Tag: โรคเรื้อรัง

  • การดูแลสุขภาพผู้สูงอายุให้ห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บ

    การดูแลสุขภาพผู้สูงอายุให้ห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บ

    การดูแลสุขภาพผู้สูงอายุให้ห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บ ผู้สูงอายุนั้นจะเกิดความเจ็บไข้ได้ป่วยจากสาเหตุสี่ประการได้แก่ 1. ความเสื่อมโทรมลงของอวัยวะซึ่งเป็นไปตามวัย 2. พฤติกรรมและการดูแลสุขภาพเท่าที่ผ่านมา 3. การเปลี่ยนแปลงไปของเซลล์ภายในร่างกาย 4. ปัจจัยที่ถ่ายทอดกันมากทางพันธุกรรม หลายโรคนั้นสามารถป้องกันได้ ด้วยการดูแลรักษาสุขภาพไว้ให้ดี ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องอาหารการกินที่ควรกินให้ครบหมู่ แต่ให้เน้นผักและผลไม้ หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง หวานหรือเค็มจัด ดื่มน้ำมาก ๆ และหมั่นออกกำลังกายในแบบที่ชอบ เพื่อลดภาวะอ้วนน้ำหนักเกินอันเป็นต้นเหตุของโรคเรื้อรังได้อีกหลายโรคไม่ว่าจะเป็น เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและข้อเข่าเสื่อม ทั้งยังเป็นสาเหตุของมะเร็งบางชนิดได้อีกด้วย การพยายามรักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในมาตรฐานจึงเป็นมาตรการดูแลรักษาสุขภาพที่ดีอีกอย่างหนึ่งด้วย ในผู้สูงอายุนั้นควรมีการดูแลสุขภาพร่างกายของตนเองให้เป็นพิเศษ เช่น สังเกตว่ามีแผลเรื้อรังไม่หายบ้างหรือเปล่า มีปัญหาการกลืนหรือย่อยอาหารหรือไม่ รู้สึกเบื่ออาหาร น้ำหนักลด ไอเรื้อรัง ไข้เรื้อรัง เหนื่อยง่าย เจ็บหน้าอก ท้องเสีย ท้องผูกเรื้อรังบ้างหรือเปล่า ฯลฯ เหล่านี้จำเป็นต้องไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายให้ละเอียดต่อไป โรคที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุนั้นสามารถป้องกันและดูแลตนเองเพื่อลดความรุนแรงได้ อย่างเช่น – โรคไขข้อเสื่อม ควรดูแลไม่ให้น้ำหนักมากเกินจนไปส่งผลให้ข้อเข่ารับน้ำหนักตัวเกิน หมั่นบริหารกล้ามเนื้อรอบข้อให้แข็งแรง ทนุถนอมข้อเข่าให้มาก ๆ อย่างเคลื่อนไหวร่างกายหรือบิดข้อมากเกินไป ควรนั่งบนเก้าอี้ที่สบาย หลีกเลี่ยงการนั่งพับเพียบ ขัดสมาธิ หรือคุกเข่าเพื่อลดการแรงกระทำต่อข้อ ป้องกันการหกล้มด้วยการฝึกเดินหรือใช้เครื่องพยุงร่างกาย ปรับสภาพแวดล้อในบ้านด้วยการทำพื้นไม่ให้ลื่น…

  • อร่อยปาก…ลำบากพุง !!!

    อร่อยปาก…ลำบากพุง !!!

