Tag: ภูมิแพ้
-
อาการอักเสบของหูชั้นกลางในเด็ก (Ear Infection)
อาการอักเสบของหูชั้นกลางในเด็ก (Ear Infection) อาการหูอักเสบในเด็กนั้นมักจะเกิดกับเด็กเล็กหรือทารกแบะเบาะเป็นส่วนใหญ่ และสาเหตุของอาการนี้ก็ไม่ใช่น้ำเข้าหูด้วย แต่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่ลุกลามจากคอและจมูกไปสู่หู จึงทำให้เกิดเป็นไข้หวัด ต่อมทอนซิลอักเสบและบางรายอาจเป็นภาวะแทรกซ้อนจากโรคหัด ไข้หวัดใหญ่ ไอกรน หรืออาการอักเสบเพราะภูมิแพ้ได้ด้วย ซึ่งการจะดูว่าลูกของเรามีอาการหูชั้นกลางอักเสบหรือไม่ก็คือ ให้ดูว่าลูกร้องไห้งอแง มีอาการปวดหู หรือเอามือปัดหูบ่อย ๆ หรือเปล่า เด็กบางคนอาจมีอาการอาเจียนร่วมด้วย หากปล่อยไว้อาจจะทำให้เป็นหนองอักเสบ มีกลิ่นเหม็น ทำให้กระดูกสามชิ้นภายในถูกทำลาย หนองจะทะลุแก้วหูออกมาจนกลายเป็นโรคหูน้ำหนวกได้ ส่วนวิธีการป้องกันคือเมื่อเด็ก ๆ เป็นหวัดควรให้ความอบอุ่น หากมีไข้ควรให้ทานยาแก้ปวดลดไข้ และยาแก้หวัดคัดจมูก ซึ่งจะช่วยให้ท่อระหว่างหูและคอระบายความดันได้ดีขึ้น แต่หากไม่มั่นใจพาลูกไปพบแพทย์จะดีที่สุดค่ะ
-
โรคท้องเสีย อาการธรรมดาที่อาจไม่ธรรมดา
โรคท้องเสีย อาการธรรมดาที่อาจไม่ธรรมดา อย่าเพิ่งแปลกใจที่หัวข้อเรื่องนี้อาจขัดความคิดของใครหลาย ๆ คน เพราะเข้าใจมาตลอดว่าอาการท้องเสียนั้นเป็นเรื่องธรรมดา แต่บทความในวันนี้จะนำคุณผู้อ่านได้ไปเห็นว่าความจริงแล้วอาการท้องเสียนั้น อาจนำไปสู่อาการที่คาดไม่ถึงและเสียชีวิตได้เช่นกัน หากชะล่าใจ เรามาระแวดระวังเรื่องนี้ด้วยการใส่ใจกับอาการท้องเสียและหาความรู้กันใหม่ก่อนดีกว่า โรคท้องร่วง ท้องเสีย หรืออุจจาระร่วงนั้น หมายถึงการถ่ายอุจจาระเหลว หรืออุจจาระเป็นน้ำเกินกว่า 2 ครั้งในวันเดียว หรือการอุจจาระเป็นมูกปนเลือดเพียงครั้งเดียวก็ถือว่าท้องเสียแล้ว ซึ่งในอดีตนั้นจะเรียกการถ่ายอุจจาระที่ปนมูกเลือดว่าเป็นโรคบิด เพราะผู้ป่วยจะมีอาการปวดบิดในท้องขณะที่เบ่งอุจจาระไปด้วย โรคท้องเสียนั้นแบ่งออกได้เป็นสองชนิดก็คือ 1. โรคท้องเสียแบบเฉียบพลัน มักจะเกิดจากอาหารเป็นพิษ หรือติดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย พยาธิในลำไส้ 2. โรคท้องเสียแบบเรื้อรัง ซึ่งมักมีอาการท้องเสียนานกว่า 2 อาทิตย์เป็นต้นไป มักไม่ได้เกิดจากอาหารเป็นพิษ หรือติดเชื้อ แต่เกิดจากการย่อยอาหารและการดูดซึมที่ผิดปกติ การอักเสบจากภูมิแพ้ หรือติดเชื้อ ตลอดจนเป็นมะเร็งในทางเดินอาหาร ดังนั้นโรคท้องเสียชนิดนี้จึงเป็นเรื่องไม่ธรรมดา หรือแม้แต่ท้องเสียแบบเฉียบพลันเอง ก็อาจพบได้ว่าทำให้เสียชีวิตได้เหมือนกัน ถ้าได้รับการรักษาไม่ถูกต้องหรือช้าเกินไป ส่วนใหญ่การเสียชีวิตจะเกิดจากภาวะช็อก หรือภาวะที่เกิดจากการขาดน้ำและเกลือแร่เป็นจำนวนมาก ส่วนน้อยที่จะเกิดจากภาวะโลหิตเป็นพิษ ซึ่งทั้งสองแบบมีอาการเตือนแต่อาจถถูกละเลยจากแพทย์และผู้ป่วยเอง เพราะถ้าสังเกตได้ทันก็จะรอดชีวิต ซึ่งทุกคนควรสังเกตอาการเหล่านี้เอาไว้ โดยสัญญาณอันตรายมีทั้งหมด 6 ข้อดังต่อไปนี้ และผุ้ป่วยต้องรีบบอกแพทย์ไม่ว่าแพทย์จะถามหรือไม่ก็ตาม อีกทั้งสัญญาณเตือน 6 ข้อนี้ยังสามารถใช้กับโรคที่เกิดอาการช็อกแทรกซ้อนอื่น…
