Tag: โรคอ้วน
-
เคล็ดลับ 5 ประการห่างไกลมะเร็งตับ
เคล็ดลับ 5 ประการห่างไกลมะเร็งตับ “ตับ” ถือได้ว่าเป็นอวัยวะที่ใหญ่ที่สุดภายในร่างกาย จะอยู่ภายในช่องท้องบริเวณชายโครงด้านขวา หน้าที่ขอตับก็คือช่วยขจัดของเสียสะสมในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น ยา สารเคมี หรือสารพิษที่ร่างกายไม่ต้องการ ทำหน้าที่เหมือนคลังสะสมอาหารเพื่อเป็นพลังงานไปหล่อเลี้ยงและสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายด้วย นับเป็นหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่และสำคัญมากของร่างกาย แต่หากเราดูแลร่างกายเราไม่ดีก็อาจทำให้เกิดโรคตับขึ้นได้ โดยโรคตับนี้อาจเกิดจากหลายสาเหตุไม่ว่าจะเป็นการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบทุกชนิด การดื่มเหล้า การทานยาบางชนิด ทั้งยาฆ่าเชื้อ ยาคุมกำเนิด และที่พบบ่อยก็คือไขมันพอกตับในผู้ที่เป็นโรคอ้วน ซึ่งสาเหตุเหล่านี้อาจทำให้ตับอักเสบ และกลายเป็นตับแข็งหรือมะเร็งตับได้ด้วย เคล็ดลับ 5 ประการที่จะช่วยให้เราห่างไกลมะเร็งตับมีดังต่อไปนี้ 1. ผู้ที่มีอาการป่วยเกี่ยวกับโรคตับควรตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ และไปพบแพทย์ตามนัดอย่างเคร่งครัด ปฏิบัติตามแพทย์แนะนำ ส่วนคนทั่วไปที่ยังไม่เป็นโรคตับก็ควรป้องกันตนเองจากอาการอักเสบ 2. ห่างไกลอาหารที่ปนเปื้อนสารพิษทั้งหลาย รวมไปถึงหลีกเลี่ยงการดื่มเหล้า เบียร์ ไวน์ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งหมด เพราะอาจทำลายเซลล์ตับได้มากกว่าอวัยวะอื่น ๆ สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงได้อีกก็คือของหมักดอง ที่อาจมีการปนเปื้อนของเชื้อโรค อาหารปิ้ง ๆ ย่าง ๆ หรือทอดน้ำมัน เพราะมีสารก่อมะเร็งเป็นจำนวนมาก อาหารที่มีไขมันสูงก็เช่นเดียวกัน และรวมไปถึงยาบางชนิด เช่น ยาแก้ปวดข้อ ยาคุม ยาฆ่าเชื้อที่อาจส่งผลเสียต่อตับได้ 3. หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ จะช่วยให้ร่างกายมีน้ำหนักตัวที่เหมาะสม…
-
สูตรไม่ลับ! ล้างไขมันลำไส้ ง่ายๆที่บ้าน
