Tag: กรมควบคุมโรค
-
ดูแลลูก ๆ ของคุณให้ห่างไกลจากการ “จมน้ำ”
ดูแลลูก ๆ ของคุณให้ห่างไกลจากการ “จมน้ำ” ทุกฤดูกาล เรามักได้ยินข่าวเด็กจมน้ำกันเป็นประจำทุกปี ไม่ว่าในชุมชนจะมีมาตรการป้องกันมากขนาดไหนก็ยังมีข่าวเหล่านี้พาดหัวกันให้สงสัยกันตลอดว่า เพราะอะไรจึงมักเกิดอุบัติเหตุที่คาดไม่ถึงเหล่านี้ขึ้นได้ แต่จากข้อมูลขอสำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข นั้นได้รายงานว่า การจมน้ำนั้นเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งของเด็กไทยเลยทีเดียว โดยเฉลี่ยถึงปีละกว่า 1,500 คน ซึ่งปัจจัยเสี่ยงนั้นเกิดจาก – เด็กอายุต่ำกว่าห้าขวบนั้น มักทรงตัวยังไม่ดี ทำให้ล้มในท่าศีรษะทิ่มได้ง่าย – เด็กมักจมน้ำในแหล่งน้ำใกล้บ้าน เช่น กะละมัง ถังน้ำ บ่อน้ำ แอ่งน้ำ – หากเป็นเด็กที่อายุมากกว่าห้าขวบ แล้วเริ่มออกไปเล่นนอกบ้าน ก็มักพบว่าเด็กจะจมน้ำตามแหล่งน้ำธรรมชาติ คลอง บึง หรือแหล่งน้ำที่ขุดเพื่อทำการเกษตรในละแวกบ้านโดยที่ชุมชนหรือผู้ดูแลไม่รู้ว่าแหล่งนั้นนั้นมีความอันตรายต่อเด็ก ๆ นอกจากการต้องดูแลเด็ก ๆ ของคุณอย่างใกล้ชิดแล้ว ยังต้องมีการร่วมมือกันเพื่อจัดการสิ่งแวดล้อมมิให้เด็กเข้าถึงแหล่งนั้นอันจะเกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝันได้ดังนี้ – ในชุมชนหรือในครอบครัวควรสอนเด็ก ๆ ให้ว่ายน้ำให้เป็นทุกคน รู้จักการเอาชีวิตรอดเมื่อตกน้ำ วิธีการช่วยเหลือผู้อื่นเมื่อพบคนจมน้ำ สอนว่าให้วิ่งไปเรียกผู้ใหญ่มาช่วย อย่ากระโดดลงไปเอง สอนว่าให้ยื่นอุปกรณที่อยู่ใกล้ตัวเพื่อช่วยคนจมน้ำ เช่น เชือก กิ่งไม้ ขวดน้ำดื่มเปล่า ถังเปล่า ฯลฯ…
-
เตือนภัยสุขภาพช่วงสงกรานต์
เตือนภัยสุขภาพช่วงสงกรานต์ นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ได้กล่าวว่า นอกจากการต้องเฝ้าระวังในเรื่องของอุบัติเหตุในการเดินทางระหว่างวันหยุดช่วงเทศกาลสงกรานต์แล้ว สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามก็คือการระวังการติดเชื้อจากการเล่นสาดน้ำสงกรานต์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องระวังมากที่สุด เพราะน้ำที่นำมาสาดเล่นกันนั้น อาจมีการปนเปื้อนเชื้อโรคที่ก่อให้เกิดโรคร้ายต่าง ๆ ได้ โดยตลอดหลายปีที่ผ่านมาพบผู้ป่วยเด็กและผู้ใหญ่ที่ติดเชื้อโรคที่มากับน้ำในช่วงสงกรานต์ของทุกปี โดยดวงตาของผู้ป่วยจะเป็นจุดที่เสี่ยงต่อการติดโรคมากที่สุด เพราะ ดวงตาสามารถสัมผัสกับน้ำหรือเชื้อโรคที่ปนเปื้อนได้ง่ายที่สุดนั้นเอง ซึ่งอาจก่อให้เกิดอาการเปลือกตาและเยื่อบุตา ตลอดจนกระจกตาอักเสบ หรือติดเชื้อรุนแรง จนอาจลุกลามเข้าในไปในช่องลูกตาได้ ทำให้ลูกตาอักเสบจนกระทั่งรุนแรงจนตาบอดได้ด้วย อีกทั้งหากเป็นน้ำที่ปะปนฝุ่น ดิน ทราย เศษเหล็ก เศษแก้ว ก็อาจไปเกาะติดกับเยื่อบุตา หากมีการขยี้ตาอย่างรุนแรง ก็อาจทำให้สิ่งเหล่านี้ขูดขีดกระจกตา ทำให้เกิดแผลถลอกและติดเชื้อเป็นแผลบนกระจกตาได้ ดังนั้นผู้ปกครองควรใส่ใจและดูแลเด็ก ๆ ที่เล่นน้ำอย่างใกล้ชิด หากพบว่ามีสิ่งแปลกปลอมเข้าตา ควรให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นด้วยการล้างน้ำสะอาด หรือลืมตาในน้ำแล้วกลอกตาไปมา เพื่อให้สิ่งแปลกปลอมหลุดออก แต่ถ้ามีสารเคมีปะปนในน้ำด้วย ควรล้างน้ำด้วยการให้น้ำไหลผ่านตามาก ๆ แล้วรีบนำส่งแพทย์โดยด่วน อีกทั้งในช่วงสงกรานต์ซึ่งมีอากาศร้อนยังมีโรคที่ต้องเฝ้าระวังอื่น ๆ อีก เช่น โรคทางเดินอาหาร โรคทางเดินหายใจ โรคตาแดง ไข้หวัด และไข้หวัดใหญ่ ตลอดจน โรคปอดบวมและอุจจาระร่วง จึงควรระวังในเรื่องของอาหารการกินและน้ำดื่มที่ต้องดื่มแต่น้ำสะอาด สำหรับโรคทางเดินหายใจมักจะเกิดจากเล่นน้ำในขณะที่อากาศร้อนจัด ซึ่งมักเกิดกับผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำ…