Tag: โรคอ้วน
-
สวดมนต์ช่วยเยียวยารักษาโรคได้
สวดมนต์ช่วยเยียวยารักษาโรคได้ การสวดมนต์นั้นเป็นเครื่องช่วยนำสู่สมาธิได้ ทำให้ผู้สวดจดจ่ออยู่กับบทสวด ใจไม่ฟุ้งไปที่อื่นจึงเกิดสมาธิได้ง่ายมาก เมื่อร่างกายเข้าสู่สมาธิจะหลั่งสารที่กระตุ้นระบบต่าง ๆ ในร่างกาย ทำให้จิตใจและร่างกายมีความผ่อนคลาย สร้างภูมิต้านทานได้ดีขึ้น เมื่อเจ็บป่วยก็จะดีขึ้นตามลำดับ ช่วยบำบัดอาการเจ็บป่วยและเยียวยารักษาโรคได้มากมายไม่ว่าจะเป็น โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ เบาหวาน ซึมเศร้า มะเร็ง ไมเกรน ออทิสติก โรคอ้วน นอนไม่หลับ พาร์กินสัน ฯลฯ ซึ่งสามารถทำได้หลายแบบได้แก่ 1. สวดมนต์ด้วยตนเอง อาจตื่นมาสวดตอนเช้าหรือก่อนเข้านอน แต่ไม่ควรสวดหลังกินอาหารทันที อาจสวดบทสั้น ๆ ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาทีก็จะทำให้ร่างกายหลั่งสารซีโรโทนินออกมา หากสวดบทยาวจะช่วยให้ผ่อนคลายและเกิดความศรัทธา ขณะสวดมนต์ให้หลับตาสวดให้เกิดเสียงดังให้ตัวเองได้ยิน 2. การสวดให้ผู้อื่นฟัง อาจเป็นการฟังพระสวด หรือเปิดเทปฟัง ยิ่งหากผู้สวดมีสมาธิ เสียงจะนุ่มและทุม ทำให้เกิดคลื่นที่ช่วยเยียวยาผู้ฟังได้ แต่หากผู้สวดไม่มีสมาธิหรือไม่มีความเมตตาจะไม่ช่วยเยียวยาอาการป่วยเลย 3. การสวดมนต์ให้แก่ผู้อื่น เป็นการส่งความปรารถนาดีไปสู่ผู้ป่วยจากคลื่นที่เป็นบวก เมื่อเราคิดจะส่งสัญญาณนี้ออกไปสู่ที่ไกล ๆในรูปของคลื่นไฟฟ้า ช่วยเยียวยารักษาผู้อื่นได้ บทสวดมนต์นั้นมีอยู่มากมาย สามารถเลือกบทที่ชอบสวดได้ตามต้องการ เลือกบทที่สวดแล้วสบายใจอย่างอิติปิโสก็ได้ แล้วสวดเท่าอายุ หรือหากต้องการให้ตัวเองหรือผู้อื่นหายเจ็บป่วย นิยมสวดโพชฌงค์เจ็ด ซึ่งมีความแตกต่างจากบทอื่น…
-
เช็คตัวเองว่ามีปัจจัยเสี่ยงของมะเร็งตับบ้างหรือเปล่า
เช็คตัวเองว่ามีปัจจัยเสี่ยงของมะเร็งตับบ้างหรือเปล่า? มะเร็งตับเป็นมะเร็งที่ไม่ค่อยตรวจพบในระยะแรกเท่าไร แต่ผู้ป่วยมักไปพบแพทย์ก็ตอนที่เป็นในระยะท้าย ๆ แล้ว อีกทั้งยังเป็นมะเร็งที่มีระยะฟักตัวนานอีกด้วย และมีปัจจัยหลายประการในการทำให้เป็นมะเร็งตับขึ้นมาได้ วันนี้มาลองตรวจสอบตัวเองกันดูว่าคุณเข้าข่ายว่าจะเป็นมะเร็งตับบ้างหรือเปล่านะคะ ปัจจัยเสี่ยงในการเป็นมะเร็งตับได้แก่ – เพศชายจะมีโอกาสเป็นมากกว่าเพศหญิง เพราะพฤติกรรมบางประการเช่น ดื่มเหล้าและสูบบุหรี่มากกว่า – ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ ชาวเอเชีย ชาวอเมริกา ชาวเกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก มีโฮกาสเป็นมะเร็งตับสูงกว่า – ผู้ที่มีเชื้อไวรัสตับอักเสบบี ไวรัสตับอักเสบซี ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคตับแข็ง ก็สามารถเป็นโรคมะเร็งตับได้เช่นกัน เชื้อนี้สามารถติดต่อกันได้ทั้งทางเพศสัมพันธ์ การใช้เข็มฉีดยา และการถ่ายทอดจากแม่สู่ลูกในครรภ์ รวมไปถึงการรับเลือดบริจาคด้วย – เป็นโรคตับแข็ง เพราะเซลล์ตับจะถูกทำลายและเหลือรอยแผลไว้ มักเกิดจากการดื่มแอกอฮอล์, เป็นไวรัสตับอักเสบบีและซี รวมไปถึงภาวะมีธาตุเหล็กในร่างกายมากเกินไป จะพัฒนาสู่การเป็นมะเร็งตับได้ – ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานมาก โดยเฉพาะผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์มากหรือมีภาวะตับอักเสบร่วมด้วย – ผู้ที่เป็นโรคอ้วน ก็เสี่ยงเช่นกัน – มักได้รับสาร Aflatoxine เป็นเวลานาน ซึ่งสารนี้คือเชื้อราที่อยู่ในพืชตระกูลถั่วต่าง ๆ ทั้งข้าว ข้าวสาลี ข้าวโพด ถั่วลิสง เป็นต้น – เป็นผู้ที่ได้รับสาร Vinyl…
-
ระวังลูกอ้วนคอดำ อาจเป็นเบาหวานได้นะ
ระวังลูกอ้วนคอดำ อาจเป็นเบาหวานได้นะ เดี๋ยวนี้โรคเบาหวานนั้นไม่ได้เป้นกันแต่เฉพาะในผู้ใหญ่ หรือผู้สูงอายุแล้ว เดี๋ยวนี้เด็กก็เป็นเบาหวานกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วย สำรวจมาล่าสุดพบว่าเด็กที่อายุแค่สามขวบก็เป็นเบาหวานแล้วด้วย ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงมาก เพราะโรคเบาหวานนี้จะทำให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยลดลง อายุสั้นลง พ่อแม่ผู้ปกครองจึงควรเฝ้าระวังดูแล และปลูกฝังนิสัยอันดีแก่ลูก ๆ เพื่อป้องกันโรคเบาหวานและโรคอื่น ๆ ที่จะตามมาด้วย เพราะเด็กสมัยนี้ถูกเลี้ยงให้สบายเกินไปนั่นเอง บางคนกลับบ้านไม่ต้องแตะต้องงานบ้านอะไรเลย พ่อแม่ทำให้ทุกอย่าง ตัวเองกลับมาจากโรงเรียนก็นั่งหน้าทีวี หรือไม่ก็เล่นเกมส์คอมพิวเตอร์ กินขนมกรุบกรอบไปด้วย ดื่มน้ำอัดลมไปด้วย ไม่ไปวิ่งเล่นออกกำลังกาย หรืออีกอย่างหนึ่งก็คือพ่อแม่เองก็ไม่ใส่ใจจะพาลูกไปเหมือนกัน ไม่เป็นตัวอย่างของผู้ที่มีสุขภาพที่ดีให้ลูกเห็นเลย ดังนั้นการปรับปรุงนอกจากจะช่วยให้น้องได้เปลี่ยนพฤติกรรมหันดูแลสุขภาพให้ดีขึ้นแล้ว