Tag: มะเร็งตับ

  • ระวัง! ดื่มน้ำอัดลมมากตับอ่อนเสื่อม เสี่ยงเป็นมะเร็ง

    ระวัง! ดื่มน้ำอัดลมมากตับอ่อนเสื่อม เสี่ยงเป็นมะเร็ง

    ระวัง! ดื่มน้ำอัดลมมากตับอ่อนเสื่อม เสี่ยงเป็นมะเร็ง เคยมีการวิจัยเกิดขึ้นในประเทศสวีเดน ซึ่งได้ติดตามการกินของชายหญิงที่มีสุขภาพดีจำนวนกว่าแปดหมื่นคน เป็นเวลาแปดปี  โดยพบว่ามีคน 131 คนในจำนวนนี้เป็นมะเร็งตับอ่อน  เมื่อศึกษาเข้าไปก็ได้พบว่าในจำนวนนี้ก็คือคนที่ดื่มน้ำอัดลมหรือเครื่องดื่มที่มีความหวานมาก  ซึ่งกลุ่มนี้ดื่มเครื่องดื่มดังกล่าวถึงวันละมากกว่าสองกระป๋องขึ้นไป  จึงมีความเสี่ยงมากกว่ากลุ่มที่ไม่ดื่มเกือบร้อยละร้อย  ส่วนคนอื่น ๆ ที่ทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่เติมน้ำตาลลงไปอย่างน้อยวันละ 5 ครั้งก็มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นร้อยละ 70 เช่นเดียวกัน ซึ่งโรคมะเร็งที่ทำให้กลุ่มตัวอย่างดังกล่าวเสียชีวิตนั้นเป็นโรคมะเร็งที่ร้ายแรงและตรวจพบได้ยากที่สุดชนิดหนึ่งเลยค่ะ สาเหตุก็เกิดจากการที่ตับผ่อนผลิตอินซูลินมากขึ้น  เพราะเป็นผลจากความผิดปกติของกระบวนการเผาผลาญกลูโคส    โดยการกินน้ำตาลมาก ๆ ก็เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ตับอ่อนผลิตอินซูลินมากขึ้น ก็เท่ากับเป็นการทรมานให้ตับอ่อนทำงานหนักขึ้น ผลก็คือตับอ่อนกลายเป็นมะเร็ง  รวมไปถึงการสูบบุหรี่ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งของมะเร็งตับอ่อนด้วย ดังนั้นหากต้องการหลีกหนีให้ไกลจากโรคมะเร็งตับอ่อน ก็จำเป็นต้องควบคุมการบริโภคน้ำตาล รวมทั้งเครื่องดื่มที่ผสมน้ำตาลทั้งหลาย ไม่ว่าจะในเด็กหรือในผู้หญิงก็ตาม  ยิ่งโดยเฉพาะผู้หญิงแล้ว การดื่มน้ำอัดลมจะส่งผลให้กระดูกพรุนจากกรดฟอสฟอริกที่พบในน้ำอัดลมได้อีกด้วย  ซึ่งการวิจัยในสวีเดนที่กล่าวไว้ข้างต้นนี้ไม่ได้มีการแยกเฉพาะว่าเป็นน้ำอัดลมอย่างเดียว แต่หมายรวมถึงเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลทั้งหมด รวมทั้งน้ำผลไม้ที่ผสมน้ำอัดลมด้วย

  • ประโยชน์ของวิตามินซีที่มีต่อร่างกายของเรา

    ประโยชน์ของวิตามินซีที่มีต่อร่างกายของเรา

    ประโยชน์ของวิตามินซีที่มีต่อร่างกายของเรา คุณสมบัติเด่น ๆ ของวิตามินซีเลยก็คือ การที่มีคุณสมบัติเป็นวิตามินที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ นั่นเอง ซึ่งประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับจากการบริโภควิตามินซีอย่างพอเพียงและเป็นประจำก็คือ 1. ทำให้ร่างกายมีภูมิต้านทานสูงขึ้น 2. ช่วยป้องกันการก่อตัวของเซลล์มะเร็งในร่างกาย 3. ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง สดใส ไม่เหี่ยวย่นก่อนวัน 4. ป้องกันโรคเหงือก โรคในช่องปากต่าง ๆ เช่น โรคลักปิดลักเปิด หรือโรคเหงือกอักเสบได้ ฯลฯ และในทางกลับกันหากร่างกายของเราได้รับวิตามินซีไม่เพียงต่อความต้องการ ก็อาจก่อผลเสียได้ดังต่อไปนี้ 1. มีภูมิต้านทานโรคต่ำ เป็นหวัดและติดเชื้อได้ง่าย กับทั้งความสามารถในการกำจัดพิษยังลดลงอีกด้วย 2. ผิวหนังเหี่ยวย่น ไม่สดใส ขาดความยืดหยุ่น ปรากฏจุดด่างดำ และเกิดโรคเลือดออกตามไรฟัน 3. ประสาทสัมผัสด้อยลง อ่อนเพลีย ไม่สดใส ไม่มีเรี่ยวแรง 4. มีความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งตับ มะเร็งกระเพาะ และมะเร็งในส่วนอื่น ๆ 5. การทำงานของต่อมหมวกไตลดลง และเป็นโรคภูมิแพ้ได้ง่าย 6. ทำให้เป็นโรคโลหิตจาง หรือโรคอื่น ๆ ได้ง่าย แผลหายช้า อ่านแล้วอย่าเพิ่งเครียดไป…

  • เมนูอาหารที่อาจก่อให้เกิดมะเร็งขึ้นได้ตอนที่ 1

    เมนูอาหารที่อาจก่อให้เกิดมะเร็งขึ้นได้ตอนที่ 1

    เมนูอาหารที่อาจก่อให้เกิดมะเร็งขึ้นได้ตอนที่ 1 ในปัจจุบันนี้มีอาหารเป็นจำนวนมากที่เป็นต้นเหตุของมะเร็ง ไม่นับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งตับ วันนี้จะขอนำเอารายการอาหารที่รับประทานแล้วอาจก่อให้เกิดมะเร็งได้มาฝากกันเพื่อให้ระวังการรับประทานนะคะ 1. อาหารที่ทอดจากน้ำมันทอดซ้ำ เพราะมีสารก่อมะเร็งตัวนำเลยก็คือ สารโพลาร์และสารกลุ่มโพลีไซคลิก อะโรมาติกไฮโครคาร์บอนหรือที่เรียกกันว่าสารพีเอเอช จะเกิดขึ้นหลังจากการทอดอาหาร ยิ่งใช้น้ำมันเก่าทอดซ้ำเท่าไร สารก็ยิ่งก่อนตัวมากขึ้น แม้กระทั่งพ่อครัวแม่ครัวที่ยืนทอดอาหารเหล่านี้ก็มีสิทธิ์ที่จะสูดเอาไอน้ำมันหรือควันเข้าไปจนอาจเกิดเป็นมะเร็งเองได้อีกด้วย 2. อาหารเนื้อสัตว์หมักดองทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นแฮม ไส้กรอก เบคอน ปลาจ่อม ปลาร้า ปลาส้ม แหนม กุนเชียง หมูยอ ฯลฯ เพราะอาหารเหล่านี้เต็มไปด้วยสารก่อมะเร็งที่เรียกว่าไนโตรซามีนอยู่นั่นเอง 3. อาหารปิ้งย่างที่ไหม้เกรียม ก็สารก่อมะเร็งเยอะมาก เพราะมีทั้ง ไนโตรซานมีน สารพีเอเชร 4. อาหารที่ทำจากปลาน้ำจืดดิบ หรือสุก ๆ ดิบๆ มีพยาธิใบไม้ในตับ ทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรังของเซลล์น้ำดีซ้ำ ๆ ไปจนกลายเป็นมะเร็งเซลล์ท่อน้ำดีไปในที่สุด 5. น้ำปลาร้า เวลาปรุงอาหารก็มีไนโตรซานมีน และความเค็มสูงซึ่งทำให้เป็นโรคไตและความดันโลหิตสูงได้ อีกทั้งยังมีความเสี่ยงเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารสูงด้วย 6. อาหารที่ไม่อยู่ในภาวะปกติ เช่น ขนมปังแช่ตู้เย็น หอมแดง กระเทียม ในตู้กับข้าว ถั่วลิสง…

