Tag: มะเร็ง

  • ผักปลัง ผักพื้นบ้านมากประโยชน์

    ผักปลัง ผักพื้นบ้านมากประโยชน์

    ผักปลัง ผักพื้นบ้านมากประโยชน์ ผักปลัง หรือ ผักปั๋งในภาษาท้องถิ่นนั้น เป็นผักพื้นบ้านของไทยขึ้นอยู่ตามที่ชื้นทั่วไป มีอยู่สองชนิดก็คือ ผักปลังขาว และผักปลังแดง มีถิ่นกำเนิดทั้งในเอเชียและแอฟริกา ขึ้นได้ง่ายในที่ชุ่มชื้นกับดินทุกประเภท มีลักษณะเป็นไม้เลื้อย ลำต้นกลมเป็นสีเขียวหรือสีม่วงแดง อวบน้ำ แตกกิ่งก้านสาขาได้มาก ใบมีลักษณะมัน รูปร่างกลมหรือรูปไข่เรียงสลับกัน แผ่นใบอวบน้ำ กว้างประมาณ 2-6 เซนติเมตรและยาว 2.5-7.5 เซนติเมตร ส่วนดอกนั้นจะมีสีขาวหรือชมพูม่วง ไม่มีก้านดอก ออกดอกเป็นช่อ ตรงปลายแยกเป็นแฉก ๆ คุณค่าทางอาหารของผักปลัง ผักปลังให้แร่ธาตุและวิตามินมากมายโดยเฉพาะเบต้าแคโรทีน ช่วยบำรุงสายตาและช่วยป้องกันมะเร็งได้ การทานก็จะนำเอายอดอ่อน ใบอ่อน และดอกอ่อน ซึ่งมีรสจืดเย็นมากินเป็นผักจิ้มน้ำพริก หรือนำมาแกงแบบต่าง ๆ ทั้งแกงส้ม แกงแค แกงปลา นำมาผัดกับแหนมหรือใส่แกงอ่อมหอย ก็ได้ ฯลฯ ส่วนประโยชน์ทางยาของผักปลังนั้น สามารถนำเอาก้านมาแก้พิษฝี ท้องผูก ลดไข้ได้ ใบนำมาขับปัสสาวะ แก้อาการอักเสบ กลาก น้ำคั้นจากใบใช้บรรเทาอาการผื่นคัน นำดอกมาแก้เกลื้อนได้ ส่วนราก นำมารักษาอาการเท้าด่าง รังแค…

  • ป้องกันมะเร็งแบบไม่ยาก ทำตามได้ทุกคน

    ป้องกันมะเร็งแบบไม่ยาก ทำตามได้ทุกคน

    ป้องกันมะเร็งแบบไม่ยาก ทำตามได้ทุกคน โรคมะเร็งเป็นโรคที่ใคร ๆ ก็หวาดผวา เพราะอาการของโรคจะสร้างความเจ็บปวดทรมานมาก ลุกลามไปอวัยวะอื่น ๆ ได้ และมักคิดกันว่าคงรักษาไม่หาย รอวันตายอย่างเดียว แต่ความจริงแล้วมะเร็งบางโรคสามารถป้องกันได้และรักษาให้หายขาดได้หากพบตั้งแต่ในระยะแรก ๆ วันนี้จึงขอนำเอาวิธีการป้องกันมะเร็งแบบไม่ฝาก แบบที่สามารถทำตามได้ทุกคนมาฝากกันนะคะ 1. หมั่นตรวจร่างกายบ่อย ๆ สำคัญมาก แม้จะแข็งแรงอยู่แล้ว เพราะคนที่พบว่าตนเองเป็นมะเร็งแล้วต้องตายหรือรักษาไม่ได้นั้นมักเป็นเพราะว่า ผู้นั้นมักตรวจพบว่าตนเป็นมะเร็งในระยะรุนแรงแล้ว ซึ่งตลอดมาก็วินิจฉัยโรคเอง ซื้อยากินเอง อาการเตือนเหล่านี้หากไม่ได้รับการวินิจฉัยให้ละเอียดก็ทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นโรคอื่น ๆ ได้เช่นกัน ดังนั้นจึงควรตรวจสุขภาพทุกปี และในระหว่างนั้นหากมีสิ่งผิดปกติอื่น ๆ ตามร่างกายเช่น มีตุ่มมีเนื้องอก หรือมีเลือดออก ฯลฯ ควรรีบไปตรวจเลยนะคะ 2. เลือกทานอาหารที่ช่วยต้านทานเซลล์มะเร็งได้ ซึ่งได้แก่ ผักและผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระได้ ไม่ว่าจะเป็นผักคะน้า กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก มะเขือเทศ กระเทียม หัวหอม ขึ้นฉ่าย ผักโขม หัวหอม ผักโขม แอปเปิ้ล แครอท ฯลฯ, ดื่มชาเขียวที่มีสารคาเตชินและสารต้านอนุมูลอิสระมากมาย, น้ำสะอาด ๆ…