คุณพ่อคุณแม่เองก็ควรปรับพฤติกรรมเพื่อชี้นำลูกด้วย ด้วยการขยับร่างกายให้มากขึ้น พากันไปออกกำลังกาย เล่นเกมส์หรือดูทีวีให้น้อยลง ทานขนมให้น้อยลง ทานผักผลไม้ให้มากขึ้น นอนหัวค่ำ ตื่นเช้า ลดการกินจุบจิบและอาหารไม่มีประโยชน์ไปด้วย ในส่วนของพ่อแม่ที่มีลูกอ้วนไปแล้ว ควรหันกลับมาดูแลเอาใจใส่อาหารการกินของลูกให้มากกว่าเดิม การลดน้ำหนักให้เด็กนั้น ควรให้กินอาหารให้ครบห้าหมู่ แต่หลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์ติดมัน อาหารทอดไขมันสูง อาหารหวานๆ เค็ม ๆ กรอบ ๆ อาหารฟาสต์ฟู้ดทั้งหลาย รวมไปถึงน้ำหวาน น้ำอัดลมด้วย แล้วพาลูกไปปั่นจักรยานหรือออกกำลังกายให้มากกว่าเดิม จะช่วยควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานได้ และให้สังเกตที่หลังคอและรักแร้ของลูก หากมีรอยดำ…
-
3 อ. ลดอ้วน ลดโรค
3 อ. ลดอ้วน ลดโรค ปัญหาโรคอ้วน น้ำหนักเกิน นั้นยิ่งนานไปยิ่งพบได้มากขึ้นเรื่อย ๆ นั่นเป็นเพราะวิถีชีวิตของคนเรานั้นไม่เอื้ออำนวยให้ใช้แรงงานเหมือนอย่างสมัยก่อน มีการใช้เครื่องทุ่นแรง เครื่องจักรมาทำงานมากขึ้น คนก็ทำงานนั่งโต๊ะมากกว่าเดิม ไม่ได้ออกกำลังกาย อาหารรึก็ทานแต่ที่มีไขมันและน้ำตาลสูง น้ำหนักตัวจึงทวีเพิ่มขึ้นไม่หยุด รู้สึกตัวอีกทีก็พุงล้ำหน้าไปหลายช่วงตัวแล้ว ดังนั้นก่อนที่จะเกิดโรคขึ้นเพราะความอ้วน หรือแม้แต่ผู้ที่เป็นโรคแล้ว ควรหันมาใส่ใจสุขภาพตนเอง ลดอ้วน ลดโรค ด้วยหลัก 3 อ. ที่ควรทำด้วยตนเองดังต่อไปนี้ อ. ที่หนึ่ง อาหารนั่นเองค่ะ ควรกินให้เป็นเวลาให้ครบมื้อ ไม่ควรอดมื้อใดมื้อหนึ่ง แต่ควรกินในปริมาณที่พอดี ไม่อิ่มจนมากเกินไป ใช้หลักการเลือกทานอาหารดังนี้ – 3 เพิ่ม คือการ เพิ่มเนื้อปลา เพิ่มผัก และเพิ่มน้ำเต้าหู้ – 3 ลด คือการลดการบริโภคแป้ง ลดข้าว และลดผลไม้รสหวานทั้งหลาย – 3 งด คือการงดทานของหวาน ของที่มีไขมันมาก และของทอดทั้งหลาย อ. ที่สอง ก็คือ…
-
10 วิธีขจัดความเครียด
10 วิธีขจัดความเครียด ความเครียดที่ใครต่อใครก็เป็นกันอยู่นั้น ท่านอาจคิดว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดาของชีวิตเรา แต่ความจริงแล้วหากมีความเครียดที่มากเกินไป อาจส่งผลกระทบรุนแรงต่อสุขภาพเราได้ ไม่ว่าจะเป็น โรคความดันโลหิตสูง แผลในกระเพาะอาหาร โรคหัวใจ โรคอ้วน เบาหวาน หรือฆ่าตัวตาย ตลอดจนเรื่อยจนถึงปัญหากับสังคมรอบข้าง