Tag: โรคมะเร็ง

  • ทำไม? เราจึงควรงดดื่มเหล้าในช่วงเข้าพรรษา

    ทำไม? เราจึงควรงดดื่มเหล้าในช่วงเข้าพรรษา

    ทำไม? เราจึงควรงดดื่มเหล้าในช่วงเข้าพรรษา เพราะคนไทยเรานับถือศาสนาพุทธ  คนส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเป็นวัยไหน รุ่นไหน จึงมักจะใช้วันสำคัญทางศาสนามาเป็นฤกษ์งามยามดีในการเริ่มต้นทำอะไรใหม่ ๆ หรือการลดเลิกสิ่งที่ไม่เป็นมงคลกับชีวิต  ดังนั้นทุกปี วันเข้าพรรษานอกจากจะเป็นวันที่พ่อแม่มักจะบวชลูกชายตามประเพณี เพราะเชื่อว่าได้บุญมากแล้ว ไม่กี่ปีมานี้ยังเป็นวันที่ร่วมกันรณรงค์เพื่อเริ่มต้นงดดื่มสุราด้วย ซึ่งการงดดื่มสุรานี้ก็ถือเป็นการถือบวชในรูปแบบหนึ่งด้วย เรียกว่าการบวชทางใจนั้นเอง  เป็นการตั้งจิตอธิษฐานเพื่อขอละเว้นหรือไม่ยุ่งเกี่ยวกับอบายมุขทั้งหลาย  รวมไปถึงการดื่มเหล้าที่จะทำให้เกิดผลเสียหายตามมาอีกมากมาย ทั้งต่อตนเองและผู้อื่นในสังคม  รวมทั้งการดื่มสุรายังทำลายความอบอุ่นในครอบครัวมากกว่าครอบครัวที่ไม่ดื่มสุรา 4 เท่า (จากผลการสำรวจ) รวมทั้งยังเป็นต้นเหตุของการหย่าร้างในคู่สามีภรรยาอีกมากด้วย การดื่มเหล้าไม่ได้สร้างปัญหาให้กับสังคมและคนรอบข้างเท่านั้น  แม้สุขภาพของผู้ที่ดื่มเองก็ถูกทำลายด้วยเช่นกัน  จากการวิจัยพบว่าผู้ที่ดื่มสุราวันละ 20-40 กรัม (ของแอลกอฮอล์บริสุทธิ์)  หรือเทียบเท่ากับเบียร์ 1-2 ขวด  จะมีความเสี่ยงในการเป็นโรคตับแข็งมากกว่าผู้ที่ไม่ดื่มถึงเกือบ 10 เท่า!  นั่นเป็นเพราะเมื่อคุณดื่มแอลกอฮอล์เข้าไป มันจะเข้าทำลายตับ ร่างกายจึงยึดพังผืดเพื่อยึดเซลล์ไว้ทำให้ตับที่อ่อนนุ่มอยู่แข็งตัวขึ้น  และทุกครั้งที่คุณดื่มเหล้าเข้าไป ตับก็จะยิ่งแข็งขึ้น ๆ ไปเรื่อย ๆ จนกลายเป็นตับแข็งในที่สุด  อีกทั้งนอกจากทำอันตรายกับตับแล้ว ยังทำเกิดมะเร็งชนิดส่วนต่าง ๆ ได้อีกมาก ไม่ว่าจะเป็นมะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งช่องปาก ฯลฯ มากกว่าผู้ที่ไม่ดื่มถึง 3 เท่า! เมื่อเห็นได้ชัดแล้วว่าการดื่มเหล้าไม่ทำให้เกิดประโยชน์ใด…

  • ล้างสารพิษในร่างกาย ง่ายๆ ด้วยตัวเอง

    ล้างสารพิษในร่างกาย ง่ายๆ ด้วยตัวเอง

    ล้างสารพิษในร่างกาย ง่ายๆ ด้วยตัวเอง คุณจะรู้หรือไม่ว่า…. การล้างสารพิษที่ตกค้างอยู่ในร่างกายของเราออกไป นั้นจะช่วยทำให้ร่างกายของเราแข็งแรงขึ้น และช่วยให้เลือดลมเดินสะดวก ยิ่งถ้าทำเป็นประจำ ก็จะช่วยฟื้นฟูสุขภาพร่างกายที่ทรุดโทรมลง และยังช่วยรักษาโรคร้ายอย่าง “มะเร็ง“ รวมถึงโรคภูมิแพ้ โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง หอบหืด เบาหวาน รวมกระทั่งลดความอ้วนได้อีกด้วย หัวใจหลักๆของการทำงานในการล้างสารพิษในร่างกาย 1 วัน คือ จะต้องทานให้ได้แคลลอรี่ที่น้อยกว่า 800 แคลลอรี่ เพื่อให้ระบบย่อยอาหารและตับได้มีการพักผ่อน และต่อจากนั้น ตับก็จะขับสารพิษออกมา และอาหารที่เราทานเข้าไปในวันนั้นจะต้องไม่มีเนื้อสัตว์ปะปนเด็ดขาด หากเข้าใจกันดีแล้ว เรามาเข้าสู่ขั้นตอนการล้างสารพิษกันเลยค่ะ 1. เลือกผลไม้ที่เราชื่นชอบมา 1 ชนิด อย่างเช่น ฝรั่ง แคนตาลูป มะละกอ แอปเปิ้ล ชมพู่ มะม่วง ส้มโอ หรืออะไรก็ตาม แต่จะมีผลไม้ที่ต้องยกเว้นไว้ 2 อย่าง คือ ทุเรียนและสับประรด เนื่องจากในทุเรียนจะมีแคลลอรี่สูงมาก และยังย่อยยากอีกด้วย ส่วนในสับประรดนั้น จะมีกรดที่สูง ถ้าหากต้องทานทั้งวัน จะทำให้เราท้องอืดได้ 2. ทานแต่ผลไม้ที่เราเลือก…

  • สูตรน้ำเต้าหู้ อาหารเสริมเพื่อสุขภาพและสมอง !

    สูตรน้ำเต้าหู้ อาหารเสริมเพื่อสุขภาพและสมอง !

    สูตรน้ำเต้าหู้ อาหารเสริมเพื่อสุขภาพและสมอง ! สวัสดีค่ะ… วันนี้เรามีเคล็ดลับ การนำน้ำเต้าหูมาเป็นอาหารเสริม ช่วยในเรื่องบำรุงสุขภาพ ร่างกาย และสมอง แถมยังช่วยในเรื่องของสายตา ยิ่งถ้ารับประทานเป็นประจำ ยังมีสรรพคุณอีกหลายๆอย่าง ที่ช่วยพัฒนาและบำรุงร่างกายของเรา ลองไปดูกันว่า สูตรน้ำเต้าหู้บำรุงร่างกายนี้มีอะไรบ้าง? 1. น้ำเต้าหู้ 1 ถ้วย : จะต้องใช้น้ำเต้าหู้ที่ไม่ใส่น้ำตาลทราย ใช้น้ำเต้าหู้อุ่น ไม่ร้อน ไม่เย็น 2. น้ำมะนาว : ใช้มะนาว 1 ลูก วิธีทำก็ง่ายแสนง่าย เพียงแค่น้ำน้ำมะนาวใส่ลงไปในน้ำเต้าหู้ แล้วคนให้เข้ากัน เมื่อใส่น้ำมะนาวลงไป น้ำเต้าหูจะมีลักษณะข้น หรือคล้ายๆวุ้นหรือโจ๊ก เพียงเท่านี้ก็เป็นอันเรียบร้อย ถึงหน้าตาจะดูไม่น่าทาน แต่ขอบอกไว้เลยว่า ช่วยบำรุงสุขภาพได้จริง และมีสรรพคุณต่างๆดังนี้ 1. ช่วยให้ระบบเส้นเลือดฝอยในร่างกาย มีความยืดหยุ่นดี ไม่เปราะหรือแตกง่าย หากคนที่มีปัญหาในเรื่องของเส้นเลือดฝอยเปราะ หรือแตกง่าย หรือมีเลือดออกตามร่างกาย เช่น เลือดออกที่เยื่อบุตาขาว หรือในคุณผู้หญิงที่มักจะมีรอยจ้ำ เขียวในเวลาที่ถูกกระแทกได้ง่าย หรือในผู้สูงอายุ ที่มักมีเลือดออกใต้ผิวหนัง เมื่อทานสูตรนี้เข้าไปแล้ว…

  • World Cancer Research Fund แห่งประเทศอังกฤษ ยันอาหารไทยมีคุณค่าทางโภชนาการสูง!

    World Cancer Research Fund แห่งประเทศอังกฤษ ยันอาหารไทยมีคุณค่าทางโภชนาการสูง!

