Tag: อ้วน
-
อย่าหลงเชื่อ…กาแฟลดน้ำหนัก
อย่าหลงเชื่อ…กาแฟลดน้ำหนัก เดี๋ยวนี้มีโฆษณาจำหน่ายกาแฟที่ดื่มแล้วช่วยให้รูปร่างผอมเพรียวได้มาขายกันหลายยี่ห้อเลยนะคะ ถึงแม้กาแฟจะมีผลช่วยให้ระดับการเผาผลาญในร่างกายเพิ่มมากขึ้นบ้าง แต่หากดื่มเป็นประจำ คาเฟอีนในกาแฟอาจมีผลต่อการเส้นของหัวใจมากกว่า จากข้อมูลของศูนย์หัวใจหลอดเลือดและเมตาบอลิค โรงพยาบาลรามาธิบดี ได้ระบุว่า แม้กาแฟนจะมีส่วนเพิ่มระดับการเผาผลาญได้แต่ก็มิได้มากพอที่จะทำให้ร่างกายผอมลง แต่การดื่มมากเกินไปกลับทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะจนเป็นอันตราย อีกทั้งครีมเทียมและน้ำตาลที่ผสมในกาแฟยังเป็นสาเหตุให้เกิดโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวาน อีกทั้งแต่ละซองยังให้พลังงานมากนอกจากไม่ผอมแล้วยังอาจทำให้อ้วนขึ้นได้อีก หรือต่อให้ดื่มกาแฟดำที่ไม่ใส่น้ำตาลหรือครีมเทียมก็ช่วยยกระดับการเผาผลาญได้นิดหน่อย แต่ก็ไม่ควรดื่มมากอยู่ดีเพราะคาเฟอีนอาจเป็นพิษต่อร่างกายได้ นอกจากนี้แล้ว องค์การอาหารและยาหรือ อย. ของประเทศไทยเรายังได้ตรวจพบว่าผลิตภัณฑ์กาแฟสำเร็จรูปลดความอ้วนที่ไม่มีฉลากภาษาไทยหลายยี่ห้อนั้น อย.ไม่อนุญาตให้ระบสรรพคุณว่าลดความอ้วนได้ อีกทั้งหากดื่มเข้าไปมาก ๆ จะทำให้หน้ำหนักเพิ่มได้ด้วยน้ำตาลหรือครีมและนมในกาแฟนั้น ๆ รวมไปถึงหัวใจยังทำงานหนักเนื่องจากได้รับคาเฟอีนมากเกินไป รวมไปถึงกาแฟบางยี่ห้อยังลักลอบใส่สารอันตรายไว้ในกาแฟด้วย อย่างเช่น ยาไซบูตรามีน ที่มีผลให้ความดันโลหิตสูง หัวใจเต้นเร็ว ปากแห้ง ปวดศีรษะ นอนไม่หลับ และท้องผูก เป็นยาที่ห้ามใช้ในประเทศไทยไปแล้ว สรุปได้ว่ากาแฟสูตรใดสูตรหนึ่งนั้นไม่สามารถลดน้ำหนักได้ ยกเว้นว่าใส่สารบางอย่างที่เป็นอันตรายต่อร่างกายลงไปด้วย การลดน้ำหนักที่ดีที่สุดก็คือ การควบคุมน้ำหนักและการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งช่วยกันเป็นหูเป็นตาด้วยกัน หากพบการจำหน่ายอาหารหรือยา ที่น่าจะผิดกฎหมาย ขอให้รีบแจ้ง อย. 1556 สายด่วน อย. ด้วยค่ะ
-
สารอาหารที่ช่วยคุณเผาผลาญพลังงานได้ดี
