Tag: โรคเบาหวาน
-
ใช้ชีวิตให้ดี ห่างไกลจากโรคไต
ใช้ชีวิตให้ดี ห่างไกลจากโรคไต ไตของคนเรานั้น เป็นอวัยวะที่มีขนาดเท่ากับกำปั้นของเจ้าของ มีรูปร่างคล้ายถั่วแดง อยู่บริเวณด้านหลังของลำตัวในระดับของกระดูกซี่โครงส่วนล่าง ทำหน้าที่ควบคุมปริมาณน้ำและเกลือแร่ ควบคุมการทำงานของฮอร์โมนในร่างกาย กรองของเสียในร่างกาย หากไตบกพร่องก็อาจทำให้คุณเป็นโรคไตได้ด้วย โรคไตนั้นมีหลายชนิด แต่ที่อันตรายที่สุดเห็นจะเป็นไตวายเรื้อรัง มีอาการที่เห็นได้ก็คือ นอนไม่หลับ เบื่ออาหาร คลื่นไส้ ซึม วิงเวียน ปวดหัว การรับรสเปลี่ยนไป มีอาการชาตามปลายมือและปลายเท้า รวมทั้งน้ำหนักตัวลดลงได้ และที่เป็นสัญญาณเตือนของโรคไตที่สำคัญคือ พฤติกรรมการถ่ายปัสสาวะเปลี่ยนไปทั้งในเรื่องความถี่ ปริมาณของน้ำปัสสาวะ สีของปัสสาวะ เช่น เข้าห้องน้ำบ่อยขึ้นเวลากลางคืน ปริมาณลดน้อยลง ปัสสาวะเป็นสีน้ำล้างเนื้อ หรือมีเลือดปนออกมา รวมทังปวดหลังปวดเอว ความดันโลหิตสูง หน้าบวม เท้าบวมและท้องบวม กลุ่มเสี่ยงในการเป็นโรคไตวายนั้นจะมีอยู่สองกลุ่มก็คือ กลุ่มที่เป็นโรคที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคไตอยู่แล้ว เช่น ความดันสูง หรือเบาหวาน กับอีกกลุ่มคือเป็นโรคไตซ่อนอยู่ และไม่เคยแสดงอาการอะไรออกมาเลย ไม่เคยป่วยเจ้าโรงพยาบาลแต่ความจริงมีโรคไตซ่อนอยู่ หากไม่ตรวจก็จะไม่รู้ว่าเป็นโรคไต โรคไตนี้สามารถป้องกันและหลีกเลี่ยงได้โดย – อย่าทรมานไตมากเกินไป ด้วยการกินยาที่ซื้อมาเอง หรือกินยาผิดขนาด ผิดชนิด และปริมาณ รวมทั้งกินยาซ้ำซ้อนไปหมด หากซื้อยามากินเองไม่ปรึกษาแพทย์อาจทำให้เกิดผลเสียต่อไต ทำให้ไตอักเสบและเป็นโรคไตได้ –…
-
การดูแลช่องปากเพื่อป้องกันโรคเหงือกอักเสบ
การดูแลช่องปากเพื่อป้องกันโรคเหงือกอักเสบ โรคเหงือกอักเสบ เป็นโรคที่คนส่วนใหญ่มักไม่ค่อยใส่ใจมากนัก แต่หารู้ไม่ว่าโรคนี้ทำให้เกิดปัญหาลุกลามจนสูญเสียฟันได้เลยทีเดียว โดยสาเหตุของโรคเหงือกอักเสบนั้นเกิดมาจากการขาดการดูแลรักษาความสะอาดภายในช่องปากอย่างถูกวิธี จึงเกิดคราบสะสมของจุลินทรีย์รวมทั้งหินปูนที่เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคที่ทำให้เป็นโรคเหงือกอักเสบ เหงือกบวมแดง เลือดออกตามไรฟันโดยเฉพาะเวลาที่แปลกฟัน หากไม่รักษาอาจเป็นสาเหตุให้กระดูรอบรากฟันโดนทำลายจนฟันโยกคลอนและหลุดในที่สุด นอกจากนี้แล้วโรคเหงือกอักเสบยังเป็นสาเหตุของโรคอื่น ๆ ตามร่างกายได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นโรคหัวใจ โรคหลอดเลือด