Tag: ลดความอ้วน

  • ฉลาดทานไอศกรีม..ไม่เสียสุขภาพ

    ฉลาดทานไอศกรีม..ไม่เสียสุขภาพ

    ฉลาดทานไอศกรีม..ไม่เสียสุขภาพ ฤดูร้อนแบบนี้ หากได้ไอศกรีมสักลูกคงชื่นใจไม่น้อยเลยทีเดียวนะคะ แต่การทานมากเกินไปก็ทำให้มีปัญหาได้เหมือนกัน นั่นเพราะในไอศกรีมประกอบไปด้วยนม น้ำตาล กะทิ ซึ่งล้วนแล้วแต่มีไขมัน น้ำตาลและคอเลสเตอรอลสูงทั้งสิ้น แต่ก็ไม่จำเป็นต้องอดไปเลย เพราะหากทำตามคำแนะนำของโภชนากรดังต่อไปนี้แล้ว คุณสามารถทานไอศกรีมได้แล้วล่ะ – คนที่มีคอเลสเตอรอลสูง ให้ทานไอศกรีมที่มีไขมันน้อยหรือปราศจากไขมัน อย่างเช่น ไอศกรีมหวานเย็น หรือ ไอศกรีมซอร์เบ ฯลฯ – ผู้ที่มีไตรกลีเซอร์ไรด์สูง ทานได้เป็นครั้งคราว และครั้งละนิดหน่อยพอหอมปากหอมคอเท่านั้น เพราะในไอศกรีมมีไขมันและน้ำตาลอยู่มาก อาจทำให้ไตรกรีเซอร์ไรด์พุ่งได้นะคะ ขอเตือน – สำหรับผู้ที่เป็นเบาหวาน ควรระมัดระวังในการทาน เพราะหากทานไอศกรีที่มีขนาดเท่าลูกปิงปองแล้ว ก็จะทำให้ร่างกายคุณได้รับพลังงานเทียบเท่าข้าวครึ่งทัพพี หรือไขมันและน้ำมัน 1 ช้อนชาเลยทีเดียว หากจะทานไอศกรีมต้องลดอาหารอื่น ๆ ลงด้วยนะคะ – สำหรับคนที่กำลังลดความอ้วน ควรเลี่ยงไอศกรีมที่มีไขมันสูง สามารถทานไอศกรีมซอร์เบ หรือหวานเย็นได้ แต่นาน ๆ ค่อยทานก็น่าจะดีกว่า อย่าทานบ่อย ๆ ค่ะ

  • วิธีเคี้ยวอาหาร 7 เลเวล ช่วยระบบย่อยแข็งแรง

    วิธีเคี้ยวอาหาร 7 เลเวล ช่วยระบบย่อยแข็งแรง

    วิธีเคี้ยวอาหาร 7 เลเวล ช่วยระบบย่อยแข็งแรง ยิ่งเคี้ยวอาหารให้ละเอียดมากเท่าไร ก็จะช่วยให้ระบบย่อยนับตั้งแต่กระเพาะอาหารเรื่องไปจนลำไส้เล็กและลำไส้ใหญ่ทำงานน้อยลง สารอาหารก็ถูกดูดซึมดีขึ้น ทำให้ร่างกายแข็งแรง แถมยังไม่อ้วนอีกด้วยนะคะ มีวิธีเคี้ยวอาหารถึง 7 เลเวลให้คุณดูเลยค่ะว่า การเคี้ยวนั้นยิ่งนานเท่าไรก็ยิ่งดีต่อสุขภาพนั่นเอง – เคี้ยวอาหารคำละ 30 ครั้ง จะช่วยให้เหงือกและกรามแข็งแรง ช่วยคลายเครียด คลายความหงุดหงิดลงได้ – เคี้ยวอาหารคำละ 50 ครั้ง จะช่วยอารมณ์หดหู่และวิตกกังวล แล้วยังช่วยลดความอ้วนได้อีกด้วย – เคี้ยวอาหารคำละ 60 ครั้ง ช่วยเพิ่มการทำงานของสมอง ลดอาการท้องผูก เหมาะมากสำหรับอาหารที่มีกากใยสูง ๆ – เคี้ยวอาหารคำละ 80 ครั้ง ทำให้ประสาทสัมผัสไวขึ้น สามารถจัดจำและแยกรสชาติของอาหารทั้งจากธรรมาชาติและสารปรุงอาหาร ทำให้ความจำดีขึ้นด้วย – เคี้ยวอาหารคำละ 100 ครั้ง ช่วยให้อารมณ์สงบเยือกเย็น มีสมาธิมากกว่าเดิม ร่างกายจึงดูดซึมอาหารได้ดีขึ้น ลดความอยากอาหารประเภทเนื้อสัตว์ต่าง ๆ ได้ – เคี้ยวอาหารคำละ 150 ครั้ง…

