Tag: ซิฟิลิส
-
การตรวจร่างกายก่อนแต่งงาน แพทย์จะตรวจอะไรบ้าง?
การตรวจร่างกายก่อนแต่งงาน แพทย์จะตรวจอะไรบ้าง? การเตรียมตัวไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลก่อนสมรสนั้น โรงพยาบาลแทบทุกแห่งล้วนมีบริการนี้ทั้งสิ้น ซึ่งนอกจากตรวจสุขภาพ โรคติดต่อต่าง ๆ ทางเพศสัมพันธ์แล้วก็ยังให้คำแนะนำในการเตรียมตัวมีบุตรด้วย แล้วขั้นตอนการตวจเข้ามีอะไรบ้าง มาดูกันนะคะ การตรวจสุขภาพก่อนสมรสนั้น คุณผู้หญิงทั้งหลายไม่ต้องกลัวไปค่ะ ไม่ใช่ว่าไปพบหมอสูตินรีแพทย์แล้วจะต้องโดนตรวจภายในทุกครั้ง แต่เขาจะตรวจสุขภาพว่ามีความแข็งแรงขนาดไหนเท่านั้นเอง จะมีการชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง วัดความดัน เจาะเลือด หาความเข้มข้มของเลือดและภาวะเลือดจางด้วย ซึ่งในส่วนของผู้ที่ภายในครอบครัวมีประวัติเลือดจางมาก่อนก็จะได้รับการตรวจ Haemoglobin typing นอกจากนี้แล้วก้๗มีการตรวจดูหมู่โลหิต ดูว่าเป็นกลุ่ม Rh ใด มีลักษณะของเม็ดเลือดขาว น้ำตาลในเลือดหรือมีเชื้อเลือดบวกซิฟิลิสหรือเอดส์ด้วยหรือไม่ ตรวจภูมิคุ้มกันเชื้อหัดเยอรมัน เชื้อไวรัสตับอักเสบบี หากยังไม่มีภูมิคุ้มกัน คุณหมอก็จะเสริมภูมิให้เลยจะได้ไม่มีปัญหาในการตั้งครรภ์ หากทั้งคู่ต้องการให้ฝ่ายหญิงคุมกำเนิด คุณหมอก็จะให้คำปรึกษาเรื่องการคุม มีทั้งการกินยาคุมกำเนิดและการฉีดยาคุมกำเนิด ซึ่งยากินคุมกำเนิดนี้ไม่ควรซื้อกินเองเพราะหากมีโรคบางโรคอยู่ก่อน ก็อาจทำให้ลุกลามได้ เช่น หากเป็นเนื้องอกเต้านม มดลูก หรือรังไข่อยู่ หากกินยาคุมสุ่มสี่สุ่มห้า ก็อาจกลายเป็นเนื้อร้ายได้ ดังนั้นแพทย์ก็จะตรวจร่างกายในส่วนเหล่านี้ทั้งหมดด้วย และแพทย์จะให้คำปรึกษาให้ด้านการคุมกำเนิด ว่าแต่ละวิธีและแต่ละฝ่ายนั้น ใครควรคุมกำเนิดไว้ และคุมอย่างไร นานเท่าไร มีข้อดีข้อเสียอย่างไร รวมไปถึงหากต้องการมีบุตรแล้วจะต้องทำอย่างไรด้วย ซึ่งก็ขึ้นอยู่ความสะดวกของคู่สมรสด้วยค่ะ
-
หมั่นตรวจแพ็ปสเมียร์ เพื่อเฝ้าระวังมะเร็งปากมดลูก
หมั่นตรวจแพ็ปสเมียร์ เพื่อเฝ้าระวังมะเร็งปากมดลูก มะเร็งปากมดลูกนั้น เป็นมะเร็งที่พบได้มากที่สุดในหญิงไทย ซึ่งรองลงมาก็คือมะเร็งโพรงมดลูก มะเร็งเต้านม และมะเร็งรังไข่ สาเหตุของการเกิดมะเร็งปากมดลูกนั้น เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเอชพีวี ชนิด 16 และ 18 ผู้ที่มีความเสี่ยงก็ได้แก่ หญิงที่เปลี่ยนคู่นอนหลายคน มีเพศสัมพันธ์เมื่ออายุยังน้อย มีสามีที่มีคู่นอนหลายคน จึงทำให้ได้รับเชื้อเอชพีวีจากการมีเพศสัมพันธ์ได้ รวมไปถึงผู้ที่มีประวัติเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น เอดส์ เริม หนองใน ซิฟิลิส ฯลฯ นอกจากนี้ การสูบบุหรี่ การมีอนามัยที่ไม่ดี ก็เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อมะเร็งปากมดลูกอีกด้วย โดยอาการของโรคมะเร็งปากมดลูกนี้ ได้แก่ มีเลือดออกจากช่องคลอดกะปริบกระปรอย มีตกขาวปนเลือด มีกลิ่นเหม็นผิดปกติ และในระยะท้าย ๆ จะมีอาการขาบวม ปวดก้นกบ ปัสสาวะ อุจจาระเป็นเลือด ซึ่งหากรอจนถึงมีอาการระยะนี้แล้วอาจมีโอกาสในการรักษาให้หายได้เพียงร้อยละ 20-30 เท่านั้น มะเร็งปากมดลูกนี้ระยะแรกจะไม่มีอาการใดเลย แต่หากตรวจพบจะสามารถรักษาให้หายได้ถึงร้อยละ 70-80 เลยทีเดียว การตรวจว่าเป็นมะเร็งปากมดลูกหรือไม่นั้น ใช้วิธีแพ็ปสเมียร์ ที่สามารถตรวจได้ง่าย รวมไปถึงการผ่าตัดที่มาพร้อมกับรักษาและวินิจฉัยระยะของโรคไปด้วยในตัว หากตรวจพบมะเร็งปากมดลูกในระยะแรกหากทำการผ่าตัดจะรักษาโรคได้ถึงร้อยละ 80 แต่หากพบว่ามีการกระจายตัวแล้วต้องใช้การฉายรังสีเพื่อรักษาด้วย…
-
โรคซิฟิลิส อาการ การรักษา วิธีป้องกัน
โรคซิฟิลิส อาการ การรักษา วิธีป้องกัน โรคซิฟิลิส (Syphilis) เกิดขึ้นได้จากเชื้อแบคทีเรีย Treponema Pallidum เป็นอีกโรคหนึ่งที่ติดต่อทางเพสสัมพันธ์ หรือ ติดต่อจากสิ่งมีชีวิต เชื้ออาจเข้าสู่ร่างกายได้ทางเยื่อเมือก เช่น ช่องคลอด ท่อปัสสาวะ ปาก เยื่อบุตา หรือทางผิวหนังที่มีแผล เชื้อโรคจะแพร่กระจายในร่างกายไปตามกระแสเลือด ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาตั้งแต่ระยะต้นแล้ว อาจทำให้เกิดอาการแทรกซ้อน หรือร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ การติดต่อของโรคซิฟิลิส – ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โดยติดต่อผ่านทางเยื่อบุช่องคลอด รูทวาร ท่อปัสสาวะ – ติดต่อจากการสัมผัสแผลที่มีเชื้อ โดยติดต่อได้ผ่านทาง ผิวหนัง เยื่อบุตา และปาก – ติดต่อจากแม่สู่ลูก เชื้อซิฟิลิสจะถ่ายทอดสู่ทารกในครรภ์ได้ จะเรียกเด็กที่ติดเชื้อนี้ว่า ซิฟิลิสแต่กำเนิด อาการจะแสดงเมื่อเด็กคลอดออกมาได้ 3-8 สัปดาห์ ถ้าไม่ได้สังเกต จะแทบไม่เห็นเลย อาจจะมีตุ่มผื่นขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ถ้าไม่ได้ทำการรักษา เมื่อเข้าสู่ตอนโต อาการจะออกมาก ซึ่งเข้าสู่ระยะที่สี่แล้ว บางรายจะแสดงอาการพิการออกมาให้เห็นได้ชัดเจน อาการของโรคซิฟิลิส ส่วนมากผู้ที่ติดเชื้อซิฟิลิส มักจะพบกับผู้ชายมากกว่าผู้หญิง โดยผู้ป่วยจะมีอาการหลายแบบ แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับระยะที่ติดเชื้อ…