    World Cancer Research Fund แห่งประเทศอังกฤษ ยันอาหารไทยมีคุณค่าทางโภชนาการสูง! มีองค์การที่สำคัญแห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักร ก็คือ องค์กรวิจัยมะเร็งโลก หรือ World cancer research fund ได้แนะนำให้คนในชาติของตนเองเมื่อไปทานอาหารนอกบ้านหรือนอกประเทศแล้ว ให้ทานอาหารจากประเทศจีน อิตาลี อินเดีย และอาหารไทย เพราะจัดว่าเป็นอาหารที่คุณค่าทางโภชนาการสูงและมีประโยชน์ต่อร่างกายมาก นั่นเป็นเพราะว่าอาหารไทยเองเป็นอาหารที่รสชาติอร่อย มีสัดส่วนของสารอาหารที่พอเหมาะและมีคุณภาพ มีความแตกต่างกันไปตามภูมิภาค และมีให้อาหารให้เลือกกินหลากหลายในแต่ละฤดูกาล แต่สำหรับคนไทยกลับกินอาหารไทยน้อยลงเอง มีการดัดแปลงสูตรกันมากขึ้น หรือนิยมทานอาหารจานด่วนกันมากขึ้น ซึ่งอาหารจานด่วนเหล่านี้ มักมีแคลอรี่สูง มีสัดส่วนของแป้ง ไขมัน และเนื้อสัตว์มากขึ้น ปรุงแต่งรสชาติมากขึ้น เพิ่มนมเนย ไขมันต่าง ๆ เข้าไปมากกว่าเดิม สมดุลของสารอาหารจึงเสียไป ทำให้ตัวคนไทยเองมีภาวะเป็นโรคอ้วนกันมากขึ้น สุขภาพเสื่อมโทรม ทั้งที่เป็นเจ้าของอาหารที่ดีที่สุดชนิดหนึ่งในโลก แล้วในอาหารไทยมีดีอะไร ต่างชาติจึงแนะนำให้ทานกัน หากจะนับอาหารที่เด่น ๆ และอร่อยถูกปากชาวต่างชาติ ก็ได้แก่ – ต้มยำต่าง ๆ มีแคลอรี่ต่ำ มีสมุนไพรบำรุงร่างกาย และมีโปรตีนจากเนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมันสูง – แกงเลียง…

  • ผู้ป่วย “ไมเกรน” ระวังอาหารดังต่อไปนี้

    ผู้ป่วย “ไมเกรน” ระวังอาหารดังต่อไปนี้

    ผู้ป่วย “ไมเกรน” ระวังอาหารดังต่อไปนี้ คนที่มีโรคประจำตัว อย่างโรคไมเกรนนี่ จำเป็นต้องระวังการใช้ชีวิตประจำวันมากกว่าคนทั่วไป ยิ่งโดยเฉพาะอาหารแล้ว หากทานไม่ระวังอาจทำให้ร่างกายได้รับสารไทรามีน และ ไนไตรต์ เข้าไป เมื่อร่างกายได้รับปุ๊บก็จะทำให้ระบบประสาทและหลอดเลือดหดตัวทันที จึงปวดหัวจี๊ดขึ้นมาอย่างฉับพลัน ดังนั้นจึงควรระวังอาหาร 5 ชนิดนี้ไว้ค่ะ 1. กุนเชียงและเนื้อหรือหมูแดดเดียว เพราะสีแดง ๆ ของอาหารทั้งสองชนิดนี้จะเติมดินประสิวลงไปด้วย และในดินประสิวนี่แหล่ะมีสารไนไตรต์ผสมอยู่เยอะมาก ดังนั้นจึงทำให้คุณปวดหัวจี๊ดได้ทันที 2. ช็อกโกแลต คนเป็นไมเกรนทานแล้วปวดหัวทุกที แต่ทันทีสามารถทานช็อกโกแลตขาวได้ ซึ่งมีส่วนประกอบเป็นนมมากกว่านั่นเอง 3. แอสปาแทม หรือสารให้ความหวานแทนน้ำตาล มีผลการสำรวจมากว่าคนที่เป็นไมเกรนมักจะปวดหัวเมื่อกินสารชนิดนี้เข้าไป 4. ไวน์แดง มีไทรามีและไนไตรต์สูงมาก ดังนั้นหลีกเลี่ยงจะดีกว่า 5. ลูกชิ้นเด้งดึ๋ง ก็มีมากเหมือนกัน แต่ไม่ใช่ทุกร้านที่เติมสารบอแร็กซ์ที่ทำให้ลูกชิ้นเด้งดึ๋ง นอกจากทำห้ปวดศีรษะแล้ว ยังเป็นสารก่อมะเร็งอีกด้วยค่ะ ระวังไว้ก่อนจะดีกว่านะคะ จะได้ไม่ปวดหัวจี๊ดค่ะ

  • หลังทานอาหารอิ่ม ๆ อย่าทำแบบนี้!!!