ทำให้คนไข้เบาหวานควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ยาก อาจทำให้ผู้ที่ตั้งครรภ์คลอดก่อนกำหนดได้อีก ฯลฯ การดูแลช่องปากให้ห่างไกลโรคเหงือกอักเสบนั้น ควรทำความสะอาดฟันอย่างถูกต้องและสม่ำเสมอ เลือกใช้แปรงสีฟันที่มีขนอ่อนนุ่ม ควรแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้งเช้าเย็นโดยใช้ร่วมกับไหม่ขัดฟันด้วยก็ได้ ไม่ควรทานอาหารที่มีรสเปรี้ยวจัด เช่น ส้ม มะนาว หรือน้ำอัดลมที่มีกรดสูง ไม่ควรแปรงฟันหลังกินอาหารทันทีเพราะทำให้ฟันสึกได้ง่าย ระวังอย่าแปรงฟันนานเกินไปเพราะอาจทำให้เหงือกได้รับการเสียดสีจนอักเสบได้ แล้วอย่าลืมไปตรวจสุขภาพช่องปากปีละอย่างน้อยหนึ่งครั้ง ขูดหินปูนด้วย ในส่วนของสุขภาพในช่องปากของเด็ก ๆ ควรดูแลการแปรงฟันให้ถูกวิธี หลีกเลี่ยงของหวาน ลูกอม ขนมต่าง ๆ เพื่อป้องกันการกินจุบจิบไปด้วย หันมาทานผักสดผลไม้สดที่ดีต่อสุขภาพ ฟันของคุณและลูก ๆ จะได้อยู่กับเราไปนาน ๆ จนแก่เฒ่าไม่ต้องพึ่งฟันปลอมยังไงล่ะคะ
-
วิธีดูแลตัวเองจากโรคติดต่อไม่เรื้อรัง 5 โรค
วิธีดูแลตัวเองจากโรคติดต่อไม่เรื้อรัง 5 โรค โรคติดต่อไม่เรื้อรังนั้นมักถูกเข้าใจว่าน่าจะเป็นโรคของประเทศที่พัฒนาแล้ว แต่ความจริงแล้วหาเป็นเช่นนั้นไม่ โรคติดต่อไม่เรื้อรัง 5 โรคนี้เป็นปัญหาของประเทศกำลังพัฒนาต่างหาก เพราะขาดความพร้อมในการดูแลรักษาผู้ป่วยจากโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ อีกทั้งยังต้องใช้ค่าใช้จ่ายสูงมากด้วย โรคทั้งห้านี้ได้แก่ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน หลอดเลือดสมอง หลอดเลือดหัวใจ และโรคมะเร็ง ซึ่งผู้ป่วยโรคเหล่านี้มีอัตราเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทุกปี แล้วยังเป็นโรคที่ทำให้ผู้ป่วยเป็นอัมพาตหรือพิการเพิ่มขึ้นด้วยนะ สาเหตุของโรคทั้งห้าชนิดนี้ มักเป็นบุคคลที่ชอบทานอาหารหวานจัด เค็ม หรือมีไขมันสูง ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ มีความเครียดมากแล้วไม่ค่อยรู้จักการผ่อนคลายกับทั้งยังขาดการออกกำลังกาย ฯลฯ จึงทำให้เป็นโรคอ้วนตามมา การที่มีไขมันสะสมในช่องท้องมากนี้ ไขมันจะแตกตัวเป็นกรดไขมันจะแตกตัวเป็นกรดไขมันอิสระเข้าสู่ตับ ส่งผลให้อินซูลินออกฤทธิ์ได้ไม่ดีนัก จึงเป็นต้นเหตุของโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หลอดเลือดสมอง โรคหลอดเลือดหัวใจ และโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็นอาการอัมพฤกษ์ อัมพาต หัวใจวาย ตับวาย ไตวาย และอาจเสียชีวิตได้ หากจะวัดกันที่ดัชนีรอบเอวจะพบว่ารอบเอวที่เพิ่มขึ้นทุก 5 เซนติเมตรจะเพิ่มโอกาสการเป็นโรคเบาหวานสูงขึ้นถึง 3-5 เท่า หมายถึงว่ายิ่งพุงใหญ่เท่าไรก็ยิ่งตายเร็วเท่านั้น โรคเกณฑ์การจำแนกว่าเป็นโรคอ้วนลงพุงของคนไทยก็คือ หากผู้ชายมีรอบเอวเกิน 90…
