Tag: เซลล์มะเร็ง
-
รู้หลัก P-R-E-V-E-N-T ไว้ป้องกันมะเร็ง
รู้หลัก P-R-E-V-E-N-T ไว้ป้องกันมะเร็ง สาเหตุการตายอันดับที่หนึ่งของประเทศไทยเรานั้นมีสาเหตุมาจาก “โรคมะเร็ง” ค่ะ เป็นโรคที่มีความรุนแรงและคร่าชีวิตผู้คนมากที่สุด ซึ่งสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งมีหลายประการ ไม่ว่าจะเป็น ความเสื่อมของร่างกาย, สายพันธุกรรม, มลพิษและสารเคมีในสิ่งแวดล้อม รวมทั้งพฤติกรรมการใช้ชีวิตและการเลือกอาหารการกิน และจุดที่เราสามารถหลีกเลี่ยงและป้องกันได้นั้นก็เห็นจะเป็นในเรื่องของอาหารการกินและการใช้ชีวิตนั่นแหล่ะค่ะ จากที่ได้เคยมีการวิจัยเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของอาหารและมะเร็ง พบว่าอาหารที่สัมพันธ์กับการเกิดของเซลล์มะเร็งนั้น คืออาหารที่ปรุงด้วยความร้อนสูง พวกอาหารปิ้งย่าง หมู ย่าง ไก่ปิ้ง บาร์บีคิว ไส้กรอกปิ้ง เพราะว่าอาหารที่ถูกปรุงสุกด้วยความร้อนสูงจะมีแนวโน้มจะเกิดสารก่อมะเร็งขึ้นในอาหารได้ รวมไปถึงอาหารแปรรูปจากเนื้อสัตว์ ก็ประกอบด้วยสารก่อมะเร็งหลายชนิดด้วย ไม่ว่าจะเป็น ไส้กรอก แหนม ดินประสิวในเนื้อหรือหมูสวรรค์ ฯลฯ เมื่อทานอาหารเหล่านี้มาก ๆ ก็ทำให้น้ำหนักตัวมากขึ้นจนเป็นโรคอ้วน การที่น้ำหนักตัวเกิดมาตรฐานจึงก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งได้อีกทางหนึ่งด้วย เรียกว่าแย่ซ้ำแย่ซ้อนกันไปเลย แต่ก็ยังดีที่ยังมีหลักการสำหรับการป้องกันมะเร็งที่จำได้ง่ายอย่าง P-R-E-V-E-N-T นี่ล่ะค่ะ ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ P (Plant – based diet) หมายถึงการทานพืชผักให้มาก และทานเนื้อสัตว์ให้น้อยลง โดยในแต่ละวันควรทานผักผลไม้ 5 ส่วนบริโภค R (Roughage) หมายถึงอาหารที่เส้นใยสูง ที่มาจากอาหารประเภทที่ไม่ขัดสี ได้แก่…
-
ประโยชน์ของผิวส้มและเนื้อส้มที่มีต่อสุขภาพของเรา
