Tag: ไข้หวัด

  • โรคไข้เลือดออก อาการ การรักษา วิธีป้องกัน

    โรคไข้เลือดออก อาการ การรักษา วิธีป้องกัน

    โรคไข้เลือดออก อาการ การรักษา วิธีป้องกัน ไข้เลือดออก หรือ DHF คือเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง มียุงลายเป็นพาหะ เกิดขึ้นได้จากการที่ยุงลายจะกัดคนที่เป็นไข้เลือดออกก่อน แล้วจึงไปกัดคนข้างเคียง รัศมีไม่เกิน 400 เมตร ก็จะสามารถแพร่เชื้อให้คนอื่นๆต่อไปได้ โรคนี้พบบ่อยในฤดูฝน และจะพบมากในเด็ก แต่ผู้ใหญ่ก็สามารถเป็นได้ และมักจะมีการระบาดใหญ่ในทุกๆ 3 ปี ยุงชนิดนี้ชอบเพาะพันธุ์ตามแหล่งน้ำ หนองน้ำนิ่ง หรือในบ้านเช่น น้ำในตุ่ม จานรองตู้กับข้าว แจกัน ยางรถ และยังเป็นยุงที่กัดคนในเวลากลางวัน อาการของคนเป็นไข้เลือดออก – มีไข้ขึ้นสูงฉับพลัน ตัวร้อนจัด ตัวร้อนไม่สร่างตลอดทั้งวัน กินยาลดไข้แล้วก็ไม่หาย – เบื่ออาหาร ดื่มน้ำน้อย ปากคอแห้ง – หน้าแดง ตาแดง ปวดศีรษะ ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ถ่ายเหลวร่วมด้วย – มีจุดแดงขึ้นตามผิวหนัง ลำตัว แขนขา – ปัสสะวะไม่ออก หรือออกน้อย ใจหวิว…

  • โรคไข้หวัด อาการ, การรักษา, วิธีป้องกัน

    โรคไข้หวัด อาการ, การรักษา, วิธีป้องกัน

    โรคไข้หวัด อาการ, การรักษา, วิธีป้องกัน ไข้หวัด (Common cold) เป็นเชื้อไวรัสที่ติดต่อทางเดินหายใจส่วนต้น โดยส่วนใหญ่จะติดได้จากทาง จมูก และ คอ ติดต่อได้ง่ายเมื่ออยู่ใกล้ชิดกัน รับเชื้อได้จากละอองเสมหะของผู้ไอ หรือ ติดเชื้อได้จากสิ่งของเครื่องใช้ เช่น ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว แก้วน้ำ จาน-ชาม ที่เปื้อนเชื้อหวัด โรคไข้หวัดมักจะมีการติดต่อกันมากในช่วงฤดูหนาว ที่มีความชื้นต่ำและอากาศเย็น ในส่วนของเด็กเล็กจะมีภูมิต้านทานต่อเชื้อหวัดน้อยกว่าผู้ใหญ่ โดยเฉลี่ยเด็กจะเป็นไข้หวัดปีละ 6-12 ครั้งต่อปี ผู้ใหญ่อาจจะเป็น 2-4 ครั้งต่อปี ผู้หญิงจะเป็นบ่อยเนื่องจากใกล้ชิดกับเด็กมากกว่า คนสูงอายุจะเป็นปีละครั้ง อาการของไข้หวัด ผู้ที่ติดเชื้อไข้หวัดมักจะมีอาการตัวร้อน เป็นไข้ คัดจมูก น้ำมูกไหลมาก น้ำมูกจะมีลักษณะเป็นใสๆ บางรายอาจมีอาการแสบคอร่วมด้วย ปวดศีรษะเล็กน้อย รู้สึกอ่อนเพลีย ไม่มีแรง และอาจจะมีการเบื่ออาหารร่วมด้วย โดยทั่วไปมักจะมีอาการตัวร้อนอยู่ 3-4 วัน เมื่อรับประทานยาลดไข้แล้ว ก็จะสามารถหายไปได้เอง อาจจะมีน้ำมูกมากใน 2-3 วันแรก แต่อาจจะมีอาการไอต่อเป็นสัปดาห์ นานที่สุดอาจถึง 3…

  • นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค แนะนำ 4 วิธี ห่างไกลจากไข้หวัดใหญ่

    นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค แนะนำ 4 วิธี ห่างไกลจากไข้หวัดใหญ่

    นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค แนะนำ 4 วิธี ห่างไกลจากไข้หวัดใหญ่ นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) ได้ทำการอัดคลิปวีดีโอเตือนภัย ให้ห่างไกลจากโรคไข้หวัดใหญ่  H1N1 โดยทำการนำวีดีโอคลิปนี้เผยแพร่ออกทาง Youtube ภายใต้ชื่อ  “อธิบดีกรมควบคุมโรคเตือนไข้หวัดใหญ่ H1N1” โดยคลิปวีดีโอเตือนภัยประชนนี้ อัพโหลดโดย Jojo Kujo เผยแพร่เมื่อวันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา  โดยในคลิประบุว่า เมื่อวันที่ 25 มี.ค. 2557 กรมควบคุมโรค ได้ออกประกาศเตือนประชาชนว่า วันที่ 1 ม.ค. – มี.ค.2557 เป็นช่วงที่ไข้หวัดใหญ่มีจำนวนมากกว่าปีที่แล้ว ที่กังวล คือ มีผู้เสียชีวิตเยอะกว่ามาก โดยปี 2556 มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ส่วนปี 2557 ตั้งแต่ต้นปี มีผู้เสียชีวิตแล้ว 24 ราย จากเชื้อไข้หวัดใหญ่ H1N1 หรือหวัด 2009 ซึ่งมีความรุนแรงมาก…

  • องค์กรอนามัยโลก เผยการศึกษาเรื่อง ไวรัส H7N9 ในจีน ว่ายังระบุที่มาไม่ได้

    องค์กรอนามัยโลก เผยการศึกษาเรื่อง ไวรัส H7N9 ในจีน ว่ายังระบุที่มาไม่ได้

    องค์กรอนามัยโลก เผยการศึกษาเรื่อง ไวรัส H7N9 ในจีน ว่ายังระบุที่มาไม่ได้ องค์กรอนามัยโลกชี้ว่า ไวรัสไข้หวัดนก  H7N9 ที่พบในประเทศจีน เป็นไวรัสที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์มาก แต่ยังบอกไม่ได้อย่างแน่นอนว่าแหล่งที่มาของเชื้อไวรัสนี้คืออะไร ไข้หวัดนกสายพันธุ์ใหม่นี้ แพร่ระบาดไปถึง 7 จังหวัดในประเทศจีน และทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 22 คนจากจำนวนผู้ติดเชื้อมากกว่า 100 คน องค์การอนามัยโลก (World Health Organization หรือ WHO) กล่าวว่า ยังไม่มีหลักฐานเพียงพอที่แสดงให้เห็นว่า เชื้อไวรัสนี้สามารถแพร่จากมนุษย์สู่มนุษย์ได้ แต่เตือนว่าเชื้อไวรัสนี้เป็นอันตรายอย่างมากต่อมนุษย์ และจากหลักฐานที่ได้เห็น เชื้อไวรัส H7N9 แพร่จากสัตว์ปีกสู่มนุษย์ได้ง่ายกว่าเชื้อไวรัส H5N1 เชื้อไวรัส H5N1 เป็นเชื้อไข้หวัดนกที่ปรากฎขึ้นในปีค.ศ. 2003 และในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ได้แพร่ระบาดออกไปถึงสามทวีป และมีผู้เสียชีวิตเพราะไวรัสนี้มากกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนผู้ติดเชื้อ 622 คน มีปัจจัยหลายอย่างที่ยังระบุไม่ได้ รวมทั้งแหล่งที่มาของเชื้อไวรัส การกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัส ตัวที่ทำให้เกิดโรค พิษ การเคลื่อนย้ายที่ อาการของโรค และสถานภาพของการระบาดของโรค ซึ่งหมายความว่า จะต้องศึกษาหาความรู้กันอีกมาก นักวิทยาศาสตร์ของ WHO และของทางการจีนมีความเห็นร่วมกันว่า…