  • คนไทยควรหมั่นตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่

    คนไทยควรหมั่นตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่

    คนไทยควรหมั่นตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ ในปัจจุบันนี้มีคนไทยเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่กันมากขึ้น และยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีกด้วย เพราะมีความเสี่ยงหลายประการไม่ว่าจะเป็น การเป็นโรคลำไส้บางชนิด เช่น โรคเนื้องอกที่ผนังลำไส้ หรือลำไส้อักเสบเรื้อรัง การมีกรรมพันธุ์ หรือมีญาติสายตรงเป็นมะเร็งลำไส้ มักทานอาหารประเภทเนื้อแดง อาหารใส่ดินประสิว ปลาร้า ปลาส้ม แหนม ไส้กรอก อาหารรมควัน ทอดปิ้ง ย่างจนเกรียม อาหารที่ปนเปื้อนสายเคมี อาหารมีเส้นใยน้อย อีกทั้งยังพบว่ายิ่งมีอายุมากเกินกว่า 50 ปีขึ้นไปก็ยิ่งมีความเสี่ยงขึ้น รวมไปถึงผู้ดื่มเหล้าและสูบบุหรี่เป็นเวลานานอีกด้วย ซึ่งอาการของผู้ป่วยนั้นจะมีอาการถ่ายเป็นมูกเลือด ปวดทวารหนักเวลาถ่าย มีลำอุจจาระที่ลีบเล็กลง มักมีอาการท้องผูกสลับท้องเสีย และหากก้อนมะเร็งโตจนอุดตันลำไส้แล้วจะปวดท้อง ท้องอืด คลื่นไส้ อาเจียน ไม่ถ่าย และไม่ผายลม มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักนี้หากตรวจพบตั้งแต่เริ่มแรกจะรักษาหายมากกว่าร้อยละ 95 แต่ถ้าเข้าสู่ระยะอื่น ๆ หรือแพร่กระจายแล้วจะทำให้การรักษาไม่ได้ผลเท่าที่ควร มะเร็งลำไส้ใหญ่นี้จะไม่แสดงอาการในระยะเริ่มแรก การเข้าตรวจคัดกรองอย่างสม่ำเสมอ ทั้งการตรวจอุจจาระและตรวจเลือดก็จะทำให้พบกับรอยโรคก่อนเป็นมะเร็ง หรือพบกับมะเร็งระยะแรกเริ่มได้ มีประโยชน์มากเพราะยิ่งตรวจพบเร็วเท่าไรก็ยิ่งรักษาให้หายได้เร็วเท่านั้น ผู้ที่มีความเสี่ยงดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ยิ่งควรเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ให้สม่ำเสมอ เพื่อเป็นการระวังป้องกันไว้ก่อน และรักษาได้อย่างทันท่วงทีด้วยค่ะ

