Tag: ดูแลร่างกาย

  • ดูแลกายใจ ชาร์จแบตเตอรี่ในช่วงวันหยุด

    ดูแลกายใจ ชาร์จแบตเตอรี่ในช่วงวันหยุด

    ดูแลกายใจ ชาร์จแบตเตอรี่ในช่วงวันหยุด จากที่เราต้องตรากตรำทำงานหนัก เพลียทั้งร่างกาย อ่อนล้าทั้งจิตใจกันมาแล้ว ช่วงเทศกาลวันหยุดยาว หลายครอบครัวจึงเลือกเดินทางไปพักผ่อนต่างจังหวัด หรือในรีสอร์ทไกล ๆ เพื่อพักผ่อนกายใจ ก่อนจะกลับมาผจญกับหน้าที่การงานอีกครั้งหนึ่ง แต่หากคุณไม่รู้สึกอยากเดินทางไปไหน แต่อยากพักผ่อนจิตใจแบบสบาย ๆ เพื่อหาความสุขบ้าง ลองดูวิธีการง่าย ๆ เหล่านี้นะคะ – สัมผัสอากาศดี ๆ และธรรมชาติสดชื่น ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปต่างจังหวะหรอก ในสวนสาธารณะหรือสวนในหมู่บ้านก็ได้ ด้วยการตื่นเช้าไปดูพระอาทิตย์ขึ้น เดินเล่นหรือปั่นจักรยานริมแม่น้ำ ดูดอกไม้ ชมดอกหญ้า ฟังเสียงนกร้อง ดูดซับพลังจากธรรมชาติเข้าสู่ตัวเอง กระตุ้นอารมณ์ให้ดี ทำให้ชีวิตมีแรงบันดาลใจ – ทำจิตใจให้สงบ ตื่นเช้า ไหว้พระสวดมนต์ ทำสมาธิ ใส่บาตร ฝึกชี่กง ฝึกโยคะ หรือนวดตัวเองอย่างน้อยวันละ 10 นาที การมีสติอยู่เงียบ ๆ ด้วยการทำใจให้สงบ ช่วยให้เราไตร่ตรองชีวิตได้ดีขึ้น และใคร่ครวญหาวิธีแก้ไขสิ่งที่เรากำลังทำได้อย่างราบรื่น – คิดบวก ๆ เข้าไว้ ไม่ตัดสินผู้อื่นและตัวเอง การตัดสินบั่นทอนพลังในตัวเราเองโดยไม่รู้ตัว ทำลายจุดมุ่งหมายการพัฒนาตัวเองไป…

  • ชะลอวัยชรา…ด้วยวิธีแบบธรรมชาติ

    ชะลอวัยชรา…ด้วยวิธีแบบธรรมชาติ

    ชะลอวัยชรา…ด้วยวิธีแบบธรรมชาติ แม้อายุจะล่วงเข้าสู่วัยไม้ใกล้ฝั่งแล้ว สังขารในร่างกายก็เริ่มร่วงโรยไปเป็นเรื่องธรรมดา หากแต่เราทะนุถนอมร่างกายก็สามารถยืดการเสื่อมของสังขารออกไปได้เช่นกัน การดูแลสุขภาพเพื่อชะลอวัยชรานี้จึงเป็นเรื่องสำคัญแต่สามารถทำได้ง่ายแบบไม่พึ่งหมอเลยดังนี้ค่ะ – ดูแลน้ำหนักให้เหมาะสม การปล่อยตัวให้อ้วนน้ำหนักเกินจะเป็นภาระต่ออวัยวะส่งต่าง ๆ ทำให้เกิดโรคต่าง ๆ ได้ เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหัวใจตลอดจนโรคมะเร็ง การลดความอ้วนสำหรับวัยชราคือการจำกัดแคลอรี่ให้เหมาะสม กินข้าวซ้อมมือ ทานปลาหรือถั่ว ทานเนื้อแดงให้น้อยลง ทานธัญพืชและถั่วให้มาก ทานผักเยอะ ๆ เพื่อให้ร่างกายได้รับเส้นใยอาหาร วิตามิน แร่ธาตุ ซึ่งมีสารต้านความชรา ทำให้ไม่อ้วน ไม่เจ็บป่วย ไม่เกิดโรค หลีกเลี่ยงอาหาร หวาน มันเค็ม ทั้งหลายด้วย – ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอแต่ให้พอดีกับสังขาย อย่างน้อยวันเว้นวัน ใช้เวลาวันละครึ่งชั่วโมงเป็นต้นไป จะทำให้ร่างกายกระชุ่มกระชวยขึ้น ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ เบาตัว หายใจสบายขึ้น ไม่เบื่ออาหาร นอนหลับได้สนิทและดีขึ้น ร่างกายซ่อมแซมส่วนต่าง ๆ ได้ดี สดชื่น สมองปลอดโปร่งแจ่มใส ทำให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้นอย่างเห็นได้ชัด – ดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจให้แจ่มใจ…