    อร่อยปาก…ลำบากพุง !!! อาหารอร่อย ๆ นั้นทุกคนไม่ว่าใครก็ชอบกิน เพราะอาหารอร่อยทำให้ผู้ทานรู้สึกมีความสุข คลายเครียดได้ หลายคนที่มีความเครียด หรือความกดดันจากชีวิตด้านอื่นมักจะเลือกการกินเพื่อบรรเทาความเครียดในตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นรสชาติที่ถูกปากที่ถูกปรุงรสด้วยเครื่องปรุงต่าง ๆ กลิ่นหอมที่ได้กลิ่นเมื่อไรก็น้ำลายสอ ความอร่อย หวานหอม สดชื่นจากเครื่องดื่ม และบรรยากาศดี ๆ ในร้านอาหารก็ยิ่งทำให้รู้สึกอยากกินบ่อย ๆ เมื่อเป็นแบบนี้นาน ๆ เข้า ความอ้วนและน้ำหนักเกินก็มาเยือน ยิ่งถ้าไม่ค่อยมีเวลาได้ออกกำลังกายมากขึ้น การมีโรคเรื้อรังก็ตามมา และนับวันปัญหาก็ยิ่งเพิ่มขึ้นในกลุ่มคนที่มีอายุน้อยลงไปเรื่อย ๆ ยิ่งในประเทสสหรัฐอเมริกาแล้ว อาหารที่ประชากรในประเทศทานก็ยิ่งเอื้อให้เกิดภาวะน้ำหนักเกินได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น มันฝรั่งทอด เนื้อแดงชนิดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ไส้หรอก หมูแฮม เบคอน อาหารขยะต่าง ๆ รวมไปถึงกิจกรรมต่าง ๆ ที่คนอเมริกันทำนั้นก็ไม่ค่อยจะทำให้มีให้มีสุขภาพดีเท่าไร ไม่ว่าจะเป็นการนั่ง ๆ นอนๆ ดูทีวี หรือนอนน้อย เหล่านี้ทำให้ชาวอเมริกันประสบปัญหากับโรคอ้วนมากขึ้น แม้แต่คนไทยเองที่เริ่มกินเนื้อสัตว์มากกว่ากินข้าวและผัก ดื่มน้ำอัดลม ชาเย็น ของทอดน้ำมัน และอาหารปรุงแต่งมากขึ้น กินผักผลไม้น้อยลง นั่ง…

  • โรคสะเก็ดเงิน สาเหตุและการรักษา

    โรคสะเก็ดเงิน สาเหตุและการรักษา

    โรคสะเก็ดเงิน สาเหตุและการรักษา หากคำนวณตามจำนวนประชากรโลกใบนี้แล้ว โรคสะเก็ดเงินสามารถพบได้ประมาณร้อยละ 2 เท่านั้น พบได้ทั้งเพศชายและเพศหญิงพอ ๆ กัน ซึ่งพบได้หลายรูปแบบดังนี้ – ผิวหนังเป็นปื้นนูนหนาขนาดใหญ่ และเป็นเรื้อรัง ปื้นมีขอบเขตชัดเจน สีชมพูถึงแดง มีสะเก็ดสีเงินปกคลุม พบได้มากบริเวณ ข้อต่อ ข้อศอก ข้อเข่า แขนขา และหลังส่วนล่าง – ปื้นรูปหยดน้ำ พบได้มากในเด็ก วัยรุ่น และผู้ใหญ่ตอนต้น เป็นปื้นนูนขนาดประมาณ 1 เซนติเมตร ขึ้นเป็นจำนวนมาก บริเวณลำตัว แขนขา และมีอาการหลังจากการเจ็บคอ – เป็นผื่นบริเวณข้อพับ ขาหนีบ รักแร้ ราวนม – ผื่นที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้า เป็นผื่นหนา ๆ ที่ทำให้ฝ่ามือ ฝ่าเท้าแตกและเจ็บ – เป็นตุ่มหนองทั่วร่างกาย มีไข้ ไม่สบายเจ็บผิวหนัง – เป็นผื่นแดงทั่วตัว มีผิวหนังอักเสบทั่วร่างกายกว่าร้อยละ 90 ขึ้นไป…