  • วิธีสังเกตอาการต่างของโรคมะเร็ง

    วิธีสังเกตอาการต่างของโรคมะเร็ง

    วิธีสังเกตอาการต่างของโรคมะเร็ง โดย : วราธร จารุชลิตากุล อาการของ การเกิดมะเร็งในอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย 1. มะเร็งปากมดลูก อาการ มีเลือดออกจากช่องคลอดทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่เวลารอบเดือนปกติของคุณอาการเจ็บปวดและมีเลือดออกหลังจากมีเพศ สัมพันธ์ หากพบว่ามีสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น การตรวจโดยขูด นื้อเยื่อจากบริเวณดังกล่าวไปตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์จะรู้ ได้ 2. มะเร็งในมดลูก อาการ มีเลือดออกหลังการมีเพศสัมพันธ์ หรือบางครั้งอาจมีความรู้สึกว่ามีก้อนเนื้อหรือมีอาการบวมในช่อง ท้อง 3. มะเร็งรังไข่ อาการ ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอหรือการมีอาการเจ็บปวดหลังการมีเพศ สัมพันธ์ > มีปัญหา เกี่ยวกับลำไส้อาการท้องอืดอาหารไม่ย่อย น้ำหนักลดและมีอาการปวดหลัง 4. มะเร็งในเม็ดเลือด (ลูคีเมีย) อาการเหนื่อยง่ายและมีอาการซีดเซียวกว่าปกติมักเกิดอาการฟกช้ำดำเขียว หรือมีเลือดออกทางผิวหนังได้ง่ายโดยไม่ทราบสาเหตุและมักจะเกิดร่วมกับอาการ ปวด ตามข้อต่าง ๆ ทั่วร่างกายบางครั้งจะท้องอืดและเมื่อคลำดูจะพบว่ามีก้อนบวมที่ด้านซ้ายของ ช่องท้อง 5. มะเร็งปอด อาการ มักมีอาการไอบ่อย ๆ มีเลือดออกและมีเสมหะปนมากับน้ำลายน้ำหนักลดอย่าง ฮวบฮาบ เจ็บ หน้าอกและหายใจลำบากหรืออาจมีอาการหอบปนอยู่ด้วยทั้ง ๆ ที่ไม่เคยเป็นมาก่อน 6. มะเร็งตับ อาการ ปวดในช่องท้อง เบื่ออาหาร น้ำหนักลดตาและผิวเป็นสีออกเหลืองและเหลืองจัดจนเห็นได้ ชัด 7. มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ อาการ มีเลือดปนออกมากับปัสสาวะ 8. มะเร็งสมอง อาการ ปวดศีรษะนาน ๆ และมักมีอาการอื่นร่วมด้วยเช่นอาเจียนหรือการผิดปกติของการมองเห็น ตาพร่า และเห็นแสงเขียว ๆ แดง ๆ ลอยไปมาเวลาปวดศีรษะ อ่อนเพลียไม่มีแรง หรือ การเป็นลมโดยกะทันหันอวัยวะบางส่วนของร่างกายหยุดทำงานเช่นมีอาการชาและเป็น อัมพาตชั่วคราวควรให้ความระวังเป็นพิเศษหากคุณเคยมีประวัติการปวดหัวที่มี อาการ เหล่านี้ประกอบอยู่ด้วย 9. มะเร็งในช่องปาก อาการ มีก้อนบวมอยู่ในปาก หรือทีลิ้นเป็นเวลานานมีแผลเปื่อยที่ปากที่ไม่ได้รับการรักษา หรือเป็นแผลเรื้อรังที่เหงือกเนื่องจากการกดทับของฟันปลอมที่ใส่ไว้ประจำ หรือ เป็นเวลานาน 10. มะเร็งในลำคอ อาการ เสียงแหบพร่าไปทันที มีก้อนบวมในทันทีทำให้รู้สึกว่ากลืนอาหารได้ลำบาก หรือมีการขยายตัวของต่อมในลำคอที่โตขึ้นจนสามารถจับและรู้สึก ได้ 11. มะเร็งในกระเพาะอาหาร อาการน้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็วอาเจียนออกมาเป็นเลือดท้องอืดหรืออาหารไม่ย่อย…