สูตรไม่ลับ! ล้างไขมันลำไส้ ง่ายๆที่บ้าน หนุ่มๆ สาวๆ ท่านไหน ที่สะสมไขมันไว้ในร่างกายมากๆ ขอบอกเลยนะ ว่าไม่ใช่ผลดีเลย เพราะไขมันที่อยู่ในร่างกายของเรา ถ้าหากมีปริมาณมากเกินไป จะส่งผลให้โทษกับร่างกาย ซึ่งโทษที่เกิดจากการที่ไขมันสะสม ที่เกาะผนังลำไส้ กระเพาะอาการ จะทำให้เกิดโรคต่างๆได้ เช่น – ถุงน้ำดี โรคนี้จะมีอาการนอนไม่หลับ เป็นนิ่วในไต สายตาเสื่อมลง และจะปวดเมื่อยตามร่างกาย – เลือดเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ จะทำให้มึนศรีษะ – ไตเสื่อม ทำให้ความจำลดลง และจะกลายเป็นคนขี้หนาว – ม้ามชื้น ทำมห้อาหารที่เราทานเข้าไป แปรสภาพเป็นไขมัน และส่งผลให้เป็นคนอ้วนง่าย – ม้ามโต ทำให้มีอาการเหนื่อยง่าย เนื่องจากม้ามไปเบียดปอด – หากไขมันเกาะลำไส้เล็กมากๆ จะส่งผลให้ลำไส้เล็ก ไม่สามารถดูดซึมวิตามินซีได้ และจะทำให้เป็นหวัดในตอนเช้า หรือเป็นหวัดเรื้อรัง อาจจะมีอาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ เกิดโรคภูมิแพ้ และมักจะมีอาการจามในตอนเช้า – ถ้ามีไขมันในตับสูง จะส่งผลให้การสร้างเม็ดเลือดไม่ปกติ หากดื่มตามสูตรนี้ จะช่วยลดหน้าท้อง และยังส่งผลให้อาการทั้ง 7…
-
ยอมรับความเสื่อมของร่างกายตามกาลเวลา
ยอมรับความเสื่อมของร่างกายตามกาลเวลา เมื่ออายุยิ่งมากขึ้นเท่าไร การดูแลสุขภาพก็ยิ่งเป็นเรื่องจำเป็นมากขึ้นเท่านั้น หากจะเปรียบไปแล้วร่างกายของคนก็เหมือนกับรถที่เก่าลงทุกปี จำเป็นต้องเข้าอู่เพื่อตรวจเช็คสภาพ บำรุงรักษาอยู่เนือง ๆ ร่างกายเราเมื่ออายุมากขึ้นก็ย่อมมีความเสื่อมโทรมลงเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ว่าจะเป็นอวัยวะส่วนใดก็หลีกเลี่ยงความจริงข้อนี้ไปไม่ได้ ซึ่งอาการหรือโรคที่บ่งบอกว่าร่างกายเรากำลังเสื่อมโทรมเอาที่เห็นกันได้ชัด ๆ นั้นก็คือ ตาฝ้าฟาง หูตึง ปวดกล้ามเนื้อ และปวดกระดูก อ่อนเพลีย เมื่อยล้า ภูมิแพ้ชนิดต่าง ๆ รวมไปถึงโรคเรื้อรังไม่ติดต่อจำพวก เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเส้นเลือด โรคอ้วน ซึ่งไม่จำเป็นต้องเกิดในผู้สูงอายุเท่านั้น แต่พบได้แม้ในคนที่อายุยังน้อยอยู่ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็เกิดจากวิธีการใช้ชีวิตนั่นเอง แต่คนเราก็ไม่เหมือนรถไปซะหมดทุกอย่าง เพราะคนเราก็ยังมีจิตใจ และจิตวิญญาณ ซึ่งสุขภาพของคนจะดีได้นั้นผู้ที่เป็นเจ้าของร่างกายก็จำเป็นต้องดูแลเอาใจใส่ทุกสัดส่วน ร่างกายจึงจะอยู่กับเรานาน ๆ ไม่เสื่อมโทรมไว หรือเสียบ่อย ๆ แล้วก็ยังใช้การได้ดีจนสิ้นอายุขัย พึงตระหนักไว้ว่าสุขภาพของผู้ที่เข้าวัยชรานั้นเปรียบเหมือนรถเก่าก็ตรงที่ มักจะเสียง่าย ใช้งานหนักมากไม่ไหว แล้วก็ต้องเข้าอู่บ่อย สุดท้ายก็ต้องพัง ดังนั้นจึงจำเป็นต้องดูแลอย่างเหมาะสม เมื่อเกิดความเสียหายขึ้นก็ซ่อมแซมตามจำเป็น แต่หากมีปัญหาซับซ้อนก็ควรแยกแยะให้ออกว่าจะปล่อยไปหรือนำไปซ่อม ควรมีสติ มีความรู้ และอย่างกังวลมากเกินไป นอกจากนี้แล้วยังควรหากช่างซ่อม หรือหมอ พร้อมอู่ หรือโรงพยาบาลที่ไว้ใจได้มาดูแลด้วย ผู้สูงวัยทุกท่านจำเป็นต้องแยกแยะให้ได้ว่า อาการชนิดไหนเป็นโรคที่ไม่ต้องรักษา…
-
วิธีทานผลไม้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพ
วิธีทานผลไม้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพ วิธีทานผลไม้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพ ในประเทศไทยนั้นเป็นประเทศในแถบเมืองร้อนที่มีผลหมากรากไม้ที่มีรสชาติอร่อยมากมาย ยิ่งในฤดูร้อนที่ผลไม้หลายชนิดพากันตกลูกแล้ว วัน ๆ เราก็คงอยากแต่จะทานผลไม้เหล่านี้กันให้อิ่มหนำไปเลย แต่ผลไม้หลายชนิดในหน้าร้อน ไม่ว่าจะเป็น ทุเรียน ลำไย เงาะ ลองกอง มะม่วงสุก เหล่านี้มีน้ำตาลสูงมาก อาจทำให้อ้วนได้ อีกทั้งยังมีการใช้สารเคมีและยาฆ่าแมลงระหว่างการปลูกอยู่มาก ดังนั้นเราจึงควรเรียนรู้วิธีการทานผลไม้อย่างถูกต้องเพื่อให้ร่างกายได้รับประโยชน์สูงสุดจากผลไม้โดยไม่เป็นอันตราย ดังต่อไปนี้ค่ะ 1. เมื่อซื้อผลไม้มาแล้วให้ทำการล้างให้สะอาดมาก ๆ หลาย ๆ น้ำ โดยเฉพาะผลไม้ที่ทานได้ทั้งเปลือกยิ่งต้องใส่ใจเป็นพิเศษ อาจแช่น้ำทิ้งไว้สักครึ่งชั่วโมงแล้วล้างทิ้งเพื่อความปลอดภัย 2. ซื้อผลไม้มาทานแค่พอกินเท่านั้น อย่าซื้อมาตุนไว้เยอะ ๆ เพราะวิตามินและแร่ธาตุที่เต็มเปี่ยมจะอยู่ในผลไม้สด ๆ ยิ่งทิ้งไว้นานเท่าไรคุณค่าทางโภชนาการก็จะยิ่งลดลงไปเรื่อย ๆ อีกทั้งควรกินให้มีความหลากหลาย เปลี่ยนชนิดหมุนเวียนไปเรื่อย ๆ ตามฤดูกาลเพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่หลากหลาย 3. สำหรับผู้ที่ป่วยเป็นเบาหวาน หรือผู้ที่เป็นโรคอ้วน ควรระมัดระวังผลไม้ที่หวานจัด โดยทานผลไม้หวานจัดเหล่านี้แค่ 1 ส่วนต่อวันเท่านั้น ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 5-6 คำ ผลไม้หวาน ๆ เหล่านี้ได้แก่ ขนุน มะม่วงสุก กล้วย…
-
ผงชูรส.. ยิ่งกินก็ยิ่งอ้วน
