Tag: โรคระบาด
-
หน้าฝน “ป้องกันยุงเกิด.. อย่าให้ยุงกัด” ลดความเสี่ยงไข้เลือดออก
หน้าฝน “ป้องกันยุงเกิด.. อย่าให้ยุงกัด” ลดความเสี่ยงไข้เลือดออก. ฤดูฝนที่กำลังมาเยือนนี้ มีโรคระบาดที่น่าเป็นห่วงมากสำหรับเด็ก ๆ ก็คือ โรคไข้เลือดออกนั่นเอง เป็นโรคที่มักระบาดในช่วงที่มีฝนตกชุกจนเกิดน้ำขังตามภาชนะและสิ่งของต่าง ๆ ที่รองน้ำเก็บไว้โดยไม่เกิดการหมุนเวียนถ่ายเท ยุงลายซึ่งเป็นพาหะของโรคนี้จึงแพร่พันธุ์เกิดขึ้นได้มากมาย โดยเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของไข้เลือดออกนี้ชื่อว่า “ไวรัสเดงกี่” ที่จะอยู่ในตัวยุงลายที่ไปกัดคนที่ป่วยเป็นไข้เลือดออก แล้วไปกัดคนอื่น ๆ แพร่เชื้อต่อไปเรื่อย ๆ เพราะยุงตัวเมียที่พกพาไวรัสไปด้วยนี้จะมีอายุขัยเฉลี่ยประมาณ 4-6 อาทิตย์ เมื่อผู้ป่วยได้รับเชื้อไวรัสเดงกี่นี้ไปแล้วจะใช้เวลาฟักตัวประมาณ 2-7 วัน ผู้ป่วยจึงมักมีอาการไข้สูงอย่างฉับพลัน หน้าแดง ตัวแดง ปวดศีรษะ เบื่ออาหาร มีผื่นหรือจุดแดงตามลำตัว แขนและขา กับทั้งมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน รวมทั้งอาจมีอาการปวดท้อง เลือดออกตามไรฟัน เลือดกำเดาไหล ถ่ายสีดำได้ รวมไปถึงอาจเกิดอาการช็อกได้อีกโดยให้สังเกตว่าแม้ไข้จะลดแล้ว แต่ผู้ป่วยยังมีอาการซึม ตัวเย็น กระสับกระส่ายปวดท้อง อาเจียนหรือหมดสติอยู่ ทั้งหมดนี้อาจเกิดขึ้นได้หากไม่สังเกตอาการและรักษาไม่ทันการ ดังนั้นผู้ปกครองจึงควรดูแลเด็กๆ และบุตรหลานอย่างใกล้ชิด หากเด็กมีไข้สูงเฉียบพลัน ควรเช็ดตัวลดไข้และให้ยาลดไข้พาราเซตามอลชนิดน้ำเชื่อมเพื่อให้ทานง่าย และใช้ตามขนาดที่กำหนดทุก ๆ 4-6 ชั่วโมง เมื่อไข้ลดแล้วจึงหยุดยา (หลีกเลี่ยงการใช้ยาแอสไพรินเพราะอาจทำให้เกิดอาการช็อกรุนแรงได้)…
-
โรคคล้ายไข้หวัดใหญ่ระบาดพัทยา คนแห่เข้าโรงพยาบาลมากขึ้น 10% ในครึ่งปีแรก
โรคคล้ายไข้หวัดใหญ่ระบาดพัทยา คนแห่เข้าโรงพยาบาลมากขึ้น 10% ในครึ่งปีแรก นายแพทย์พิชิต กังวลกิจ ประธานคณะผู้บริหารกลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพภาคตะวันออก เปิดเผยว่าด้วยขณะนี้เศรษฐกิจของพัทยาขยายตัวมากขึ้นจึงทำให้มีคนมาอยู่อาศัยเพิ่ม และมีผู้ป่วยที่ป่วยด้วยโรคคล้ายไข้หวัดใหญ่เข้ามาระบาดเมื่อต้นปี ทำให้มีผู้เข้ามาใช้บริการ โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยาเพิ่มขึ้นกว่า 10% ในครึ่งปีแรก ซึ่งโรคดังกล่าวมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่เริ่มระบาดมาตั้งกลุ่มจังหวะดภาคกลางและลุกลามมายังพื้นที่ภาคตะวันออกของประเทศ กับทั้งเศรษฐกิจของเมืองพัทยาที่อยู่ในเกณฑ์ดีไม่ว่าจะเป็นการขยายตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ การก่อสร้างคอนโด ห้างร้านรวมไปถึงผู้จำหน่ายวัสดุสร้างและตกแต่งบ้าน จึงทำให้บริษัทต่าง ๆ มีการว่าจ้างพนักงานเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ผู้ที่เข้ามาอาศัยในพื้นที่เพิ่มมากขึ้น กลุ่มผู้มาใช้บริการโรงพยาบาลกรุงเทพพัทยาก็เพิ่มมากขึ้นด้วย นายแพทย์พิชิตยังเปิดเผยอีกว่า อาการโรคคล้ายไข้หวัดใหญ่ดังกล่าวนี้จะระบาดในเด็กมากกว่า โดยจะมีอาการไข้ และไอเล็กน้อยคล้ายไข้หวัดธรรมดาหรือไข้หวัดนก ส่วนของไข้หวัดนกยังไม่ปรากฏการแพร่ระบาดในประเทศไทย ซึ่งจากแหล่งข่าวการระบาดนั้นได้หยุดไปแล้วเมื่อเดือนมีนาคม อีกทั้งข้อมูลจากกระทรวงศึกษาธิการทราบว่า ช่วงนี้มีการระบาดของโรคอหิวาต์ และโรคอีสุกอีใส เพราะเป็นช่วงฤดูร้อนที่เกิดขึ้นเป็นประจำ ในส่วนของโรคอีสุกอีใสนั้นทางโรงพยาบาลฯ ได้เตรียมวัคซีนไว้พร้อมให้บริการแล้ว แต่ส่วนของโรคอหิวาต์แม้จะไม่มีวัคซีนป้องกัน แต่ทางโรงพยาบาลก็สามารถรับรองผู้ป่วยได้ด้วยเช่นกัน
-
นักวิจัย พัฒนาพันธุกรรมบำบัดขึ้นมา ต่อต้านการแพร่ระบาดของโรค
นักวิจัย พัฒนาพันธุกรรมบำบัดขึ้นมา ต่อต้านการแพร่ระบาดของโรค ทีมนักวิจัยอเมริกันได้พัฒนาพันธุกรรมบำบัดขึ้นมาต่อต้านการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ชนิดต่างๆที่เป็นสาเหตุให้คนเสียชีวิตประมาณปีละห้าเเสนคนทั่วโลก พันธุกรรมบำบัดที่พัฒนาขึ้นมานี้สามารถหยุดชะงักการติดเชื้อได้ผลตั้งแต่ตอนที่เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายทางจมูก วัคซีนป้องกันไข้หวัดตามฤดูกาลที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันมีประสิทธิภาพไม่เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ในการป้องกันโรคเนื่องจากเชื้อไข้หวัดสายพันธุ์ต่างๆกลายพันธุ์อย่างรวดเร็ว ทำให้ภูมิต้านทานที่ร่างกายสร้างขึ้นหลังจากได้รับวัคซีนป้องกันไข้หวัดที่ฉีดล่วงหน้าไม่ได้ผลและผู้เชี่ยวชาญไม่สามารถระบุได้แน่ชัดเป็นการล่วงหน้าว่าเชื้อไวรัสสายพันธุ์ไหนจะระบาดในฤดูกาลที่จะมาถึง นักวิจัยกล่าวว่าปัจจุบัน จะต้องมีการป้องกันเชื้อไข้หวัดและโรคต่างๆอย่างจริงจัง ทีมนักวิจัยกำลังอยู่ระหว่างการเจรจากับหน่วยงานควบคุมยารักษาโรคของสหรัฐเพื่อเร่งให้มีีการทดลองสเปรย์พันธุกรรมบำบัดนี้ในคน เขากล่าวว่าทีมงานต้องการผลิตสเปรย์พันธุุกรรมบำบัดให้ได้จำนวนมากเพื่อเข้าคลังเก็บยาไว้ใช้ในกรณีเกิดการแพร่ระบาดของไข้หวัดสายพันธุ์ที่เป็นอันตรายร้ายแรง นอกจากนี้ คุณวิลสัน หัวหน้าทีมวิจัยอเมริกันบอกว่ารัฐบาลสหรัฐยังสนใจที่จะใช้วิธีการป้องกันโรคแบบนี้ในการรับมือกับสงครามเชื้อโรคที่เกี่ยวข้องกัเชื้อแอนเเทรกซ์และเชื้อโรคร้ายชนิดอื่นๆด้วย
-
นักวิจัย ศึกษา เรื่องโรคระบาดจากอูฐที่เคนยา ว่าสามารถติดต่อสู่คนได้หรือไม่