  • เกร็ดความรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็ง

    เกร็ดความรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็ง

    เกร็ดความรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็ง “โรคมะเร็ง” เป็นโรคที่คนไทยหรือคนทั่วโลกรู้จัก และเกรงกลัวโรคนี้กันเป็นอย่างมาก แต่จะรู้ไหมว่าสาเหตุของการเกิดขึ้นของโรคมะเร็งมาจากไหน และมีสาเหตุจากอะไรบ้าง วันนี้เรามีคำแนะนำและเกร็ดความรู้ดีๆ เพื่อให้เข้าใจในเรื่อง “มะเร็ง” และหันมาดูแลสุขภาพ หาทางป้องกันตนเองให้ห่างจากโรคมะเร็งกันค่ะ มารู้จักโรคมะเร็งกันก่อนค่ะ! โรคมะเร็ง หมายถึง โรคที่เซลล์หรือเนื้อเยื่อของร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงแบ่งตัวแบบกระจายอย่างรวดเร็ว โดยอาจลุกลามไปยังอวัยวะใกล้เคียงหรือแพร่กระจายไปตามอวัยวะที่สำคัญต่าง ๆ โรคมะเร็งจะไม่ติดต่อจากคนหนึ่งไปยังอีกคนหนึ่ง โรคมะเร็งบางชนิดอาจจะมีการถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ เช่น มะเร็งเต้านม ถ้ามีประวัติครอบครัวเคยเป็นในแม่พี่สาวหรือน้องสาว ก็อาจจะมีโอกาสเกิดขึ้นในผู้หญิงคนนั้นสูงกว่าคนทั่วไปเล็กน้อย ซึ่งสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งนั้น ยังไม่มีอะไรที่ทราบกันได้แน่ชัด แต่สิ่งกระตุ้นและส่งเสริมมะเร็ง มีสาเหตุดังนี้ค่ะ 1. เชื้อโรคบางชนิด เช่น เชื้อไวรัส ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งปากมดลูก และมะเร็งโพรงจมูก หรือเชื้อแบคทีเรียบางชนิดในกระเพาะอาหารมีคนพบว่าเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร 2. พยาธิใบไม้ในตับก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งตับและทางเดินน้ำดี สารเคมีหลายชนิดก่อให้เกิดมะเร็ง เช่น พวกแอสเบสทอส ทำให้เกิดมะเร็งปอด นิเกิล โครเมี่ยม เป็นต้น 3. ยาบางชนิด เช่น ยาฮอร์โมน ซึ่งไม่ควรจะรับประทานเอง ควรจะอยู่ภายใต้การควบคุมของแพทย์ หรือยารักษามะเร็งบางชนิด เป็นต้น 4. การสูบบุหรี่ และการดื่มสุรา หรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ดังนั้น…

  • รู้ก่อนดีกว่า…อาการเบื้องต้นของคนที่เป็นมะเร็ง

    รู้ก่อนดีกว่า…อาการเบื้องต้นของคนที่เป็นมะเร็ง

    รู้ก่อนดีกว่า…อาการเบื้องต้นของคนที่เป็นมะเร็ง อาการเบื้องต้น ที่สงสัยว่า อาจเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งตับ มะเร็งต่อมน้ำเหลือง  – ต่อมลูกหมากโตขึ้นหรือเล็กลง คลำพบก้อนหรือรู้สึกปวด หน่วงๆ ที่ถุงอันฑะ – ต่อมน้ำเหลืองบวมขึ้นเรื่อยๆ เช่น ใต้รักแร้ คอ และเป็นนานกว่า 1 เดือนขึ้นไป – ผิวบริเวณหน้าอกหรือหัวนมบุ๋ม มีอาการแดง – เป็นไข้บ่อยโดยไม่ทราบสาเหตุ – น้ำหนักลดลงร้อยละ 10 ของน้ำหนักตัวภายใน 3-6 เดือน ทั้งที่ไม่ได้ตั้งใจลดน้ำหนัก – ปวดท้องจนมีอาการซึม เป็นดีซ่าน อุจจาระและปัสสาวะมีสีเข้มผิกปกติ – มีอาการเหนื่อย พักเท่าไรก็ไม่เพียงพอ – ไอต่อเนื่องนาน 3-4 สัปดาห์ขึ้นไป – ไอมีเลือด เสมหะมีเลือด ฉี่เป็นเลือด – กลืนอาหารยาก แม้จะเปลี่ยนมากินอาหารอ่อนๆ – ลิ้นเป็นฝ้าขาว ภายในช่องปากเป็นรอยขาว – ผิวตามร่างกายมีเลือดออก หรือเป็นรอยคล้ายแผลขนาดใหญ่…