-
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับโรคไซนัสอักเสบ
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับโรคไซนัสอักเสบ โรคไซนัสอักเสบ ที่หลายคนรู้จักชื่อกันดีนี้ มักจะมีหลายคนที่เข้าใจผิดคิดว่าเป็นโรคนี้ ทั้งที่ป่วยเป็นไข้หวัดคัดจมูกธรรมดาเท่านั้น กับทั้งยังคิดว่าเป็นโรคที่รักษาไม่หาย เป็นแล้วต้องกลับมาเป็นอีก ซึ่งนี่คือความเข้าใจที่ผิดทั้งสิ้น ความจริงแล้วโรคไซนัสอักเสบนั้นมักเกิดจากเชื้อไวรัสหวัดทั่วไปแล้วติดเชื้อในโพรงจมูกจนลุกลามเข้าไปในโพรงไซนัส ผู้ป่วยกลุ่มนี้มักจะหายได้เอง แต่ในบางครั้งอาจมีเชื้อแบคทีเรียติดมาบ้างทำให้โรคไม่หายขาดและรุนแรงขึ้น การรักษาเพื่อที่จะไม่กลับมาเป็นอีกก็คือต้องพบแพทย์เพื่อรักษาให้หายขาดนั่นเอง อาการของไซนัสอักเสบที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียนั้น ผู้ป่วยจะมีอาการคัดแน่นจมูก มีน้ำมูกหรือเสมหะลงคอสีเหลืองหรือเขียว มีอาการปวดบริเวณ หัวตา หว่างคิ้ว ใบหน้า และตามโหนกแก้ม การได้กลิ่นลดลงและมีอาการเกิน 10 วัน หรือมีอาการแย่ลงใน 5 วันแรกก็ควรมาพบแพทย์ได้แล้ว อาการของโรคแบ่งออกเป็นกลุ่มเฉียบพลันและเรื้อรัง ซึ่งกลุ่มเฉียบพลันจะมีอาการน้อยกว่า 12 สัปดาห์ และกลุ่มเรื้อรังจะมีอาการมาเกิน 12 สัปดาห์ขึ้นไป ทำให้การรักษามีความแตกต่างกัน โดยกลุ่มที่มีความเสี่ยงมากจะเป็นกลุ่มที่ผู้ป่วยมีภูมิคุ้มกันต่ำ หรือบกพร่อง เช่น ผู้ป่วยเบาหวาน หรือผู้ที่รับยากดภูมิระหว่างการทำเคมีบำบัด หรือภาวะขาดภูมิคุ้มกันตั้งแต่เกิดเป็นต้น โรคไซนัสอักเสบไม่มีสาเหตุจากพันธุกรรม อีกทั้งยังเป็นโรคที่ทำให้ผู้ป่วยโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้เข้าใจผิดคิดว่าตนป่วยเป็นโรคไซนัสอักเสบได้ ดังนั้นจึงควรพบแพทย์เพื่อรักการวินิจฉัย โดยในปัจจุบันนี้ยังไม่ทราบแน่ชัดได้ว่าผู้ป่วยจมูกอักเสบภูมิแพ้เกิดจากไซนัสอักเสบได้บ่อยกว่าคนที่เป็นภูมิแพ้หรือไม่ แต่การสูบบุหรี่ทำให้การงานของเยื่อบุโพรงไซนัสทำงานบกพร่องได้ ในส่วนของการรักษา โรคไซนัสอักเสบเฉียบพลันหากมีสาเหตุจากเชื้อไวรัสมักจะหายได้เอง แต่ถ้าติดเชื้อแบคทีเรียกควรมาพบแพทย์เฉพาะทาง หู คอ จมูก เพื่อทำการส่องกล้องเข้าไปตรวจช่องโพรงจมูกและไซนัส ซึ่งหากมิใช่แพทย์เฉพาะทางหรือไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญโรคไซนัสมักให้คนไข้ทำการเอกซเรย์ วิธีนี้ไม่แม่นยำนัก ทั้งยังทำให้เสียค่าใช้จ่ายโดยสิ้นเปลือง…
-
เจ็บป่วยแปลก ๆ ตอนออกกำลังกาย ใครเคยเป็นแบบนี้บ้าง?