  • รักษาอารมณ์ให้ดีเข้าไว้ สุขภาพกายแข็งแรงตาม

    รักษาอารมณ์ให้ดีเข้าไว้ สุขภาพกายแข็งแรงตาม

    รักษาอารมณ์ให้ดีเข้าไว้ สุขภาพกายแข็งแรงตาม สาเหตุสำคัญอีกประการที่ทำให้ร่างกายเสื่อมโทรมก็คือ “ความเครียด” นี่เองล่ะค่ะ เพราะว่าเวลาที่เราเครียดนั้น สมองจะหลังฮอร์โมนบางชนิดออกมาทำให้กล้ามเนื้อเกร็งตัว ซึ่งเป็นกลไกการป้องกันตนเอง เพื่อให้ร่างกายมีความพร้อมในการทำบางอย่าง หากกลัวแล้วหนีจะวิ่งได้เร็วกว่าปกติ แต่หากสู้ก็มีกำลังมหาศาลมากกว่าปกติด้วยเช่นกัน ภาวะเครียดน้อย ๆ ทำให้ร่างกายเราตื่นตัวและเตรียมพร้อม แต่หากเครียดมากเกินไปกลับทำลายสุขภาพมากกว่า เมื่อเกิดความเครียดขึ้นมาแล้ว ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้อยู่กับเรานานเกินไป ควรหาทางกำจัดไปเสียก่อนที่ความเครียดจะลุกลามมากขึ้น เพราะวันทั้งวันเราก็เจอความเครียดในหลายรูปแบบกันอยู่แล้ว ร่างกายเกิดการเกร็งตัวทั้งวัน เมื่อความเครียดเกิดขึ้นระบบต่าง ๆ ในร่างกายจะติดขัดทุกครั้ง ดังนั้นยิ่งเครียดก็ยิ่งเป็นอันตราย แต่หากเรามีอารมณ์ที่ดี คิดดี ปรารถนาดี ใจดี สมองก็จะหลั่งสารเอนโดรฟินออกมาทำให้ร่างกายผ่อนคลาย โลหิตหมุนเวียนในร่างกายได้ดี ภูมิต้านทานดีขึ้น ฯลฯ เรียกได้ว่าทุกระบบของร่างกายทำงานสมดุลกันอย่างดีเยี่ยมเลยค่ะ ซึ่งการทางแพทย์แผนจีนนั้นได้กล่าวไว้อย่างชัดเจนว่าความเครียดส่งผลเสียต่อร่างกายอย่างมาก การรักษาสุขภาพต้องรักษาอารมณ์และจิตใจให้ดีด้วย – คนที่มักหงุดหงิดขี้โมโห ไม่พอใจสิ่งรอบข้างตลอดเวลา มักจะมีอาการเกี่ยวกับตับ – คนขี้วิตกกังวล เครียดบ่อย จะส่งผลต่อกระเพาะอาหาร – ส่วนคนที่โศกเศร้าเสียใจ มักมีปัญหากับปอด – คนที่ตกใจง่ายหรือหวาดกลัวบ่อย มักจะเป็นโรคไต – แต่หากเป็นโรคซึมเศร้า จะกระทบกับทุกส่วน – แม้แต่อาการดีใจมากเกินไปก็ทำให้หัวใจเต้นไม่เป็นปกติ ทำให้เป็นโรคหัวใจได้อีกเหมือนกัน…