  • รู้ทัน “มะเร็ง” กับหมอเทวดา

    รู้ทัน “มะเร็ง” กับหมอเทวดา

    รู้ทัน “มะเร็ง” กับหมอเทวดา “มะเร็ง” เป็นโรคร้ายที่ใครๆก็ต่างต้องกลัว ไม่ว่าจะเป็นมะเร็งชนิดไหน เมื่อใครได้เป็นแล้วนั้น คงต้องภาวนาขอให้ได้เจอการรักษาที่เข้ากับชนิดมะเร็งนั้นๆ ได้ในทางที่ดี คนทั่วไปรับรู้ว่า โรคมะเร็ง ตามทางการแพทย์ ได้มีการรักษากันมาแล้วหายได้จริง แต่เชื้อของมะเร็งนั้น ยังสามารถแฝงอยู่ได้ภายในตัวผู้ป่วยที่เคยเป็น และในเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา เป็นที่โด่งดังในโลกของผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็ง ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักจะรู้จักกับ “หมอเทวดา” หมอใจดีผู้ที่รักษาผู้ป่วยที่เป็นมะเร็ง ไม่ว่าจะเพิ่งเริ่มต้นหรือขั้นสุดท้ายให้หายขาดจากโรคร้ายนี้ด้าน หรือไม่ก็ช่วยให้ผู้ป่วยมีกำลังใจและช่วยลดความเจ็บปวดจากความทุกข์ทรมาน ให้มีชีวิตที่ดีขึ้น และสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเหมือนคนปกติ ถึงแม้ผู้ป่วยจะยังมีโรคร้ายอยู่ก็ตาม หมอสมชายหรือหมอเทวดา ถึงแม่ท่านจะเสียชีวิตไปแล้ว แต่ท่านได้เขียนหนังสือ เล่าเรื่องราวการรักษาของโรคมะเร็งต่างๆทิ้งเอาไว้ให้ผู้ป่วยได้ศึกษา หาแนวทางการรักษาจากหนังสือของท่าน หมอสมหมาย ทองประเสริฐ เริ่มทดลองรักษามะเร็งเมื่อประมาณปี พ.ศ.2514 ตอนนั้นมีคนไข้ไปตรวจ และสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นมะเร็งปอด จึงส่งตัวไปส่องกล้องที่โรงพยาบาลราชวิถี ผลยืนยันว่า เป็นมะเร็งแน่นอน หมอสมหมายเริ่มการรักษาด้วยตำรับยาสมุนไพรอยู่ราว 6 เดือน ก้อนมะเร็งจึงค่อยๆ ยุบลง จนคนไข้กลับไปใช้ชีวิตตามปกติและมีอายุอยู่ต่อมาได้อีก 10 ปี นับจากนั้นได้พัฒนาตำรับยาสมุนไพรและรักษาคนไข้มะเร็งมาต่อเนื่องยาวนาน มีคนไข้โรคมะเร็งทุกประเภท ทุกอวัยวะนับแสนรายมารับการเยียวยาจากหมอสมหมาย ในหนังสือเล่มล่าสุดของหมอสมหมายคือ รู้ทันมะเร็ง และ รู้ทันมะเร็ง 2…

  • แพทย์ชี้ ใบทุเรียนเทศ แก้มะเร็งตับได้นั้น เป็นความเชื่อที่ไม่ถูกต้อง

    แพทย์ชี้ ใบทุเรียนเทศ แก้มะเร็งตับได้นั้น เป็นความเชื่อที่ไม่ถูกต้อง

    แพทย์ชี้ ใบทุเรียนเทศ แก้มะเร็งตับได้นั้น เป็นความเชื่อที่ไม่ถูกต้อง ตอนนี้เป็นกระแสในสังคมออนไลน์อย่างหนักว่า ใบทุเรียนเทศ สามารถช่วยรักษาโรคมะเร็งตับได้ดีกว่าคีโมนั้น ยังเป็นความเชื่อที่ไม่ถูกต้อง หลังจากมีการเผยแพร่สรรพคุณต่างๆ ว่าใบทุเรียนเทศสามารถทำลายเซลล์มะเร็งได้นั้น ทางสถาบันวิจัยสมุนไพร กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข นพ.อภิชัย มงคล อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้กล่าวว่า รายงานเรื่องนี้มีการวิจัยเกิดขึ้นในต่างประเทศบ้างแล้ว แต่ยังไม่เป็นที่สรุปได้อย่างแน่ชัด จากการสำรวจ วิจัย พบว่า ใบทุเรียนเทศมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ สามารถเข้าไปทำลายเซลล์มะเร็งเต้านม ปอด ตับ ตับอ่อน และผิวหนังได้ก็จริง แต่ใบทุเรียนเทศก็ยังมีพิษที่สามารถเกิดได้กับเซลล์ประสาทของมนุษย์ด้วยอีกเช่นกัน และผลการวิจัยจากต่างประเทศ ยังได้ทดลองกับหนูทดลอง หนูทดลองที่ได้รับสารสกัดจากใบทุเรียนเทศนี้ ในปริมาณที่มาก ยังส่งผลให้มีผลต่อการทำงานของไตอีกด้วย ทั้งนี้จึงไม่อยากให้เชื่อตามกระแสสังคมออนไลน์ อยากให้รอผลสำรวจการใช้สารสกัดจากใบทุเรียนเทศว่ามีผลดีผลเสียอย่างไรให้แน่ชัดก่อน ส่วนในเรื่องนี้ทางกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ก็ได้มีแผนวิจัยเรื่องนี้ในอนาคตแล้ว

