Tag: คลายเครียด

  • เคล็ดวิธีช่วยให้นอนหลับง่ายขึ้น

    เคล็ดวิธีช่วยให้นอนหลับง่ายขึ้น

    เคล็ดวิธีช่วยให้นอนหลับง่ายขึ้น ความเครียด ความวิตกกังวลทำให้ผู้คนในสังคมเป็นโรคนอนไม่หลับ หรือนอนหลับได้ยากขึ้นกันมาก และมีแนวโน้มที่จะมีอาการหนักขึ้น และเพื่อประชากรที่เป็นโรคนี้มากขึ้นไปเรื่อย ๆ ด้วย บางคนนั้นอาจแค่นอนไม่หลับชั่วคราว แต่บางอาจนอนไม่หลับเป็นสัปดาห์หรือเดือน ๆ ได้เลย จนต้องพึ่งยานอนหลับจนเสพติดยานอนหลับโดยไม่รู้ตัว อย่าเห็นเป็นเรื่องเล่น ๆ นะคะ การนอนไม่หลับทำให้ร่างกายไม่ได้รับการพักผ่อน สมองจึงไม่สดใส มึนงง ขาดสมาธิในการเรียนหรือการทำงาน ร่างกายก็อ่อนล้าและอ่อนแอลงไปเรื่อย ๆ ทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง เกิดความผิดพลาดง่ายขึ้นและเกิดอุบัติเหตุง่ายขึ้นไปตามไปด้วย โดยสาเหตุสำคัญของปัญหานอนไม่หลับในสมัยนี้ก็คือ ความเครียด ความวิตกกังวล การดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน ความเจ็บปวดด้วยโรคต่าง ๆ การติดยา หรือปัญหาเกี่ยวกับโรคทางระบบประสาทและจิตเวช เป็นต้น ซึ่งผู้ที่มีปัญหานอนไม่หลับมาเป็นเวลานาน ๆ ควรขอรับคำปรึกษาจากแพทย์ ส่วนผู้ที่เพิ่งเริ่มมีอาการนอนไม่หลับ ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตามเคล็ดลับต่อไปนี้ดูนะคะ – เข้านอนให้เป็นเวลาและตื่นให้เป็นเวลา ไม่ว่าจะง่วงหรือไม่ง่วงนอนก็ตาม – กำหนดระยะเวลาการนอนให้เพียงพอต่อความต้องการ ทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 7-8 ชั่วโมงต่อคืน – จัดบรรยากาศในห้องนอนให้เหมาะสมทั้งแสงสว่าง ความเย็นกำลังพอดี ที่นอนไม่นุ่มหรือแข็งเกินไป หมอนที่มีขนาดความนุ่มพอดี เงียบไม่มีเสียงรบกวน และไม่มีเครื่องใช้ไฟฟ้า อิเลคทรอนิกส์ทั้งหลายรบกวนด้วยจะดีมาก –…

