Tag: ติดเชื้อแบคทีเรีย
-
วิธีป้องกันโรคตาแดงในระยะระบาด
วิธีป้องกันโรคตาแดงในระยะระบาด โรคที่พบได้บ่อยในหน้าฝนและช่วงที่มีน้ำท่วมมากนั้น โรคหนึ่งที่ระบาดมากในระยะนี้ก็ได้แก่ โรคตาแดงนั่นเอง โรคตาแดงเป็นโรคติดต่อได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ มีอาการไม่รุนแรงมากนัก มักเกิดจากเชื้อไวรัส แต่หากไม่ได้รับการรักษาอาจติดเชื้อแบคทีเรียจนเกิดภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ตามมาได้อีก โดยการติดต่อของโรคตาแดงนั้นเกิดจาก การสัมผัสโดยตรงกับน้ำตา ขี้ตา ขี้มูกของผู้ป่วย หรือการใช้สิ่งของร่วมกับผู้ป่วย รวมไปถึงแมลงวันแมลงหวี่ตอมตาด้วย ระยะฟักเชื้อนั้นจะมีเวลาแค่ 1-2 วันเท่านั้นแล้วจะอาการระคายเคืองตา ปวดตา น้ำตาไหล กลัวแสง มีขี้ตามาก หนังตาบวม เยื่อบุตาขาวอักเสบแดง โดยมักจะเริ่มที่ตาข้างใดข้างหนึ่งก่อนแล้วลุกลามไปอีกข้างที่เหลือ การป้องกันโรคตาแดงในระยะระบาดจึงมีคำแนะนำดังต่อไปนี้ค่ะ – หากมีน้ำสกปรกหรือขี้ฝุ่นเข้าตา ให้รีบล้างตาด้วยน้ำสะอาดทันที – หากเริ่มมีอาการดังกล่าวมาข้างต้นให้รีบไปพบแพทย์เพื่อขอรับยามาป้ายหรือหยอดตา เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ติดต่อกันให้หมดตามคำสั่งแพทย์ หากมีไข้ให้ทานยาลดไข้ได้ตามอาการ – หมั่นล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำและสบู่ ไม่ว่าจะเป็นการหลังจากออกจากห้องน้ำ หลังหยิบจับสิ่งของต่าง ๆ ก่อนทานอาหารด้วย – อย่าขยี้ตา อย่าปล่อยให้แมลงมาตอมตาและไม่ควรใช้สายตามากด้วย – ผู้ที่ป่วยเป็นโรคตาแดงควรนอนแยกจากคนอื่น ๆ และไม่ใช่สิ่งของร่วมกัน ปลอกหมอน ผ้าปูที่นอน ผ้าเช็ดตัว เสื้อผ้า ควรซักให้สะอาดอีกครั้งหลังจากหายป่วยแล้ว –…
-
อาการอักเสบของหูชั้นกลางในเด็ก (Ear Infection)
อาการอักเสบของหูชั้นกลางในเด็ก (Ear Infection) อาการหูอักเสบในเด็กนั้นมักจะเกิดกับเด็กเล็กหรือทารกแบะเบาะเป็นส่วนใหญ่ และสาเหตุของอาการนี้ก็ไม่ใช่น้ำเข้าหูด้วย แต่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่ลุกลามจากคอและจมูกไปสู่หู จึงทำให้เกิดเป็นไข้หวัด ต่อมทอนซิลอักเสบและบางรายอาจเป็นภาวะแทรกซ้อนจากโรคหัด ไข้หวัดใหญ่ ไอกรน หรืออาการอักเสบเพราะภูมิแพ้ได้ด้วย ซึ่งการจะดูว่าลูกของเรามีอาการหูชั้นกลางอักเสบหรือไม่ก็คือ ให้ดูว่าลูกร้องไห้งอแง มีอาการปวดหู หรือเอามือปัดหูบ่อย ๆ หรือเปล่า เด็กบางคนอาจมีอาการอาเจียนร่วมด้วย