  • บัญญัติ 10 ประการเพื่อการป้องกันโรคระบาด

    บัญญัติ 10 ประการเพื่อการป้องกันโรคระบาด

    บัญญัติ 10 ประการเพื่อการป้องกันโรคระบาด ไม่จำกัดว่าต้องเป็นประเทศกำลังพัฒนาเท่านั้นที่มีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ ทางเดินหายใจ โรคติดเชื้อทางเดินอาหาร หรือโรคติดต่อจากคนสู่คนหรือสัตว์สู่คน แม้แต่ประเทศที่พัฒนาแล้วก็ยังจำเป็นต้องมีมาตรฐานการควบคุมและป้องกันโรคที่ดีเช่นเดียวกัน การจะไปอาศัยการรักษาหรือการป้องกันจากทางการอย่างเดียวก็คงไม่เพียงพอ ในส่วนของประชาชนทุกคนเองก็ควรต้องมีมาตรการไว้สำหรับรับมือและป้องกันโรคติดต่อ หรือโรคระบาดนี้ด้วยตัวเองกันด้วย ดังนั้นบัญญัติสิบประการที่จะนำมาเสนอคุณผู้อ่านในวันนี้จะเป็นการช่วยสร้างพฤติกรรมสุขภาพที่ดี เพื่อให้ทุกคนได้ป้องกันโรคภัยไข้เจ็บทั้งหลายได้ด้วยตนเอง และให้บัญญัติทั้งสิบประการนี้เป็นสุขบัญญัติพื้นฐานสำหรับครอบครัว ชุมชน โรงเรียนและโรงงาน ต่อไป ซึ่งบัญญัติทั้งสิบประการนั้นได้แก่ 1. ดูแลร่างกายรวมทั้งเครื่องใช้ไม้สอยต่าง ๆ ให้สะอาดอยู่เสมอ 2. ดูแลรักษาฟันให้แข็งแรง และแปรงฟันทุกวันอย่างน้อยวันละสองครั้ง อย่างถูกต้อง 3. ล้างมือด้วยน้ำสะอาดและสบู่ก่อนการทานอาหารและหลังจากเข้าห้องน้ำทุกครั้ง 4. ทานแต่อาหารที่ปรุงสุก สะอาด ปลอดจากสารเคมีอันตราย และไม่มีสีสันฉูดฉาด และอาหารรสจัดจ้าน 5. งดการดื่มสุรา เสพยาเสพติด สูบบุหรี่ เล่นการพนันและพฤติกรรมสำส่อนทางเพศ 6. สร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวให้อบอุ่น 7. ไม่ประมาทในการขับยวดยาน และเครื่องจักร รวมทั้งอุบัติภัยต่าง ๆ 8. ออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ สัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละ 30 นาทีขึ้นไป แล้วตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี 9.…

  • อาหารที่ควรทานเพื่อเสริมสร้างธาตุเหล็ก

    อาหารที่ควรทานเพื่อเสริมสร้างธาตุเหล็ก

    อาหารที่ควรทานเพื่อเสริมสร้างธาตุเหล็ก สำหรับคนในวัยทำงานหรือหญิงสาวที่มีรอบเดือนนั้น อาจรู้สึกอ่อนล้าอ่อนเพลีย จากการขาดธาตุเหล็กได้ อาการนี้มักไม่ใช่อาการที่เกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน แต่เกิดจากการขาดการดูแลร่างกาย พักผ่อนไม่เพียงพอและการขาดสารอาหาร ดังนั้นวิธีการแก้ไขให้ร่างกายกลับมากระปรี้กระเปร่าแจ่มใสเหมือนเดิมนั้น  ควรเปลี่ยนอาหารจำพวกข้าว แป้ง ให้เป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน  ได้แก่ ข้าวซ้อมมือ ข้าวกล้อง  ขนมปังโฮลวีต  เส้นพาสต้า  ผักใบเขียว ถั่ว ส้ม  ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่  แตงโม  ซึ่งอาหารเหล่านี้ย่อยง่าย ไม่สร้างภาระให้กับกระเพาะอาหารและลำไส้มากเกินไป ไม่ทำให้ท้องอืดเฟ้อ  อีกทั้งยังให้พลังงานได้อย่างยาวนาน เพราะร่างกายจะค่อย ๆ ดูดซึมสารอาหารเหล่านี้  จึงทำให้เราไม่รู้สึกอ่อนเพลีย หรือโหยหาน้ำตาลระหว่างวัน  ทั้งยังช่วยลดความเครียดไปได้ในตัว