Tag: การติดเชื้อ
-
เชื้อราแคนดิดา อัลไบแคนส์ และ แบคทีเรียกสเตรปโทค็อกคัซ มูแทนส์ ตัวการก่อฟันผุ
เชื้อราแคนดิดา อัลไบแคนส์ และ แบคทีเรียกสเตรปโทค็อกคัซ มูแทนส์ ตัวการก่อฟันผุ เชื้อราแคนดิดา อัลไบแคนส์ และ แบคทีเรีย สเตรปโทค็อกคัซ มูแทนส์ ตัวการก่อฟันผุ มีผลการศึกษาถึงความเชื่อมโยงระหว่าง เชื้อแบคทีเรียสเตรปโทค็อกคัซ มูแทนส์ ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดคราบเพลก, คราบจุลินทรีย์ และไบโอฟิล์ม ที่นำเป็นต้นเหตุของฟันผุ กับเชื้อราแคนติดา อัลไบแคนส์ เชื้อหาที่จะสะสมบริเวณลิ้นและกระพุ้งแก้มหากมีการติดเชื้อ พบว่า ในกรณีที่ผู้ป่วยมีประวัติฟันดุแต่เด็ก จะพบแบคทีเรียสเตรปโทค็อกคัซ และเชื้อรา แคนดิดาเกาะอยู่กับคราบเพลกบนฟัน ที่สเตรปโทค็อกคัซ ใช้กระบวนการย่อยสลายเปลี่ยนคาร์โบไฮเดรต และน้ำตาล เป็นสารเหนียวเคลือบฟัน ทั้งยังเพิ่มความเสียหายต่อการสลายแร่ธาตุซึ่งเป็นโครงสร้างของฟัน จึงทำให้ฟันผุได้ง่ายกว่าการตรวจพบแต่เชื้อแบคทีเรียกสเตปโทค็อกคัซ เพียงตัวเดียว อีกทั้งผู้เชี่ยวชาญยังแนะนำอีกว่า แม้ฟันผุในวัยเด็กจะเป็นฟันน้ำนม แต่ความเคยตัวในการกินแต่อาหารหวานและน้ำอัดลม รวมไปถึงการละเลยไม่ทำความสะอาดฟัน เป็นปัจจัยเสี่ยงของฟันผุร้ายแรงได้เมื่อเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่
-
ตกขาว… อาการน่ากลุ้มใจของหญิงสาว แต่รักษาไม่ยาก
ตกขาว… อาการน่ากลุ้มใจของหญิงสาว แต่รักษาไม่ยาก >> วันนี้มาไขข้อข้องใจของสาว ๆ หลายคนกันเกี่ยวกับอาการของตกขาวกันนะคะ << ตกขาวหรือระดูขาว นั้นเกิดจากการทำงานของฮอร์โมนเพศในเพศหญิง เป็นโรคที่ไม่รุนแรง แต่ก็อาจกลับเป็นรุนแรงได้ ดังนั้นสำหรับแพทย์ อาการตกขาวหรือระดูขาวจึงมีความสำคัญไม่แพ้โรคอื่น ๆ ซึ่งลักษณะของตกขาวนั้น จะมีของเหลวไหลออกมาจากช่องคลอดเป็นเมือกใส สีขาวขุ่น ไม่ใช่ประจำเดือน และลักษณะของตกขาวจะขึ้นอยู่กับสภาวะโรค และสภาวะของแต่ละคนไป สาเหตุของตกขาวเกิดได้จากสาเหตุดังนี้ 1. เกิดจากการติดเชื้อ เชื้อแบคทีเรีย เชื้อราหรือพยาธิในช่องคลอดก็ได้ โดยตกขาวประเภทนี้จะมีลักษณะเด่นเฉพาะตัวซึ่งสามารถแยกแยะได้ 2. เกิดจากเชื้อไวรัส มีที่มีการติดต่อกันผ่านการมีเพศสัมผัสกับผู้ที่มีเชื้ออยู่แล้ว มีอาการที่แตกต่างกันไปแล้วแต่โรค เช่น โรคเริม ก็มีลักษณะตุ่มใสๆ ขนาดเล็ก แต่ถ้าตุ่มแตกจะแสบ และตกขาวก็มีกลิ่นด้วย 3. เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ทำให้มีอาการคันในบางราว และมีกลิ่นคาวหลังจากมีเพศสัมพันธ์ มีสาเหตุมาจากโรคหนองในที่เกิดกับเพศชาย ทำให้คู่นอนมีอาการปัสสาวะแสบหรือคันได้ ฯลฯ 4. เกิดจากเชื้อรา เป็นเชื้อราจากการใช้ยาปฏิชีวนะ หรือผู้ป่วยที่มีภูมิต้านทานต่ำ เช่น ป่วยเป็นโรคเบาหวาน อาการของตกขาวนั้นจะมีสีเหลืองหรือสีขาว ขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย มีก้อนเล็ก ๆ หรือมีกลิ่นคล้ายนมบูด…