หากปล่อยไว้อาจจะทำให้เป็นหนองอักเสบ มีกลิ่นเหม็น ทำให้กระดูกสามชิ้นภายในถูกทำลาย หนองจะทะลุแก้วหูออกมาจนกลายเป็นโรคหูน้ำหนวกได้ ส่วนวิธีการป้องกันคือเมื่อเด็ก ๆ เป็นหวัดควรให้ความอบอุ่น หากมีไข้ควรให้ทานยาแก้ปวดลดไข้ และยาแก้หวัดคัดจมูก ซึ่งจะช่วยให้ท่อระหว่างหูและคอระบายความดันได้ดีขึ้น แต่หากไม่มั่นใจพาลูกไปพบแพทย์จะดีที่สุดค่ะ
-
โรคท้องเสีย อาการธรรมดาที่อาจไม่ธรรมดา
โรคท้องเสีย อาการธรรมดาที่อาจไม่ธรรมดา อย่าเพิ่งแปลกใจที่หัวข้อเรื่องนี้อาจขัดความคิดของใครหลาย ๆ คน เพราะเข้าใจมาตลอดว่าอาการท้องเสียนั้นเป็นเรื่องธรรมดา แต่บทความในวันนี้จะนำคุณผู้อ่านได้ไปเห็นว่าความจริงแล้วอาการท้องเสียนั้น อาจนำไปสู่อาการที่คาดไม่ถึงและเสียชีวิตได้เช่นกัน หากชะล่าใจ เรามาระแวดระวังเรื่องนี้ด้วยการใส่ใจกับอาการท้องเสียและหาความรู้กันใหม่ก่อนดีกว่า โรคท้องร่วง ท้องเสีย หรืออุจจาระร่วงนั้น หมายถึงการถ่ายอุจจาระเหลว หรืออุจจาระเป็นน้ำเกินกว่า 2 ครั้งในวันเดียว หรือการอุจจาระเป็นมูกปนเลือดเพียงครั้งเดียวก็ถือว่าท้องเสียแล้ว ซึ่งในอดีตนั้นจะเรียกการถ่ายอุจจาระที่ปนมูกเลือดว่าเป็นโรคบิด เพราะผู้ป่วยจะมีอาการปวดบิดในท้องขณะที่เบ่งอุจจาระไปด้วย โรคท้องเสียนั้นแบ่งออกได้เป็นสองชนิดก็คือ 1. โรคท้องเสียแบบเฉียบพลัน มักจะเกิดจากอาหารเป็นพิษ หรือติดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย พยาธิในลำไส้ 2. โรคท้องเสียแบบเรื้อรัง ซึ่งมักมีอาการท้องเสียนานกว่า 2 อาทิตย์เป็นต้นไป มักไม่ได้เกิดจากอาหารเป็นพิษ หรือติดเชื้อ แต่เกิดจากการย่อยอาหารและการดูดซึมที่ผิดปกติ การอักเสบจากภูมิแพ้ หรือติดเชื้อ ตลอดจนเป็นมะเร็งในทางเดินอาหาร ดังนั้นโรคท้องเสียชนิดนี้จึงเป็นเรื่องไม่ธรรมดา หรือแม้แต่ท้องเสียแบบเฉียบพลันเอง ก็อาจพบได้ว่าทำให้เสียชีวิตได้เหมือนกัน ถ้าได้รับการรักษาไม่ถูกต้องหรือช้าเกินไป ส่วนใหญ่การเสียชีวิตจะเกิดจากภาวะช็อก หรือภาวะที่เกิดจากการขาดน้ำและเกลือแร่เป็นจำนวนมาก ส่วนน้อยที่จะเกิดจากภาวะโลหิตเป็นพิษ ซึ่งทั้งสองแบบมีอาการเตือนแต่อาจถถูกละเลยจากแพทย์และผู้ป่วยเอง เพราะถ้าสังเกตได้ทันก็จะรอดชีวิต ซึ่งทุกคนควรสังเกตอาการเหล่านี้เอาไว้ โดยสัญญาณอันตรายมีทั้งหมด 6 ข้อดังต่อไปนี้ และผุ้ป่วยต้องรีบบอกแพทย์ไม่ว่าแพทย์จะถามหรือไม่ก็ตาม อีกทั้งสัญญาณเตือน 6 ข้อนี้ยังสามารถใช้กับโรคที่เกิดอาการช็อกแทรกซ้อนอื่น…