Tag: คาเฟอีน

ระวัง..กาแฟอาจทำคุณประสาทหลอน! เป็นความจริงที่ได้รับเปิดเผยมาจาก นักวิจัยของมหาวิทยาลัยเดอแรมในประเทศอังกฤษ ที่ได้ประกาศว่าผู้ที่กินกาแฟ ชา ช็อกโกแลต หรือเครื่องดื่มชูพลัง ที่ผสมคาเฟอีนมาก ๆ อาจทำให้ประสาทหลอนหรือหูแว่วได้  โดยเฉพาะผู้ที่ดื่มกาแฟเกินกว่าวันละ 3 ถ้วย  หรือเทียบเท่ากับกาแฟสำเร็จรูปถึง 7 ถ้วย  ซึ่งมีโอกาสมีอาการทางประสาทได้มากกว่าคนอื่น ๆ ที่ดื่มกาแฟวันละถ้วยถึง 3 เท่าเลยทีเดียว! แต่อาการประสาทหลอนนั้นไม่ใช่เครื่องแสดงอาการทางจิตที่แน่ชัด เพราะคนทั่วไปก็มักมีโอกาสได้ยินเสียงแปลก ๆ อยู่ถึง 3% ดังนั้นอาจกล่าวได้ว่ากาแฟนั่น เข้าไปช่วยซ้ำเติมให้ความเครียดของจิตใจและอารมณ์ให้กลับมากขึ้น และมีอาการประสาทหลอนมากกว่าเดิมนั่นเอง

บำบัดอาการนอนไม่หลับด้วยตนเอง น่าเห็นใจที่การนอนหลับสำหรับบางคนนั้นเป็นเรื่องยากแสนยาก ทั้ง ๆ ที่ก็ทำงานหรือปฏิบัติภารกิจของตนเองมาจนอ่อนเพลียทั้งวัน แต่พอถึงเวลานอนก็นอนไม่หลับอยู่ดี ยิ่งนอนหลับยากก็ยิ่งทำให้ร่างกายอ่อนเพลียพลอยให้สุขภาพแย่ลงไปเรื่อย ๆ เห็นจะไม่ดีแน่ค่ะ ลองมาปรับปรุงการนอนหลับ บำบัดตนเองด้วยวิธีทางง่าย ๆ เหล่านี้กันดีกว่านะคะ 1. งดเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน ไม่ว่าจะเป็น ชา กาแฟ หรือน้ำอัดลมบางประเภท และเครื่องดื่มชูกำลัง เพราะคาเฟอีนจะกระตุ้นอาการยิ่งทำให้นอนหลับยาก แล้วยังตกค้างอยู่ในร่างกายด้วย ดังนั้นตั้งแต่มื้อเที่ยงไปต้นไปควรงดอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน แล้วหันมาดื่มเครื่องดื่มที่ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย และนอนหลับได้ง่ายอย่าง ชาคาร์โมไมล์ หรือชาลาเวนเดอร์ จะช่วยให้จิตใจผ่อนคลายได้ ดื่มอุ่น ๆ ก่อนนอนจะช่วยให้นอนหลับได้ง่ายขึ้น 2. อาบน้ำอุ่น ๆ ให้สะอาดก่อนนอน หากมีโอกาสจะแช่น้ำอุ่นสักครู่ก่อนนอนก็จะทำให้ร่างกายและจิตใจผ่อนคลายมากขึ้น แต่อย่าแช่นานเกินไปเพราะอาจทำให้ผิวหนังขาดความชุ่มชื้นได้ การหยดน้ำมันหอมระเหยกลิ่นคาโมไมล์ หรือกลิ่นลาเวนเดอร์ลงไปซักสองสามหยด ก็จะช่วยให้ผ่อนคลายมากขึ้นไปอีกค่ะ 3. จัดห้องนอนให้สะอาดน่านอน จัดตกแต่งและทำความสะอาดห้องนอนให้น่านอน จัดข้าวของต่าง ๆ อย่าให้รกรุงรัง ทำห้องให้มีกลิ่นสะอาด ๆ หรือจะทำให้หอมไปด้วยกลิ่นลาเวนเดอร์ซักนิดก็จะดี จัดแสงในห้องให้มีแสงสลัว ๆ ไม่สว่างเกินไป แต่ให้อากาศปลอดโปร่งถ่ายเทได้ดี ปิดแสงไฟหรือสิ่งเรืองแสงต่าง ๆ…

ทานโยเกิร์ต นอนหลับสบายนะเอ้อ.. อาการนอนไม่หลับนั้นเป็นอาการสุดฮิตของคนยุคนี้จริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของหน้าที่การงานที่ชวนให้เครียด หรือชีวิตส่วนตัวที่มีแต่ความสับสน ไหนจะปัญหาทางการเงินอีก  ที่ทำให้แต่ละคนชอบเอามาคิดเป็นเรื่องเป็นราวก่อนนอน จนกระทั่งตัวเองนอนไม่หลับไปเลย  ซึ่งการแก้ไขอาจจะไม่ยาก แต่อาจต้องมีการปรับตัวและใช้เวลาอยู่บ้าง โดยเริ่มแรกก็ควรเลิกดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน อย่าง ชาหรือกาแฟ ในช่วงหัวค่ำไปเลย  ยิ่งคนที่ชอบหอบงานกลับมาทำที่บ้านจนต้องพึ่งกาแฟนั้น  ให้เลิกดื่มเถอะค่ะ ยิ่งดื่มก็ยิ่งตาแข็ง นอนไม่หลับอีก แล้วลองหันมาทานโยเกิร์ตก่อนนอนกันดีกว่า  เพราะในโยเกิร์ตนั้นอุดมไปด้วยกรดอะมิโนที่ชื่อว่าทริปโตเฟน ที่ช่วยในการนอนหลับได้เร็วขึ้น  ซึ่งกรดอะมิโนนี้จะผลิตเซโรโทนินที่ช่วยลดการทำงานของสมองลงอย่างรวดเร็ว  ทำให้ง่วงและหลับได้เร็วกว่าปกตินั่นเอง ว่าแล้วคืนนี้หาโยเกิร์ตมาทานกันดีกว่าค่ะ ^__^      