    หลังทานอาหารอิ่ม ๆ อย่าทำแบบนี้!!!

    หลังทานอาหารอิ่ม ๆ อย่าทำแบบนี้!!! 1. อย่าเพิ่งสูบบุหรี่ เพราะจากการทดลองพบว่าการสูบบุหรี่หลังอาหารนั้น เท่ากับการสูบบุหรี่ยามปกติถึงสิบมวนเลยทีเดียว ดังนั้นโอกาสการเป็นมะเร็งจึงสูงขึ้น 2. อย่าเพิ่งทานผลไม้หลังอาหาร ให้ทานในช่วงเวลาหลังอาหารไปแล้ว 1-2 ชั่วโมงจะดีกว่า 3. อย่าเพิ่งดื่มน้ำชา เพราะใบชามีความเป็นกรดสูง จึงทำให้โปรตีนในอาหารกระด้างขึ้น จึงย่อยยาก 4. หลังอิ่มใหม่ ๆ อย่าเพิ่งขยายเข็มขัด เพราะจะทำให้ลำไส้ขยับตัวไม่ปกติ และทำให้ลำไส้ทำงานไม่ปกติได้ด้วย 5. หลังการอิ่มข้าว อย่าเพิ่งอาบน้ำ เพราะเลือดจะไหลเวียนไปที่มือและเท้า จึงทำให้เลือดบริเวณท้องไหลเวียนไม่ดี จึงส่งผลให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ไม่ดีด้วย 6. หลังทานอาหาร อย่าเพิ่งเดินทันทีตามที่เคยเชื่อกันมา เพราะนั่นจะทำให้การย่อยเพื่อดูดซึมไม่ดีเท่าที่ควร ควรรออย่างน้อยสักครึ่งชั่วโมงดีกว่า 7. อย่าเพิ่งนอนทันที เพราะอาจทำให้ท้องอืด ท้องเฟ้อ เพราะอาหารย่อยไม่เต็มที่ได้ อีกอย่างจะทำให้อ้วนด้วยนะคะ  

  • มะเขือเทศผลเดียว.. แข็งแรงทั่วร่างกาย

    มะเขือเทศผลเดียว.. แข็งแรงทั่วร่างกาย

    มะเขือเทศผลเดียว.. แข็งแรงทั่วร่างกาย หากจะพูดถึงพืชผักสีแดงที่มีรสชาติอมเปรี้ยว อมหวานนิด ๆ กรอบและฉ่ำน้ำในตัวแล้ว ก็ต้องนึกถึงมะเขือเทศเป็นลำดับแรก ๆ เลยทีเดียวค่ะ มะเขือเทศเป็นพืชที่มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายด้านเลยทีเดียว เรียกได้ว่าทานมะเขือเทศแค่ผลเดียวก็ได้รับวิตามินและแร่ธาตุบำรุงร่างกายได้ทั่วจากหัวจรดเท้าเลย มาดูประโยชน์ของมะเขือเทศกันเลยค่ะว่ามีประโยชน์ต่อร่างกายของคุณอย่างไรกันบ้าง – มะเขือเทศมีวิตามินเอปริมาณสูงมาก ช่วยบำรุงสายตา – ทานมะเขือเทศมาก ๆ ช่วยผิวพรรณสดใสเปล่งปลั่ง แก้มเป็นสีชมพูระเรื่อ – วิตามินบีในมะเขือเทศช่วยให้ระบบต่าง ๆ ภายในร่างกายทำงานได้เป็นปกติ – ส่วนวิตามินซีที่พบมากเช่นกันในมะเขือเทศ ช่วยป้องกันไข้หวัด เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ จึงช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย – มะเขือเทศเป็นผักที่ทานได้อย่างสบายใจเพราะมีแคลอรี่ต่ำ ไม่ต้องกังวลกับน้ำหนักตัว – สารไลโคปีนในมะเขือเทศซึ่งทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระเช่นกัน ช่วยป้องกันการก่อตัวของมะเร็ง ซึ่งไลโคปีนในมะเขือเทศนี้มีฤทธิ์มากกว่าเบต้าแคโรทีนถึงสองเท่าเลยทีเดียวค่ะ มะเขือเทศเป็นพืชผักที่นำไปประกอบอาหารก็อร่อย หรือจะทานสด ๆ เหมือนผลไม้ก็ดีทั้งนั้น และแม้ว่าการทานมะเขือเทศจะมีประโยชน์แต่ก็อย่าลืมว่าการทานผักควรทานให้มีความหลากหลาย มีหลากสีสันจึงจะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารอย่างเต็มที่ด้วยนะคะ