  • แพทย์ ชี้แจง การสูบบุหรี่เป็นอันตรายต่อชีวิตกว่าที่คิดไว้

    แพทย์ ชี้แจง การสูบบุหรี่เป็นอันตรายต่อชีวิตกว่าที่คิดไว้

    แพทย์ ชี้แจง การสูบบุหรี่เป็นอันตรายต่อชีวิตกว่าที่คิดไว้ แพทย์ชี้แจงว่า การสูบบุหรี่เป็นตัวก่อให้เกิดโรคเบาหวาน มะเร็งตับ และมะเร็งลำไส้ใหญ่ และการสูบบุหรี่มีผลก่อให้เกิดความบกพร่องแก่ทารกในครรภ์ ในปี 2507 แพทย์สหรัฐรายงายว่า การสูบบุหรี่มีผลเสียต่อสุขภาพ และช่วยกระตุ้นให้เกิดมะเร็งปอดและหัวใจ และปัจจุบันใน 50 ปีให้หลัง แพทย์ได้ออกรายงานฉบับใหม่ นำเสนอเพิ่มว่าบุหรี่ มีผลเสียต่อสุขภาพมากขึ้น แพทย์กล่าวว่าในเรื่องนี้ อยากให้ทุกคนต้องร่วมมือกัน เพื่อสร้างสังคมที่ปลอดจากโรคที่เกิดจากการสูบบุหรี่ ทุกคนต้องเข้าใจถึงความเกี่ยวโยงระหว่างสุขภาพกับการสูบบุหรี่เสียก่อน รายงานนี้เร่งเร้าให้เพิ่มความเข้มข้นของมาตรการต่างๆ ที่ใช้ในการควบคุมการสูบบุหรี่ ซึ่งรวมทั้งการเพิ่มราคาบุหรี่และขยายมาตรการห้ามสูบบุหรี่ในตัวอาคารให้ใช้กันอย่างเเพร่หลายรายงานประจำปีพุทธศักราช 2557 นี้ ยังเร่งเร้าให้นักวิจัยทำการศึกษาดูว่าการลดปริมาณสารนิโคตินในบุหรี่สามารถช่วยผู้สูบบุหรี่ เลิกบุหรี่ได้หรือไม่ นอกจากนี้รายงานชิ้นนี้ยังมีข้อมูลใหม่ๆ อีกด้วย แพทย์ใหญ่สหรัฐยังกล่าวด้วยว่า การสูบบุหรี่มีผลกระทบต่อระบบภูมิต้านทานในร่างกายทำให้ผู้สูบบุหรี่ติดเชื้อโรคต่างๆ ได้ง่ายขึ้น และสำหรับผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ รายงานชิ้นใหม่นี้ชี้ว่าเเม้คุณไม่สูบบุหรี่แต่ก็มีโอกาสเสี่ยงสูงขึ้นต่อการเกิดโรคหลอดเลือดในสมองอุดตันจากสารพิษในควันบุหรี่ที่มาจากผู้สูบบุหรี่ที่อยู่ใกล้ชิดรายงานผลการวิจัยชิ้นล่าสุดจากรักษาการแพทย์ใหญ่สหรัฐนี้ ยังชี้ถึงผลเสียอันตรายต่อทารกในครรภ์ด้วยโดยเฉพาะในหญิงตั้งครรภ์ที่สูบบุหรี่ ทารกมีโอกาสสูงที่จะเป็นโรคปากแหว่งและเพดานโหว่ นอกจากนี้สารพิษในควันบุหรี่ยังมีผลเสียอย่างถาวรต่อการพัฒนาทางสมองของทารกในครรภ์ รักษาการแพทย์ใหญ่สหรัฐชี้ว่าอยากให้ราคาบุหรี่สูงขึ้น มีการรณรงค์ต่อต้านการสูบบุหรี่เพิ่มมากขึ้น เพิ่มการบริการช่วยเหลือผู้ต้องการเลิกบุหรี่และเน้นการป้องกันไม่ให้เด็กวัยรุ่นสูบบุหรี่

