Tag: ดวงตา
-
อันตรายจากโรคต้อลม ต้อเนื้อ ชนิดต่าง ๆ และการป้องกันโรค
อันตรายจากโรคต้อลม ต้อเนื้อ ชนิดต่าง ๆ และการป้องกันโรค โรคต้อที่ดวงตานั้นแบ่งออกเป็น 3 ชนิดได้แก่ ต้อกระจก ต้อหิน ต้อลม (ต้อเนื้อ) ซึ่งแต่ละโรคก็มีสาเหตุและอาการรวมไปถึงการรักษาที่แตกต่างกันไป แต่วันนี้จะนำเอาโรคต้อลม และต้อเนื้อที่มีคนเป็นกันมากในประเทศไทยมาอธิบาย และสาธยายถึงวิธีปฏิบัติตัวให้ฟังกันค่ะ ทั้งต้อลมและต้อเนื้อนี้คือความเสื่อมของเยื่อบุตาที่ได้รับความระคายเคืองเป็นประจำ ได้แก่ แสงแดด ลม ฝุ่น ความร้อน จะทำให้เยื่อบุตานูนขึ้น มักเกิดบริเวณที่หัวตาติดกับกระจกตาดำ มักเห็นเป็นเนื้อสีเหลืองเล็กน้อยถึงชมพูแดง หากเยื่อที่นูนขึ้นนี้อยู่ในบริเวณตาขาวเรียกว่า ต้อลม แต่ถ้าลามเข้าไปในส่วนของกระจกตาดำ เรียกว่า ต้อเนื้อ ต้อลมนั้นไม่ทำอันตรายต่อสายตาแต่อย่างใด อาการจะขึ้นอยู่กับความรุนแรงที่เป็น แต่หากเป็นแล้วไม่ยอมดูแลรักษา ยังใช้ชีวิตเหมือนเดิม ต้อลมก็อาจลุกลามกลายเป็นต้อเนื้อและอักเสบขึ้นได้ ซึ่งอาจมีอาการตาแดง สู้แสงไม่ได้ แสบตา เคืองตา น้ำตาลไหล เหมือนมีผงเข้าตาตลอดเวลา สายตาอาจเอียงเพิ่มขึ้น เห็นภาพซ้อนและมองไปในทิศต่าง ๆ ได้ไม่คล่องนัก และหากต้อเนื้อลุกลามเข้าไปในกระจกตาดำจะบังรูม่านตาจนทำให้ตามัวได้ หากอาการเป็นอังนี้ ควรรีบปรึกษาแพทย์โดยด่วน สิ่งแวดล้อมรอบตัวที่ทำให้เกิดโรคต้อลม ต้อเนื้อนั้นได้แก่ ดวงตาสัมผัสกับสิ่งระคายประจำ ทั้งความร้อน ความแห้ง ฝุ่นละออง แสงแดดมีไอร้อนและมียูวีสูง…
-
ถนอมดวงตา ด้วย 6 เคล็ดลับง่าย ๆ
ถนอมดวงตา ด้วย 6 เคล็ดลับง่าย ๆ สำหรับหนุ่ม ๆ สาว ๆ ที่ทำงานออฟฟิศ หรือทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์วันละ ๆ หลายชั่วโมง คงเริ่มรู้สึกล้าสายตา หรือปวดตาขึ้นมากันบ้างแล้ว มาดูแลถนอมสายตากันก่อนที่จะมีปัญหาดีกว่า ดวงตาของเราจะได้อยู่รับใช้เราไปนาน ๆ ไงคะ 1. กระพริบตาบ่อย ๆ อาการตาแห้งนั้นเกิดจากการเรากระพริบตาน้อยลง เพราะเวลาที่เราจดจ่อที่หน้าจอคอมพิวเจอร์เราจะใช้สมาธิมาก จนลืมกระพริบตา ดังนั้นควรฝึกกระพริบตาบ่อย ๆ ยิ่งเวลาที่นึกขึ้นมาได้ก็ให้กระพริบตาทันที หรือหากตาแห้งมากแล้วสามารถหยดน้ำตาเทียมเพื่อให้ดวงตาชุ่มชื้นขึ้นได้ 2. จัดระดับของหน้าจอคอมพิวเจอร์ให้ พอดี โดยให้มีระยะระหว่างจอกับตัวเราประมาณ 50-70 เซนติเมตร และระดับของจุดศูนย์กลางจออยู่สูงกว่าระดับตาของคุณประมาณ 4-9 นิ้ว ไม่ควรมองจอที่อยู่ต่ำเกินหรือสูงเกินไป 3. ปรับความสว่างของแสงไฟให้พอดี การเปิดไฟให้สว่างหรือเปิดม่านให้แสงส่องเข้ามามากเกินไป ทำให้สายตามีปัญหาได้ หลีกเลี่ยงเฟอร์นิเจอร์หรือของประดับตกแต่งต่าง ๆ ที่ไม่มีแสงสะท้อน เช่นพื้นโต๊ะควรใช้สีด้าน ๆ ไม่สะท้อนแสงมากเกินไปนัก 4. ปรับตัวอักษรให้ใหญ่ขึ้น และปรับความเข้มของตัวอักษรให้มาก ซึ่งขนาดที่พอดีก็คือ หากเราอยู่ห่างเป็นสามเท่าจากระยะปกติในเวลาทำงานนั่นเอง ควรใช้หน้าจอคอมพิวเตอร์แบบ…