-
การปลูกถ่ายอุจจาระ ช่วยรักษาโรคติดเชื้อในระบบอาหารได้
การปลูกถ่ายอุจจาระ ช่วยรักษาโรคติดเชื้อในระบบอาหารได้ แพทย์อเมริกันในรัฐโคโลราโด้ชี้ว่าการรักษาโรคติดเชื้อในระบบทางเดินอาหารด้วยการปลูกถ่ายอุจจาระได้ผลกว่าการใช้ยาปฏิชีวนะ ที่มหาวิทยาลัย Colorado State University ใน Fort Collins บรรดาสัตวแพทย์ที่นี่บำบัดสัตว์ป่วยด้วยแบคทีเรียในลำใส้ที่มีประโยชน์ ที่ได้รับบริจาคจากสัตว์ที่เเข็งเเรง อย่างวัวขาวดำที่ชื่อ Hershey ตัวนี้ คุณ ร็อบ คัลลัน กำลังเก็บเชื้อแบคทีเรียในลำใส้จากเจ้า Hershey ตามปกติ เขากล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่าเขาจะเก็บเชื้อแบคทีเรียที่มีคุณจากลำใส้ของวัวตัวนี้สองครั้งต่อสัปดาห์เพื่อนำไปรักษาสัตว์ที่ป่วย เจ้าวัว Hershey บริจาคเชื้อเเบคทีเรียในลำใส้ให้แก่ทางมหาวิทยาลัยมานานแปดปีเเล้วและคุณคัลลันคิดว่ามันน่าจะช่วยรักษาสัตว์ป่วยไปแล้วอย่างน้อยแปดร้อยตัว คุณคัลลันเก็บเชื้อแบคทีเรียออกจากลำใส้ของวัวโดยตรง ผ่านทางท่อพลาสติกขนาดเล็กที่สอดอยู่ด้านข้างลำตัวของวัว เขากล่าวว่าคนมักจะถามเสมอว่าวัวเจ็บหรือไม่ เขากล่าวว่าเมื่อแผลหายดีหลังจากการฝังท่อพลาสติกไปแล้ว วัวจะไม่รู้สึกเจ็บหรือรำคาญเพราะท่อจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของผิวหนัง ขณะที่วัว Hershey มองดูอย่างสงบเงียบ คุณคัลลันเปิดท่อฝาท่อพลาสติกเพื่อดูอาหารที่ย่อยสลายในลำใส้ของวัว ซึ่งเป็นหญ้าเขียว เปียกและอุ่น มีกลิ่นแรง กลิ่นดังกล่าวเกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่ย่อยสลายหญ้า เชื้อแบคทีเรียในลำใส้นี้เป็นประโยชน์และสามารถนำไปต่อต้านกับเชื้อเเบคทีเรียในลำใส้ที่เป็นอันตรายต่อร่างกายได้ ทีมงานสัตวแพทย์ใช้หลอดสอดเข้าไปในท่อพลาสติดข้างท้องของวัว Hershey เพื่อดูดเอาของเหลวสีเขียวออกมาจากลำใส้ของวัว สัตวเเพทย์เจนนิเฟ่อร์ โกลด กล่าวว่าของเหลวสีเขียวที่มีแบคทีเรียในลำใส้นี้จะนำไปถ่ายให้แก่วัวอีกตัวหนึ่ง ผ่านท่อที่สอดลงไปในคอ เพื่อให้ลงไปในกระเพาะและส่งต่อไปยังลำใส้ เธอบอกว่าหากม้าป่วยด้วยอาการท้องร่วง สัตวแพทย์สามารถใช้อุจจาระอ่อนจากลำใส้ของม้าที่เเข็งเเรง นำไปบดแล้วฉีดเข้าไปในลำใส้ของม้าป่วยผ่านทางปาก วิธีบำบัดสัตว์ป่วยด้วยอุจจาระจากสัตว์ที่แข็งเเรงเป็นวิธีที่สัตวแพทย์ใช้กันมานานแล้ว เมื่อห้าสิบปีที่แล้ว ความสำเร็จของวิธีบำบัดนี้ในการรักษาโรคติดเชื้อในระบบทางเดินอาหารในคน เป็นเเรงผลักดันให้นายแพทย์สตีฟ ฟรีแมน ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบบทางเดินอาหารแห่งมหาวิทยาลัย University…