กาแฟ ไม่ได้แค่ช่วยให้หายง่วง แต่ยังช่วยปกป้องดวงตาของคุณได้ เชื่อหรือไม่! ว่ากาแฟนั้นจะช่วยรักษาปกป้องดวงตาของคุณได้ นอกจากกาแฟจะช่วยให้เราหายง่วง หรือ รู้สึกกระปี้กระเปร่าได้แล้ว กาแฟยังช่วยรักษาอาการตาแห้งของเราได้ด้วย ผลสำรวจจากพนักงานที่ทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆ, คนที่ทำงานจนดึก จะเกิดอาการตาแห้ง และเมื่อกลุ่มตัวอย่างนี้ได้รับประทานกาแฟ ที่มีคาเฟอีนในปริมาณที่เหมาะสมเข้าไป จะช่วยให้ตาหายแห้งได้จริง เนื่องจากในคาเฟอีนนั้นมีปริมาณที่จะช่วยให้น้ำของตาหล่อเลี้ยงได้ดีขึ้น ถ้าหากคุณต้องอยู่ทำงานจนดึก หรือต้องใช้คอมพิวเตอร์นานๆ ลองชงกาแฟดื่มซักแก้ว รับรองว่าจะช่วยให้มีแรงทำงานต่อ แถมยังแก้ไขปัญหาตาแห้งนี้ได้แน่นอนจ้า ^__^

ไม่น่าเชื่อ! นักวิจัยพบว่า คาเฟอีน ช่วยปรับปรุงความทรงจำให้ดีขึ้น ศาสตราจารย์ Yassa เป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน Neurobiology ที่มหาวิทยาลัย University of California Irvine และทีมงานต้องการหาคำตอบว่าสารคาเฟอีนที่พบในกาแฟและชาตลอดจนเครื่องดื่มช็อคโกแลตจะสามารถช่วยปรับปรุงความทรงจำของคนเราได้หรือไม่ เขากล่าวว่าหลังจากคุณเพิ่งได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ สมองของคนเราต้องการเวลาในการจดจำความรู้ใหม่ๆ นั้นได้อย่างแม่นยำและป้องกันไม่ให้หลงลืมได้ง่ายๆ เขากล่าวว่าในช่วง 24 ชั่วโมงแรกเป็นช่วงที่เกิดการหลงลืมมากที่สุด ดังนั้นช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่ทีมงานต้องการเข้าแทรกแซงด้วยสารคาเฟอีนเพื่อดูว่าเราจะสามารถลดอาการหลงลืมที่จะเกิดขึ้นในช่วง 24 ชั่วโมงแรกนี้ได้หรือไม่ ศาสตราจารย์ Yassa และทีมงานได้เปิดรับสมัครผู้เข้าร่วมการทดลอง 160 คน ที่ปลอดจากสารคาเฟอีน ในวันแรกของการทดลอง ทีมงานให้ผู้เข้าร่วมการทดลองดูภาพซึ่งเป็นสิ่งที่เห็นในชีวิตประจำวันทั่วไปหลายๆ ภาพแล้วถามว่าสิ่งที่เห็นในภาพสามารถพบได้ภายในบ้านหรือภายนอกบ้าน หลังจากนั้น ผู้เข้าร่วมการทดลองได้รับสารคาเฟอีนแบบเม็ดและบางคนได้รับสารคาเฟอีนหลอกและในวันรุ่งขึ้น พวกเขาจะต้องกลับไปที่ห้องทดลองอีกเพื่อดูภาพบางภาพต่ออีกโดยไม่รู้มาก่อนล่วงหน้า ศาสตราจารย์ Yassa กล่าวว่าภาพบางภาพที่ผู้เข้าร่วมการทดลองได้ดูเป็นภาพที่เหมือนกันกับภาพที่พวกเขาได้ดูไปแล้วในช่วง 24 ชั่วโมงก่อนหน้านั้นแต่มีบางภาพที่แตกต่างออกไป หลังจากนั้นพวกเขาต้องดูภาพในกลุ่มที่สามที่ได้รับการตกแต่งปรับเปลี่ยนและผู้เข้าร่วมการศึกษาต้องแยกแยะว่าเป็นภาพที่เหมือนหรือแตกต่างจากภาพอื่นๆ ที่ได้ดูไปก่อนหน้าหรือไม่ ปรากฏว่าผู้เข้าร่วมการศึกษาที่สามารถบอกได้ว่าเคยเห็นภาพนั้นมาก่อนหน้านี้แล้วเป็นคนที่ได้รับสารคาเฟอีนแบบเม็ดแสดงว่าสารคาเฟอีนช่วยให้พวกเขาจดจำได้ดีกว่าคนที่ไม่ได้รับสารคาเฟอีน