  • เคล็ดลับการกินบุฟเฟ่ต์ให้ดีต่อสุขภาพ

    เคล็ดลับการกินบุฟเฟ่ต์ให้ดีต่อสุขภาพ

    เคล็ดลับการกินบุฟเฟ่ต์ให้ดีต่อสุขภาพ สำหรับคนที่มักชอบทานบุฟเฟต์หรือไปกินเลี้ยงบุฟเฟ่ต์กันบ่อย ๆ วันนี้ลองมาดูเคล็ดลับการทานบุฟเฟ่ต์แบบที่ไม่ทำให้เสียสุขภาพกันนะคะ – เลือกทานผักและทานปลาให้มากหน่อย เพราะย่อยง่ายไม่ทำให้ท้องอืดหรือจุกเสียดท้องเหมือนเนื้อหมู เนื้อวัว แล้วยังเป็นมีไขมันน้อยกว่าอีกด้วย – เน้นทานบุฟเฟ่ต์แบบต้ม หรือลวก จะดีกว่าแบบปิ้ง ย่าง หรือทอด จะได้ไม่เสี่ยงต่อสารก่อมะเร็ง – ปกติทานอาหารบุฟเฟ่ต์ก็ทานเป็นปริมาณมากอยู่แล้ว หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์หรือน้ำอัดลมไปด้วยจะดีกว่า เดี๋ยวจะอ้วนมากเกินไป ทั้งยังทำให้ย่อยยาก แล้วก็จะอ้วนขึ้นได้ง่าย ๆ ดื่มน้ำชาหรือน้ำเปล่าจะดีกว่าเยอะค่ะ – เวลาตักของสด หรือเนื้อสัตว์ต่าง ๆ จากไลน์บุฟเฟ่ต์ สังเกตสภาพของอาหาร ทั้งรูปลักษณ์ สีและกลิ่นด้วย ว่ามีความแตกต่างไปจากปกติหรือเปล่า เพราะเมืองไทยอากาศร้อน อาหารจะบูดได้ง่าย – หากทานเป็นบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่าง อย่าเกรงใจเจ้าของร้านหรือน้อง ๆ เด็กเสิร์ฟเลย หากกระทะหรือเตาย่างเริ่มไหม้เกรียมแล้ว ก็เปลี่ยนอันใหม่ดีกว่า ห่างไกลมะเร็งแล้วยังทำให้อาหารสุกเร็วขึ้นอีกด้วยนะ – ค่อย ๆ ทานไปเรื่อย ๆ อาจจะลุกเดินไปย่อยบ้าง จะได้ไม่ทานเยอะเกินไปจนท้องอืด อาหารไม่ย่อยได้ หรือจะทานไปคุยเฮฮาสังสรรค์ไปด้วยก็น่าจะดีกว่า – หลังจากการทานบุฟเฟต์แล้ว อย่าเพิ่งกลับบ้านนอน…