เจ็บป่วยแปลก ๆ ตอนออกกำลังกาย ใครเคยเป็นแบบนี้บ้าง? การออกกำลังกายหรือเคลื่อนไหวร่างกายแบบหนัก ๆ อาจสร้างความบาดเจ็บให้กับร่างกายได้บ้าง แต่วันนี้จะขอนำเอาอาการทางร่างกายแบบแปลก ๆ มาให้คุณผู้อ่านที่ชอบออกกำลังกายสังเกตุอาการของตัวเองกันดูพร้อมวิธีป้องกันรักษานะคะ – เจ็บแปลบ ๆ บริเวณซี่โครง เมื่อออกกำลังกายไปได้ซักระยะ จะเกิดอาการเจ็บแปลบเหมือนโดนมีดเสียบบริเวณซี่โครงด้านหน้าใกล้ ๆ ช่องท้อง ซึ่งผู้เชี่ยวชาญยังไม่สามารถระบุได้ว่ามีสาเหตุจากอะไร แต่เดาว่าน่าจะเกิดจากกระบังลมที่กระตุกอย่างแรงจนทำให้การหายใจผิดจังหวะ มักเกิดกับคนที่ออกกำลังกายใหม่ ๆ หรือออกกำลังกายตอนทานอิ่มๆ การป้องกันจึงควรทานอาหารเบา ๆ ก่อนออกกำลังกาย และควรออกกำลังกายหลังทานอาหารไปแล้วครึ่งชั่วโมง หากเกิดอาการเจ็บแปลบอีกให้หยุดพักสักครู่แล้วสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ อีกทั้งควรวอร์มร่างกายก่อนออกกำลังกายด้วย – จู่ ๆ ก็น้ำมูกไหล หากออกกำลังกายในที่ ๆ ค่อนข้างเย็นหรือแห้งจัด ก็อาจมีน้ำมูกไหลได้ ซึ่งแพทย์เรียกอาการนี้ว่าจมูกอักเสบจากการออกกำลังกาย เพราะเววลาที่เราเหนื่อยและหายใจแรงก็จะสูดเอาอากาศเย็นแห้งเข้าไป จมูกจึงผลิตเมือกออกมาเพื่อรักษาโพรงจมูกไว้ วิธีการป้องกันคือขอให้แพทย์จ่ายยาพ่นจมูกมาให้ ไว้พ่อนก่อนออกกำลังกาย 30 นาทีและเตรียมทิชชู่ไว้ติดกระเป๋าด้วย – ท้องเสีย นักวิ่งมาราทอน หรือนักเดินระยะไกล คนที่ออกกำลังกายหนัก ๆ หรือนาน ๆ มักจะท้องเสียได้ เพราะแพทย์ระบุว่า…
-
วิธีดีๆ ที่จะช่วยป้องกันลูกน้อยจากอาการภูมิแพ้!