สารอาหารที่ช่วยคุณเผาผลาญพลังงานได้ดี การเผาผลาญอาหารนั้นเป็นวิธีที่ทำให้ร่างกายได้รับพลังงานและสารอาหารจากร่างกาย ถ้าอัตราการเผาผลาญมีน้อยก็จะทำให้เกิดการสะสมพลังงานหรือไขมันไว้ในร่างกายมาก น้ำหนักจึงขึ้นหรืออ้วนขึ้นนั่นเอง โดยแต่ละคนจะมีประสิทธิภาพในการเผาผลาญพลังงานได้ต่างกันไป สำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนักนั้น ต้องจำไว้ว่าหลักการก็คือคุณต้องนำเอาพลังงานเข้าร่างกายให้น้อยกว่าที่ร่างกายเผาผลาญได้ เพื่อให้ร่างกายได้เผาผลาญได้หมดไม่เหลือเก็บไว้เป็นส่วนเกินตามร่างกาย และหากคุณทานน้อยกว่าพลังงานที่ร่างกายต้องการ ร่างกายเราจะไปดึงเอาไขมันเก่าที่เคยเก็บไว้มาใช้เป็นพลังงานด้วย สัดส่วนของคุณจึงลดลงไปพร้อมกับน้ำหนักตัว เคล็ดลับง่าย ๆ สำหรับคนที่ลดน้ำหนักก็คือ ให้ทานอาหารที่อยากทานในมื้อเช้า หรือกินให้หนักหน่อยในมือเช้านั่นเอง การกินอาหารเช้าช่วยให้เราไม่หิวโหยในมื้อเที่ยงมากเกินไป และยังทำให้ร่างกายมีอัตราการเผาผลาญอาหารที่ดีไปตลอดทั้งวัน การงดอาหารเช้าทำให้คุณตบะแตก และหิวก่อนมื้อเที่ยงจนไปคว้าเอาขนมหรือน้ำหวานมาทานก่อนมื้อเที่ยงอีก ไม่ควรอดอาหารมื้อใดมื้อหนึ่งเพียงแต่ให้ทานให้ถูกสัดส่วน และเลือกทานอาหารที่มีไขมันต่ำ หรือเลี่ยงไขมันรวมไปถึงน้ำตาล ของหวานต่าง ๆ ไปเลยก็ได้ ทานผักและผลไม้ที่ไม่หวานให้มาก เพราะมีวิตามินและแร่ธาตุช่วยให้ร่างกายเผาผลาญได้ดี ซึ่งสารอาหารที่ช่วยเผาผลาญในร่างกายคุณได้นั้น ได้แก่ – แคลเซียม ช่วยเร่งเอนไซม์หลายชนิดในกระบวนการเผาผลาญอาหาร ได้แก่ ปลาเล็กปลาน้อย ผักใบเขียว กุ้งแห้ง กะปิ เต้าหู้ งา ถั่วเหลือง นมพร่องมันเนย ใบโหระพา มะเขือพวง ผักใบเขียวต่าง ๆ – ฟอสฟอรัส ช่วยเร่งการทำงานของเอนไซม์ต่าง ๆ ในการเผาผลาญ พบได้มากใน ผักใบเขียวทุกชนิด เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ถั่วลิสง…
-
ข้าวก็ทานน้อย ดื่มแต่น้ำแล้วทำไมยังอ้วนได้ล่ะ?
ข้าวก็ทานน้อย ดื่มแต่น้ำแล้วทำไมยังอ้วนได้ล่ะ? มีเรื่องเล่าให้คุณผู้อ่านฟังค่ะ เรื่องมีอยู่ว่ามีพนักงานสาวในโรงงานคนหนึ่ง ชื่อบังอร คุณบังอรน้ำหนักประมาณ 70 กิโลกรัม ได้ชวนเพื่อนอีกสองคนเข้าค่ายลดน้ำหนักกับโรงพยาบาล เพื่อนทั้งสองคนนี้ก็น้ำหนักสูสีกับบังอรนะคะ คือราว 70 กิโลกรัม เมื่อถึงเวลาเข้าค่ายจริง บังอรเองกลับไม่ได้มาเข้าเพราะติดธุระพอดี เพื่อนสองคนจึงเข้าอบรมในเรื่องของการลดน้ำหนักเอง เมื่อทั้งสองเข้ามาเรียนรู้ในค่าย จึงได้ทราบสาเหตุที่ตนเองอ้วนนั้นเป็นเพราะว่า ชอบกินจุบจิบและดื่มชาเย็น วันละสองถุงทุกวัน แล้วยังทานอาหารจานด่วนพวกที่ทอดน้ำมันลึกทั้งหลาย ไม่ค่อยกินผักและกินมื้อดึกประจำ กับทั้งไม่ออกกำลังกายเลยด้วย วิทยากรจึงได้แนะนำให้ทั้งคู่ได้รู้จักกับการปรับพฤติกรรมการกินของตน ด้วยการลดการดื่มชาเย็น ทานอาหารที่มีน้ำมัน้อย ทานพวกแกงจืดแทน แล้วให้ทานอาหารเย็นก่อนหกโมงเย็น ออกกำลังกายทุกวันด้วยการเดินเร็ววันละครึ่งชั่วโมง ซึ่งพอสองคนนี้ทำตามก็สามารถลดน้ำหนักได้ 1 กิโลกรัมในสัปดาห์แรก จนสุดท้ายในหนึ่งเดือนนั้น เพื่อนของคุณบังอรก็สามารถลดน้ำหนักเกือบ 3 กิโลกรัมในหนึ่งเดือนเลยทีเดียว รวมไปถึงเมื่อครบระยะสามเดือน เพื่อนทั้งสองของบังอรสามารถลดน้ำหนักได้ 5.2 กิโลกรัมและ 7 กิโลกรัมตามลำดับ แต่ตัวบังอรที่ไม่เข้าค่าย ก็รีบเร่งลดน้ำหนักตามเพื่อน และด้วยความเชื่อว่าการทานข้าวแล้วจะทำให้อ้วน เธอจึงไม่ยอมกินข้าวเช้าเพื่อจะได้ลดน้ำหนักได้เร็ว ซึ่งแรก ๆ ก็ดูเหมือนจะลดได้ แต่บางวันมีทานกาแฟ ขนมบ้างนิดหน่อย เมื่อทำหลายวันร่างกายก็อ่อนเพลีย เมื่อหิวจนทนไม่ได้ก็ไปหาชาเย็น กาแฟเย็นกินตอนสาย รวมไปถึงขนมต่าง…
-
เลี้ยงเด็กอย่างไร ไม่อ้วนตั้งแต่เล็ก
เลี้ยงเด็กอย่างไร ไม่อ้วนตั้งแต่เล็ก เด็กไทยในปัจจุบันนี้มีน้ำหนักตัวอยู่ในเกณฑ์อ้วนลงพุงกันมากขึ้น ยิ่งโดยเฉพาะเด็กชายจะอ้วนมากกว่าเด็กหญิงถึงสองเท่า เด็กในเมืองใหญ่ที่มักทานอาหารที่มีไขมันสูงก็มักจะอ้วนกว่าเด็กที่อยู่ตามชนบทด้วย โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ นี่เอง อีกทั้งเมื่อเด็กอ้วนมากแล้วโตมาก็ยังคงเป็นผู้ใหญ่อ้วนอยู่ดี และเด็กทีมักมีกิจกรรมชอบนั่งเฉย ๆ เช่น เล่มเกมส์คอมพิวเตอร์หรือดูทีวีทั้งวันจะกินขนม ของกินเล่นต่าง ๆ มากกว่าเด็กที่ได้มีการเคลื่อนไหวร่างกาย ที่กินน้อยกว่า การเคี่ยวเข็ญให้ลูกลดน้ำหนักนั้นเป็นเรื่องที่ยากแน่นอน ดังนั้นผู้ปกครอง คุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายคนมีเทคนิคล่อหลอก เพื่อเปลี่ยนนิสัยการกิน และพากันออกกำลังกายให้มากขึ้นตั้งแต่วัยเด็กเพื่อป้องกันเด็กอ้วนและโตมาเป็นผู้ใหญ่อ้วน ที่จะมีปัญหาสุขภาพตามมาอีกมากมาย ด้วยการดูแลเด็กดังต่อไปนี้ค่ะ 1. ให้เด็กทานอาหารเป็นมื้อ แบ่ง 3 มื้อให้ชัดเจน โดยให้มีสารอาหารที่ครบถ้วนทั้งห้าหมู่ มีผักมีผลไม้ด้วย และช่วยให้ไม่กินขนมจุบจิบหรือกินไม่เป็นเวล่ำเวลา 2. ปรับเปลี่ยนเมนูให้หลากหลาย และน่ากิน แต่ยังคงสัดส่วนอาหารที่พอดีกับร่างกายของเด็ก หมุนเวียนเปลี่ยนกันไปเรื่อย ๆ จะได้ไม่เบื่อง่าย ไม่ว่าจะเป็น ไข่ เลือด ตับ เต้าหู้ เนื้อปลา อาหารทะเล โดยให้เด็กกินผักและผลไม้ทุกมื้ออาหารด้วยค่ะ 3. อาหารว่างหรือขนมไม่ควรมีแป้ง น้ำตาล หรือไขมันสูง เช่น มันฝรั่งทอด โดนัท เบเกอรี่ กล้วยบวชชี…