และความจำได้ด้วย ความเครียดจึงเป็นปัญหาที่ไม่ควรมองข้าม แต่ควรหาทางขจัดความเครียดออกไปจะดีกว่าค่ะ 1. หากมีความเครียดที่เกิดจากการต้องไปทำอะไรแปลกใหม่ เช่น การสัมภาษณ์งาน หรือนำเสนอผลงาน ให้ลองนึกภาพเหตุการณ์หรือวางแผนไว้ล่วงหน้าเพื่อสร้างความมั่นใจให้มากขึ้น ให้มองเห็นแต่ภาพดี ๆ แต่ความสำเร็จเท่านั้น กับทั้งเตรียมตอบคำถาม แก้สถานการณ์ไว้ด้วย 2. มองด้านดีของปัญหา จะทำให้สบายใจได้มากขึ้น 3. ลองวางแผนไว้ล่วงหน้าว่าหากมีเหตุการณ์ด้านลบเกิดขึ้นจะทำอะไรกับชีวิต เช่น บริษัทปลดออกจากงาน เป็นต้น 4. เวลาสมองเกิดความตึงเครียดให้ใช้วิธีหายใจเข้าออกลึก ๆ 5. สร้างอารมณ์ที่ดีขึ้นด้วยการเปลี่ยนความคิดจากความเครียดหรือเรื่องที่ไม่สบายใจอย่างฉับพลันไปเป็นเรื่องที่ทำให้มีความสุข เช่น มองดูภาพสัตว์เลี้ยง หรือลูก ๆ หรือเด็กทารกที่ทำให้อารมณ์ดี 6. ผ่อนคลายกล้ามเนื้อดู เพราะความเครียดมากทำให้เราเกร็งกล้ามเนื้อโดยไม่รู้ตัว ค่อย ๆ ไล่ผ่อนคลายไปทีละส่วน ๆ 7. การออกกำลังกายให้เหงื่อออกช่วยลดความเครียดได้…
-
ตับแข็งไม่ได้เกิดจากการกินเหล้าเท่านั้น
ตับแข็งไม่ได้เกิดจากการกินเหล้าเท่านั้น โรคตับ นั้นมีสาเหตุหลายประการ ซึ่งภาวะไขมันพอกตับนั่นก็เป็นอีกปัญหาที่พบมาก เกิดได้จากการดื่มเหล้า การสูบบุหรี่ การรับสารพิษสารเคมีต่าง ๆ ภาวะขาดอาหาร หรือได้รับสารอาหารมากเกินไปจนร่างกายสะสมไว้ในรูปแบบไตรกลีเซอไรด์ในตับ ผู้ป่วยโรคตับอักเสบเรื้อรังนั้นกว่าร้อยละ 60 มีภาวะไขมันพอกตับ และมักมีปัจจัยต่อไปนี้ร่วมด้วย ได้แก่ อ้วนลงพุง ไขมันที่ลำตัวมากกว่าแขนขา เป็นเบาหวาน มีไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง ไขมันพอกตับนี้ส่วนใหญ่ไม่แสดงอาการออกมา กว่าจะรู้ตัวก็มักเป็นโรคตับอักเสบหรือตับแข็งไปแล้ว มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นจะแสดงอาการออกมา ซึ่งอาจมีอาการปวดแน่นชายโครงขวา อ่อนเพลียง่าย ๆ ผู้ที่มีกรรมพันธุ์ครอบครัว ญาติพี่น้องเป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง ยิ่งควรให้ความใส่ใจกับสุขภาพมากเป็นพิเศษ ได้แก่… – ดูแลน้ำหนักตัวให้อยู่ในมาตรฐาน ดูแลอาหารการกิน เลี่ยงอาหารที่ปรุงด้วยกะทิ น้ำมัน นม เนย ชีส กุ้ง ปูไข่ ไข่แดง และอื่น ๆ รวมไปถึงอาหารที่มีน้ำตาลและแป้งมากด้วย เนื่องจากอาจเกิดการสะสมของไตรกลีเซอร์ไรด์ในตับได้ ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอด้วย – หมั่นตรวจสุขภาพทุกปี เพื่อให้ทราบความผิดปกติของร่างกายในส่วนต่าง ๆ รวมทั้งตับด้วย และควรดูแลสุขภาพอย่างสม่ำเสมอเหมาะสม –…