-
ใช้ชีวิตอย่างไร…ห่างไกลมะเร็งร้าย
ใช้ชีวิตอย่างไร…ห่างไกลมะเร็งร้าย คุณทราบหรือไม่คะว่า หากเราบริหารจัดการวิถีการใช้ชีวิตให้ดีแล้ว จะสามารถป้องกันการเป็นโรคมะเร็งได้ถึงร้อยละ 30-40 เชียวนะคะ แล้วยังสามารถป้องกันโรคอื่น ๆ ที่ร้ายแรงได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ อาการไขมันในเส้นเลือดสูง ความดันโลหิตสูง ตลอดจนโรคกระดูกพรุนได้ด้วย วันนี้มาดูคำแนะนำในการใช้ชีวิตเพื่อให้ห่างไกลจากมะเร็งกันนะคะ 1. คุณควรเลิกบุหรี่ เพราะคุณทราบหรือไม่คะว่าหากคุณสูบบุหรี่มากกว่า 1 ซอง หรือ 20 มวนต่อวันเป็นเวลา 10 ปีนั้น คุณจะมีความเสี่ยงเป็นมะเร็งปอดเพิ่มขึ้นถึง 10 เท่า! เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ และหากคุณสูบอยู่แล้วเกิดอยากเลิกขึ้นมาก็สามารถป้องกันโรคมะเร็งได้ถึงร้อยละ 60 การสูบบุหรี่ไม่ได้เป็นสาเหตุของโรคมะเร็งปอดอย่างเดียว แต่ยังเป็นสาเหตุของโรคหัวใจ หรือโรคถุงลมโป่งพองได้อีกด้วย 2. คุณควรเลิกดื่มสุรา หรือหากจำเป็นต้องดื่มเพื่อเข้าสังคมก็จำกัดไว้แค่วันละไม่เกิน 1 แก้ว ผู้ที่ดื่มสุรามากกว่า 3 แก้วต่อวันจะเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเพิ่มขึ้นถึงเกือบสิบเท่าเมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ดื่ม แต่ถ้าคุณยังไม่เลิกดื่มแล้วยังสูบบุหรี่มากกว่าวันละ 1 ซองอีก ก็จะเพิ่มความเสี่ยงการเป็นโรคมะเร็งมากขึ้นเป็น 50 เท่าเลยทีเดียว! น่ากลัวเอามาก ๆ ค่ะ 3. คุณควรปรับพฤติกรรมการกิน ดังต่อไปนี้…
-
ผลกระทบของแอลกอฮอล์ ที่มีต่อสุขภาพของเรา
ผลกระทบของแอลกอฮอล์ ที่มีต่อสุขภาพของเรา สุราหรือแอลกอฮอล์นั้นเป็นพิษภัยต่อสุขภาพร่างกาย ทำให้เกิดโรคได้ถึงกว่าหกสิบชนิด เมื่อดื่มสุราลงไป แล้วร่างกายดูซึมเข้าสู่กระแสเลือด แอลกอฮอล์จะกระจายตัวไปทั่วร่างกาย ทำให้หัวใจเต้นเร็วและถี่ขึ้น ความดันเลือดจึงเพิ่มขึ้น แล้วยังมีฤทธิ์ต่อสมองส่วนกลางด้วยการไปกดสมองทำให้เซลล์สมองเสื่อม มีปัญหาความจำเสื่อม และสมองลีบฝ่อ หากเป็นมากเข้าก็จะอาจเกิดอาการประสาทหลอนได้ อีกทั้งสุราเข้าออกฤทธิ์เข้ากดศูนย์กลายใจและศูนย์ควบคุมการไหลเวียนของโลหิตในสมองจะทำให้เสียชีวิตได้ การดื่มสุรายังทำให้เกิดการระคายเคืองเฉพาะที่ สังเกตง่าย ๆ เลยก็คือเมื่อดื่มลงคอไปก็จะรู้สึกบาดคอแล้ว แล้วลามลงไปสร้างความระคายเคืองที่หลอดอาหาร จนทำให้เกิดการอักเสบของเยื่อบุชั้นในสุดของผนังหรือกระเพาะอาหาร แล้วยังทำให้ลำไส้เล็กเกิดทะลุได้อีก นอกจากนั้นแอลกอฮอล์ยังเข้าขัดขวางการดูดซึมของอาหารบางชนิด ไม่ว่าจะเป็น ไขมัน กรดอะมิโน กรดโฟลิก วิตามินบี 1 วิตามินบี 6 วิตามินบี 12 ที่อาจทำให้เซลล์ของตับได้รับการระคายเคือง และทำให้ตับโตขึ้น แอลกอฮอล์ยังทำให้การน้ำย่อยจากตับอ่อนไม่สามารถไหลเข้าไปในลำไส้เล็กได้ น้ำย่อยจึงย่อยตับอ่อนเอง ทำให้ตับอ่อนเลือดออกอย่างฉับพลันและทำให้อักเสบได้ มักพบว่าผู้ที่มีอาการเช่นนี้ 20% ของจะเสียชีวิตตั้งแต่ครั้งแรกที่มีปัญหากับตับอ่อน ทำให้การสร้างอินซูลินบกพร่อง จนกลายเป็นโรคเบาหวานได้ในที่สุด และทำให้เกิดอาการตับแข็งขึ้นทุกครั้งที่ดื่มด้วย แต่กลับมีนักวิจัยบางกลุ่มที่บอกว่าแอลกอฮอล์มีประโยชน์ต่อระบบหลอดเลือดและหัวใจของทั้งเพศชายและหญิง โดยได้กล่าวว่า หากได้ดื่มแอลกอฮอล์อย่างเหมาะสมจะช่วยเพิ่มระดับของคอเลสเตอรอลตัวดี ๆ ที่จะช่วยป้องกันระบบภายในหลอดเลือดได้ หากยิ่งเป็นคนที่ไม่ทานอาหารทอด ๆ มัน ๆ แล้วยังออกกำลังกายอยู่เสมอแล้ว การดื่มแอลกอฮอล์วันละเล็กน้อยแบบนี้จะสร้างคอเลสเตอรอลตัวดี ๆ…
-
ล้างสารพิษในร่างกาย ง่ายๆ ด้วยตัวเอง
ล้างสารพิษในร่างกาย ง่ายๆ ด้วยตัวเอง คุณจะรู้หรือไม่ว่า…. การล้างสารพิษที่ตกค้างอยู่ในร่างกายของเราออกไป นั้นจะช่วยทำให้ร่างกายของเราแข็งแรงขึ้น และช่วยให้เลือดลมเดินสะดวก ยิ่งถ้าทำเป็นประจำ ก็จะช่วยฟื้นฟูสุขภาพร่างกายที่ทรุดโทรมลง และยังช่วยรักษาโรคร้ายอย่าง “มะเร็ง“ รวมถึงโรคภูมิแพ้ โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง หอบหืด เบาหวาน รวมกระทั่งลดความอ้วนได้อีกด้วย หัวใจหลักๆของการทำงานในการล้างสารพิษในร่างกาย 1 วัน คือ จะต้องทานให้ได้แคลลอรี่ที่น้อยกว่า 800 แคลลอรี่ เพื่อให้ระบบย่อยอาหารและตับได้มีการพักผ่อน และต่อจากนั้น ตับก็จะขับสารพิษออกมา และอาหารที่เราทานเข้าไปในวันนั้นจะต้องไม่มีเนื้อสัตว์ปะปนเด็ดขาด หากเข้าใจกันดีแล้ว เรามาเข้าสู่ขั้นตอนการล้างสารพิษกันเลยค่ะ 1. เลือกผลไม้ที่เราชื่นชอบมา 1 ชนิด อย่างเช่น ฝรั่ง แคนตาลูป มะละกอ แอปเปิ้ล ชมพู่ มะม่วง ส้มโอ หรืออะไรก็ตาม แต่จะมีผลไม้ที่ต้องยกเว้นไว้ 2 อย่าง คือ ทุเรียนและสับประรด เนื่องจากในทุเรียนจะมีแคลลอรี่สูงมาก และยังย่อยยากอีกด้วย ส่วนในสับประรดนั้น จะมีกรดที่สูง ถ้าหากต้องทานทั้งวัน จะทำให้เราท้องอืดได้ 2. ทานแต่ผลไม้ที่เราเลือก…
