโตได้ดี “โรคมะเร็ง” ทุกคนต่างก็รู้กันอยู่แล้วแน่ๆ ว่าเป็นเรื่องที่น่ากลัว แต่ก็ไม่ใช่ว่า โรคมะเร็ง จะเป็นสิ่งที่ไกลตัวเรา ถ้าเรารู้จักดูแลสุขภาพ ใช้ชีวิตประจำวันในทุกวันแบบไม่เสี่ยงจนเกินไป รับประทานอาหารอย่างถูกสุขลักษณะ หรือทำตัวให้ไกลจากโรคมะเร็ง ลองมาดูกันว่า สิ่งที่เป็นตัวกระตุ้นของเซลล์มะเร็งนั้นมีอะไรบ้าง เพื่อให้ได้รู้และหลีกเลี่ยงสิ่งต่างๆเหล่านี้กันได้ค่ะ – น้ำตาลทรายขาว นั้นเกิดจากการฟอกสีให้ดูน่ารับประทาน ลองเปลี่ยนมาเป็นความหวานที่เกิดจากธรรมชาติดู อย่างเช่น น้ำผึ้งแท้ แต่ก็ต้องใช้ในปริมาณที่เหมาะสม เพราะความหวานเป็นสารที่จำเป็นต่อมะเร็ง ควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม หรือรับประทานในปริมาณน้อย – นม ควรเปลี่ยนจากนมที่ดื่มทั่วไป มาเป็นนมถั่วเหลือง หรือน้ำเต้าหู้ที่ต้มสดๆ หรือถ้าอยากเพิ่มความหวานก็ควรเติมน้ำตาลในปริมาณที่น้อยก็พอค่ะ – เนื้อสัตว์ เนื่องจากเซลล์มะเร็งนี้ จะเติบโตเร็วในสภาพที่เป็นกรด และเนื้อสัตว์นี้เองที่ทำให้เกิดสภาพเป็นกรด ดังนั้นควรรับประทานประเภทปลา จะส่งผลดีกว่าอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ ที่มีแบคทีเรียและเป็นอัตรายสำหรับคนที่เป็นโรคมะเร็ง และเนื้อสัตว์นี้เป็นอาหารที่ย่อยยาก ร่างกายจึงต้องการเอนไซม์ไปใช้ในการย่อยจำนวนมาก และถ้าหากมีการย่อยเนื้อสัตว์ไม่หมด อาหารก็จะไปตกค้างที่ลำไส้ และจะนำไปสูสารพิษตกค้าง ส่งผลให้เกิดโรคมะเร็งได้ในอนาคต – ผักผลไม้สด และอาหารจำพวกธัญพืช ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายดูดซึมได้ง่าย ร่างกายสามารถนำไปสร้างเป็นเซลล์ดี ควรรับประทานผักสดหรือดื่มน้ำผัก-ผลไม้สด อย่างน้อย 2-3 ครั้ง ต่อวัน…