ประโยชน์ของผิวส้มและเนื้อส้มที่มีต่อสุขภาพของเรา เชื่อไหมว่า “ส้ม” เนี่ย มีประโยชน์ต่อสุขภาพของเราทั้งผล ไม่ว่าจะเป็นเปลือกภายนอกตลอดจนเนื้อส้มภายใน มาลองดูกันทีละส่วนเลยค่ะว่า แต่ละส่วนของส้มนั้นมีผลต่อสุขภาพของเราอย่างไรได้บ้าง เริ่มเลยค่ะ 1. เนื้อของส้ม เนื้อส้มมีวิตามินซี และเบต้าแคโรทีนสูงมาก เนื้อส้มเพียง 100 กรัม สามารถให้วิตามินซีและเบต้าแคโรทีนที่เพียงพอสำหรับร่างกายแต่ละวันแล้ว นอกจากทำให้ผิวสวย ด้วยคุณสมบัติของการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระของวิตามินซี จึงช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยบนผิว ทำให้ผลิตคอลลาเจนได้มากขึ้น ผิวจึงสวยใสแลดูอ่อนกว่าวัย และเสริมพลังด้วยเบต้าแคโรทีน ที่ช่วยให้ผนังหลอดเลือดและเส้นฝอยแข็งแรง จึงลดอาการเส้นเลือดฝอยแตกตามผิวกายส่วนต่าง ๆ ได้ ทั้งยังทำให้เส้นผมและเล็บแข็งแรง วิตามินซียังช่วยป้องกันโรคลักปิดลักเปิดหรือโรคเลือดออกตามไรฟันได้ด้วย 2. ผิวส้ม หรือเปลือกส้ม ประโยชน์ของเปลือกส้มอยู่ที่น้ำมันหอมระเหยบนเปลือก ที่ช่วยสลายความเครียด และความเมื่อยล้า ช่วยให้ร่างกายและความคิดได้ผ่อนคลาย เพียงนำน้ำมันหอมระเหยอมาสูดดมหรือนวดตามร่างกายส่วนร่าง ๆ ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายในขณะที่กระตุ้นระบบประสาทได้อีก อีกทั้งยังมีการวิจัยของเภสัชกรในอังกฤษที่ค้นพบว่าเปลือกส้มมีฤทธิ์ในการทำลายเซลล์มะเร็งได้ โดยเฉพาะในเปลือกของส้มเขียวหวานที่สามารถทำลายเซลล์มะเร็งได้บางชนิด ซึ่งในอนาคตอาจมีการพัฒนาขึ้นไปสู่การบำบัดโรคมะเร็งแนวใหม่ได้ ว่าแล้ววันนี้ออกไปส้มมาทานกันดีกว่าค่ะ
-
ประโยชน์ของวิตามินซีที่มีต่อร่างกายของเรา
ประโยชน์ของวิตามินซีที่มีต่อร่างกายของเรา คุณสมบัติเด่น ๆ ของวิตามินซีเลยก็คือ การที่มีคุณสมบัติเป็นวิตามินที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ นั่นเอง ซึ่งประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับจากการบริโภควิตามินซีอย่างพอเพียงและเป็นประจำก็คือ 1. ทำให้ร่างกายมีภูมิต้านทานสูงขึ้น 2. ช่วยป้องกันการก่อตัวของเซลล์มะเร็งในร่างกาย 3. ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง สดใส ไม่เหี่ยวย่นก่อนวัน 4. ป้องกันโรคเหงือก โรคในช่องปากต่าง ๆ เช่น โรคลักปิดลักเปิด หรือโรคเหงือกอักเสบได้ ฯลฯ และในทางกลับกันหากร่างกายของเราได้รับวิตามินซีไม่เพียงต่อความต้องการ ก็อาจก่อผลเสียได้ดังต่อไปนี้ 1. มีภูมิต้านทานโรคต่ำ เป็นหวัดและติดเชื้อได้ง่าย กับทั้งความสามารถในการกำจัดพิษยังลดลงอีกด้วย 2. ผิวหนังเหี่ยวย่น ไม่สดใส ขาดความยืดหยุ่น ปรากฏจุดด่างดำ และเกิดโรคเลือดออกตามไรฟัน 3. ประสาทสัมผัสด้อยลง อ่อนเพลีย ไม่สดใส ไม่มีเรี่ยวแรง 4. มีความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งตับ มะเร็งกระเพาะ และมะเร็งในส่วนอื่น ๆ 5. การทำงานของต่อมหมวกไตลดลง และเป็นโรคภูมิแพ้ได้ง่าย 6. ทำให้เป็นโรคโลหิตจาง หรือโรคอื่น ๆ ได้ง่าย แผลหายช้า อ่านแล้วอย่าเพิ่งเครียดไป…
-
โรคมะเร็งรังไข่.. ภัยคร่าชีวิตสตรีที่ต้องระวัง
โรคมะเร็งรังไข่.. ภัยคร่าชีวิตสตรีที่ต้องระวัง มะเร็งทางนรีเวชที่ตรวจพบบ่อยเป็นอันดับหนึ่งก็คงเป็นมะเร็งปากมดลูก แต่อันดับสองเป็นของมะเร็งรังไข่ที่ก็เป็นอันตรายไม่แพ้กัน หากตรวจพบต้องรีบรักษาในทันที สำหรับโรคมะเร็งรังไข่นี้จะเกิดขึ้นประมาณ 5 คน ต่อประชากรสตรี 1 แสนคนต่อปี มีผู้ป่วยมะเร็งรังไข่รายใหม่ประมาณ 1,500 คนต่อปี ยิ่งอายุมากก็ยิ่งมีความเสี่ยงมากยิ่งขึ้นไปด้วย มะเร็งรังไข่นั้น จะไม่ค่อยแสดงอาการนัก จะมีอาการแค่ท้องอืดท้องเฟ้อ จึงเข้าใจว่าเป็นโรคกระเพาะไป จึงทำให้คนไข้พบแพทย์ช้า โรคนี้หากวินิจฉันได้แต่เนิ่น ๆ ก็ยังสามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่หากพบเจอในระยะท้าย ๆ แล้วก็คงหายได้ยาก ซึ่งปัจจัยที่ทำให้เป็นโรคนี้ก็คือ มีญาติใกล้ชิดเป็นโรคนี้ หรือเป็นมะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้หรืออื่น ๆ โดยเฉพาะหากมีอายุเกิน 40 ปีขึ้นไป หรือชอบรับประทานอาหารที่มีไขมันหรือนมเนยมาก ๆ โดยอาการของมะเร็งรังไข่ ก็คือ ท้องโตขึ้น เนื่องจากมีก้อนหรือน้ำในท้อง มีตั้งแต่น้ำน้อยจนถึงน้ำมาก มีลูกแตงโมในท้อง ส่วนของผู้ป่วยจะมีอาการของระบบทางเดินอาหาร เช่น ท้องอืด ท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อย ท้องผูก ปัสสาวะบ่อย ขัด เนื่องจากก้อนของรังไข่ไปกดเบียด ผู้ป่วยจะผอมลง เป็นอาการของมะเร็งทั่วไป อาจมีเลือดออกทางช่องคลอด ซึ่งจะเห็นได้ว่าอาการของมะเร็งรังไข่ไม่จำเพาะเจาะจงชัดเจน …
-
การรักษาโรคมะเร็ง ที่ปฏิบัติกันอยู่ในประเทศไทย!