  • 10 เคล็ดลับดูแลสุขภาพจิตใจในยามพบวิกฤต

    10 เคล็ดลับดูแลสุขภาพจิตใจในยามพบวิกฤต

    10 เคล็ดลับดูแลสุขภาพจิตใจในยามพบวิกฤต ในยามวิกฤตหรือยามที่พบกับเรื่องไม่คาดฝัน บางคนที่ไม่เคยฝึกสติเลย ก็มักจะจิตหลุด ตกใจ เครียดกันมากมาย ดังนั้นเมื่อเจอกับเรื่องไม่คาดฝันในชีวิตเรามาตั้งสติ และความกำลังใจในการแก้ปัญหากันดีกว่าค่ะ 1. เมื่อมีปัญหาเข้ามาให้ตั้งสติให้มั่นคง มองให้เห็นทุกปัญหาว่ามีทางออกเสมอ 2. มองหากำลังใจและที่พึ่งทางใจ ไม่ว่าจะเป็นกำลังใจจากครอบครัว จากครูบาอาจารย์ จากพระอาจารย์ในศาสนา การแสวงหาความเชื่อมั่นว่าชีวิตนี้ย่อมมีทางออกเสมอ และพยายามมองหาแง่บวก 3. เวลาเครียดให้หายใจเข้าออกลึก ๆ เพื่อเป็นการผ่อนคลายและเพิ่มสติมากขึ้น 4. แม้จะเครียดขนาดไหนก็ต้องนอนหลับให้พอเพียง อย่างน้อยวันละ 7-8 ชั่วโมง และเข้านอนแต่หัวค่ำด้วย 5. บางครั้งการได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้อื่นก็ช่วยเปิดโลกทัศน์ให้กว้างขึ้น เราจะมองเห็นทางออกได้ง่ายขึ้น หากเป็นบุคคลใกล้ชิดหรือคนในครอบครัวเท่ากับเป็นการเปิดใจให้ผูกพันกันมากขึ้น 6. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เท่าที่จะทำได้อย่างน้อยวันละครึ่งชั่วโมง วันเว้นวันก็ยังดี 7. หันหน้าเข้าหาวัดวา หรือศาสนาที่ตนนับถือเพื่อศึกษาหาความสงบและปัญญา 8. เข้าร่วมกิจกรรมในการช่วยเหลือผู้อื่น การได้นำตัวเองไปอยู่ในหมู่ผู้ที่มีปัญหาอาจได้แรงบันดาลใจการหาทางออกมากขึ้น หรือได้คิดว่าเรายังโชคดีกว่าผู้อื่นอยู่มาก 9. ทุกวันก่อนนอน ทบทวนว่าเกิดเรื่องอะไรดี ๆ ขึ้นในชีวิตบ้าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยเท่าไรก็ตาม เพื่อเป็นการสร้างสมกำลังใจ ทำให้มีความหวังในชีวิตมากขึ้น 10. เมื่อเผชิญกับปัญหาก็แก้ไปทีละเปลาะ ทำทีละขั้น…

  • การเลือกทานอาหาร ให้เหมาะกับ การออกกำลังกาย

    การเลือกทานอาหาร ให้เหมาะกับ การออกกำลังกาย

    การเลือกทานอาหาร ให้เหมาะกับ การออกกำลังกาย ประโยชน์ของการเล่นกีฬานั้นมีอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นความสามัคคีที่เกิดขึ้นหมู่ผู้แข่งขันและหมู่ผู้ที่เข้ามาเชียร์ เพื่อการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ เพื่อการคลายเครียด และที่สำคัญก็คือประโยชน์ต่อสุขภาพของผู้เล่น ช่วยให้ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง ทำให้ร่างกายมีกำลังวังชา ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานสอดประสานกันได้ดี อีกทั้งยังเหมาะสำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนักในกลุ่มผู้ที่มีน้ำหนักเกิน ทั้งยังช่วยเพิ่มน้ำหนักได้สำหรับคนที่ผอมเกินไป แม้การออกกำลังกายจะช่วยให้สุขภาพแข็งแรง ทำให้อวัยวะและระบบต่าง ๆ ทำงานได้ดี แต่ผู้ที่ออกกำลังกายก็จำเป็นต้องสังเกตสัญญาณเตือนที่ร่างกายบอกออกมาด้วย เช่น ออกกำลังกายนานหรือมากเกินไปจนกล้ามเนื้อปวดเมื่อยหรือไม่ หรือมีความอ่อนเพลียเพราะพักผ่อนน้อยไป หรือทานอาหารน้อยไปหรือเปล่า หรือการออกกำลังกายที่ผิดท่าทางหรือหักโหมมากเกินไปจนบาดเจ็บ ฯลฯ ดังนั้น ก่อนออกกำลังกายจึงจำเป็นต้องสังเกตอาการของร่างกาย รวมทั้งพลังงานจากอาหารที่เราทานเข้าไปด้วยว่าเหมาะสมกับการออกกำลังของเราหรือเปล่า นักกีฬาที่กำลังจะลงแข่งขันมักจะมีอาการตื่นเต้น และกังวลมากขึ้นจนอาจส่งผลต่อระบบต่าง ๆ ของร่างกาย บางคนก็ท้องเสีย ปวดปัสสาวะมาก ท้องอืด หรือเครียด ซึ่งส่งผลกระทบต่อการแข่งขัน ดังนั้นนักกีฬาควรเตรียมร่างกายให้พร้อมด้วยการทานอาหารที่เหมาะสม ทานอาหารที่คุ้นเคยจะได้ไม่สร้างปัญหาต่อระบบทางเดินอาหาร มีรสชาติไม่จัดเกินไป มีแป้งและน้ำตาลมากหน่อยเพื่อเป็นพลังงานกับร่างกาย มีความอ่อนนุ่ม เพื่อให้ร่างกายย่อยและดูดซึมได้เร็วจะได้ไม่หมดแรงเร็วเกินไปนัก ซึ่งการทานอาหารควรทานก่อนออกกำลังกายหรือลงแข่งขันประมาณ 2-3 ชั่วโมงเพื่อให้อาหารย่อยหมดก่อน หากลงเล่นกีฬาทั้งที่ยังมีอาหารอยู่ในกระเพาะแล้วอาจทำให้จุกเสียดและปวดท้องได้ การออกกำลังกายจะเผาผลาญพลังงานที่ร่างกายสะสมไว้ จึงทำให้รู้สึกหิวมากกว่าปกติ สำหรับผู้ที่กำลังลดน้ำหนักจึงควรมีสติในการกินดื่ม โดยเฉพาะของหวาน ๆ น้ำผลไม้ น้ำอัดลม…