นักวิจัย ศึกษา เรื่องโรคระบาดจากอูฐที่เคนยา ว่าสามารถติดต่อสู่คนได้หรือไม่ ในแถบแอฟริกาตะวันออก รวมทั้งประเทศเคนยา “อูฐ” เป็นแหล่งน้ำนมของผู้อาศัยในพื้นที่แถวนั้น เนื่องจากพื้นที่แถวนั้นเป็นพื้นที่แห้งแล้ง แต่อูฐสามารถเก็บกักน้ำได้เป็นเวลาเป็นปีๆ ซึ่งปัจจุบันอูฐโหนกเดียวได้เพิ่มปริมาณขึ้นอย่างมาก นักวิจัยเลยได้ทำการศึกษาในเรื่องของโรคระบาด เพราะเกรงว่า การที่น้ำสัตว์ต่างถิ่นเข้าไปเลี้ยงในพื้นที่ใหม่ๆ อาจจะทำให้เกิดโรคระบาดกับสัตว์ที่มาต่างถิ่นได้ ปัจจุบมันมีชาวเคนยา และชาวแอฟริกา เป็นจำนวนมากที่ดื่มนมจากอูฐ โดยไม่ได้ผ่านการฆ่าเชื้อโรค นักวิจัยกล่าวว่า อูฐเป็นสัตว์ที่ผลิตน้ำนมได้แม้จะอยู่ในสภาพที่แห้งแล้ง ซึ่งต่างกับสัตว์ปศุสัตว์ชนิดอื่นๆ ที่เมื่อเจออากาศที่แห้งแล้วจะเสียชีวิตลง แต่อูฐไม่ใช่ นักวิจัยที่เลือกศึกษาโรคในอูฐ ได้ทำการตรวจเช็คสุขภาพของอูฐเหล่านี้ ก็พบว่า นอกจากกจะสามารถติดต่อถึงคนผ่านการดื่มน้ำนมอูฐที่ไม่ได้รับการฆ่าเชื้อเเล้ว ยังเป็นโรคที่อาจจะเเพร่ไปสู่สัตว์ป่าที่อุดมสมบูรณ์ของเคนยาได้ด้วยโดยเฉพาะม้าลายและช้างป่า เชื่อว่าโรค Q fever ในอูฐจะเป็นโรคที่ต้องจับตามอง เพราะอาจทำให้คนเเละสัตว์ในพื้นที่เสี่ยงต่อโรคได้ ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าในขั้นต่อไป ทางทีมงานจะทำการศึกษาโรค Q fever ในแนวลึกเพื่อดูว่าโรคนี้มีผลกระทบต่อปศุสัตว์ ผู้คนและสัตว์ป่าในพื้นที่อย่างไร ผู้เชี่ยวชาญอเมริกันกล่าวปิดท้ายรายงายงานของ ผู้สื่อข่าววีโอเอว่าเธอยังจะทำงานวิจัยนี้ร่วมกันกลุ่มผู้เลี้ยงสัตว์ชาวเคนยาต่อไปเพื่อสร้างเเนวทางพื้นฐานในการดูแลอูฐให้เเข็งเเรงโดยเรียกแนวทางนี้ว่า ‘อูฐ 101’
-
FOA รายงานถึงปัจจัยต่างๆ ซึ่งทำให้เกิดโรคระบาดจากสัตว์สู่คน
FOA รายงานถึงปัจจัยต่างๆ ซึ่งทำให้เกิดโรคระบาดจากสัตว์สู่คน องค์การอาหารและเกษตรโลกของสหประชาชาติหรือ FAO ออกรายงานเกี่ยวกับการระบาดของโรคจากสัตว์สู่คน ซึ่งชี้ว่ามีความเสี่ยงที่จะเกิดได้ง่ายขึ้นมากในสังคมยุคปัจจุบัน Juan Lubroth หัวหน้าสัตวแพทย์ของ FAO กล่าวว่าปัจจัยต่างๆ เอื้ออำนวยให้เกิดการระบาดจากสัตว์สู่คนมากขึ้น ทั้งเรื่องอากาศเปลี่ยนแปลงผิดธรรมชาติ และการเดินทางติดต่อสื่อสารของประชากรโลกในยุคโลกาภิวัฒน์ คนรุกรานระบบนิเวศน์ของสิ่งมีชีวิตที่ประชากรโลกเองก็ไม่คุ้นเคยมาก่อน นอกจากนั้นการทำฟาร์มสัตว์เพื่อสนองการบริโภคที่เพิ่มขึ้น ทำให้ความเสี่ยงของการระบาดมีมากขึ้นด้วย ขณะนี้มีตัวอย่างโรคหลายชนิดที่นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าน่าจะเป็นการระบาดสู่คนที่มีจุดเริ่มต้นจากสัตว์ เช่นไวรัส HIV ที่เริ่มจากลิง หรือเชื้อไข้หวัดนกที่มีต้นตออยู่ที่สัตว์ปีก FAO เรียกร้องให้มีการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบและครบวงจรซึ่งต้องใช้ความรู้จากศาสตร์หลายแขนง และต้องลงลึกไปถึงการหยุดโอกาสการระบาดในชุมชนหรือเมืองก่อนที่ปัญหาจะลามไปอย่างกว้างขวาง