  • ชวนลูกกินผักกัน

    ชวนลูกกินผักกัน

    ชวนลูกกินผักกัน ผักนั้นเป็นอาหารที่มีราคาประหยัด แต่ให้วิตามิน แร่ธาตุต่าง ๆ สูง มีประโยชน์มาก แต่ก็มีเด็กจำนวนมากเช่นกันที่ไม่ยอมกินผัก การหัดให้ลูกกินผักนั้นควรทำตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่หย่านมตอนหกเดือนเลย เด็กหลังหย่านมนั้น ควรให้เด็กเริ่มทานผักสุกก่อน โดยการนำเอามาบดให้ละเอียดปนไปกับข้าวต้ม โจ๊กหรือข้าวบด ก่อนการให้ผลไม้ เพราะเด็กอาจติดรสหวานจากผลไม้จนไม่ยอมกินผักได้ ให้ป้อนผักและผลไม้ชนิดใหม่ ๆ สัปดาห์ละอย่าง เด็กจะได้คุ้นกับผักผลไม้ไปเรื่อย ๆ และจะกินได้มากเมื่อโตขึ้น ในส่วนของเด็กที่เริ่มเคี้ยวได้แล้ว ควรให้ผักที่ต้มหรือลวกให้สุก จะทำให้ผักนิ่มและหวานอร่อย อาจหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่แกงจืดหรือผสมกับอาหารอื่น เด็กที่อายุมากกว่าสองขวบให้ทานได้ทั้งผักสุกและผักสด เลือกที่มีรสหวานสีสันน่ากินอย่างแครอทหั่นแท่ง หรือแตงกวาหั่นแท่ง ให้เด็กจับกินเองได้ แต่ผักบางชนิดที่ควรลวกหรือต้มก่อนก็มีเหมือนกัน อย่างข้าวโพด กะหล่ำปลี ฟักทอง เป็นต้น แต่สำหรับเด็กโตที่เกินจะเรียนรู้อาหารใหม่แล้ว ผู้ปกครองควรดัดแปลงผักให้มีรสชาติและรูปร่างที่ดูน่ากิน เช่น นำแครอท หรือถั่วผักยาว มาหั่นเป็นท่อนแล้วห่อด้วยกะหล่ำปลีแล้วนำไปนึ่ง หรือนำไปทำแกงจืดหมูสับเต้าหู้ การนำแตงกวาใหญ่มาคว้านออกแล้วใส่หมูทับเข้าแทนนำไปต้มจืด ก็หวานอร่อยเช่นกัน ฯลฯ หากเด็กไม่ยอมกิน ก็ลองมื้อต่อไป จัดผักให้ทานคู่กับอาหารที่เค้าชอบ แล้วผู้ปกครองควรชวนกินด้วยกัน ไม่ควรนำผักกลิ่นฉุนมาให้เด็กลอง เพราะเด็กอาจปฏิเสธผักทุกชนิดไปเลยได้ การชักชวนฝึกหัดให้ลูกกินผักนั้นเป็นสิ่งที่มีผลดีในระยะยาว สร้างนิสัยการกินที่ดี…

  • คุณประโยชน์ของวิตามินและเส้นใยอาหารในผัก

    คุณประโยชน์ของวิตามินและเส้นใยอาหารในผัก

    คุณประโยชน์ของวิตามินและเส้นใยอาหารในผัก การกินผักที่เพียงพอให้ประโยชน์ต่อร่างกายของเรามากนะคะ ยิ่งโดยเฉพาะเส้นใยอาหารและวิตามินในผักแล้วเนี่ย ในแต่ละวันเราควรกินผักทั้งผักสดและผักสุกให้ได้ประมาณ 4-6 ทัพพีต่อวันจึงเข้ามาเกณฑ์ขององค์การอนามัยโลกค่ะ ซึ่งสารอาหารที่เราได้รับจากผักนั้น หลัก ๆ ก็ได้แก่ – ได้รับเส้นใยอาหารอาหาร เส้นใยที่ละลายน้ำได้นั้นช่วยในการดักจับคาร์โบไฮเดรตให้มีการย่อยและดูดซึมช้าลง น้ำตาลในเลือดจึงมีความคงที่ ช่วยจับคอเลสเตอรอลในเลือด ลดอัตราความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน และโรคหัวใจ ส่วนเส้นใยที่ไม่ละลายน้ำจะมีประโยชน์ต่อระบบทางเดินอาหาร ช่วยให้รู้สึกอิ่มได้นานขึ้น ป้องกันและรักษาอาการท้องผูก ช่วยควบคุมน้ำหนัก ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจและมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้อีกด้วย – ได้รับวิตามินเอ ช่วยรักษาสุขภาพดวงตาและการมองเห็น ทำให้ระบบสืบพันธ์ทำงานได้ตามปกติ ส่งเสริมพัฒนาการของร่างกาย ควบคุมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันโรค ทำให้เซลล์ของผนังปอด ลำไส้ ทางเดินปัสสาวะแข็งแรงด้วย ลดการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ – วิตามินซี ช่วยในการสร้างคอลลาเจนทำให้กระดูก ฟัน หลอดเลือด และผิวหนังแข็งแรง รักษาบาดแผล สร้างฮอร์โมนบางชนิด เช่น ฮอร์โมนไทร็อกซินที่ช่วยควบคุมอัตราการเผาผลาญอาหารในร่างกาย ช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็ก และเสริมภูมิคุ้มการโรคทั้งยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระป้องกันความเสื่อมถอยของร่างกายได้ – ได้รับวิตามินอี เป็นสารต้านอนุมูลอิสระไม่ให้มาทำลายเซลล์ได้ ช่วยป้องกันและชะลอการเกิดโรคหัวใจหรือมะเร็ง วิตามินอีพบได้มากในผักโขม บร็อกโคลี หน่อไม้ฝรั่ง การกินผักที่จะทำให้ร่างกายได้รับประโยชน์จริง ๆ นั้นควรทานผักที่ปลอดสารพิษ หรือถ้าเป็นผักที่ปลูกเองยิ่งดีใหญ่…

  • คนที่ชอบทานแมลงทอด ให้ระวัง!