-
กินเนื้อสัตว์แปรรูป เพิ่มโอกาสการเป็นโรคได้
กินเนื้อสัตว์แปรรูป เพิ่มโอกาสการเป็นโรคได้ มีการรวบรวมและการศึกษาจากฐานข้อมูลผู้ป่วยเป็นจำนวนมาก ที่ทำให้สรุปได้ว่า การกินเนื้อสัตว์ที่ผ่านการแปรรูป และปรุงแต่งกลิ่นรสมากเกินไป เช่น ไส้กรอก หมูแฮม กุนเชียง หมูยอ ฯลฯ จะเพิ่มโอกาสการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบได้ถึงร้อยละ 42 ทุก ๆ น้ำหนัก 50 กรัมที่กินในแต่ละวัน หรือมีขนาดเท่ากับเหรียญห้าบาท จำนวนหกเหรียญ แล้วยังพบด้วยการกินเนื้อสัตว์แปรรูปดังกล่าวที่มีปริมาณของเกลือ และสารไนไตรท์เป็นจำนวนมากนี้จะเพิ่มโอกาสการเป็นเบาหวานมากถึงร้อยละ 19 เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ได้กิน อีกทั้งผู้ที่กินเบคอนวันละสองชิ้น หรือกินฮอทด๊อกวันละชิ้น ยังเพิ่มโอกาสการเป็นเบาหวานขึ้น 2 เท่าตัวเมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ได้กินด้วย ดังนั้นผู้ที่เป็นโรคเหล่านี้อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเบาหวาน โรคหัวใจ หรือโรคหลอดเลือด ควรทานอาหารที่ปรงุแต่งแต่น้อย หรือไม่ปรุงแต่งเลย ทานเนื้อสัตว์ที่ปราศจากสารเคมี ไม่มีการเติมเกลือ ดินประสิว หรือสารใด ๆ กินแต่อาหารจากธรรมชาติ ผักปลอดสารพิษ ถั่ว หรือธัญพืชต่าง ๆ รวมทั้งผู้ปรุงอาหารก็ควรมีอารมณ์และจิตใจที่ดี จะทำให้อาหารมื้อนั้นมีคุณค่าทางอาหารครบถ้วน ปราศจากสารก่ออันตราย ทำให้สุขภาพของผู้ป่วยแข็งแรงขึ้น ช่วยเยียวยารักษาโรคได้ และทำให้สุขภาพดีขึ้นได้อีกด้วยค่ะ
-
ยอมรับความเสื่อมของร่างกายตามกาลเวลา
ยอมรับความเสื่อมของร่างกายตามกาลเวลา เมื่ออายุยิ่งมากขึ้นเท่าไร การดูแลสุขภาพก็ยิ่งเป็นเรื่องจำเป็นมากขึ้นเท่านั้น หากจะเปรียบไปแล้วร่างกายของคนก็เหมือนกับรถที่เก่าลงทุกปี จำเป็นต้องเข้าอู่เพื่อตรวจเช็คสภาพ บำรุงรักษาอยู่เนือง ๆ ร่างกายเราเมื่ออายุมากขึ้นก็ย่อมมีความเสื่อมโทรมลงเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ว่าจะเป็นอวัยวะส่วนใดก็หลีกเลี่ยงความจริงข้อนี้ไปไม่ได้ ซึ่งอาการหรือโรคที่บ่งบอกว่าร่างกายเรากำลังเสื่อมโทรมเอาที่เห็นกันได้ชัด ๆ นั้นก็คือ ตาฝ้าฟาง หูตึง ปวดกล้ามเนื้อ และปวดกระดูก อ่อนเพลีย เมื่อยล้า ภูมิแพ้ชนิดต่าง ๆ รวมไปถึงโรคเรื้อรังไม่ติดต่อจำพวก เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเส้นเลือด โรคอ้วน ซึ่งไม่จำเป็นต้องเกิดในผู้สูงอายุเท่านั้น