ผงชูรส.. ยิ่งกินก็ยิ่งอ้วน สำหรับคนไทยแล้วการเติมผงชูรสลงไปในอาหารนั้น สุดแสนจะเป็นเรื่องธรรมดา แต่หารู้ไม่ว่าผงชูรสนั้นทำให้คุณอ้วนขึ้นได้อีกด้วย! โดยผลการวิจัยนี้มาจากการค้นคว่าของมหาวิทยาลัยนอร์ทแคโรไลน่ากับนักวิทยาศาสตร์จีน โดยได้ทำการทดสอบกับชาวจีนทั้งหมด 750 คน ที่ทำกับข้าวกันเองและไม่ได้ใช้ผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูป ประมาณ 82% ใช้ผงชูรส ยิ่งครอบครัวใดใช้ผงชูรสมากก็ยิ่งมีคนอ้วนมาเป็นสามเท่าของผู้ที่ไม่ได้ใช้ ซึ่งการทดสอบนี้ได้คำนวณในด้านปัจจัยอื่น ๆ เกี่ยวกับการออกกำลังกาย และแคลอรี่ที่กินเข้าไป และอื่น ๆ มาพิจารณาร่วมด้วย แต่ก็ยังสรุปได้ว่ายิ่งกินผงชูรสมาก ก็ยิ่งอ้วนขึ้นอยู่ดี ผงชูรส หรือ monosodium glutamate เป็นสารที่ทำให้มีรสชาติเพิ่มมากขึ้น คือนอกเหนือจากรสชาติประจำอาหารทั้งสี่คือ เปรี้ยว หวาน เค็ม และขม และออกฤทธิ์กระตุ้นเซลล์ในสมองด้านการรับรู้รสชาติ โดยประมาณกันว่าในสหรัฐอเมริกานั้น 50 ปีที่แล้วนั้น ใช้ผงชูรสในการประกอบอาหารถึงกว่าห้าร้อยตันต่อปี แต่ทุกวันนี้ปริมาณที่ใช้กลับทวีจำนวนขึ้นอีกกว่า 300 เท่า ดังนั้นจำนวนของคนที่น้ำหนักเกินจึงมากขึ้นหลายเท่าตัว นอกจากทำให้อ้วนลงพุง มีปัญหาน้ำหนักตัวแล้ว ในบางคนที่แพ้ผงชูรส ยังมีอาการข้างเคียงอื่น ๆ คือ ปวดหัวอย่างหนัก และหัวใจเต้นเร็วได้อีกด้วยค่ะ นอกจากไม่มีประโยชน์แล้วยังก่อโทษกับร่างกายอีกต่างหาก เรามาลด ละ เลิก ผงชูรสกันเถอะนะคะ
-
กินของหวาน ๆ ทำเด็กสมาธิสั้นจริงหรือ?
กินของหวาน ๆ ทำเด็กสมาธิสั้นจริงหรือ? เป็นเวลานานมาแล้วที่คุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายมักจะเชื่อว่าถ้าให้ลูก ๆ ได้กินของหวาน ๆ หรือลูกกวาดต่าง ๆ มาก ๆ เด็ก ๆ จะเริ่มทำตัวไฮเปอร์ จนเหมือนเด็กที่เป็นโรคสมาธิสั้น หรือเข้าใจว่าจะทำให้ลูกตัวเองเป็นเด็กสมาธิสั้นด้วยซ้ำไป ซึ่งความจริงแล้วเด็กทุกคนมีความซุกซนและกระตือรือร้นเป็นธรรมชาติของเราดยู่แล้ว การกระโดดโลดเต้นเล่นซนจึงเป็นเรื่องแสนธรรมดาสำหรับเด็กทุกคนนั่นเอง แต่สำหรับผู้ที่จะเป็นโรคสมาธิสั้น…
-
หลากหลายเรื่องราวเกี่ยวกับ “น้ำอัดลม”