  • ดูแลตัวเองให้มีความสุขแม้จะเป็นโรคเบาหวาน

    ดูแลตัวเองให้มีความสุขแม้จะเป็นโรคเบาหวาน

    ดูแลตัวเองให้มีความสุขแม้จะเป็นโรคเบาหวาน โรคเบาหวานเป็นโรคเรื้อรังไม่ติดต่อที่จำเป็นต้องดูแลตัวเองให้ดี ๆ อาการของโรคนี้คือร่างกายไม่สามารถเผาผลาญน้ำตาลให้เป็นพลังงานได้ตามปกติ น้ำตาลในเลือดจึงสูงขึ้นและถูกขับออกมากับปัสสาวะ โรคนี้แม้จะต้องการวินัยในการควบคุมน้ำตาลอยู่มาก แต่หากดูแลดี ๆ แล้วจะมีสุขภาพปกติได้เหมือนคนทั่วไปเช่นกัน ซึ่งขั้นแรกของการดูแลก็คือต้องทำให้น้ำหนักตัวอยู่ในมาตรฐาน อย่าปล่อยตัวให้อ้วนน้ำหนักเกิน ด้วยการดูแลร่างกายดังนี้ – ขยับตัวบ่อยๆ เคลื่อนไหวร่างกายมาก ๆ ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด เช่น อยู่ในออฟฟิศก็ใช้บันไดแทนการใช้ลิฟท์ หรืออยู่บ้านก็ปัดกวาดเช็ดถูบ้านให้สะอาดเรียบร้อยเสมอ ๆ ฯลฯ – ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง ครั้งละ 30-40 นาที เลือกตามที่ชอบไม่ว่าจะเป็นการเดินจ๊อกกิ้ง ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ เต้นแอโรบิค ก็ได้ทั้งนั้น – เปลี่ยนจากข้าวขาวเป็นข้าวซ้อมมือ ข้าวกล้องที่มีคุณค่าทางอาหารมากกว่า มีเส้นใยอาหารมากกว่า ช่วยให้น้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือดได้ช้าลง การทานข้าวกล้องจึงทำให้อิ่มได้นาน อยู่ท้อง ช่วยในการลดน้ำหนักได้ดีกว่า – เลือกทานผักและผลไม้ที่มีรสไม่หวานนัก หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันและคอเลสเตอรอลสูง เลือกอาหารที่ปรุงด้วยการต้ม นึ่ง ย่าง แทนการผัดหรือทอด จะช่วยลดไขมันสะสมในร่างกายได้มากเลยค่ะ – ทานอาหารที่ปรุงรสแต่น้อย เลี่ยงอาหารที่เค็มจัด มันมาก…

  • โรคเรื้อรังไม่ติดต่อ เกิดจากการกินดีอยู่ดีเกินไป

    โรคเรื้อรังไม่ติดต่อ เกิดจากการกินดีอยู่ดีเกินไป

    โรคเรื้อรังไม่ติดต่อ เกิดจากการกินดีอยู่ดีเกินไป โรคเรื้อรังไม่ติดต่อ คือโรคที่รักษาหายได้ยากหรือรักษาได้ไม่หายขาด ได้แก่โรคในกลุ่ม ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือด เบาหวาน และโรคมะเร็ง ซึ่งจากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขในปัจจุบันพบว่ามีผู้ป่วยโรคเหล่านี้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลมากขึ้นและเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สาเหตุของโรคเหล่านี้เกิดจากการกินดีอยู่ดีเกินไป ไม่ว่าจะเป็น การชอบกินอาหารรสชาติหวานจัด ไขมันสูง หรือเค็มจัด การขาดการออกกำลังกาย ชอบดื่มเหล้าสูบบุหรี่ และชอบสะสมความเครียดด้วย คนที่มีน้ำหนักเกินจนอ้วนลงพุงนั้น จะมีไขมันสะสมในช่องท้องมาก โดยไขมันเหล่านี้จะแตกตัวเป็นกรดไขมันอิสระเข้าสู่ตับ ขัดขวางการทำงานของอินซูลินจึงเกิดผลร้ายกับผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง เมื่อมีไขมันในหลอดเลือดก็จะทำให้หลอดเลือดเสื่อมตัวลง เกิดเป็นโรคหลอดเลือดแข็งตัว โรคหัวใจ ทำให้ไตวาย หัวใจวาย จนเป็นอัมพาตหรืออัมพฤกษ์และเสียชีวิตได้ เกณฑ์ในการเป็นโรคอ้วนลงพุงนั้น ให้วัดที่ขนาดรอบเอวโดย ผู้ชายมีเส้นรอบเอวตั้งแต่ 90 เซนติเมตรขึ้นไป และ 80 เซนติเมตรขึ้นไปในผู้หญิง รวมกับปัจจัยเสี่ยงอีก 2 ใน 4 ข้อต่อไปนี้ได้แก่ 1. มีความดันโลหิตตั้งแต่ 130/85 ขึ้นไป หรือทานยาควบคุมความดันโลหิตอยู่ 2. มีระดับน้ำตาลในเลือดขณะอดอาหารตั้งแต่ 100 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตรขึ้นไป 3. มีระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์สูงกว่า 150…

  • ป้องกันโรคปอดบวมในเด็ก…ในช่วงหน้าฝน

    ป้องกันโรคปอดบวมในเด็ก…ในช่วงหน้าฝน

    ป้องกันโรคปอดบวมในเด็ก…ในช่วงหน้าฝน โรคปอดบวมเป็นโรคติดเชื้อร้ายแรงเฉียบพลัน ที่รุนแรงและมีอันตรายถึงตายได้เลยในเด็กเล็ก ๆ โรคนี้นั้นโดยประมาณแล้วองค์การอนามัยโลกระบุว่า ทุก ๆ นาทีจะมีเด็กอายุต่ำกว่าห้าขวบเสียชีวิตด้วยโรคปอดบวมอย่างน้อยหนึ่งคน จึงทำให้เด็กเล็กทั่วโลกเสียชีวิตด้วยโรคนี้เฉลี่ยปีละประมาณสองล้านคนแลยทีเดียว โรคปอดบวมนี้เกิดจากเชื้อไวรัสและเชื้อแบคทีเรียค่ะ มักจะพบในผู้ที่มีร่างกายอ่อนแอ มีภูมิต้านทานโรคต่ำ ไม่ว่าจะเป็น เด็กเล็กอายุน้อยกว่าห้าขวบ, ทารกแรกเกิดไม่แข็งแรง, ผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวี, ผู้ที่เป็นโรคเรื้อรังต่าง ๆ รวมไปถึงผู้สูงอายุด้วย โดยระยะที่ระบาดมากที่สุดก็คือช่วงหน้าฝนตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงเดือนกันยายนของทุกปี โรคนี้ติดต่อกันได้ด้วยการหายใจเอาเชื้อที่ฟุ้งอยู่ในอากาศเข้าสู่ปอด, การไอหรือจามรดกัน, การคลุกคลีกับผู้ป่วยโรคนี้อยู่แล้ว, การสำลักสิ่งแปลกปลอมที่มีเชื้อโรคเข้าไปในจมูกและลำคอ เช่น เด็กที่สำลักน้ำขณะเล่นน้ำก็สามารถเป็นโรคปอดบวมได้ด้วย อาการของโรคนี้จะมีไข้สูง ไอหนัก ไอมาก หายใจเร็ว หรือหายใจลำมาก และถ้าอาการหนักจะหอบถี่ หายใจลำบากหรือมีเสียงดังวี๊ด ๆ หรือหายใจแรงหอบจนซี่โครงบุ๋มตัว เล็บมือเล็บเท้า ริมฝีปากเขียวคล้ำ ซึมหรือกระสับกระส่าย หากมีอาการเช่นนี้แล้วควรรีบน้ำผู้ป่วยไปพบแพทย์โดยด่วนเพราะอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ สำหรับโรคนี้ที่มีความอันตรายมากสามารถป้องกันได้โดย – รักษาสุขภาพให้แข็งแรง พักผ่อนนอนหลับอย่างสม่ำเสมอ – กินอาหารที่ประโยชน์ และออกกำลังกายบ่อย ๆ – ไม่ควรพาเด็กไปในที่แออัดหรือมีคนมาก รวมทั้งไม่ควรให้เด็กอยู่ใกล้ชิดผู้ป่วย – สำหรับเด็กที่เลี้ยงในห้องแอร์ควรสวมเสื้อผ้าให้อบอุ่นไว้มาก ๆ – เด็กเล็กควรดื่มน้ำนมแม่เพื่อให้ได้รับภูมิต้านทานให้เต็มที่…