    คนที่ชอบทานแมลงทอด ให้ระวัง!

    คนที่ชอบทานแมลงทอด ให้ระวัง! บรรดาแมลงทอดทั้งหลายนั้น มีจุดเด่นทางโภชนาการก็คือ มีสารอาหารกลุ่มโปรตีน ไขมันสูงมาก แต่เกลือแร่และวิตามินกลับมีไม่มากเท่าไรนัก ซึ่งแมลงเหล่านี้จะให้พลังงานดังนี้คือ – กลุ่มหนอนไหม หนอนไม้ไผ่ ไข่มดแดง ตัวต่อ ตัวอ่อนของผึ้ง จะให้พลังงานสูงคือ แมลงดิบหนัก 100 กรัม จะให้พลังงานตั้งแต่ 140-230 กิโลแคลอรี่ – ส่วนกลุ่มแมลงปีกแข็ง ตัวอย่างเช่น แมงตับเต่า จิ้งหรีด ตั๊กแตนปาทังก้า ถ้าเด็ดปีกออกเลือกเฉพาะส่วนที่กินได้ 100 กรัม จะให้พลังงานตั้งแต่ 90-150 กิโลแคลอรี่ ปริมาณพลังงานข้างต้นคือผ่านการปรุงให้สุกด้วยการลวก นึ่ง แกง แต่หากนำไปทอดจะเพิ่มพลังงานขึ้น 3-4 เท่า เพราะแมลงเหล่านี้จะดูดซับเอาไขมันจากน้ำมันระหว่างการทอดไว้อีกถึง 13-17 กรัม ต่อน้ำหนักแมลง 100 กรัมเลยทีเดียว ดังนั้นแมลงที่ผ่านการทอดอาจให้พลังงานสูงถึง 650-700 กิโลแคลอรี่เลยทีเดียว เรียกได้ว่าถ้ากินมาก ๆ อาจอ้วนไม่รู้ตัวเลยค่ะ และหากคุณชอบกินแมลงทอดเหล่านี้มาก ๆ ควรระมัดระวังดังต่อไปนี้ด้วย –…

  • ระยะต่าง ๆ ของโรคอัลไซเมอร์

    ระยะต่าง ๆ ของโรคอัลไซเมอร์

    ระยะต่าง ๆ ของโรคอัลไซเมอร์ ความแก่ชรานั้นเป็นโรคชนิดหนึ่ง แล้วยังกระตุ้นให้เกิดความเสื่อมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น โรคมะเร็ง หลอดเลือดหัวใจ กระดูกพรุน อัลไซเมอร์และโรคอื่น ๆ เข้ามาทำลายร่างกายได้อีก ยิ่งมลภาวะในสิ่งแวดล้อมในปัจจุบันยิ่งมากขึ้น ก็ยิ่งเร่งให้เกิดความเสียหายต่อเซลล์ในร่างกายมากขึ้นด้วย ความแก่ชราจึงมาเยือนเร็วกว่าเดิม สมองก็เป็นอีกอวัยวะหนึ่งเช่นกัน ที่ได้รับผลกระทบจากความแก่ชราของร่างกายไปด้วย โรคอัลไซเมอร์ คือโรคที่เกิดขึ้นจากความเสื่อมของเซลล์สมอง ถูกค้นพบเมื่อร้อยกว่าปีที่ผ่านมา และยังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ มักพบได้ในคนที่มีอายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป โรคนี้ทำให้เกิดความบกพร่องในระดับของสติปัญหา ทั้ง ความคิด ความจำ การตัดสินใจ ซึ่งอาการของโรคนี้จะแบ่งออกเป็นสามระยะได้แก่ – ระยะแรก ผู้ป่วยจะเสียความจำ ที่ไม่เหมือนกันหลงลืมทั่วไป แต่จะจำอดีตไม่ได้ จำสิ่งใหม่ ๆ ที่เพิ่งเกิดขึ้นตรงหน้าก็ไม่ได้ – ระยะที่สอง ผู้ป่วยจะเริ่มเห็นภาพหลอน หูแว่ว ก้าวร้าว อาจเดินออกจากบ้านแล้วกลับบ้านไม่ถูก – ระยะสุดท้าย สมองจะถูกทำลายจนไม่สามารถควบคุมการทำงานต่างๆ ของร่างกายได้ ผู้ป่วยอาจเสียชีวิตได้ในที่สุด ผู้ป่วยจะมีความยากลำบากในการสื่อสาร การคิด การเรียนรู้ การใช้เหตุผล ซึ่งเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตอย่างรุงแรง…

