Tag: HIV

  • สหประชาชาติ รายงานถึงผู้ติดเชื้อเอดส์ ที่มีความลดลงถึง 30%

    สหประชาชาติ รายงานถึงผู้ติดเชื้อเอดส์ ที่มีความลดลงถึง 30%

    สหประชาชาติ รายงานถึงผู้ติดเชื้อเอดส์ ที่มีความลดลงถึง 30% โครงการเอดส์แห่งสหประชาชาติรายงานว่าจำนวนผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ทั่วโลกได้ลดลงอย่างมากโดยลดลงถึง 30 เปอร์เซ็นต์ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สถาบันสุขภาพแห่งหสรัฐ ชี้ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ลดลงเพราะว่ามีการบำบัดผู้ติดเชื้อรายเดิมด้วยยาต้านไวรัส ด็อกเตอร์เฟาชี่ กล่าวว่าหากผู้ติดเชื้อได้รับยาต้านไวรัส นอกจากจะช่วยยืดชีวิตแล้วยังช่วยลดความเสี่ยงที่จะแพร่เชื้อต่อไปผู้อื่น ค่าใช้จ่ายของยาต้านไวรัสเอดส์ได้ลดลงมาจาก 10,000 ดอลล่าร์สหรัฐต่อปีต่อคนหรือสามแสนบาทไปอยู่ที่ประมาณ 140 ดอลล่าร์สหรัฐเท่านั้น หรืออยู่ที่ 4,200 บาทต่อปีต่อคน ด็อกเตอร์เฟาชี่กล่าวว่าค่ายาต้านไวรัสว่าคุ้มค่าแม้แต่สำหรับบรรดาประเทศรายได้น้อยก็ตา การรณรงค์เกี่ยวกับโรคเอดส์ได้ช่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทางเพศของคน ให้หันไปใช้ถุงยางอนามัยและมีการเลิกใช้เข็มฉีดยาร่วมกันในกรณีของผู้ใช้ยาเสพติดประเภทฉีดยาเข้าเส้น มาตราการเหล่านี้ช่วยป้องกันไม่ให้มีการแลกเปลี่ยนเลือดและน้ำอสุจิ ที่เป็นตัวแพร่เชื้อเอชไอวีนอกจากนี้การขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชาย ที่ช่วยลดการติดเชื้อได้กลายเป็นเรื่องปกติที่พบได้ทั่วไป โครงการเอดส์แห่งสหประชาชาติชี้ว่าการติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ได้ลดลงในทุกกลุ่มอายุ แต่ที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัดคือกลุ่มเด็ก เนื่องจากผู้หญิงตั้งครรภ์ได้รับยาต้านไวรัสเอดส์และลดโอกาสส่งผ่านเชื้อไปสู่ทารกในครรภ์ลงไปต่ำกว่า 5 เปอร์เซ็นต์ นี่ส่งผลมีเด็กติดเชื้อเอดส์จากมารดาลดลงราว 50 เปอร์เซ็นต์ตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านการสาธารณสุขชี้ว่าการต่อต้านเอดส์มาถึงจุดพลิกผันของสถานการณ์เอดส์ ด็อกเตอร์เฟาชี่แห่งสถาบันสุขภาพแห่งหสรัฐกล่าวว่าจุดพลิกผันคือ จุดที่มีจำนวนผู้เข้ารับยาต้านไวรัสมากมากกว่าจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ ด็อกเตอร์เฟาชี่ประมาณว่าต่อจำนวนผู้ติดเชื้อหนึ่งคนที่เข้ารับการบำบัดด้วยยาต้านไวรัส จะมีผู้ติดเชื้อรายใหม่อย่างน้อยสองราย เขากล่าวว่าผู้ติดเชื้อไม่ได้รับยาต้านไวรัสกันหมดทุกคน กลุ่มชาวอเมริกันผิวดำเป็นกลุ่มเสี่ยงกลุ่มหลัก แม้ว่าจะเป็นจำนวน 12 เปอร์เซ็นต์ของประชากรทั้งหมดของประเทศ มากกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่เป็นชาวอเมริกันผิวดำ

  • แอฟริกาใต้ วอนรัฐบาล มอบเงินเล็กน้อย เพื่อลดความเสี่ยงจากโรคเอดส์ และ ความยากจน             ก