  • หลีกเลี่ยงหวัดในช่วงอากาศเปลี่ยนแปลง

    หลีกเลี่ยงหวัดในช่วงอากาศเปลี่ยนแปลง

    หลีกเลี่ยงหวัดในช่วงอากาศเปลี่ยนแปลง ในระยะที่อากาศเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง เริ่มมีฝนตกมากขึ้น ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันร่างกายค่อนข้างต่ำ หรือสุขภาพอ่อนแอเพราะปรับตัวไม่ทัน จึงเจ็บป่วยได่ง่าย ยิ่งโดยเฉพาะโรคติดเชื้อทางลมหายใจจำพวกโรคหวัด หรือไข้หวัดใหญ่ที่ติดต่อกันได้ง่ายนั้น เราจึงยิ่งจำเป็นต้องเตรียมร่างกายให้พร้อมในการป้องกันโรคติดต่อเหล่านี้นั่นเอง ซึ่งมีวิธีการดูแลตัวเองง่าย ๆ ดังต่อไปนี้ค่ะ – เมื่อรู้ตัวว่าเริ่มป่วย เริ่มเป็นไข้ ไม่สบายรู้สึกอ่อนเพลีย นอนไม่พอ ยิ่งไม่ควรเข้าไปเสี่ยงในแหล่งชุมชนที่มีคนอยู่มาก ไม่ว่าจะเป็นตลาด ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล เพราะว่าร่างกายในช่วงที่มีภูมิต้านทานต่ำจะเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย – หมั่นล้างมือบ่อย ๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรือหากไม่สะดวกในการล้างมือจะใช้เจลแอลกอฮอล์มาเช็ดก็ได้ ช่วยป้องกันเชื้อโรคต่าง ๆ ได้ดี ยิ่งหากอยู่ในช่วงที่กำลังมีอาการไอหรือจาม ยิ่มควรหมั่นล้างมือบ่อย ๆ เพราะหากนำมือไปป้ายตาก็อาจติดเชื้อตาอักเสบได้ หรือไปหยิบจับสิ่งของก็จะเท่ากับเป็นการแพร่เชื้อให้ผู้อื่นอีกทาง – หลีกเลี่ยงและอยู่ห่างจากผู้ป่วยที่มีอาการเป็นหวัด ซึ่งหากหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ควรสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง จะช่วยป้องกันเชื้อหวัดและโรคทางเดินหายใจได้ดี – หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ แล้วพักผ่อนให้เพียงพอ – ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ สองลิตร – หากในบ้านของเรามีเด็กเล็กหรือผู้สูงอายุที่ป่วยคล้ายไข้หวัดใหญ่ควรรีบไปปรึกษาแพทย์ และควรป้องกันการแพร่เชื้อให้แก่ผู้อื่นด้วยการไม่คลุกคลีกับผู้ใกล้ชิด ใช้ผ้าปิดปากปิดจมูกเมื่อไอหรือจาม และหมั่นล้างมือบ่อย ๆ ด้วย – สำหรับกลุ่มผู้เสี่ยงสูง…

