Tag: กระแสเลือด

  • นักวิจัยค้นพบลักษณะการแพร่ของเชื้อมาลาเรียในร่างกายคน

    นักวิจัยค้นพบลักษณะการแพร่ของเชื้อมาลาเรียในร่างกายคน

    นักวิจัยค้นพบลักษณะการแพร่ของเชื้อมาลาเรียในร่างกายคน เมื่อยุงดูดเลือดจนอิ่มแล้วยุงตัวเมียที่มีเชื้อมาลาเลียจะฉีดเชื้อโรคนับพันตัวเข้าไปในกระแสเลือดของเหยื่อ  เภสัชศาสตร์กล่าวว่า ตัวเชื้อโรคจะแตกตัวอย่างรวดเร็วทันทีที่เข้าไปสู่เซลล์เม็ดเลือดแดง เชื้อโรคนับพันๆตัวจะเพิ่มทวีคูณอย่างรวดเร็ว และเชื้อโรคแต่ละตัวจะแตกออกเป็น 24 ถึง 32 ตัวภายใน 48 ชั่วโมง เป็นการขยายจำนวนอย่างรวดเร็วมาก ทีมงานวิจัยค้นพบว่า ขณะอยู่ในเซลล์ในเม็ดเลือดแดง ตัวเชื้อมาลาเรียจะใช้สารโปรตีนหลายชนิดในการแตกตัว หลังจากดูดกินสารอาหารที่หล่อเลี้ยงเซลล์แล้ว ตัวเชื้อโรคที่เพิ่งแตกตัวออกมาใหม่จะทะลุทะลวงผนังเซลล์เม็ดเลือดแดงออกมาสู่กระแสเลือด เพื่อเข้าไปเเพร่เชื้อในเซลล์เม็ดเลือดแดงตัวใหม่แล้วขยายเพิ่มจำนวนเป็นล้านๆตัว หลังจากฟักตัวนานหนึ่งถึงสองสัปดาห์ ผู้ติดเชื้อมาลาเรียจะเริ่มแสดงอาการป่วย มีไข้สูง หนาวสั่นและเหงื่อออก สารโปรตีนในเซลล์เม็ดเลือดแดงที่เป็นเป้าหมายของเชื้อมาลาเรียอาจนำไปสู่การบำบัดมาลาเรียด้วยยาแบบรับประทานตัวใหม่ที่เรียกว่ายาโซทราสะโตร์อิน (sotrastaurin) เมื่อเข้าสู่กระแสเลือด เชื้อมาลาเรียจะเข้าไปจับตัวกับสารโปรตีนที่เรียกว่าเอนไซม์ PKC ทำให้โครงสร้างสารโปรตีนอ่อนแอ ทำให้เซลล์ฺถูกแยกออกจากกันจนไม่สามารถทำหน้าที่ได้ตามปกติ ยาโซทราสะโตร์อินจะมีฤทธิ์ไปบล็อคไม่ให้เชื้อมาลาเรียเข้าไปถึงตัวเอนไซม์ PKC ได้ เป็นการตัดวงจรไม่ให้เชื้อโรคแตกตัวเพิ่มจำนวนได้ นักวิจัยจึงได้ทำการทดลองใช้ยาโซทราสะโตร์อินในการบำบัดมาลาเรียในหนูทดลองแล้วปรากฏว่าจำนวนเชื้อมาลาเรียในหนูลดลงอย่างรวดเร็ว ตัวยาโซทราสะโตร์อินกำลังอยู่ระหว่างทดลองรักษาในคนเพื่อบำบัดอาการต่อต้านการปลูกถ่ายอวัยวะในคน เนื่องจากยาตัวนี้เป็นยาที่ออกฤทธิ์ต่อโปรตีนในเซลล์เม็ดเลือดของมนุษย์ เชื้อมาลาเรียจึงไม่สามารถพัฒนาต่อต้านต่อยาชนิดนี้ได้

  • เอ็นไซม์ของส้มโอ มีปฏิกริยากับยาบางชนิด หากทานร่วมกัน อาจส่งผลอันตรายได้

    เอ็นไซม์ของส้มโอ มีปฏิกริยากับยาบางชนิด หากทานร่วมกัน อาจส่งผลอันตรายได้

    เอ็นไซม์ของส้มโอ มีปฏิกริยากับยาบางชนิด หากทานร่วมกัน อาจส่งผลอันตรายได้ ในส้มโอมีเอ็นไซม์ที่เรียกว่า CYP23A4 ที่มีปฏิกริยากับยารักษาโรคบางชนิดในกระเพาะอาหารและลำใส้ ทำให้ผลของยาลดลงหรือไม่ก็ไปเพิ่มฤทธิ์ของยาในกระเเสเลือดให้รุนแรงมากขึ้นถึงขั้นเป็นอันตรายได้ ยาที่มีปฏิกริยาทางลบหากรับประทานร่วมกับส้มโอได้แก่ยาลดไขมันในเส้นเลือดและยาลดระดับความดันโลหิต ปริมาณน้ำส้มโอที่ดื่มไม่ว่าจะมากเป็นลิตรๆ หรือจะแค่แก้วเดียวก็ล้วนมีผลต่อฤทธิ์ของยาบางชนิดเช่นเดียวกัน ปฏิกริยาทางลบนี้อาจะทำใ้ห้เกิดอาการเลือดออกในลำใส้ การทำงานของอวัยวะในระบบทางเดินหายใจล้มเหลว และเกิดการเสียชีวิตอย่างฉับพลัน อาการป่วยจากฤทธิ์ของยาที่ทวีคูณขึ้นอาจจะเกิดขึ้นหลังดื่มน้ำส้มโอไปนานแล้วก็ได้ ผู้เชี่ยวชาญด้านยาเผยว่า ต้องเผยแพร่ข้อมูลนี้ให้แพทย์รับรู้เพื่อให้สามารถแนะนำในการใช้ยาที่ถูกต้องและปลอดภัยแก่ผู้ป่วย ยารักษาโรคที่ได้รับผลกระทบจากน้ำส้มโอมักจะเป็นยารับประทาน โดยปกติแล้วฤทธิ์ยาจะเข้าไปในกระแสเลือดเพียงเล็กน้อยหลังจากคนไข้กลืนยาลงไป แต่ระดับฤทธิ์ของยาจะเพิ่มสูงขึ้นจนถึงระดับอันตรายหากมีการรับประทานส้มโอหรือดื่มน้ำส้มโอตามลงไปหรือก่อนหน้าเนื่องจากเอ็นไซม์ CYP23A4 จากส้มโอจะไปทำปฏิกริยากับยาในกระเพาะอาหาร ผู้เชี่ยวชาญด้านยาแนะนำในเรื่องนี้ว่า ก่อนซื้อยา คุณควรสอบถามแพทย์ประจำตัวหรือเภสัชกรที่ร้ายขายยาเสียก่อนว่ายาที่จะซื้อนั้นสามารถรับประทานร่วมกับส้มโอหรือน้ำส้มโอได้หรือไม่