  • ภัยจากการแพ้นมวัวในเด็กเล็ก

    ภัยจากการแพ้นมวัวในเด็กเล็ก

    ภัยจากการแพ้นมวัวในเด็กเล็ก ส่วนใหญ่แล้วเด็กที่มีเด็กที่แพ้โปรตีนในนมวัวนั้น กว่าครึ่งจะแสดงอาการออกมาให้เห็นตั้งแต่อายุน้อยกว่า 1 เดือน โดยจะแสดงอาการเป็นผื่น รองลงมาเป็นอาการทางระบบทางเดินอาหาร ในจำนวนของเด็กที่กินนมวัวก่อนอายุครบหกเดือนนั้น ครึ่งหนึ่งจะแพ้นมวัว โดยจะมีอาการอย่างละเอียดดังต่อไปนี้ 1. แสดงอาการที่ระบบทางเดินอาหาร มักจะปวดท้อง ท้องอืด ท้องผูก ท้องเสีย โคลิก อาเจียน กรดไหลย้อน ถ่ายเป็นเลือดและน้ำหนักขึ้นน้อย 2. มีอาการผิวหนังอักเสบ มีผื่นคัน ชันตุ น้ำเหลืองเยิ้ม ลมพิษ ผิวแห้ง 3. มีปัญหาในระยะหายใจ ทั้งการนอนกรน คัดจมูก น้ำมูกไหล คันตาคันจมูก เลือดกำเดาไหล มีเสมหะในคอ หอบหืด กระแอมบ่อย ไซนัสอักเสบ ทอลซิลอักเสบ หูชั้นล่างอักเสบ ต่อมอดีนอยด์โต ต่อมน้ำเหลืองโต ตับและม้ามโต ภาวะหลับตายเนื่องจากแพ้โปรตีนนมวัว 4. มะเร็งในส่วนต่าง ๆ ทั้งต่อมน้ำเหลือง เต้านม รังไข่ ต่อมลูกหมาก ปอด ไต ตับ ลำไส้…

  • ภาวะไขมันคั่งในตับ

    ภาวะไขมันคั่งในตับ

    ภาวะไขมันคั่งในตับ  โรคตับแข็งหรือมะเร็งตับที่เพิ่มอัตราผู้ป่วยมากขึ้นในระยะหลายปีมานี้ มักจะเป็นผู้ที่ไม่เคยดื่มเหล้า หรือติดเชื้อไว้รัสตับอักเสบมาก่อนเลย แต่จะมีลักษณะร่วมคล้าย ๆ กันก็คือ ผู้ป่วยอ้วนน้ำหนักเกิน เป็นเบาหวาน มีไขมันในเลือดสูง ในตับจึงตรวจพบไตรกลีเซอร์ไดร์คั่งสะสมอยู่เป็นจำนวนมาก ตับอักเสบเป็นเวลานาน จนเกิดพังผืดขึ้นและลุกลามจนกลายเป็นตับแข็งในที่สุด ตับนั้นเป็นอวัยวะที่สำคัญชิ้นหนึ่งในร่างกาย ทำหน้าที่หลายอย่าง ทั้งกักเก็บสารอาหาร สังเคราะห์โปรตีน โคเลสเตอรอล วิตามิน ควบคุมการสันดาปของฮอร์โมน ผลิตน้ำดีเพื่อย่อยไขมัน ผลิตสารที่นำเกล็ดเลือดไปห้ามเลือดเมื่อผนังหลอดเลือดได้รับบาดเจ็บ ช่วยกำจัดสารพิษของร่างกายได้ด้วย ฯลฯ เมื่อตับมีไขมันมาคั่งอยู่เป็นจำนวนมาก การทำงานของตับจึงผิดปกติ ส่งผลกระทบไปทั่วร่างกาย ภัยแฝงจากภาวะไขมันคั่งในตับนี้มักจะเกิดขึ้นแบบไม่รู้ตัว แรก ๆ จะมีสุขภาพเป็นปกติ อาจพบโดยบังเอิญจากการตรวจสุขภาพ แล้วพบว่าค่าเอนไซม์ตับสูงผิดปกติ หากไม่เคยตรวจเลยก็อาการก็อาจพัฒนาไปสู่ภัยร้ายได้มากขึ้น เมื่อภาวะไขมันคั่งในตับรุนแรง ผู้ป่วยจะรู้สึกปวดแน่นชายโครงขวา อึดอัด เบื่ออาหาร ท้องอืดเฟ้อ อ่อนเพลีย อาจมีท้องผูกสลับกับท้องเสีย บางคนก็มีอาการดีซ่าน คลื่นไส้อาเจียน จนกลายเป็นตับแข็ง และมะเร็งตับในที่สุด ผู้ที่มีภาวะไขมันตั่งตับนั้น ควรดูแลสุขภาพตัวเอง ด้วยการควบคุมอาหารและดูแลน้ำหนักตัว ยิ่งคนที่อ้วนน้ำหนักเกินเป็นเบาหวาน และมีไขมันสูงด้วยแล้วจะมีโอกาสเกิดภาวะไขมันสะสมในตับได้ถึงร้อยละ 90 ควรใส่ใจในเรื่องของอาหาร ทานแต่อาหารที่ปรุงแต่งน้อย ๆ เช่น…