-
หลากหลายวิธีป้องกันตนเองจากโรคทางเดินหายใจ
หลากหลายวิธีป้องกันตนเองจากโรคทางเดินหายใจ อาการโรคทางเดินหายใจมีหลายโรคค่ะ ไม่ว่าจะเป็น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ปอดอักเสบ หลอดลมอักเสบ ฯลฯ เราสามารถหลีกเลี่ยงโรคเหล่านี้ได้ด้วยการดูแลตนเองดังต่อไปนี้ 1. รักษาร่างกายให้อบอุ่นเสมอ ไม่ควรเล่นน้ำหรือแช่น้ำนาน ๆ สวมใส่เสื้อผ้าที่แห้งสนิท ไม่เปียกชื้อ หากเข้าหน้าหนาวควรสวมเสื้อผ้าที่ให้ความอบอุ่น 2. หลีกเลี่ยงการคลุกคลีกับผู้ป่วยไข้หวัด หรือผู้ที่ป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจ ปิดปากและจมูกด้วยกระดาษทิชชูหรือผ้าปิดปากหากต้องคลุกคลีหรือเข้าใจผู้เป็นโรคชนิดนี้อยู่ และไม่ควรใช้สิ่งของส่วนตัวร่วมกัน 3. ในช่วงที่มีโรคทางเดินหายใจระบาด ควรหมั่นล้างมือบ่อย ๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรือใช้เจลแอลกอฮอล์เช็ดมือ 4. ในเด็ก ผู้ที่มีโรคประจำตัวและผู้ที่อายุมากว่า 65 ปี รวมไปถึงหญิงตั้งครรภ์ เป็นโรคหัวใจ โรคหอบหืด ถุงลมโป่งพอง เอดส์ โรคอ้วน ควรฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ไว้ด้วย ในส่วนของการรักษาตัวเบื้องต้นหากติดเชื้อโรคทางเดินหายใจเช่นไข้หวัดมาแล้ว ก็คือควรอยู่ห่างจากการอยู่ในที่ชุมชน อย่าคลุกคลีกับผู้อื่นเพื่อให้เกิดการแพร่เชื้อ แยกเตียงนอนกับลูกหรือสามีภรรรยา ใช้ผ้าปิดปากปิดจมูก หรือหน้ากากอนามัย ไม่ควรไอจามใส่ผู้อื่น ล้างมือให้สะอาดบ่อย ๆ ควรอาบน้ำอุ่น ๆ หรือเช็ดตัวแทน แล้วดื่มน้ำมาก ๆ กินแต่อาหารที่ย่อยง่าย ดื่มน้ำ…
-
ไม่อยากอ้วนควรนอนให้เพียงพอ
ไม่อยากอ้วนควรนอนให้เพียงพอ ที่ผ่านมาเรามักเข้าใจว่าคนที่นอนมาก ๆ นั้นเป็นคนขี้เกียจ น่าจะอ้วนกว่าคนนอนน้อย แต่ความจริงแล้วคนที่นอนมากกลับมีน้ำหนักตัวที่น้อยกว่า เพราะการนอนน้อยนั้นมีความสัมพันธ์กับน้ำหนักตัวและการสะสมไขมัน ยิ่งนอนน้อยร่างกายก็จะยิ่งมีดัชนีมวลกายเพิ่มมากขึ้น เพราะการนอนของคนเรานั้นจะมีผลต่อการหลั่งฮอร์โมนควบคุมความหิวที่มีชื่อว่า เกรลิน และเลปตินที่กดความหิวได้ พบว่าคนที่นอนน้อยจะมีระดับเกรลินเพิ่มขึ้นและเลปตินต่ำลง เกิดความหิว ยิ่งคนที่นอนน้อยจะยิ่งหิวมาก กินมาก และอ้วนมากกว่าคนอื่น ดังนั้นหากไม่อยากอ้วนควรนอนหลับให้เพียงพอ จะพลอยทำให้มีผลดีต่อสุขภาพไปด้วย ลดความหิว รักษาน้ำหนักตัวไว้ได้ ทำให้ความจำดี สดใส สุขภาพจิตดีขึ้น ภูมิต้านทานโรคก็ดีขึ้น ร่างกายหลั่งเมลาโทนินออกมาต้านมะเร็งได้ แก่ช้าลง และอายุยืนกว่าคนที่นอนน้อย ๆ และสำหรับผู้ที่นอนหลับค่อนข้างยากเรามีวิธีการนอนหลับที่น่าลองนำไปปฏิบัติตามดังนี้ค่ะ – ฝึกเข้านอนและตื่นนอนให้ตรงเวลาทุกวัน วันหยุดก็ต้องทำ – ฝึกทำกิจกรรมที่เป็นกิจวัติ เช่น อ่านหนังสือง่าย ๆ ก่อนนอน อาบน้ำก่อนนอน ฯลฯ – ไม่ควรใช้เตียงนอนหรือห้องนอนสำหรับการดูหนังดูละคร ดูกีฬา ทำบัญชีเคลียร์หนี้ หรือทำงานในห้องนอน เพราะจะทำให้เครียดมากจนนอนไม่หลับได้ – จัดสภาวะห้องนอนให้เงียบสงบ สะอาด ปลอดโปร่ง จะช่วยให้หลับได้ง่ายขึ้น ไม่มียาลดน้ำหนักชนิดใดที่ลดน้ำหนักให้คุณได้ถาวรและมีสุขภาพแข็งแรงตลอดไป ทั้งสองสิ่งนี้ต้องลงทุนทำเองค่ะ จึงจะดีต่อสุขภาพของคุณในระยะยาว
-
เทคนิคช่วยรักษาอาการนอนไม่หลับ
เทคนิคช่วยรักษาอาการนอนไม่หลับ หากท่านเคยมีอาการนอนไม่หลับ หรือตื่นมาแล้วไม่สดชื่นเหมือนนอนไม่เต็มอิ่ม กระสับกระส่าย กว่าจะหลับได้ก็นาน หรือตื่นกลางดึกบ่อย ๆ แล้วนอนหลับต่อได้ยาก ทั้งหมดนี้เข้าข่ายอาการนอนไม่หลับได้ทั้งนั้น อาจเกิดในระยะสั้นหรือไม่เกินสองอาทิตย์ ตลอดจนเกินเป็นเดือนได้ หากไม่รีบแก้ไขอาจรบกวนการใช้ชีวิต และสร้างปัญหาให้กับสุขภาพของคุณด้วย ไม่ว่าจะเป็นความเครียด โรคหัวใจ โรคซึมเศร้า และโรคอ้วน ซึ่งสาเหตุที่พบได้มากที่ทำให้นอนไม่หลับ ก็ได้แก่ การใช้โทรศัพท์มือถือก่อนนอน การดื่มเหล้า เบียร์ ไวน์ การใช้คอมพิวเตอร์มากเกินไป รวมไปถึงความเครียดในการทำงาน ล้วนเป็นสาเหตุสำหคัญที่ทำให้นอนไม่หลับได้ทั้งสิ้น เราจึงควรปรับปรุงการนอนหลับเพราะการนอนหลับได้ลึกอย่างมีคุณภาพจะมีผลต่อความเป็นอยู่และสุขภาพ ช่วยลดความดัน ลดความเครียด รักษาน้ำหนักตัวและปริมาณไขมันในร่างกายให้อยู่ในมาตรฐานได้ง่ายขึ้น การนอนหลับยังช่วยซ่อมแซมเซลล์ที่เสื่อมสภาพ ทำให้ร่างกายสดชื่นมีพลัง การจดจำและประสิทธิภาพของสมองดีขึ้น ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคซึมเศร้าได้อีกด้วยค่ะ วิธีหนึ่งก็คือการทานอาหารที่ทำให้หลับง่าย