วิธีดีๆ ที่จะช่วยป้องกันลูกน้อยจากอาการภูมิแพ้! ปัจจุบันนี้นั้นพบผู้ป่วยที่มีอาการภูมิแพ้ได้มากขึ้น เป็นเพราะว่าสภาวะของสิ่งแวดล้อมในปัจจุบันนั้นเต็มไปด้วยสารที่เป็นมลพิษ ไม่ว่าจะอยู่อาศัยในกรุงเทพมหานครหรือไม่ก็ตาม อีกทั้งปัจจัยเสี่ยงทางด้านพันธุกรรมก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าปัจจัยทางด้านสิ่งแวดล้อมด้วย ดังนั้นหากมีญาติพี่น้องหรือพ่อแม่ที่เป็นโรคภูมิแพ้แล้ว เด็กที่เกิดมาใหม่ก็จะมีความเสี่ยงในการเป็นโรคภูมิแพ้มากขึ้นด้วย หากได้สัมผัสกับสารที่ก่อความระคายเคืองบางประเภท เช่น ฝุ่นควัน ฝุ่นละออง ไรฝุ่น อาจทำให้เกิดโรคภูมิแพ้ได้ และจากสถิติในปัจจุบันนั้นพบว่าประชากรถึง 1 ใน 3 เป็นโรคภูมิแพ้ทางจมูก และประชากรถึง 1 ใน 5 ของไทยเป็นโรคหอบหืดและภูมิแพ้ทางผิวหนังด้วย ซึ่งมักพบได้ในช่วงอายุระหว่าง 6-18 ปี หากพบว่าในครอบครัวของเรามีผู้ป่วยที่มีอาการภูมิแพ้ เราจึงควรมีวิธีป้องกันการเกิดภูมิแพ้และหลีกเลี่ยงการสัมผัสสารเหล่านี้ ด้วยการหมั่นทำความสะอาดบ้านบ่อย ๆ เพื่อลดปริมาณไรฝุ่นและฝุ่นละอองดังกล่าว ทั้งภายในบ้านและนอกบ้าน ควรจัดบ้านให้โล่งและปลอดโปร่งที่สุด ใช้ของตกแต่งและเครื่องใช้ในครัวเรือนให้น้อยที่สุด อีกทั้งควรหลีกเลี่ยงเฟอร์นิเจอร์หรือของตกแต่งที่ทำจากผ้า เพราะเป็นแหล่งเก็บกักฝุ่น และหากจำเป็นต้องมีก็ให้ทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์นั้นบ่อย ๆ หมั่นนำพรม ที่นอน หมอน ผ้าปูที่นอนไปซักทำความสะอาดบ่อย ๆ และเลือกใช้ผ้าบุเฟอร์นิเจอร์ชนิดป้องกันไรฝุ่นด้วย จึงจะเป็นการช่วยป้องกันเด็ก ๆ และลูกน้อยจากการกำเริบของโรคภูมิแพ้ได้ เท่านั้นยังไม่พอ การรักษาสุขภาพของลูก ๆ ให้แข็งแรงเพื่อมีภูมิต้านทานที่สูงขึ้นก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน ด้วยการให้ลูกน้อยทานอาหารที่มีประโยชน์อยู่เสมอ รักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง พาลูกไปออกกำลังกายเป็นประจำ …
-
โรคหวัดภูมิแพ้ อาการ การรักษา วิธีป้องกัน
โรคหวัดภูมิแพ้ อาการ การรักษา วิธีป้องกัน โรคหวัดภูมิแพ้ หรือโรคแพ้อากาศ เป็นโรคที่พบบ่อยในคนทุกเพศทุกวัย และมักจะเป็นๆ หายๆ เรื้อรัง ส่วนมากไม่มีภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เพียงแต่สร้างความรำคาญให้กับคนที่เป็นโรค การใช้ยาแก้แพ้สามารถบรรเทาอาการได้เป็นครั้งคราว ผู้ที่เป็นโรคนี้จำเป็นต้องดูแลตนเองด้วยการหลีกเลี่ยงสิ่งที่แพ้ และขยันออกกำลังกายสม่ำเสมอ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ก็อาจช่วยให้โรคทุเลาไปได้ สาเหตุ เกิดจากร่างกายมีปฏิกิริยาไวต่อสิ่งที่แพ้ แล้วปล่อยสาร (เช่น ฮิสตามีน) ออกมา ทำให้เกิดอาการคัดแน่นจมูก จาม น้ำมูกไหล โรคนี้สามารถถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ มักจะพบว่ามีพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย หรือญาติพี่น้องเป็นโรคภูมิแพ้ชนิดใดชนิดหนึ่ง (เช่น ลมพิษ ผื่นคัน หวัดภูมิแพ้ เยื่อตาขาวอักเสบจากการแพ้ โรคหืด เป็นต้น) อยู่ด้วย สิ่งที่แพ้ มักได้แก่ ฝุ่น ละอองเกสร ขนสัตว์ ความเย็น (อากาศเย็น น้ำเย็น) นุ่น (ที่นอน หมอน) สารเคมี เป็นต้น อาการของหวัดภูมิแพ้ จะมีอาการเป็นหวัดคัดจมูก จามบ่อย…