-
ป้องกันอาการปวดหลังเสียแต่เนิ่น ๆ
ป้องกันอาการปวดหลังเสียแต่เนิ่น ๆ ในประชากรวัยผู้ใหญ่กว่าร้อยหละแปดสิบ หรือแปดในสิบคนนั้น มักจะมีอาการ ปวดหลัง ซึ่งนับเป็นการเสื่อมถอยของร่างกายประเภทหนึ่ง โดยอาการปวดจะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงและการดูแลตัวเองด้วย ผู้ที่มีอาการปวดหลังนี้ กว่าครึ่งจะหายได้เองในสองสัปดาห์ ร้อยละ 90 จะหายได้ในสามเดือน แต่ยังมีอยู่บ้างเหมือนกันราวร้อยละ 5 ที่มีอาการปวดหลังเรื้อรังและอาการลุกลามมากขึ้น เนื่องจากการอักเสบนั้นก้าวข้ามไปถึงขั้นเส้นประสาทถูกทำลาย ซึ่งจะแสดงอาการออกมาเป็นการกลั้นอุจจาระหรือปัสสาวะไม่อยู่และแขนขาอ่อนแรง ในกรณีนี้ควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วนค่ะ ซึ่งวิธีการป้องกันโรคปวดหลังได้ดีที่สุดก็คือการออกกำลังกาย และป้องกันตนเองมิให้เกิดอุบัติเหตุ ซึ่งการบริหารกล้ามเนื้อหลังจะต้องค่อย ๆ สร้างความแข็งแรงทั้งกล้ามเนื้อหน้าท้องและกล้ามเนื้อหลังไปด้วยกัน และต้องบริหารข้อต่อให้เคลื่อนไหวได้สะดวกด้วย ซึ่งอาจทำได้ด้วยการเดิน การปั่นจักรยาน การว่ายน้ำ ล้วนทำให้หลังแข็งแรงขึ้นได้ทั้งสิ้น ทั้งนี้สิ่งที่สำคัญอีกอย่างที่จะไม่ทำให้ปวดหลังก็คืออย่าปล่อยตัวให้อ้วนลงพุง ทานอาหารที่มีคุณค่า รวมไปถึงออกกำลังกายให้มีความสม่ำเสมอด้วย นอกจากนี้การปรับอิริยาบถให้ถูกต้องก็เป็นเรื่องสำคัญไม่น้อย.. การยืนนั้นต้องหลังตรง แขม่วท้องไว้นิด ๆ ยืนให้ตัวตรงไม่โก่งหรือคด ให้แนวติ่งหูหรือข้อสะโพกเป็นแนวเดียวกัน ไม่ควรยืนนานเกินไป ไม่ควรสวมรองเท้าส้นสูงมาเกินไป ภายในรองเท้าควรหาแผ่นรองเท้าอุ้งเท้าไว้เพื่อซับน้ำหนัก และหากจำเป็นต้องยืนนาน ๆ ควรหาที่พักเพื่อพักเท้า หรือมีเก้าอี้หรือโต๊ะตัวเล็กไว้ช่วยวางเท้าข้างหนึ่งด้วย ทำให้เป็นนิสัยไว้ตลอดไปจะป้องกันอาการปวดหลังพร้อมทั้งอาการข้อเสื่อมต่าง ๆ ได้ การนั่ง ควรเลือกเก้าอี้ที่มีพนักพิงบริเวณเอว เลือกใช้ที่นั่งที่สบายและหมุนได้ ป้องกันการบิดของเอวและที่พักแขน ขณะที่นั่งพักหัวเข่าควรอยู่สูงกว่าระดับข้อสะโพกเล็กน้อย และควรมีเบาะรองเท้าหรือหมอนเล็ก ๆ…
-