  • WHO จับตาดูผู้ป่วยและเสียชีวิตด้วย Coronavirus สายพันธุ์ใหม่ ที่เชื่อกันว่าเกี่ยวกับโรค SARS

    WHO จับตาดูผู้ป่วยและเสียชีวิตด้วย Coronavirus สายพันธุ์ใหม่ ที่เชื่อกันว่าเกี่ยวกับโรค SARS

    WHO จับตาดูผู้ป่วยและเสียชีวิตด้วย Coronavirus สายพันธุ์ใหม่ ที่เชื่อกันว่าเกี่ยวกับโรค SARS องค์การอนามัยโลก เฝ้าจับตามองไวรัส  Coronavirus สายพันธุ์ใหม่ในตะวันออกกลาง ที่ได้คร่าผู้คนไปทั่วโลกเมื่อปี 2003 ไป 800 คน ซึ่งแพทย์และนักวิจัยค้นพบว่า ไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้คือชนิดที่คล้ายกับไข้หวัด SARS แพทย์กล่าวว่า ตอนนี้กำลังจับตามองในเรื่องของการแพร่เชื้อไวรัสนี้อยู่ แต่ก็ยังไม่พบว่าเชื้อไวรัสนี้สามารถแพร่สู่คนได้อย่างไร แต่ได้สมมุติฐานในเรื่องนี้ไว้ว่า ผู้ป่วยที่ติดเชื้อนั้น คงได้ไปสัมผัสกับสัตว์ที่ติดเชื้อกันมา โดยที่ไม่ได้ตั้งใจ แต่เท่าที่รู้ก็คือ เชื้อไวรัสนี้สามารถแพร่เข้าสู่คนได้ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ และแม้จำนวนผู้ป่วยจะยังไม่มาก นายแพทย์ผู้นี้บอกว่าไม่ควรวางใจ และเปรียบเทียบให้ฟังว่า ไข้หวัดใหญ่โดยทั่วไป ซึ่งผู้คนนับล้านๆคนติดเชื้อนั้น อัตราการเสียชีวิตน้อยมาก ไม่ถึงหนึ่งเปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ Mers มีผู้เสียชีวิต 30 คนจากจำนวนผู้ป่วย 50 คน หรือราวๆ 60% ซึ่งนับว่าสูงมาก ดังนั้นองค์การอนามัยโลกจึงได้เฝ้าจับตามองในเรื่องนี้ เพื่อจะได้หาทางควบคุม และแนวทางป้องกัน ร่วมมือกับแพทย์ช่วยหาวิธีการรักษา และยาต้านไวรัส ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีใช้ในทางการรักษา แต่มั่นใจว่าในอนาคตจะสามารถค้นพบวิธีป้องกันและยารักษา ยาต้านไวรัสได้อย่างแน่นอน  