ได้แก่ ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีต ธัญพืชไม่ขัดสี เพราะมีวิตามินบีที่ช่วยในการนอนหลับ ในช่วงเย็นให้กินแต่พอดี อย่ากินอาหารที่มีแก๊สมาก พวก หัวหอม ถั่ว กะหล่ำปลี หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำหรือเครื่องดื่มที่ทำให้ต้องลุกขึ้นมาเข้าห้องน้ำกลางดึก อย่าใช้เตียงเพื่ออ่านหนังสือ นอนเล่น หรือดูทีวี ควรใช้เพื่อการนอนเท่านั้น อีกทั้งควรลุกจากเตียงทันทีที่นอนไม่หลับ เข้านอนและตื่นนอนให้เป็นเวลา ไม่ควรงีบหลับในเวลากลางวันด้วย การจัดห้องนอนและพื้นที่สำหรับนอนหลับก็เป็นสิ่งจำเป็นเช่นกัน…
-
ภาวะไขมันคั่งในตับ
ภาวะไขมันคั่งในตับ โรคตับแข็งหรือมะเร็งตับที่เพิ่มอัตราผู้ป่วยมากขึ้นในระยะหลายปีมานี้ มักจะเป็นผู้ที่ไม่เคยดื่มเหล้า หรือติดเชื้อไว้รัสตับอักเสบมาก่อนเลย แต่จะมีลักษณะร่วมคล้าย ๆ กันก็คือ ผู้ป่วยอ้วนน้ำหนักเกิน เป็นเบาหวาน มีไขมันในเลือดสูง ในตับจึงตรวจพบไตรกลีเซอร์ไดร์คั่งสะสมอยู่เป็นจำนวนมาก ตับอักเสบเป็นเวลานาน จนเกิดพังผืดขึ้นและลุกลามจนกลายเป็นตับแข็งในที่สุด ตับนั้นเป็นอวัยวะที่สำคัญชิ้นหนึ่งในร่างกาย ทำหน้าที่หลายอย่าง ทั้งกักเก็บสารอาหาร สังเคราะห์โปรตีน โคเลสเตอรอล วิตามิน ควบคุมการสันดาปของฮอร์โมน ผลิตน้ำดีเพื่อย่อยไขมัน ผลิตสารที่นำเกล็ดเลือดไปห้ามเลือดเมื่อผนังหลอดเลือดได้รับบาดเจ็บ ช่วยกำจัดสารพิษของร่างกายได้ด้วย ฯลฯ เมื่อตับมีไขมันมาคั่งอยู่เป็นจำนวนมาก การทำงานของตับจึงผิดปกติ ส่งผลกระทบไปทั่วร่างกาย ภัยแฝงจากภาวะไขมันคั่งในตับนี้มักจะเกิดขึ้นแบบไม่รู้ตัว แรก ๆ จะมีสุขภาพเป็นปกติ อาจพบโดยบังเอิญจากการตรวจสุขภาพ แล้วพบว่าค่าเอนไซม์ตับสูงผิดปกติ หากไม่เคยตรวจเลยก็อาการก็อาจพัฒนาไปสู่ภัยร้ายได้มากขึ้น เมื่อภาวะไขมันคั่งในตับรุนแรง ผู้ป่วยจะรู้สึกปวดแน่นชายโครงขวา อึดอัด เบื่ออาหาร ท้องอืดเฟ้อ อ่อนเพลีย อาจมีท้องผูกสลับกับท้องเสีย บางคนก็มีอาการดีซ่าน คลื่นไส้อาเจียน จนกลายเป็นตับแข็ง และมะเร็งตับในที่สุด ผู้ที่มีภาวะไขมันตั่งตับนั้น ควรดูแลสุขภาพตัวเอง ด้วยการควบคุมอาหารและดูแลน้ำหนักตัว ยิ่งคนที่อ้วนน้ำหนักเกินเป็นเบาหวาน และมีไขมันสูงด้วยแล้วจะมีโอกาสเกิดภาวะไขมันสะสมในตับได้ถึงร้อยละ 90 ควรใส่ใจในเรื่องของอาหาร ทานแต่อาหารที่ปรุงแต่งน้อย ๆ เช่น…