แต่พบได้แม้ในคนที่อายุยังน้อยอยู่ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็เกิดจากวิธีการใช้ชีวิตนั่นเอง แต่คนเราก็ไม่เหมือนรถไปซะหมดทุกอย่าง เพราะคนเราก็ยังมีจิตใจ และจิตวิญญาณ ซึ่งสุขภาพของคนจะดีได้นั้นผู้ที่เป็นเจ้าของร่างกายก็จำเป็นต้องดูแลเอาใจใส่ทุกสัดส่วน ร่างกายจึงจะอยู่กับเรานาน ๆ ไม่เสื่อมโทรมไว หรือเสียบ่อย ๆ แล้วก็ยังใช้การได้ดีจนสิ้นอายุขัย พึงตระหนักไว้ว่าสุขภาพของผู้ที่เข้าวัยชรานั้นเปรียบเหมือนรถเก่าก็ตรงที่ มักจะเสียง่าย ใช้งานหนักมากไม่ไหว แล้วก็ต้องเข้าอู่บ่อย สุดท้ายก็ต้องพัง ดังนั้นจึงจำเป็นต้องดูแลอย่างเหมาะสม เมื่อเกิดความเสียหายขึ้นก็ซ่อมแซมตามจำเป็น แต่หากมีปัญหาซับซ้อนก็ควรแยกแยะให้ออกว่าจะปล่อยไปหรือนำไปซ่อม ควรมีสติ มีความรู้ และอย่างกังวลมากเกินไป นอกจากนี้แล้วยังควรหากช่างซ่อม หรือหมอ พร้อมอู่ หรือโรงพยาบาลที่ไว้ใจได้มาดูแลด้วย ผู้สูงวัยทุกท่านจำเป็นต้องแยกแยะให้ได้ว่า อาการชนิดไหนเป็นโรคที่ไม่ต้องรักษา…
-
วิธีทานผลไม้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพ
วิธีทานผลไม้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพ วิธีทานผลไม้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพ ในประเทศไทยนั้นเป็นประเทศในแถบเมืองร้อนที่มีผลหมากรากไม้ที่มีรสชาติอร่อยมากมาย ยิ่งในฤดูร้อนที่ผลไม้หลายชนิดพากันตกลูกแล้ว วัน ๆ เราก็คงอยากแต่จะทานผลไม้เหล่านี้กันให้อิ่มหนำไปเลย แต่ผลไม้หลายชนิดในหน้าร้อน ไม่ว่าจะเป็น ทุเรียน ลำไย เงาะ ลองกอง มะม่วงสุก เหล่านี้มีน้ำตาลสูงมาก อาจทำให้อ้วนได้ อีกทั้งยังมีการใช้สารเคมีและยาฆ่าแมลงระหว่างการปลูกอยู่มาก ดังนั้นเราจึงควรเรียนรู้วิธีการทานผลไม้อย่างถูกต้องเพื่อให้ร่างกายได้รับประโยชน์สูงสุดจากผลไม้โดยไม่เป็นอันตราย ดังต่อไปนี้ค่ะ 1. เมื่อซื้อผลไม้มาแล้วให้ทำการล้างให้สะอาดมาก ๆ หลาย ๆ น้ำ โดยเฉพาะผลไม้ที่ทานได้ทั้งเปลือกยิ่งต้องใส่ใจเป็นพิเศษ อาจแช่น้ำทิ้งไว้สักครึ่งชั่วโมงแล้วล้างทิ้งเพื่อความปลอดภัย 2. ซื้อผลไม้มาทานแค่พอกินเท่านั้น อย่าซื้อมาตุนไว้เยอะ ๆ เพราะวิตามินและแร่ธาตุที่เต็มเปี่ยมจะอยู่ในผลไม้สด ๆ ยิ่งทิ้งไว้นานเท่าไรคุณค่าทางโภชนาการก็จะยิ่งลดลงไปเรื่อย ๆ อีกทั้งควรกินให้มีความหลากหลาย เปลี่ยนชนิดหมุนเวียนไปเรื่อย ๆ ตามฤดูกาลเพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่หลากหลาย 3. สำหรับผู้ที่ป่วยเป็นเบาหวาน หรือผู้ที่เป็นโรคอ้วน ควรระมัดระวังผลไม้ที่หวานจัด โดยทานผลไม้หวานจัดเหล่านี้แค่ 1 ส่วนต่อวันเท่านั้น ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 5-6 คำ ผลไม้หวาน ๆ เหล่านี้ได้แก่ ขนุน มะม่วงสุก กล้วย…