  • ยอมรับความเสื่อมของร่างกายตามกาลเวลา

    ยอมรับความเสื่อมของร่างกายตามกาลเวลา

    ยอมรับความเสื่อมของร่างกายตามกาลเวลา เมื่ออายุยิ่งมากขึ้นเท่าไร การดูแลสุขภาพก็ยิ่งเป็นเรื่องจำเป็นมากขึ้นเท่านั้น หากจะเปรียบไปแล้วร่างกายของคนก็เหมือนกับรถที่เก่าลงทุกปี จำเป็นต้องเข้าอู่เพื่อตรวจเช็คสภาพ บำรุงรักษาอยู่เนือง ๆ ร่างกายเราเมื่ออายุมากขึ้นก็ย่อมมีความเสื่อมโทรมลงเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ว่าจะเป็นอวัยวะส่วนใดก็หลีกเลี่ยงความจริงข้อนี้ไปไม่ได้ ซึ่งอาการหรือโรคที่บ่งบอกว่าร่างกายเรากำลังเสื่อมโทรมเอาที่เห็นกันได้ชัด ๆ นั้นก็คือ ตาฝ้าฟาง หูตึง ปวดกล้ามเนื้อ และปวดกระดูก อ่อนเพลีย เมื่อยล้า ภูมิแพ้ชนิดต่าง ๆ รวมไปถึงโรคเรื้อรังไม่ติดต่อจำพวก เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเส้นเลือด โรคอ้วน ซึ่งไม่จำเป็นต้องเกิดในผู้สูงอายุเท่านั้น แต่พบได้แม้ในคนที่อายุยังน้อยอยู่ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็เกิดจากวิธีการใช้ชีวิตนั่นเอง แต่คนเราก็ไม่เหมือนรถไปซะหมดทุกอย่าง เพราะคนเราก็ยังมีจิตใจ และจิตวิญญาณ ซึ่งสุขภาพของคนจะดีได้นั้นผู้ที่เป็นเจ้าของร่างกายก็จำเป็นต้องดูแลเอาใจใส่ทุกสัดส่วน ร่างกายจึงจะอยู่กับเรานาน ๆ ไม่เสื่อมโทรมไว หรือเสียบ่อย ๆ แล้วก็ยังใช้การได้ดีจนสิ้นอายุขัย พึงตระหนักไว้ว่าสุขภาพของผู้ที่เข้าวัยชรานั้นเปรียบเหมือนรถเก่าก็ตรงที่ มักจะเสียง่าย ใช้งานหนักมากไม่ไหว แล้วก็ต้องเข้าอู่บ่อย สุดท้ายก็ต้องพัง ดังนั้นจึงจำเป็นต้องดูแลอย่างเหมาะสม เมื่อเกิดความเสียหายขึ้นก็ซ่อมแซมตามจำเป็น แต่หากมีปัญหาซับซ้อนก็ควรแยกแยะให้ออกว่าจะปล่อยไปหรือนำไปซ่อม ควรมีสติ มีความรู้ และอย่างกังวลมากเกินไป นอกจากนี้แล้วยังควรหากช่างซ่อม หรือหมอ พร้อมอู่ หรือโรงพยาบาลที่ไว้ใจได้มาดูแลด้วย ผู้สูงวัยทุกท่านจำเป็นต้องแยกแยะให้ได้ว่า อาการชนิดไหนเป็นโรคที่ไม่ต้องรักษา…

  • มารู้จักโรคสะเก็ดเงิน  โรคผิวหนังที่เป็นโรคเรื้อรัง.. แต่ไม่ใช่โรคติดต่อ

    มารู้จักโรคสะเก็ดเงิน โรคผิวหนังที่เป็นโรคเรื้อรัง.. แต่ไม่ใช่โรคติดต่อ

    มารู้จักโรคสะเก็ดเงิน  โรคผิวหนังที่เป็นโรคเรื้อรัง.. แต่ไม่ใช่โรคติดต่อ โรคสะเก็ดเงิน แม้จะไม่ได้พบเห็นบ่อยมากนัก แต่ก็เป็นโรคเรื้อรังที่สร้างปัญหากับชีวิตผู้ป่วยไม่น้อย  อาการของโรคจะมีลักษณ์ผิวเป็นปื้นแดง  มีสะเก็ตสีเงินวาวและมีขุยหนา  โดยบริเวณที่มักเกินโรคก็คือส่วนที่มีความด้านของร่างกายอย่างเช่น หัวเข่า ข้อศอก หรือแม้แต่แผ่นหลัง และแขนขา  รวมทั้งหนังศรีษะและเล็บด้วยเช่นกัน  โรคนี้ยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัดทั้ง แต่ปัจจัยที่น่าสงสัยอาจเป็นในเรื่องของพันธุกรรม การติดเชื้อที่ทำให้เกิดการแบ่งเซลล์ผิวหนังเร็วกว่าปกติก็เป็นได้  และจะมีอยู่ร้อยละ 10-30 ที่จะมีอาการปวดข้อนิ้ว ปวดข้อสะโพกและกระดูกสันหลัง  อีกทั้งยังพบว่าผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงินมักมีอาการอ้วนลงพุงอีกด้วย  ด้วยสามารถวินิจฉัยจากความผิดปกติจาก 3 ใน 5 ก็คือมีเส้นรอบเอวมากกว่า 90 ซม.ในเพศชายและ 80 ซม. ในเพศหญิง,  มีความดันเลือดมากกว่า 130/85 มม.ปรอท  รวมทั้งได้รับยารักษาความดัน, มีระดับของไตรกรีเซอไรด์มากกว่า 150 มก.ต่อเดซิลิตร หรือมีไขมันในเลือดสูงและได้รับยาลดไขมัน, มีระดับไขมันดีน้อยกว่า 40 มก.ต่อเดซิลิตรในเพศชายและน้อยกว่า 50 มก.ต่อเดชิลิตรในเพศหญิง หรือเป็นผู้มีไขมันในเลือดสูงและได้รับยาลดไขมัน รวมไปถึง มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่า 100 มก.ต่อเดซิลิตรหรือเป็นเบาหวานระดับที่ 2 การเป็นโรคสะเก็ดเงินนั้นไม่ทำให้ถึงแก้ชีวิต ยกเว้นในรายที่มีผื่นมากกว่าร้อยละ 90 ของร่างกายที่อาจทำให้เสียชีวิตได้ …