อ้วนตั้งแต่เด็ก….เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งสูง
อ้วนตั้งแต่เด็ก….เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งสูง เพราะการกินอยู่เดี๋ยวนี้สะดวกขึ้นมาก ไม่ว่าจะเป็นอาหารที่ขายตามหน้าโรงเรียน ตามทางเท้า ตามร้านสะดวกซื้อหรือห้างซุปเปอร์สโตร์ขนาดใหญ่ที่เปิดอยู่แทบทุกหัวถนน อีกทั้งพ่อแม่ยังเก็บอาหาร ขนมต่าง ๆ เอาไว้ให้ลูกเพราะกลัวตัวเองจะมีเวลาว่างไม่มากพอสำหรับการดูแลอาหาร เด็ก ๆ จึงไม่ค่อยได้ทานอาหารที่มีประโยชน์มากนัก กลับถึงบ้านก็กินขนมดูทีวี ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายวิ่งเล่นมากเท่าที่ควร เด็กสมัยนี้จึงอ้วนลงพุงแต่เล็กกันเยอะมาก ปัจจุบันนี้มีผลสำรวจพบว่าเด็กหรือเด็กวัยรุ่นที่มีค่าดัชนีมวลกายมากกว่าค่าเฉลี่ยตั้งแต่ระดับช่วงต้นของชีวิตนั้นจะทำให้เด็ก ๆ มีโอกาสการเป็นมะเร็งสูงกว่าเด็กวัยเดียวกันที่มีน้ำหนักในเกณฑ์มาตรฐานถึงร้อยละ 35 และเมื่อโตขึ้นแล้วเริ่มออกกำลังกายหรือลดน้ำหนัก และปรับการกินอาหารแล้วความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งก็มิได้ลดลงไปอยู่ดี นอกจากนี้แล้วค่าดัชนีมวลกายที่สูงตั้งแต่อายุ 18 ปี จะนำไปสู่การเป็นมะเร็งในเวลาต่อมาสูงยิ่งกว่าคนที่มีค่าดัชนีมวลกายสูงในช่วงวัยกลางคนเสียอีก ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า การรักษาสุขภาพที่ดีไว้ตลอดชีวิตตั้งแต่เด็กจนโตนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญมากกว่าการมาดูแลสุขภาพในช่วงวัยโตหรือวัยกลางคนแล้ว ดังนั้นเด็กและวัยรุ่นจึงไม่ควรปล่อยตัวให้อ้วนน้ำหนักเกิน เพื่อลดโอกาสการเป็นมะเร็งนั้นเอง ความรับผิดชอบนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวของเด็กเท่านั้น แต่ผู้ปกครองที่ดูแลเด็กควรมีส่วนร่วมและเป็นผู้นำในการจัดการปรับวิถีการกินและการใช้ชีวิตของเด็ก ให้มีสุขภาวะที่ดี ปรับตารางการเรียน การเล่น ให้เด็กได้มีโอกาสออกกำลังกายอย่างเหมาะสม ได้ทานอาหารที่สะอาดปลอดภัย และมีคุณค่าทางอาหารครบถ้วน ลดละการให้เด็กทานอาหารที่มีไขมันสูง น้ำตาลมาก แป้งมาก โดยเฉพาะจังค์ฟู้ดทุกสัญชาตินั่นล่ะตัวดี และที่สำคัญที่สุดก็คือหากอยากให้เด็กหรือวัยรุ่นมีสุขภาพแข็งแรงแล้วล่ะก็ การมีพ่อแม่เป็นแบบอย่างในการปฏิบัติตัวกลับเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่จะทำให้ลูก ๆ ของเรามีอายุยืนยาวและสุขภาพแข็งแรง กับมีความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งลดลงอีกด้วยค่ะ