การรักษาโรคมะเร็ง ที่ปฏิบัติกันอยู่ในประเทศไทย! การรักษามะเร็งตามหลักสากลที่ ปฏิบัติกันอยู่ในประเทศไทย ด้วยหลักการรักษามะเร็ง แบบผสมผสานของ ศัลยกรรม (ผ่าตัดเอาก้อนมะเร็งออกรวมทั้งต่อมน้ำเหลืองบริเวณข้าง) รังสีรักษา (ฉายแสงบริเวณที่มีเซลล์มะเร็งอยู่เป็นการรักษาแบบเฉพาะที่เช่นเดียวกับวิธี ของศัลยกรรม) เคมีบำบัด (การรักษาหรือการทำลายเซลล์มะเร็งทั้งที่ต้นตอและที่กระจาย ไปตามทางเดินน้ำเหลือง กระแสเลือดหรืออวัยวะอื่นของร่างกาย เป็นการรักษามะเร็ง แบบทั้งตัวของผู้ป่วยมะเร็ง โดยการรับประทานยาที่มีความสามารถในการฆ่า หรือทำลาย เซลล์มะเร็ง ฉีดยาทางหลอดเลือดดำหรือแดง เป็นต้น) การรักษาโดยการใช้ฮอร์โมน เนื่องจากมะเร็งบางชนิดมีความไวต่อการรักษาด้วยฮอร์โมน และการรักษาโดยการเพิ่ม ภูมิคุ้มกัน ให้กับร่างกาย เพื่อที่จะได้กำจัดเซลล์มะเร็งให้หมดไปจากร่างกาย และผู้ป่วยก็จะหายจากโรคมะเร็ง เนื่องจากการรักษา โดยการเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายนี้ยังอยู่ ระหว่างการศึกษาอยู่ต้องการข้อมูลอีกมากมายเพื่อยืนยันว่า ได้ผลในการรักษามะเร็ง ดังนั้นวิธีหลังนี้จึงเริ่ม เป็นที่แพร่หลายในประเทศไทย แต่มีการนำยาหรือสารเคมีในกลุ่มนี้ ้มาใช้ร่วมกับยาเคมีบำบัด เพื่อให้การรักษาดีขึ้น มะเร็งแต่ละกลุ่มหรือแต่ละชนิดจะได้รับ การรักษาแบบผสมผสานที่ไม่เหมือนกัน เพราะว่ามะเร็งบางชนิดมีการตอบสนองต่อการ รักษาทางศัลยกรรมและรังสีรักษาดี เช่น มะเร็งผิวหนัง ก็ไม่จำเป็นต้องรักษาด้วยเคมีบำบัด หรืออื่น ๆ มะเร็งบางชนิดมีการตอบสนองต่อเคมีบำบัด และรังสีรักษาดีไม่จำเป็นต้องใช้ วิธีศัลยกรรม เช่น มะเร็งต่อมน้ำเหลือง มะเร็งเม็ดเลือดขาว เป็นต้น มะเร็งเต้านม ในผู้ป่วย…
-
รู้จักเลี่ยง! สิ่งใดบ้างทำให้เซลล์มะเร็งเติบโตได้ดี
รู้จักเลี่ยง! สิ่งใดบ้างทำให้เซลล์มะเร็งเติบโตได้ดี “โรคมะเร็ง” ทุกคนต่างก็รู้กันอยู่แล้วแน่ๆ ว่าเป็นเรื่องที่น่ากลัว แต่ก็ไม่ใช่ว่า โรคมะเร็ง จะเป็นสิ่งที่ไกลตัวเรา ถ้าเรารู้จักดูแลสุขภาพ ใช้ชีวิตประจำวันในทุกวันแบบไม่เสี่ยงจนเกินไป รับประทานอาหารอย่างถูกสุขลักษณะ หรือทำตัวให้ไกลจากโรคมะเร็ง ลองมาดูกันว่า สิ่งที่เป็นตัวกระตุ้นของเซลล์มะเร็งนั้นมีอะไรบ้าง เพื่อให้ได้รู้และหลีกเลี่ยงสิ่งต่างๆเหล่านี้กันได้ค่ะ – น้ำตาลทรายขาว นั้นเกิดจากการฟอกสีให้ดูน่ารับประทาน ลองเปลี่ยนมาเป็นความหวานที่เกิดจากธรรมชาติดู อย่างเช่น น้ำผึ้งแท้ แต่ก็ต้องใช้ในปริมาณที่เหมาะสม เพราะความหวานเป็นสารที่จำเป็นต่อมะเร็ง ควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม หรือรับประทานในปริมาณน้อย – นม ควรเปลี่ยนจากนมที่ดื่มทั่วไป มาเป็นนมถั่วเหลือง หรือน้ำเต้าหู้ที่ต้มสดๆ หรือถ้าอยากเพิ่มความหวานก็ควรเติมน้ำตาลในปริมาณที่น้อยก็พอค่ะ – เนื้อสัตว์ เนื่องจากเซลล์มะเร็งนี้ จะเติบโตเร็วในสภาพที่เป็นกรด และเนื้อสัตว์นี้เองที่ทำให้เกิดสภาพเป็นกรด ดังนั้นควรรับประทานประเภทปลา จะส่งผลดีกว่าอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ ที่มีแบคทีเรียและเป็นอัตรายสำหรับคนที่เป็นโรคมะเร็ง และเนื้อสัตว์นี้เป็นอาหารที่ย่อยยาก ร่างกายจึงต้องการเอนไซม์ไปใช้ในการย่อยจำนวนมาก และถ้าหากมีการย่อยเนื้อสัตว์ไม่หมด อาหารก็จะไปตกค้างที่ลำไส้ และจะนำไปสูสารพิษตกค้าง ส่งผลให้เกิดโรคมะเร็งได้ในอนาคต – ผักผลไม้สด และอาหารจำพวกธัญพืช ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายดูดซึมได้ง่าย ร่างกายสามารถนำไปสร้างเป็นเซลล์ดี ควรรับประทานผักสดหรือดื่มน้ำผัก-ผลไม้สด อย่างน้อย 2-3 ครั้ง ต่อวัน…
-
นักวิทยาศาสตร์ ค้นพบโปรตีน ที่ช่วยระงับการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง
นักวิทยาศาสตร์ ค้นพบโปรตีน ที่ช่วยระงับการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง นักวิทยาศาสตร์ค้นพบโปรตีนชนิดใหม่ ที่มีชื่อว่า ether lipid ที่ช่วยระงับระงับการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งชนิดที่ลุกลามรวดเร็ว นักวิจัยจาก มหาวิทยาลัย California ได้ แปลงเซลล์ผิวหนังให้เป็นเซลล์มะเร็งในจานเพาะเชื้อ จากนั้นทำให้ enzyme AGPS หมดสภาพการทำงาน enzyme AGPS เป็น enzyme สำคัญในการสร้างโปรทีน ether lipid จากนั้น นักวิจัยฉีดเชื้อเซลล์ผิวหนังที่เป็นมะเร็งที่เพาะไว้ และเซลล์มะเร็งเต้านมที่ลุกลามเร็วให้หนูในห้องทดลอง ผลก็คือหนูเป็นมะเร็งอย่างรวดเร็ว แต่เพราะว่านักวิจัยได้ทำให้ enzyme AGPS หมดสภาพการทำงาน เซลล์มะเร็งในหนูจึงไม่เติบโตและไม่ลุกลามออกไป แต่ มะเร็งในจานเพาะเชื้อยังแพร่ตัวออกไปได้ แต่สามารถระงับการเติบโตในหนูได้ แต่สำหรับเนื้องอกที่ไม่เป็นเนื้อร้ายก็มีโปรทีน ether lipid นี้อยู่ด้วย แต่มีอยู่ในระดับต่ำ และเขาหวังว่า การทำให้ enzyme AGPS หมดสภาพการทำงาน จะป้องกันไม่ให้เนื้องอกกลายเป็นเนื้อร้ายได้ ขณะนี้ นักวิจัยกำลังพยายามพัฒนายาที่มุ่งเป้าไปที่ enzyme AGPS และหวังว่าเมื่อใช้ควบกับการทำเคมีบำบัด จะช่วยให้รักษามะเร็งที่รักษาได้ยากหลายชนิด นักวิจัยผู้นี้กล่าวไว้ด้วยว่า การปิดกั้นการทำงานของ enzyme AGPS จะไม่บำบัดรักษามะเร็งได้ทุกชนิด แต่เชื่อว่าจะเป็นวิธีรักษามะเร็งที่ได้ผลมากขึ้นเมื่อใช้ร่วมกับการทำเคมีบำบัด