  • ไวรัสไข้หวัดใหญ่ สามารถฆ่าเซลล์เม็ดเลือดขาว ในระบบภูมิต้านทานชั้นแรกได้

    ไวรัสไข้หวัดใหญ่ สามารถฆ่าเซลล์เม็ดเลือดขาว ในระบบภูมิต้านทานชั้นแรกได้

    ไวรัสไข้หวัดใหญ่ สามารถฆ่าเซลล์เม็ดเลือดขาว ในระบบภูมิต้านทานชั้นแรกได้ ทีมนักชีววิทยาอเมริกันชี้ว่าเชื้อไข้หวัดใหญ่สามารถสกัดการตอบโต้จากเซลล์เม็ดเลือดขาวที่ผลิตโดยระบบภูมิต้านทานร่างกายได้ทำให้เชื้อโรคมีเวลามากขึ้นในการเพิ่มจำนวนในร่างกายและได้เปรียบมากขึ้นในการก่อโรค เมื่อร่างกายติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ระบบภูมิต้านทานจะเริ่มสร้างเซลล์เม็ดเลือดขาวที่เป็นตัวผลิตสารแอนติบอตี้ที่ทำหน้าที่ไปเกาะติดกับตัวเชื้อโรค และทำการสกัดไม่ให้เชื้อโรคแตกตัวเพิ่มจำนวน เป็นการป้องกันไม่ให้เกิดโรค เซลล์เม็ดเลือดขาวที่ระบบภูมิต้านทานร่างกายผลิตขึ้นนี้จะจดจำตัวเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกายและหากร่างกายได้รับเชื้อไวรัสตัวเดิมซ้ำอีก เซลล์เม็ดเลือดขาวนี้จะทำการต่อต้านเชื้อโรคทันที ทีมนักวิจัยทำการทดลองนี้กับหนูทดลองที่เพราะพันธุ์จากการตกแต่งยีน การศึกษานี้พบว่าเชื้อไวรัสสามารถเข้าไปในตัวบีเซลล์หรือเซลล์ภูมิต้านทานร่างกายได้สำเร็จและไปรบกวนการผลิตสารแอนติบอดี้ของเซลล์ ซึ่งทำให้บีเซลล์ตายลงในที่สุด เป็นการทำลายระบบภูมิต้านทานชั้นแรกของร่างกาย แต่เมื่อเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่โรคสามารถสกัดการทำงานของบีเซลล์ได้แล้ว เชื้อไวรัสอาจจะหันไปโจมตีเซลล์ปอดแทน ทำลายความสามารถของบีเซลล์ในการจดจำตัวเชื้อโรค ชงักการทำงานของตัวบีเซลล์ในการต่อต้านกับตัวเชื้อโรค หลังจากสกัดไม่ให้ตัวบีเซลล์ทำงานได้สำเร็จ เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่จะมีเวลามากขึ้นในการแตกตัวเพิ่มจำนวนมากขึ้นในร่างกาย ทำให้ได้เปรียบมากขึ้น ก่อนที่ระบบภูมิต้านทานในร่างกายจะเริ่มสร้างแอนติบอดี้รอบใหม่ออกมาต่อต้าน

  • การศึกษาชี้ว่า วัคซีนไข้หวัดใหญ่ช่วยป้องกันหัวใจวายได้

    การศึกษาชี้ว่า วัคซีนไข้หวัดใหญ่ช่วยป้องกันหัวใจวายได้

    การศึกษาชี้ว่า วัคซีนไข้หวัดใหญ่ช่วยป้องกันหัวใจวายได้ ช่วงนี้เป็นช่วงเริ่มต้นของการระบาดของไข้หวัดใหญ่ในประเทศต่างๆทางขั้วโลกเหนือและบรรดาแพทย์ได้กระตุ้นให้ประชาชนทุกคนที่อายุตั้งเเต่หกเดือนขึ้นไปฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่แต่การศึกษาทางสุขภาพชิ้นล่าสุดชี้ว่าวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่อาจจะมีประโยชน์มากกว่าแค่ป้องกันการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ชี้ว่าไข้หวัดใหญ่เป็นสาเหตุให้คนเสียชีวิตจำนวนมาก ซึ่งเป็นความจำเป็นอย่างมากที่เธอต้องวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกปีเพราะมีส่วนในการดูแลสุขภาพของตัวเธอเพื่อป้องกันไม่ให้เธอติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ บรรดาแพทย์ต่างชี้ว่าผู้ป่วยโรคหัวใจที่ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่มีโอกาสสูงมากขึ้นที่จะเกิดอาการหัวใจวาย หัวใจล้มเหลวหรืออาการเส้นเลือดในสมองอุดตัน ผู้ป่วยโรคหัวใจที่ได้รับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่มีความเสี่ยงต่ออาการหัวใจวายและอาการเส้นเลือดในสมองอุดตันหรืออาการอื่นๆที่เกี่ยวข้องลดลงราว 33 เปอร์เซ็นท์เมื่อเทียบกับผู้ป่วยโรคหัวใจที่ไม่ได้รับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ สำหรับผู้ที่เพิ่งเกิดอาการหัวใจวาย การรับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอาการหัวใจวายซ้ำอีก ด็อกเตอร์ยูเดลกล่าวว่าผู้ป่วยโรคหัวใจไม่ควรคิดหนักในการไปฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่