    แอฟริกาใต้ วอนรัฐบาล มอบเงินเล็กน้อย เพื่อลดความเสี่ยงจากโรคเอดส์ และ ความยากจน ก

    แอฟริกาใต้ วอนรัฐบาล มอบเงินเล็กน้อย เพื่อลดความเสี่ยงจากโรคเอดส์ และ ความยากจน รายงานการศึกษากลุ่มเด็กหญิงวัยรุ่นที่ยากจนในแอฟริกาใต้ กล่าวว่าจะลดโอกาสความเสี่ยงที่เด็กหญิงเหล่านี้จะติดเชื้อไวรัส HIV ที่ทำให้เป็นโรค AIDS ได้ ถ้ารัฐบาลให้เงินอุดหนุนเด็กหญิงเหล่านี้จำนวนเล็กน้อยเป็นประจำทุกเดือน หัวหน้านักวิจัยชาวอังกฤษ แห่งมหาวิทยาลัย Oxford ได้ทำการวิจัยว่า เด็กหญิงในกลุ่มตัวอย่างไม่มีอาหารพอรับประทาน ในครอบครัวอย่างน้อยสองวันในช่วงสัปดาห์ก่อนการสอบถาม ซึ่งสะท้อนถึงความเป็นจริงที่ว่า ทั่วทั้งแอฟริกาตอนใต้นั้น เด็กหญิงวัยรุ่นเป็นจำนวนมากตกอยู่ในสภาพยากจน ปัญหาที่เด็กหญิงเหล่านี้ประสบตลอดเวลา นอกเหนือไปจากความหิวโหยแล้ว คือ ผู้ชายอายุมาก ที่ร่ำรวยและชอบเด็กผู้หญิง ภาษาอังกฤษมีศัพท์เรียกว่า ‘Sugar Daddies’ หรือศัพท์ไทยอาจจะเรียกว่า ‘ป๋า’  เหตุผลสำคัญที่เด็กหญิงยากจนเหล่านี้มองหา ‘ป๋า’ ก็เพราะไม่มีเงินเสียค่าเล่าเรียนและซื้ออาหารให้ครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามีสมาชิกในครอบครัวที่เจ็บไข้ได้ป่วย เด็กผู้ชายไม่ต้องรับภาระอย่างนี้ นักวิจัยผู้นี้บอกว่า เป็นเรื่องของอุปสงค์และอุปทาน หรือลัทธินิยมทุน ซี่งมีผู้ชายมีอายุ มีเงินสด ที่แสวงหาเด็กหญิง ที่น่าสังเกตก็คือ ไม่มีสถานการณ์กลับกัน กล่าวคือ ไม่มีผู้หญิงมีอายุ มีเงินที่มองหาเด็กผู้ชาย ดังนั้นชาวแอฟริกาจึงวอนให้รัฐบาลแอฟริกาใต้มีโครงการให้เงินอุดหนุนเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี เดือนละ 35 เหรียญสหรัฐ หรือราวๆ หนึ่งพันบาท จำนวนเด็กในโครงการมีประมาณ 11 ล้านคน…