-
ขนมปังหรือข้าว.. กินอะไรอ้วนกว่ากัน
ขนมปังหรือข้าว.. กินอะไรอ้วนกว่ากัน อ๊ะอ๊ะ สำหรับคนที่กำลังลดความอ้วนกันอยู่คงสับสนไม่น้อยเลยใช่ไหม ว่าทานอะไรแล้วอ้วนกว่ากันระหว่าง “ขนมปัง” กับ “ข้าว” ทั้งที่ก็เป็นคาร์โบไฮเดรตเหมือนกัน ให้พลังงานเท่ากันคือ 4 กิโลแคอรี่ต่อกรัม แต่มีความแตกต่างกันไปในสัดส่วนของคาร์โบไฮเดรต ไขมัน โปรตีน รวมทั้งไฟเบอร์และวิตามินต่าง ๆ ของข้าวแต่ละชนิด และขนมปังแต่ละประเภท รวมไปถึงปริมาณที่ทานเข้าไปด้วยค่ะ ความจริงแล้ว หากนำมาเปรียบเทียบกันด้วยน้ำหนักเที่เท่ากันก็คือ ในปริมาณ 100 กรัมนั้น ข้าวจะให้พลังงาน 140 กิโลแคลอรี่ และขนมปังจะให้พลังงาน 170 กิโลแคลอรี่ การที่ขนมปังให้แคลอรี่สูงกว่าเพราะว่าส่วนประกอบของขนมปังคือ แป้ง น้ำตาล เนย ผลฟูต่าง ๆ จึงสรุปได้ว่า ในปริมาณที่เท่ากันนั้น คุณจะได้รับพลังงานจากขนมปัง มากกว่าข้าวนั่นเอง สาว ๆ ลดน้ำหนักทั้งหลายควรทานข้าวจะดีกว่านะคะ ยิ่งโดยเฉพาะเป็นข้าวกล้องหรือข้าวซ้อมมือ จะได้รับประโยชน์จากสารอาหารมากมายอีกด้วยค่ะ
-
หลังทานอาหารอิ่ม ๆ อย่าทำแบบนี้!!!
หลังทานอาหารอิ่ม ๆ อย่าทำแบบนี้!!! 1. อย่าเพิ่งสูบบุหรี่ เพราะจากการทดลองพบว่าการสูบบุหรี่หลังอาหารนั้น เท่ากับการสูบบุหรี่ยามปกติถึงสิบมวนเลยทีเดียว ดังนั้นโอกาสการเป็นมะเร็งจึงสูงขึ้น 2. อย่าเพิ่งทานผลไม้หลังอาหาร ให้ทานในช่วงเวลาหลังอาหารไปแล้ว 1-2 ชั่วโมงจะดีกว่า 3. อย่าเพิ่งดื่มน้ำชา เพราะใบชามีความเป็นกรดสูง จึงทำให้โปรตีนในอาหารกระด้างขึ้น จึงย่อยยาก 4. หลังอิ่มใหม่ ๆ อย่าเพิ่งขยายเข็มขัด เพราะจะทำให้ลำไส้ขยับตัวไม่ปกติ และทำให้ลำไส้ทำงานไม่ปกติได้ด้วย 5. หลังการอิ่มข้าว อย่าเพิ่งอาบน้ำ เพราะเลือดจะไหลเวียนไปที่มือและเท้า จึงทำให้เลือดบริเวณท้องไหลเวียนไม่ดี จึงส่งผลให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ไม่ดีด้วย 6. หลังทานอาหาร อย่าเพิ่งเดินทันทีตามที่เคยเชื่อกันมา เพราะนั่นจะทำให้การย่อยเพื่อดูดซึมไม่ดีเท่าที่ควร ควรรออย่างน้อยสักครึ่งชั่วโมงดีกว่า 7. อย่าเพิ่งนอนทันที เพราะอาจทำให้ท้องอืด ท้องเฟ้อ เพราะอาหารย่อยไม่เต็มที่ได้ อีกอย่างจะทำให้อ้วนด้วยนะคะ
-
นอนหลับยาก.ทานผักกาดหอมกันดีกว่า!