-
การออกกำลังกาย ช่วยให้บรรเทาอาการภูมิแพ้ต่างๆได้
การออกกำลังกาย ช่วยให้บรรเทาอาการภูมิแพ้ต่างๆได้ นักวิจัยจากประเทศไทย ได้วิจัยเรื่องนี้ไว้ว่า วิธีป้องกันการเกิดภูมิแพ้ต่างๆ โดยการวิ่ง หรือ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยบรรเทาอาการภูมิแพ้ และสามารถป้องกันหวัดได้ โดยได้สุ่มตัวอย่าง กลุ่มคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ต่างๆ เมื่ออกไปวิ่งราว 30 นาที อาการจาม น้ำมูกไหล คันและคัดจมูก นั้นได้ลดลงไปกว่า 70 % การออกกำลังกายแบบนี้ เรียกได้ว่าเป็นการออกกำลังแบบ คาร์ดิโอ ที่จะสามารถช่วยให้โปรตีนนั้น ไปกระตุ้นการอักเสบของโพรงจมูก นักวิจัยได้แนะนำอีกว่า การวิ่งและการออกกำลังที่พอประมาณ แต่ทำอย่างสม่ำเสมอนั้น ไม่ใช่แค่จะช่วยบรรเทาอาการ แต่สามารถช่วยให้หายจากโรคภูมิแพ้ต่างๆได้จริง โดยที่ไม่ต้องพึ่งยาอื่นๆเลย รู้อย่างนี้แล้วก็ควรจะรีบปฏิบัติตามกันโดยด่วนเลยนะค่ะ
-
เคล็ดลับง่ายๆ ช่วยให้ลูกน้อยของคุณห่างไกลจากโรคภูมิแพ้
เคล็ดลับง่ายๆ ช่วยให้ลูกน้อยของคุณห่างไกลจากโรคภูมิแพ้ ในปัจจุบัน โรคภูมิแพ้ เป็นโรคอันดับต้นๆที่เกิดขึ้นได้ในเด็กเล็ก หรือเด็กแรกเกิด ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคภูมิแพ้ได้นั้นมีหลายปัจจัย ทั้งสาเหตุที่ได้รับโดยตรง หรือสาเหตุที่ได้รับจากทางอ้อม ไม่ว่าจะเป็น จากไรฝุ่น ควันบุหรี่ ขนสัตว์ กลิ่นเหม็นของสารเคมีหรือสารตกค้างในอากาศ ซึ่งโรคภูมิแพ้นี้มีทั้งการแพ้หลายอย่างแยกออกไป ไม่ว่าจะเป็นโรคภูมิแพ้ระบบทางเดินหายใจ หรือโรคภูมิแพ้อากาศ มักจะเกิดบริเวณระบบทางเดินหายใจส่วนบน ทำให้เด็กมีอาการคัน จาม คัดจมูก และยังส่งผลในระยะยาวที่จะทำให้เด็กป่วยบ่อย อาจส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการช้าได้ ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ ต้องหันมาใส่ใจกับเรื่องสิ่งแวดล้อมทั้งในและนอกบ้าน เพื่อหลีกเลี่ยงสารกระตุ้นที่ทำให้เกิดภูมิแพ้ โดยภายในบ้านควรหมั่นทำความสะอาดทุกวัน เพื่อลดสารก่อภูมิแพ้ พวกไรฝุ่น เชื้อรา และสารพิษตกค้างในอากาศ ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปลอดสารพิษฟอร์มาลดีไฮด์หรือสารพิษอื่นๆ ส่วนภายนอกบ้านให้หลีกเลี่ยงบริเวณที่มีควันบุหรี่ ควันรถยนต์ ขนสัตว์ หรือเกสรดอกไม้ ทั้งยังต้องให้ลูกน้อยได้พักผ่อนอย่างเพียงพอและออกกำลังกายสม่ำเสมอ แค่นี้เด็กๆ ก็จะมีสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์ ส่งผลให้มีพัฒนาการที่เติบโตแข็งแรงได้