หลากหลายเรื่องราวเกี่ยวกับ “น้ำอัดลม” แม้น้ำอัดลมจะเป็นเครื่องดื่มที่เราเห็นกันจนเจนตา และดื่มกันมากจนเจนปากก็ตาม แต่จะมีใครรู้บ้างว่าในน้ำอัดลมนั้น ให้โทษให้ประโยชน์และก่อผลกระทบอย่างไรต่อร่างกายบ้าง วันนี้มาดูกันชัด ๆ เลยค่ะ 8 ข้อ 1. แน่นอนล่ะว่าน้ำอัดลมต้องมีน้ำตาลอยู่สูงมาก เพราะเป็นสารที่ทำให้เครื่องดื่มมีความหวาน ดื่มแล้วสดชื่น แต่หารู้ไม่ว่าหากคุณดื่มทุกวัน คุณก็อาจมีความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานและโรคอ้วนเพราะได้รับน้ำตาลมากเกินความจำเป็น 2. ในน้ำอัดลมมีการอัดก๊าซเอาไว้ ดังนั้นการดื่มน้ำอัดลมก็จะทำให้ท้องอืด ปวดท้องแน่นท้องได้ เพราะเกิดก๊าซในกระเพาะอาหาร 3. น้ำอัดลมมีความเป็นกรดสูง ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคกระเพาะอาหาร จะยิ่งกระตุ้นแผลและทำให้อาการแย่ลง 4. อีกทั้งกรดในน้ำอัดลมยังทำให้เคลือบฟันเสื่อม เป็นสาเหตุของฟันผุอีกด้วย 5. สำหรับผู้ที่จัดฟัน การดื่มน้ำอัดลมจะทำให้เกิดคราบบริเวณรอยต่อระหว่างเหล็กและฟัน 6. นอกจากจะทำให้อ้วน น้ำหนักเกินแล้ว การดื่มน้ำอัดลมมากเกินไปจะทำให้โพแทสเซียมในเลือดต่ำลง ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตันได้ 7. ในน้ำอัดลมมีคาเฟอีน จึงทำให้ตื่นตัว แต่ก็อาจทำให้นอนไม่หลับ มีอาการใจสั่น กระทั่งปวดศีรษะได้ด้วย 8. การดื่มน้ำอัดลมทำให้กระดูกสูญเสียแคลเซียม ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคกระดูกพรุนได้
-
ระวัง! 6 โรคยอดฮิตมนุษย์ออฟฟิศบ้าพลัง
ระวัง! 6 โรคยอดฮิตมนุษย์ออฟฟิศบ้าพลัง สำหรับหนุ่มสาวออฟฟิศที่ทำงานกันหามรุ่งหามค่ำ แม้ตอนนี้จะยังมีร่างกายแข็งแรงอยู่ แต่ก็ใช่ว่าการทำงานใช้ร่างกายอย่างหนักหน่วงนั้นจะไม่สร้างปัญหาให้กับร่างกายนะคะ เพราะจากการวิจัยและสำรวจมาหลายสิบปีในวงการแพทย์ พบว่าเหล่ามนุษย์ออฟฟิศทั้งหลายนั้นมีอัตราความเจ็บป่วยจากการทำงานในปริมาณที่เพิ่มสูงขึ้นทุกปีอย่างน่ากลัว นั่นเป็นเพราะชาวออฟฟิศทั้งหลายมักปล่อยให้ปีศาจร้ายทำลายสุขภาพอย่าง โรคเครียด, การทำงานนานเกินไป, พฤติกรรมกินอาหารไม่ตรงเวลา และไม่ยอมออกกำลังกาย เหล่านี้มาเป็นตัวการร้ายทำลายสุขภาพ ซึ่งโรคร้ายที่ทำลายสุขภาพชาวออฟฟิศมากที่สุด 6 โรค ก็คือ 1. ต้อหิน และตาพร่า ทำให้มองภาพได้ไม่ชัด ตาสู้แสงไม่ได้ และอาจลุกลามทำให้ตาบอดไ 2. ไมเกรน ปวดศีรษะ นอนไม่หลับ คลื่นไส้อ่อนเพลีย และเสียสมรรถภาพในการทำงาน 3. อาการนิ้วล็อค ทำให้นิ้วกระดิกไม่ได้ ตึง และรู้สึกเจ็บ กล้ามเนื้ออักเสบ 4. ปวดหลังเรื้อรัง รวมไปถึงอาการปวดไหล่ ต้นคอ ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้เป็นอัมพาตได้ 