  • วิธีเคี้ยวอาหาร 7 เลเวล ช่วยระบบย่อยแข็งแรง

    วิธีเคี้ยวอาหาร 7 เลเวล ช่วยระบบย่อยแข็งแรง

    วิธีเคี้ยวอาหาร 7 เลเวล ช่วยระบบย่อยแข็งแรง ยิ่งเคี้ยวอาหารให้ละเอียดมากเท่าไร ก็จะช่วยให้ระบบย่อยนับตั้งแต่กระเพาะอาหารเรื่องไปจนลำไส้เล็กและลำไส้ใหญ่ทำงานน้อยลง สารอาหารก็ถูกดูดซึมดีขึ้น ทำให้ร่างกายแข็งแรง แถมยังไม่อ้วนอีกด้วยนะคะ มีวิธีเคี้ยวอาหารถึง 7 เลเวลให้คุณดูเลยค่ะว่า การเคี้ยวนั้นยิ่งนานเท่าไรก็ยิ่งดีต่อสุขภาพนั่นเอง – เคี้ยวอาหารคำละ 30 ครั้ง จะช่วยให้เหงือกและกรามแข็งแรง ช่วยคลายเครียด คลายความหงุดหงิดลงได้ – เคี้ยวอาหารคำละ 50 ครั้ง จะช่วยอารมณ์หดหู่และวิตกกังวล แล้วยังช่วยลดความอ้วนได้อีกด้วย – เคี้ยวอาหารคำละ 60 ครั้ง ช่วยเพิ่มการทำงานของสมอง ลดอาการท้องผูก เหมาะมากสำหรับอาหารที่มีกากใยสูง ๆ – เคี้ยวอาหารคำละ 80 ครั้ง ทำให้ประสาทสัมผัสไวขึ้น สามารถจัดจำและแยกรสชาติของอาหารทั้งจากธรรมาชาติและสารปรุงอาหาร ทำให้ความจำดีขึ้นด้วย – เคี้ยวอาหารคำละ 100 ครั้ง ช่วยให้อารมณ์สงบเยือกเย็น มีสมาธิมากกว่าเดิม ร่างกายจึงดูดซึมอาหารได้ดีขึ้น ลดความอยากอาหารประเภทเนื้อสัตว์ต่าง ๆ ได้ – เคี้ยวอาหารคำละ 150 ครั้ง…