-
5 อาหารบำรุงสายตาชัดแจ๋ว
5 อาหารบำรุงสายตาชัดแจ๋ว ตอนนี้ในท้องตลาดมีน้ำสกัดจากผลเบอร์รี่ที่มีสรรพคุณในการบำรุงสายตาออกมาจำหน่ายกันอยู่แล้ว แต่เราไม่จำเป็นต้องหาซื้อน้ำสกัดดังกล่าวมาทานก็ได้ หากรู้จักเลือกอาหารสดที่สามารถหาได้ง่าย ๆ มารับประทานแทน อร่อย อิ่ม ประหยัดและยังได้คุณค่าบำรุงสายตาเหมือนกันอีกด้วย แต่ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับส่วนประกอบของดวงตาของเราเสียก่อน 1. ส่วนของเยื่อบุดวงตา เป็นส่วนอกสุดที่หุ้มดวงตาเอาไว้ ที่เห็นได้มากที่สุดก็คือส่วนที่หุ้มตาขาว ดังนั้นเวลาตาแดงก็จะดูแดงก่ำขึ้นมาเลย ซึ่งสิ่งที่ระคายเคืองเยื่อบุดวงตาได้มากที่สุดก็คือ แดด ลม และฝุ่น ที่อาจทำให้เกิดต้อขึ้นได้ 2. กระจกตา เป็นส่วนด้านหน้าที่โค้งสวยเหมือนกระจก มีความบอบบางและไม่มีเลือดมาหล่อเลี้ยง ดังนั้นผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์จึงจำเป็นต้องระมัดระวังอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับกระจกตาได้ 3. เลนส์ตา อยู่ถัดเข้าไป มีลักษณะเป็นเลนส์นูน มีความหยุ่นและใสพอประมาณ ประกอบด้วยเส้นใยคอลลาเจนที่เรียงกันเป็นแนวสวย และต้องระวังโรคต้อกระจกด้วยที่จะทำให้เลนส์ตาขุ่นได้ 4. วุ้นในตา มีลักษณะเป็นน้ำวุ้นเหลวใส ที่ช่วยหักเหแสงให้เรามองเห็นภาพได้ วุ้นนี้นั้นเมื่ออายุมากขึ้นจะเกิดอาการเสื่อมได้ โดยอาการเสื่อมก็คือ เห็นภาพมีฝุ่นผงเห็นจุด ๆ ลอยไปลอยมา 5. จอตา หมายถึงขยุ้มกระจุกเส้นเลือดและเส้นประสาทที่เป็นร่างแฟอยู่ที่จอตา คอยช่วยในการรับภาพเหมือนกับจอหนังที่เราดูนั่นเอง ส่วนประกอบทั้ง 5 นี้คือสิ่งที่ประกอบกันขึ้นเป็นอวัยวะที่ทำให้เรามองเห็นได้ ซึ่งหากไม่บำรุงรักษาให้ดีแล้วก็อาจเสื่อมหรือสูญเสียไปได้ก่อนวัย ซึ่งวิธีการดูแลดวงตาให้มีสุขภาพดีแบบง่าย ๆ นั้นก็เริ่มต้นได้ด้วยการเลือกอาหารที่มีประโยชน์ต่อดวงตาได้แก่ 1. โกจิเบอรี่…
-
เคล็ดลับลดตาแพนด้าแบบง่าย ๆ