  • ดับเบิ้ล “อาหาร” ชะลอความชรา

    ดับเบิ้ล “อาหาร” ชะลอความชรา

    ดับเบิ้ล “อาหาร” ชะลอความชรา เราจะเป็นในอย่างที่เรากิน หรือ You are what you eat เป็นประโยคที่ช่วยให้เราได้หยุดคิดก่อนที่จะหยิบอาหารชนิดใดเข้าปาก  ว่าอาหารชนิดนั้น ๆ จะให้ผลกับสุขภาพของเราอย่างไร  ดังนั้นการกินอาหารจึงไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ หรือสักแต่กินตามท้องหิวหรือตามปากอยาก  แต่ต้องมีเทคนิคการกินที่ดี  รายการอาหารที่จะนำมาเสนอในตอนนี้จะเป็นคู่อาหารที่เมื่อจับคู่กันทานแล้ว จะช่วยชะลอความชราได้อย่างไม่น่าเชื่อ  มาดูกันค่ะ คู่แรก  ทานเนื้อปลา คู่กับ บร็อกโคลี่  อาหารคู่นี้เมื่อกินด้วยกันจะช่วยยับยั้งการก่อตัวและแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งได้ เนื่องจากซีลีเนียมและซัลโฟ ราเฟนที่อยู่ในอาหารทั้งคู่  จึงช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคมะเร็งลงมากกว่าเลือกกินเดี่ยว ๆ ถึง 13 เท่าเลยทีเดียวค่ะ คู่ที่สอง ทานโยเกิร์ตรสธรรมชาติ กับกล้วย  เมื่อทานคู่กันจะช่วยดูแลลำไส้ ด้วยพรีไบโอติก และโพรไบโอติก  เหมือนการช่วยกันผสานพลังในการดูแลระบบย่อยอาหารให้มีประสิทธิภาพ ทำงานได้อย่างเต็มที่ คู่ที่สาม  ทานถั่วฝักยาวคู่กับพริกหวานสีแดง  ช่วยป้องกันโรคทางเลือดและโลหิตจาง  เพราะถั่วฝักยาวเป็นอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง  และเมื่อทานคู่กับอาหารที่มีวิตามินซีสูง ๆ จะช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้อย่างเต็มที่  ซึ่งหากไม่ได้ทานร่วมกันแล้วอาจทำให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กจากผักได้ไม่ถึงร้อยละ 10 ในส่วนของถั่วฝักยาวนั้น สามารถเปลี่ยนเป็นผักคะน้าหรือบร็อกโคลี่ก็ได้ผลเช่นเดียวกันค่ะ คู่ที่สี่  ทานแอปเปิ้ลร่วมกับองุ่น   เป็นการผสานพลังกันระหว่างสารเควอซิตินในแอปเปิ้ล…

  • ประโยชน์ของผิวส้มและเนื้อส้มที่มีต่อสุขภาพของเรา

    ประโยชน์ของผิวส้มและเนื้อส้มที่มีต่อสุขภาพของเรา

    ประโยชน์ของผิวส้มและเนื้อส้มที่มีต่อสุขภาพของเรา เชื่อไหมว่า “ส้ม” เนี่ย มีประโยชน์ต่อสุขภาพของเราทั้งผล ไม่ว่าจะเป็นเปลือกภายนอกตลอดจนเนื้อส้มภายใน มาลองดูกันทีละส่วนเลยค่ะว่า แต่ละส่วนของส้มนั้นมีผลต่อสุขภาพของเราอย่างไรได้บ้าง เริ่มเลยค่ะ 1. เนื้อของส้ม เนื้อส้มมีวิตามินซี และเบต้าแคโรทีนสูงมาก เนื้อส้มเพียง 100 กรัม สามารถให้วิตามินซีและเบต้าแคโรทีนที่เพียงพอสำหรับร่างกายแต่ละวันแล้ว นอกจากทำให้ผิวสวย ด้วยคุณสมบัติของการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระของวิตามินซี จึงช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยบนผิว ทำให้ผลิตคอลลาเจนได้มากขึ้น ผิวจึงสวยใสแลดูอ่อนกว่าวัย และเสริมพลังด้วยเบต้าแคโรทีน ที่ช่วยให้ผนังหลอดเลือดและเส้นฝอยแข็งแรง จึงลดอาการเส้นเลือดฝอยแตกตามผิวกายส่วนต่าง ๆ ได้ ทั้งยังทำให้เส้นผมและเล็บแข็งแรง วิตามินซียังช่วยป้องกันโรคลักปิดลักเปิดหรือโรคเลือดออกตามไรฟันได้ด้วย 2. ผิวส้ม หรือเปลือกส้ม ประโยชน์ของเปลือกส้มอยู่ที่น้ำมันหอมระเหยบนเปลือก ที่ช่วยสลายความเครียด และความเมื่อยล้า ช่วยให้ร่างกายและความคิดได้ผ่อนคลาย เพียงนำน้ำมันหอมระเหยอมาสูดดมหรือนวดตามร่างกายส่วนร่าง ๆ ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายในขณะที่กระตุ้นระบบประสาทได้อีก อีกทั้งยังมีการวิจัยของเภสัชกรในอังกฤษที่ค้นพบว่าเปลือกส้มมีฤทธิ์ในการทำลายเซลล์มะเร็งได้ โดยเฉพาะในเปลือกของส้มเขียวหวานที่สามารถทำลายเซลล์มะเร็งได้บางชนิด ซึ่งในอนาคตอาจมีการพัฒนาขึ้นไปสู่การบำบัดโรคมะเร็งแนวใหม่ได้ ว่าแล้ววันนี้ออกไปส้มมาทานกันดีกว่าค่ะ