  • นักวิจัยค้นพบ ยาตัวใหม่ที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งในหนูทดลอง

    นักวิจัยค้นพบ ยาตัวใหม่ที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งในหนูทดลอง

    นักวิจัยค้นพบ ยาตัวใหม่ที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งในหนูทดลอง ทีมนักวิจัยนานาชาติคิดค้นตัวยาชนิดหนึ่งที่ช่วยสร้างความทนทานแก่กล้ามเนื้อในหนูทดลองโดยพวกเขาหวังว่าวันหนึ่งยาชนิดนี้อาจจะช่วยบำบัดผู้ป่วยด้วยโรคต่างๆที่ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแอยากต่อการออกกำลังกายรวมทั้งโรคเบาหวานประเภทที่สองที่เกิดจากโภชนาการซึ่งเป็นโรคที่คุกคามคนจำนวนมากทั่วโลก แม้ว่าการออกกำลังกายจะช่วยทุเลาอาการป่วยด้วยโรคเรื้อรังหลายๆโรค อาทิ โรคเบาหวานทั้งสองประเภท โรคอ้วน และโรคหัวใจ ผู้ป่วยด้วยโรคเหล่านี้จำนวนมากมักไม่ค่อยมีเรี่ยวแรงในการออกกำลังกาย ในการทดลองครั้งนี้ทีมงานได้ทดลองใช้ยา SR9009 กับหนูทดลองเพื่อช่วยให้กล้ามเนื้อหนูเเข็งแรงทนทานขึ้น ทำให้หนูสามารถวิ่งได้ระยะทางไกลขึ้นและนานขึ้นโดยมีความทนทานต่อการวิ่งเพิ่มขึ้นราว 50-60 เปอร์เซ็นต์ ในหนูทดลองที่ขาดโมเลกุลที่เรียกว่า รีฟเวิร์ปอัลฟ้า (Reverbalpha) ทีมนักวิจัยพบว่ามีปริมาณไขมันเพิ่มขึ้นในเซลล์ของหนูเพราะกล้ามเนื้อมีการเผาผลาญพลังงานลดลง แต่เมื่อทดลองบำบัดหนูกลุ่มนี้ด้วยยา SR9009 ทีมนักวิจัยพบว่ากล้ามเนื้อมีการเผาผลาญพลังงานและไขมันมากขึ้น ทำให้ปริมาณไขมันในกล้ามเนื้อของหนูทดลองลดลง ทีมวิจัยมีหลักฐานจากการทดลองที่ชี้ว่าประสิทธิผลของยา SR9009 คล้ายคลึงกับผลดีจากการออกกำลังกายทซึ่งเกิดแก่คนที่ระบบเผาผลาญน้ำตาลในเลือดเริ่มบกพร่อง โดยพบว่าระดับคอเลสเตอรอลในเลือดลดลง ไขมันในเลือดลดลง และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการเผาผลาญกลูโคส นักวิจัยกล่าวว่าการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นต่อสุขภาพนี้เกิดขึ้นจากการปรับให้กล้ามเนื้อที่อ่อนแอกลายเป็นกล้ามเนื้อที่แข็งแรงและสามารถเผาผลาญไขมันในเซลล์ได้ดีขึ้นนั่นเอง