  • องค์การอนามัยโลก กล่าวเตือนผู้คนทั่วโลก มีเปอร์เซ็นต์เป็นโรคมะเร็งมากขึ้น กว่าร้อยละ 57

    องค์การอนามัยโลก กล่าวเตือนผู้คนทั่วโลก มีเปอร์เซ็นต์เป็นโรคมะเร็งมากขึ้น กว่าร้อยละ 57

    องค์การอนามัยโลก กล่าวเตือนผู้คนทั่วโลก มีเปอร์เซ็นต์เป็นโรคมะเร็งมากขึ้น กว่าร้อยละ 57 องค์การอนามัยโลกรายงานว่าจำนวนคนเป็นมะเร็งทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นจากประมาณ 14 ล้านคนต่อปีในปีนี้เป็นปีละ 22 ล้านคนภายใน 20 ปีข้างหน้าและยังคาดว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากมะเร็งจะเพิ่มขึ้นจาก 8 ล้าน 2 เเสนคนเป็น 13 ล้านคนต่อปี Dr. Bernard Stewart ผู้เชี่ยวชาญที่ร่วมร่างรายงานดังกล่าวเปิดเผยว่าผู้ป่วยมะเร็งส่วนมากอยู่ในประเทศกำลังพัฒนา ปัจจุบันมากกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ของผู้เป็นมะเร็งทั้งหมดเป็นคนในอาฟริกา เอเชีย อเมริกากลางและอเมริกาใต้และจากจำนวนผู้เสียชีวิตจากมะเร็งทั้งหมดทั่วโลก ราว 70 เปอร์เซ็นต์เป็นผู้ป่วยมะเร็งจากทวีปต่างๆ สำหรับประเทศรายได้น้อยและรายได้ปานกลาง การเกิดมะเร็งมีความเกี่ยวข้องกับการติดเชื้อ อาทิ มะเร็งปากมดลูกที่เกิดจากการติดเชื้อ human papillomavirus และมะเร็งตับที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ สาเหตุที่คนเป็นมะเร็งเพิ่มขึ้นในประเทศกำลังพัฒนายังเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตยุคอุตสาหกรรมและไม่มีการตรวจหามะเร็งแต่เนิ่นๆ Dr. Stewart ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าประเทศรายได้น้อยและปานกลางมักขาดการบริการด้านการตรวจสุขภาพเพื่อตรวจหาโรค ทำให้ไม่รู้ว่าเป็นมะเร็งจนกระทั่งโรคกำเริบ ดังนั้นอัตราการรอดชีวิตของผู้ป่วยจึงมีน้อย รายงานขององค์การอนามัยโลกเตือนว่าการบำบัดมะเร็งเพียงอย่างเดียวไม่สามารถลดอัตราการเสียชีวิตจากมะเร็งได้ จะต้องใช้มาตรการป้องกันการเกิดมะเร็งที่มีประสิทธิภาพร่วมด้วยและต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน Dr. Stewart กล่าวว่าการรณรงค์ให้มีการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัสบางชนิดสามารถช่วยลดอัตราการเกิดมะเร็งบางประเภทลงได้ นอกจากนี้การรณรงค์ต่อต้านการสูบบุหรี่และการดื่มสุรา การสร้างความตื่นตัวเกี่ยวกับการป้องกันโรคอ้วนและลดการบริโภคน้ำตาลน่าจะมีบทบาทในการช่วยลดการเกิดมะเร็งบางชนิดลงได้เช่นกัน รายงานการศึกษาการเกิดมะเร็งทั่วโลกขององค์การอนามัยโลกนี้เป็นผลงานการวิจัยจากความร่วมมือของบรรดานักวิทยาศาสตร์มากกว่า 250 คนจาก 40 ประเทศ