นอนหลับยาก.ทานผักกาดหอมกันดีกว่า! อาการนอนไม่หลับเนี่ย.. ใครไม่เคยเป็นไม่เข้าใจเลยนะคะ ว่าส่งผลต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตอย่างไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นสมาธิต่ำ อารมณ์แปรปรวน โมโหง่าย ภูมิคุ้มกันก็ต่ำลง เป็นหวัด ป่วยง่าย ๆ แล้วยังอ้วนได้ง่ายอีกด้วยค่ะ แต่อย่าเพิ่งร้อนใจไป มีผักอยู่ชนิดหนึ่งที่หาซื้อก็สะดวกแล้วยังทานง่ายอีกด้วย มีคุณสมบัติช่วยให้คุณนอนหลับได้ง่ายขึ้น นั่นก็คือ “ผักกาดหอม” นั่นเองค่ะ นั่นเป็นเพราะมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ค้นพบว่า หากได้ทานผักกาดหอมสดก่อนนอน หรือทานเป็นมื้อเย็น ร่างกายจะได้รับสารรสขมที่มีชื่อว่า “แลคทูคาเรียม” ทำให้รู้สึกง่วงนอน จิตใจผ่อนคลาย และสงบลง ทำให้เรานอนหลับได้ง่ายขึ้น ลองนำไปทำเป็นประจำกันดูนะคะ จะได้ไม่ต้องหงุดหงิดหรือพึ่งยานอนหลับกันอีกต่อไปค่ะ
-
ผงชูรส.. ยิ่งกินก็ยิ่งอ้วน
ผงชูรส.. ยิ่งกินก็ยิ่งอ้วน สำหรับคนไทยแล้วการเติมผงชูรสลงไปในอาหารนั้น สุดแสนจะเป็นเรื่องธรรมดา แต่หารู้ไม่ว่าผงชูรสนั้นทำให้คุณอ้วนขึ้นได้อีกด้วย! โดยผลการวิจัยนี้มาจากการค้นคว่าของมหาวิทยาลัยนอร์ทแคโรไลน่ากับนักวิทยาศาสตร์จีน โดยได้ทำการทดสอบกับชาวจีนทั้งหมด 750 คน ที่ทำกับข้าวกันเองและไม่ได้ใช้ผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูป ประมาณ 82% ใช้ผงชูรส ยิ่งครอบครัวใดใช้ผงชูรสมากก็ยิ่งมีคนอ้วนมาเป็นสามเท่าของผู้ที่ไม่ได้ใช้ ซึ่งการทดสอบนี้ได้คำนวณในด้านปัจจัยอื่น ๆ เกี่ยวกับการออกกำลังกาย และแคลอรี่ที่กินเข้าไป และอื่น ๆ มาพิจารณาร่วมด้วย แต่ก็ยังสรุปได้ว่ายิ่งกินผงชูรสมาก ก็ยิ่งอ้วนขึ้นอยู่ดี ผงชูรส หรือ monosodium glutamate เป็นสารที่ทำให้มีรสชาติเพิ่มมากขึ้น คือนอกเหนือจากรสชาติประจำอาหารทั้งสี่คือ เปรี้ยว หวาน เค็ม และขม และออกฤทธิ์กระตุ้นเซลล์ในสมองด้านการรับรู้รสชาติ โดยประมาณกันว่าในสหรัฐอเมริกานั้น 50 ปีที่แล้วนั้น ใช้ผงชูรสในการประกอบอาหารถึงกว่าห้าร้อยตันต่อปี แต่ทุกวันนี้ปริมาณที่ใช้กลับทวีจำนวนขึ้นอีกกว่า 300 เท่า ดังนั้นจำนวนของคนที่น้ำหนักเกินจึงมากขึ้นหลายเท่าตัว นอกจากทำให้อ้วนลงพุง มีปัญหาน้ำหนักตัวแล้ว ในบางคนที่แพ้ผงชูรส ยังมีอาการข้างเคียงอื่น ๆ คือ ปวดหัวอย่างหนัก และหัวใจเต้นเร็วได้อีกด้วยค่ะ นอกจากไม่มีประโยชน์แล้วยังก่อโทษกับร่างกายอีกต่างหาก เรามาลด ละ เลิก ผงชูรสกันเถอะนะคะ