-
ค้นพบวิธีบำบัดมะเร็งแบบใหม่ ด้วยการใช้โปรตีนพิฆาตกำจัดเซลล์มะเร็งในผู้ป่วย
ค้นพบวิธีบำบัดมะเร็งแบบใหม่ ด้วยการใช้โปรตีนพิฆาตกำจัดเซลล์มะเร็งในผู้ป่วย ทีมนักวิจัยในสหรัฐเชื่อว่าพวกเขาค้นพบวิธีบำบัดมะเร็งด้วยโปรตีนพิฆาตที่จะช่วยลดอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยมะเร็งลง การผ่าตัด การบำบัดด้วยรังสีและเคมีบำบัดมักได้ผลในการบำบัดผู้ป่วยมะเร็งในระยะเริ่มต้นหรือก่อนที่มะเร็งจะแพร่กระจายไปยังจุดอื่นของร่างกาย ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าหากมะเร็งเเพร่ไปยังอวัยวะอื่นๆ โอกาสการบำบัดให้หายขาดมีน้อยมาก ขณะนี้ ทีมนักวิจัยที่มหาวิทยาลัย Cornell University ในมหานคร New York ได้ค้นพบโปรตีนชนิดหนึ่งที่พวกเขาตั้งชื่อให้ว่า TRAIL ซึ่งมีคุณสมบัติในการทำลายเซลล์มะเร็งในร่างกายผู้ป่วย คุณ Mike King เป็นหัวหน้าทีมงานที่ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่วิศวกรรมชีวการแพทย์ได้ฉีดโปรตีนพิฆาตชนิดนี้เข้าไปในเม็ดเลือดขาวในระบบภูมิต้านทานร่างกายเพื่อให้ไหลเวียนไปทั่วร่างกายและทำหน้าที่ทำลายเซลล์มะเร็ง โปรตีนพิฆาตฉีดเข้าไปในกระเเสเลือดช่วยให้ตัวโปรตีนไปเกาะบนเม็ดเลือดขาวและไหลเวียนไปได้ทั่วร่างกายพร้อมกับเซลล์เม็ดเลือดขาว และเมื่อโปรตีนพิฆาตนี้ไปสัมผัสกับเซลล์มะเร็งที่ไหลเวียนอยู่ในกระเเสเลือด โปรตีนพิฆาตก็จะกำจัดเซลล์มะเร็งให้ตายไปภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้น ทีมนักวิจัยทำการทดลองอีกครั้ง ด้วยการฉีดโปรตีนพิฆาตเข้าไปในกระเเสโลหิตของหนูทดลองที่เป็นมะเร็ง การบำบัดแบบนี้ได้ผลเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ ในการกระตุ้นให้เซลล์มะเร็งทำลายตัวเอง หลังจากสัมผัสกับโปรตีนพิฆาตในกระเเสเลือด ความดันของของเหลวในร่างกายและจากกระเเสโลหิตที่ไหลเวียนไปทั่วร่างกาย ช่วยดันให้ตัวเซลล์เม็ดเลือดขาวที่มีตัวโปรตีนพิฆาตเกาะอยู่ ไปสัมผัสกับเซลล์มะเร็งที่เข้าไปในกระเเสเลือด ทำให้ได้ผลในการทำลายเซลล์มะเร็งร้ายได้อย่างดี อย่างไรก็ดี เซลล์มะเร็งยังสามารถเเพร่กระจายไปทั่วร่างกาย ผ่านระบบต่อมน้ำเหลืองที่เป็นตัวผลิตและส่งผ่านของเหลวใส ไม่มีสี ซึ่งมีเซลล์เม็ดเลือดขาวอยู่ไปเลี้ยงทั่วร่างกาย ทีมนักวิจัยด้านชีวการแพทย์กำลังคิดค้นหาทางบำบัดมะเร็งที่สามารถกำจัดเซลล์มะเร็งที่เข้าไปอยู่ในระบบต่อมน้ำเหลืองด้วย