5. โรคอ้วน มีความเสี่ยงทำให้เป็นโรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจ ตลอดจนความดันโลหิตสูง 6. โรคกรดไหลย้อน เป็นสาเหตุของโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร และมะเร็งหลอดอาหาร สำหรับหนุ่มสาวออฟฟิศทั้งหลายที่เริ่มมีอาการนี้แล้ว หรือยังไม่มีก็ควรหันมาดูแลสุขภาพของตัวเองด้วยเคล็ดลับดังต่อไปนี้ – อย่าเพ่งจ้องจอคอมพิวเตอร์นานเกินไป ควรพักผ่อนสายตาบ้าง…
-
มารู้จักกับอาหารลดคอเลสเตอรอล
มารู้จักกับอาหารลดคอเลสเตอรอล สำหรับคอเลสเตอรอลนั้นก็มีประโยชน์อยู่เหมือนกัน ในด้านการเสริมสร้างพลังงานให้แก่ร่างกาย แต่หากมีมากจนเกินไป ก็อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ ทำให้ถึงแก่ความตายได้ ซึ่งปัจจัยที่จะทำให้ร่างกายเราได้รับคอเลสเตอรอลสูงเกินไปนั้น ได้แก่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ ความดันโลหิต ไขมัน โรคอ้วน ความเค็มหรือเกลือ ความหวานหรือน้ำตาล รวมไปถึงการขาดการออกกำลังกายและความเครียดด้วย แล้วอาหารชนิดใดบ้างที่เราควรทานเพื่อช่วยลดปัญหาคอเลสเตอรอลในร่างกาย 1. ถั่วเมล็ดแห้ง 2. กระเทียมสด 3. ผักผลไม้หลากสี 4. นมพร่องมันหรือ หรือนมขาดมันเนย 5. หลีกเลี่ยงอาหารที่ประกอบด้วยเนื้อแดง 6. ปลาทะเล 7. ข้าวหรือธัญพืชไม่ขัดสี ข้าวซ้อมมือ ข้าวกล้อง โฮลเกรน 8. ผักสีเขียวเข้ม เช่น ผักคะน้า บร็อกโคลี่ ผักตำลึง ฯลฯ 9. เลือกใช้น้ำมันพืชในการประกอบอาหาร
-
ข้ออ้างยอดฮิตที่ทำให้คุณอ้วน อ้วน และอ้วน
ข้ออ้างยอดฮิตที่ทำให้คุณอ้วน อ้วน และอ้วน ลองสำรวจตัวเองกันหน่อยไหม ว่าคุณมีข้ออ้างอะไรบ้างหรือเปล่าที่ทำให้ทุกวันนี้คุณยังไม่สามารถลดน้ำหนักได้ตามที่ใจต้องการเสียที 1. วันนี้รู้สึกแย่จัง อาจารย์ดุ เจ้านายด่า พ่อแม่บ่น แฟนงี่เง่า.. ขอฉันกินหน่อยนะ 2. ก็มันหิวง่ะ วันนี้ทั้งวันยังไม่ได้กินอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย (แล้วทำไมไม่กินเป็นมื้อ?) 3. วันนี้เอาไว้ก่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยลดละกัน 4. เอาน่า.. นาน ๆ ฉลองซักทีนึง ว่าแล้วก็บุฟเฟ่ต์ซักมื้อ.. 5. ก็มันน่ากินนะ วันนี้ทำอะไรดี ๆ มาขอรางวัลนิดนึง 6. กิน ๆ ไปเหอะ เดี๋ยวก็ตายละ จะอะไรนักหนา (แล้วก็มาเสียใจทีหลัง) 7. ก็มันยุ่งนี่นา ไม่มีเวลาออกกำลังกายหรอก