Tag: ตาพร่า
-
ดูแล…อาการปวดศีรษะด้วยตัวคุณเอง
ดูแล…อาการปวดศีรษะด้วยตัวคุณเอง การปวดศีรษะเป็นอาการป่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่พบเห็นได้บ่อย ๆ อยู่แล้ว ซึ่งสามารถก็ได้แก่ การใช้สายตานานและมากเกินไป นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ มีความเครียดหรือมีปัญหาจากไมเกรน ซึ่งการดูแลอาการปวดศีรษะเหล่านี้แบบเบื้องต้นก็คือการให้ยาหม่องทาถูกนวดบริเวณจุดที่ปวด หากยังไม่หายดีก็ให้ทานยาพาราเซตามอลตามขนาด แล้วหากยังไม่หายขาดก็ควรรีบไปพบแพทย์ทันที แต่หากเป็นอาการปวดหัวที่เกิดจากความเครียดควรผ่อนคลายตัวเองลง แล้วหาทางพักผ่อน อาจเป็นการทำจิตใจให้ผ่อนคลาย นอนหลับให้เพียงพอ อาบน้ำสบาย ๆ แล้วพักผ่อนก็จะช่วยได้ด้วย หรือในบางกรณีอาจปรึกษานักจิตวิทยาเพื่อช่วยกันหาทางออกก็ได้ สำหรับผู้ที่มีอาการปวดหัวไมเกรน ซึ่งก็ไม่มีอันตรายร้ายแรงมาก โรคปวดหัวไมเกรนนี้มักเกิดกับผู้ท่มีอายุตั้งแต่ 15-55 ปี โดยเริ่มปวดครั้งแรกเมื่อเข้าสู่วัยรุ่นหรือวัยทำงาน โดยเริ่มจากตาพร่า เวียนศีรษะ หรือคลื่นไส้ แล้วจะจะปวดตุบ ๆ ตรงขมับข้างเดียวหรือสองข้าง และจะรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ระยะเวลาการปวดอาจนานเป็นชั่วโมงหรือนานถึง 1-2 วัน อาจเป็น ๆ หาย ๆ ตามสิ่งที่กระตุ้น ซึ่งหากท่านมีอาการไมเกรนควรดูแลตนเองดังต่อไปนี้ 1. เมื่อเริ่มปวดหัว ให้ทานยาพาราเซตามอลทันที 1-2 เม็ด เพราะหากปล่อยไว้เกินครั้งชั่วโมง ยาแก้ปวดจะใช้ไม่ได้ผล เมื่อทานยาแล้วควรทานพักในห้องเย็น ๆ…
-
ระวัง! 6 โรคยอดฮิตมนุษย์ออฟฟิศบ้าพลัง
ระวัง! 6 โรคยอดฮิตมนุษย์ออฟฟิศบ้าพลัง สำหรับหนุ่มสาวออฟฟิศที่ทำงานกันหามรุ่งหามค่ำ แม้ตอนนี้จะยังมีร่างกายแข็งแรงอยู่ แต่ก็ใช่ว่าการทำงานใช้ร่างกายอย่างหนักหน่วงนั้นจะไม่สร้างปัญหาให้กับร่างกายนะคะ เพราะจากการวิจัยและสำรวจมาหลายสิบปีในวงการแพทย์ พบว่าเหล่ามนุษย์ออฟฟิศทั้งหลายนั้นมีอัตราความเจ็บป่วยจากการทำงานในปริมาณที่เพิ่มสูงขึ้นทุกปีอย่างน่ากลัว นั่นเป็นเพราะชาวออฟฟิศทั้งหลายมักปล่อยให้ปีศาจร้ายทำลายสุขภาพอย่าง โรคเครียด, การทำงานนานเกินไป, พฤติกรรมกินอาหารไม่ตรงเวลา และไม่ยอมออกกำลังกาย เหล่านี้มาเป็นตัวการร้ายทำลายสุขภาพ ซึ่งโรคร้ายที่ทำลายสุขภาพชาวออฟฟิศมากที่สุด 6 โรค ก็คือ 1. ต้อหิน และตาพร่า ทำให้มองภาพได้ไม่ชัด ตาสู้แสงไม่ได้ และอาจลุกลามทำให้ตาบอดไ 2. ไมเกรน ปวดศีรษะ นอนไม่หลับ คลื่นไส้อ่อนเพลีย และเสียสมรรถภาพในการทำงาน 3. อาการนิ้วล็อค ทำให้นิ้วกระดิกไม่ได้ ตึง และรู้สึกเจ็บ กล้ามเนื้ออักเสบ 4. ปวดหลังเรื้อรัง รวมไปถึงอาการปวดไหล่ ต้นคอ ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้เป็นอัมพาตได้ 5. โรคอ้วน มีความเสี่ยงทำให้เป็นโรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจ ตลอดจนความดันโลหิตสูง 6. โรคกรดไหลย้อน เป็นสาเหตุของโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร และมะเร็งหลอดอาหาร สำหรับหนุ่มสาวออฟฟิศทั้งหลายที่เริ่มมีอาการนี้แล้ว หรือยังไม่มีก็ควรหันมาดูแลสุขภาพของตัวเองด้วยเคล็ดลับดังต่อไปนี้ – อย่าเพ่งจ้องจอคอมพิวเตอร์นานเกินไป ควรพักผ่อนสายตาบ้าง…