  • นักวิจัยอเมริกัน ค้นพบว่าทำไมเชื้อ HIV ทำลายระบบเซลล์ภูมิคุ้มกันของผู้ป่วย

    นักวิจัยอเมริกัน ค้นพบว่าทำไมเชื้อ HIV ทำลายระบบเซลล์ภูมิคุ้มกันของผู้ป่วย

    นักวิจัยอเมริกัน ค้นพบว่าทำไมเชื้อ HIV ทำลายระบบเซลล์ภูมิคุ้มกันของผู้ป่วย นักวิจัยอเมริกันพบว่าเชื้อเอชไอวีทำลายระบบภูมิคุ้มกันร่างกายด้วยการทำให้เซลล์ภูมิคุ้มกันอักเสบก่อนจะเริ่มทำลายเซลล์อื่นๆที่อยู่ข้างเคียงและการค้นพบนี้อาจจะนำไปสู่วิธีบำบัดวิธีใหม่เพื่อลดความรุนแรงของโรคเอดส์ลง บรรดานักวิทยาศาสตร์รู้กันมานานเเล้วว่าเมื่อเชื้อไวรัสเอชไอวีเข้าสู่ร่างกาย เชื้อไวรัสจะเข้าไประบาดในตัวเซลล์ภูมิต้านทานที่เรียกว่า CD-4 T cells และเชื้อโรคจะแตกตัวเพิ่มจำนวนขึ้นเป็นล้านๆตัว ทำลายระบบภูมิคุ้นกันในร่างกายให้อ่อนแอ แต่ล่าสุดทีมนักวิทยาศาสตร์ในรัฐแคลิฟอเนียเพิ่งค้นพบเพิ่มเติมว่าทำไมเชื้อไวรัสเอชไอวีจึงเป็นเชื้อโรคระบาดที่มีความร้ายแรง ทีมนักวิทยาศาสตร์ทีมนี้พบว่าในช่วงเริ่มต้นของการติดเชื้อ เชื้อไวรัสเอชไอวีจะเข้าไปแพร่ตัวในเซลล์ CD-4 T cells เพียงไม่กี่เซลล์เท่านั้น แต่หลังจากนั้นเชื้อไวรัสจะเริ่มทำลายเซลล์ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายของผู้ติดเชื้ออย่างน้อย 95 เปอร์เซ็นต์ ทีมนักวิทยาศาสตร์ที่สถาบัน Gladstone Institute ในรัฐ California ได้ค้นพบว่าเซลล์ร่างกายที่อยู่ใกล้กับเซลล์ภูมิต้านทานร่างกายจะเกิดอาการอักเสบในบริเวณกว้างและปล่อยโปรตีน capcaisin-1 ออกมาเพื่อไปทำหน้าที่ดึงเซลล์ภูมิคุ้มกันร่างกายหรือทีเซลล์ตัวอื่นๆเข้าไปในจุดที่เกิดอาการอักเสบเพื่อพยายามต่อสู้กับเชื้อไวรัสเอชไอวี แต่ทีเซลล์ตัวใหม่ที่เข้าไปช่วยต่อต้านเชื้อโรคในจุดที่เกิดการติดเชื้อกลับติดเชื้อเสียเองและเริ่มตายลงในที่สุด อย่างไรก็ดี มีข่าวดีว่าอาการอักเสบที่เกิดขึ้นสามารถกำจัดได้ด้วยยาหลายชนิดที่มีใช้กันอยู่ในปัจจุบัน

  • FOA รายงานถึงปัจจัยต่างๆ ซึ่งทำให้เกิดโรคระบาดจากสัตว์สู่คน

    FOA รายงานถึงปัจจัยต่างๆ ซึ่งทำให้เกิดโรคระบาดจากสัตว์สู่คน

    FOA รายงานถึงปัจจัยต่างๆ ซึ่งทำให้เกิดโรคระบาดจากสัตว์สู่คน องค์การอาหารและเกษตรโลกของสหประชาชาติหรือ FAO ออกรายงานเกี่ยวกับการระบาดของโรคจากสัตว์สู่คน ซึ่งชี้ว่ามีความเสี่ยงที่จะเกิดได้ง่ายขึ้นมากในสังคมยุคปัจจุบัน Juan Lubroth หัวหน้าสัตวแพทย์ของ FAO กล่าวว่าปัจจัยต่างๆ เอื้ออำนวยให้เกิดการระบาดจากสัตว์สู่คนมากขึ้น ทั้งเรื่องอากาศเปลี่ยนแปลงผิดธรรมชาติ และการเดินทางติดต่อสื่อสารของประชากรโลกในยุคโลกาภิวัฒน์ คนรุกรานระบบนิเวศน์ของสิ่งมีชีวิตที่ประชากรโลกเองก็ไม่คุ้นเคยมาก่อน นอกจากนั้นการทำฟาร์มสัตว์เพื่อสนองการบริโภคที่เพิ่มขึ้น ทำให้ความเสี่ยงของการระบาดมีมากขึ้นด้วย ขณะนี้มีตัวอย่างโรคหลายชนิดที่นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าน่าจะเป็นการระบาดสู่คนที่มีจุดเริ่มต้นจากสัตว์ เช่นไวรัส HIV ที่เริ่มจากลิง หรือเชื้อไข้หวัดนกที่มีต้นตออยู่ที่สัตว์ปีก FAO เรียกร้องให้มีการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบและครบวงจรซึ่งต้องใช้ความรู้จากศาสตร์หลายแขนง และต้องลงลึกไปถึงการหยุดโอกาสการระบาดในชุมชนหรือเมืองก่อนที่ปัญหาจะลามไปอย่างกว้างขวาง