เคล็ดลับลดตาแพนด้าแบบง่าย ๆ ตาแพนด้าหรือถุงใต้ตานั้นสามารถลดและป้องกันได้แบบง่าย ๆ ด้วยการปฏิบัติตัวใหม่ดังนี้ค่ะ 1. อย่าจ้องหน้าคอมพิวเตอร์หรือใช้สายตานานเกินไปจนล้า ให้หมั่นพักสายตาทุก 15 นาทีด้วยการมองไปไกล ๆ จะช่วยผ่อนคลายดวงตาได้ ปรับแสงจากหน้าจอให้พอเหมาะ และอย่าขยี้ตา หากรู้สึกล้าสายตาให้นวดคลึงเบา ๆ เพื่อผ่อนคลายความเครียดด้วยการกลอกตาไม่มาเป็นวงกลม 5 รอบ แล้วใช้นิ้วนางคลึงเบา ๆ ที่หัวตา คลึงเบา ๆ แล้วกดจุดค้างไว้ 1-2 วินาที 2. ประคบด้วยมั่นฝรั่งหั่นเป็นแว่นเล็ก ๆ นำมาพอกรอบด้วงตาไว้ประมาณ 10-15 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น คาร์โบไฮเดรตในมันฝรั่งจะช่วยลดการอักเสบของผิวรอบดวงตาได้ดี 3. หากดวงตาดูอิดโรยอ่อนล้า ใต้ตาดำคล้ำ ใช้ถุงชาที่ชงแล้ว แช่เย็นแล้วมาประคบตาก่อนนอนก็ใช้ได้เหมือนกัน 4. ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพื่อรักษาความชุ่มชื้นให้กับดวงตา 5. สำหรับเจลหรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวรอบดวงตา ควรเลือกที่มีคาเฟอีน เพราะช่วยบำรุงผิว และกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดรอบดวงตาได้ ช่วยผ่อนคลายดวงตาที่อ่อนล้าได้ดี หากเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผสมโปรวิตามินบีห้าด้วยแล้ว จะช่วยให้ผิวรอบดวงตาชุ่มชื่นสดใสขึ้นค่ะ หากไม่อยากดูแก่หรืออิดโรยก่อนวัย ลองทำตามเคล็ดลับบำรุงดวงตาข้างต้นนี้ดูนะคะ
-
10 วิธีง่ายๆ ในการดูแลรักษาดวงตา
10 วิธีง่ายๆ ในการดูแลรักษาดวงตา “ดวงตา เปรียบเสมือน หน้าต่างของหัวใจ” เมื่อดวงตาเป็นสิ่งแรกที่คนจะมองเห็น ดังนั้นเราจึงควรหันมาดูแลรักษาสุขภาพของดวงตา ปัญหารอบๆดวงตาที่พบได้บ่อย และเห็นได้ชัด คือ “รอยดำ รอยคล้ำรอบดวงตา” มักพบกับคนที่นอนดึก ทำงานหนัก ใช้สายตาโดยไม่ได้พักเป็นเวลานาน ประกอบกับ ความเครียด หรือการดื่มเครื่องดื่มที่ส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ปัจจัยทั้งหมดนี้ล้วนเกี่ยวพันกับปัญหาใต้ตาคล้ำ มาดูแลและรักษาบริเวณรอบดวงตากันดีกว่าค่ะ 1. นวดรอบดวงตา การกดนวดรอบดวงตานั้นช่วยในการไหลเวียนเลือดบริเวณนั้นได้ดีขึ้น ด้วยการหลับตาแล้วใช้นิ้วกดใต้ดวงตาเบาๆ ไล่จากต้นตาไปด้านนอก ค่อยๆไล่กดไปเรื่อยๆ กดค้างไว้ข้างละ 3 วินาที ลองทำอย่างนี้ประมาณ 15 นาทีต่อวัน และทำในทุกๆวัน จะช่วยเรื่องการไหลเวียนเลือด และช่วยขับน้ำหล่อเลี้ยงลูกนัยน์ตาให้ออกเพิ่มมากขึ้น ช่วยให้ดวงตาผ่อนคลายและเพิ่มความชุ่มชื่นในลูกนัยน์ตาได้ดีด้วย 2. บำรุงตาด้วย อาย ครีม การใช้ครีมบำรุงผิวรอบดวงตาเป็นประจำ นอกจากจะทำให้ผิวชุ่มชื้นขึ้น ยังทำให้ริ้วรอย และความแห้งกร้านดีขึ้น ระหว่างที่ทาครีมให้นวดรอบดวงตาเบาๆ จะช่วยให้ผิวรอบวงตาเรามีเลือดไหลเวียนดีขึ้น แต่ไม่ควรขยี้ตาเพราะจำทำให้รอบดวงตามีริ้วรวย และเหี่ยวย่นได้ง่ายค่ะ 3. มอยส์เจอร์ไรเซอร์ และ ซันสกรีน สำหรับคนที่มีรอยคล้ำใต้ตาอย่างมากนั้น ควรบำรุงผิวด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์…