-
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการนอนหลับของคนเรา
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการนอนหลับของคนเรา หากเป็นช่วงเวลาวันหยุดยาวหรือเทศกาลต่าง ๆ แล้ว บางคนอาจเอาแต่เที่ยวและฉลองกันยันเช้าจนมักลืมไปเลยว่าตัวเองต้องพักผ่อน แต่ไม่ว่าจะเป็นในช่วงเวลาใด การนอนก็สำคัญสำหรับร่างกายเราอยู่ดี (เค้าไม่มารู้กับเราด้วยหรอกค่ะว่า วันหยุดยาวฉันจะฉลองฉันจะไม่นอน) ยิ่งโดยเฉพาะในกลุ่มสาว ๆ ด้วยแล้ว การอดนอนทำร้ายคุณทั้งทางสุขภาพและรูปร่างหน้าตาภายนอกชนิดปกปิดไม่อยู่เลยเชียวล่ะ ดังนั้นเพื่อการดูแลสุขภาวะที่ดีทั้งร่างกายและจิตใจ เราลองมาอ่านเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการนอนหลับของคนเรากันนะคะ – ในช่วงเวลานอนเป็นเวลาที่ร่างกายเราผลิตโปรตีนขึ้นมา จึงก่อให้เกิดกระบวนการสร้างเซลล์ผิวและฟื้นฟูสภาพเนื้อเยื่อและเซลล์ผิวในระหว่างการนอนหลับด้วย จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมการอดนอนจึงทำให้ผิวดูทรุดโทรมไม่สดใส – การนอนมีผลต่อกระบวนการจำ สมาธิในการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ หากอดนอนก็จะทำให้เบลอๆ งงๆ – การอดนอนยังทำให้เกิดความเสี่ยงและเกิดการกำเริบของโรคเบาหวาน โรคหัวใจ และโรคติดเชื้อต่าง ๆ ได้มากมาย – การที่ผิวแลดูเหี่ยวย่น หรือแก่ก่อนวัยนั่นเป็นเพราะหากคุณนอนไม่พอ จะทำให้ฮอร์โมนความเครียดที่หลั่งออกมามากเกินไปส่งผลกระทบต่อกระบวนการผลิตคอลลาเจนของผิวที่จะทำงานได้ช้าลง แล้วยังส่งผลกระทบโดยตรงต่อการต่อสร้างอนุมูลอิสระในร่างกายทำให้ผิวร่วงโรยก่อนวัย – รวมไปถึงหากคุณยังคงอดนอนอย่างต่อเนื่อง กระบวนการฟื้นฟูผิวที่ถูกทำร้ายจากพฤติกรรมแย่ ๆ ต่อตัวเอง และการทำร้ายจากรังสียูสี ยังไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ ผิวจึงยิ่งดูแย่ลงไปกว่าเดิม – การอดนอนหรือนอนไม่พอ ยังส่งผลต่อการไหลเวียนของโลหิต ที่จะเห็นได้ชัดก็คืออาการถุงใต้ตาหรือตาบวมนั่นล่ะค่ะ – การได้นอนหลับในช่วงเวลาที่เหมาะสมจะทำให้ร่างกายได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่ ซึ่งช่วงเวลาที่ร่างกายจะมีอุณหภูมิลดลงต่ำที่สุดก็คือช่วงตีสี่ ถึงตีห้า อีกทั้งฮอร์โมนเมลาโทนินก็จะถูกหลั่งออกมาในช่วงเวลานั้นทั้งจาก เมื่อทั้งอุณหภูมิร่างกายลดลงและระดับเมลาโทนินเพิ่มขึ้นมาเจอกัน ก็จะทำให้นอนหลับได้ง่าย…