  • จิตสดใส ใจสบาย ป้องกันโรคมะเร็งได้ด้วย

    จิตสดใส ใจสบาย ป้องกันโรคมะเร็งได้ด้วย

    จิตสดใส ใจสบาย ป้องกันโรคมะเร็งได้ด้วย โรคมะเร็งเป็นโรคที่คนส่วนใหญ่คิดว่าต้องทุกข์ทรมานและมีอัตราการตายสูง นับวันยิ่งมีโรคมะเร็งเกิดขึ้นมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งสาเหตุเกิดได้หลายปัจจัย ไม่ว่าจะอาหาร อากาศ มลพิษต่าง ๆ กรรมพันธุ์ และความเครียด ที่อยู่ในใจ รวมไปถึงอารมณ์แง่ลบต่าง ๆ นั้น เช่น อารมณ์โกรธ ความเกลียดชัง หงุดหงิด ความโลภ ความริษยา ฯลฯ เหล่านี้ล้วนมีผลต่อสุขภาพ และเป็นบ่อเกิดของโรคมะเร็งได้ทั้งสิ้น นั่นเป็นเพราะว่าระบบของร่างกายทุกระบบเชื่อมโยงกันหมด จิตใจที่ดี มีความสบายใจปราศจากอารมณ์แง่ลบจะป้องกันโรคร้ายได้ มีผลต่อระบบภูมิคุ้มกันมากขึ้น ทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น เมื่อเจ็บป่วยก็จะหายได้เร็วกว่าคนที่เอาแต่เคร่งเครียด ท้อแท้ โกรธเกรี้ยว สิ้นหวัง จากการวิจัยพบว่าเมื่อร่างกายมีความเคร่งเครียดระบบเส้นเลือดฝอยจะมีขนาดเล็กลง เนื่องจากระบบประสาทซิมพาเทติกถูกกระตุ้น ต่อมไทมัสและต่อมน้ำเหลืองต่าง ๆ จะลดความไวลงไปโดยอัตโนมัติ ผู้ที่มีความเครียดเป็นเวลายาวนานจะทำให้ฮอร์โมนคอร์ติซอลมีปริมาณสูงจนผิดปกติ ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งมากขึ้น หากผู้ป่วยมะเร็งนั้นมีจิตใจท้อแท้ สิ้นหวัง ก็ทำให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายอ่อนแอลง โรคจะลุกลามได้ง่ายขึ้นไปอีก ในทางตะวันตกนั้น จะให้ความสำคัญในการรักษาผู้ป่วยมะเร็งด้วยการดูแลในด้านจิตใจ ฝึกฝนให้ผู้ป่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อเพื่อลดความเจ็บป่วย ฝึกการสร้างจินตภาพเพื่อเพิ่มการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว และขจัดเซลล์มะเร็งได้ นำเอาธรรมะของพระพุทธเจ้ามาปฏิบัติ ช่วยปรับจิตปรับใจของผู้ป่วยให้หายเจ็บปวดได้ด้วยการรู้เท่ากันอารมณ์ขุ่นมัว ลดความโกรธ ความเครียด…