-
องค์การอนามัยโลก กล่าวเตือนผู้คนทั่วโลก มีเปอร์เซ็นต์เป็นโรคมะเร็งมากขึ้น กว่าร้อยละ 57
องค์การอนามัยโลก กล่าวเตือนผู้คนทั่วโลก มีเปอร์เซ็นต์เป็นโรคมะเร็งมากขึ้น กว่าร้อยละ 57 องค์การอนามัยโลกรายงานว่าจำนวนคนเป็นมะเร็งทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นจากประมาณ 14 ล้านคนต่อปีในปีนี้เป็นปีละ 22 ล้านคนภายใน 20 ปีข้างหน้าและยังคาดว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากมะเร็งจะเพิ่มขึ้นจาก 8 ล้าน 2 เเสนคนเป็น 13 ล้านคนต่อปี Dr. Bernard Stewart ผู้เชี่ยวชาญที่ร่วมร่างรายงานดังกล่าวเปิดเผยว่าผู้ป่วยมะเร็งส่วนมากอยู่ในประเทศกำลังพัฒนา ปัจจุบันมากกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ของผู้เป็นมะเร็งทั้งหมดเป็นคนในอาฟริกา เอเชีย อเมริกากลางและอเมริกาใต้และจากจำนวนผู้เสียชีวิตจากมะเร็งทั้งหมดทั่วโลก ราว 70 เปอร์เซ็นต์เป็นผู้ป่วยมะเร็งจากทวีปต่างๆ สำหรับประเทศรายได้น้อยและรายได้ปานกลาง การเกิดมะเร็งมีความเกี่ยวข้องกับการติดเชื้อ อาทิ มะเร็งปากมดลูกที่เกิดจากการติดเชื้อ human papillomavirus และมะเร็งตับที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ สาเหตุที่คนเป็นมะเร็งเพิ่มขึ้นในประเทศกำลังพัฒนายังเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตยุคอุตสาหกรรมและไม่มีการตรวจหามะเร็งแต่เนิ่นๆ Dr. Stewart ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าประเทศรายได้น้อยและปานกลางมักขาดการบริการด้านการตรวจสุขภาพเพื่อตรวจหาโรค ทำให้ไม่รู้ว่าเป็นมะเร็งจนกระทั่งโรคกำเริบ ดังนั้นอัตราการรอดชีวิตของผู้ป่วยจึงมีน้อย รายงานขององค์การอนามัยโลกเตือนว่าการบำบัดมะเร็งเพียงอย่างเดียวไม่สามารถลดอัตราการเสียชีวิตจากมะเร็งได้ จะต้องใช้มาตรการป้องกันการเกิดมะเร็งที่มีประสิทธิภาพร่วมด้วยและต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน Dr. Stewart กล่าวว่าการรณรงค์ให้มีการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัสบางชนิดสามารถช่วยลดอัตราการเกิดมะเร็งบางประเภทลงได้ นอกจากนี้การรณรงค์ต่อต้านการสูบบุหรี่และการดื่มสุรา การสร้างความตื่นตัวเกี่ยวกับการป้องกันโรคอ้วนและลดการบริโภคน้ำตาลน่าจะมีบทบาทในการช่วยลดการเกิดมะเร็งบางชนิดลงได้เช่นกัน รายงานการศึกษาการเกิดมะเร็งทั่วโลกขององค์การอนามัยโลกนี้เป็นผลงานการวิจัยจากความร่วมมือของบรรดานักวิทยาศาสตร์มากกว่า 250 คนจาก 40 ประเทศ