  • อาหารเช้า.. ทานให้ดี ลดความอ้วนได้

    อาหารเช้า.. ทานให้ดี ลดความอ้วนได้

    อาหารเช้า.. ทานให้ดี ลดความอ้วนได้ เพราะอาหารเช้าเป็นอาหารมื้อที่สำคัญที่สุดสำหรับคนที่ต้องการลดความอ้วน  เพราะหากคุณทานอาหารเช้าอย่างพอเพียง จะช่วยให้ความหิวในมื้อกลางวันและมื้อเย็นลดลง คุณจึงทานอาหารได้ลดน้อยลง อีกทั้งยังมีประโยชน์ด้านอื่น ๆ ต่อร่างกายอีกด้วย  และยิ่งหากเลือกทานอาหารที่มีวิตามินและแร่ธาตุที่เหมาะสมแล้ว ก็จะยิ่งเป็นการส่งเสริมให้สุขภาพดียิ่งขึ้นไปอีก อาหารเช้าที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่รักสุขภาพและต้องการลดน้ำหนักก็คือให้เน้นอาหารที่มีแคลเซียมและวิตามินดีสูง ๆ   เพราะสารอาหารทั้งสองตัวนี้จะช่วยเพิ่มศักยภาพการเผาผลาญพลังงานและไขมันในร่างกายได้ดีขึ้น  แล้วยังช่วยลดความอยากในอาหารมื้ออื่นลงได้อีกด้วย  อาหารที่มีแคลเซียมสูงนั้น พบได้มากใน นม ปลาตัวเล็กตัวน้อย โยเกิร์ต กุ้งแห้ง  ส่วนอาหารที่มีวิตามินดีสูงก็คือ นมเช่นกัน รวมไปถึงเนย ตับ ปลาทู และไข่แดงด้วย ต่อไปนี้ทุกเช้าอย่างลืมทานอาหารเช้านะคะ จะได้มีสุขภาพแข็งแรงพร้อมกับหุ่นสวยเป๊ะด้วยค่ะ  

  • การลดน้ำหนักกับแอลคาร์นิทีน

    การลดน้ำหนักกับแอลคาร์นิทีน

    การลดน้ำหนักกับแอลคาร์นิทีน ในปัจจุบันนี้มีการโฆษณาอาหารเสริมผสมแอลคาร์นิทีนเพื่อช่วยลดน้ำหนักกันมากขึ้น  ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักหลาย ๆ คนจึงยอมควักกระเป๋าเสียเงินมากทาน  แต่บางคนก็ทานอย่างขาดความเข้าใจ เรามาดูความจริงของการลดน้ำหนักกับแอลคาร์นิทีนกันค่ะ คาร์นิทีนนั้น คือ กลุ่มของสารที่เป็นอนุพันธ์ของกรดอะมิโน ประกอบไปด้วย แอล-คาร์นิทีน, อะเซติล แอล-คาร์นิทีนและ โพรพิโอนิล แอล-คาร์นิทีน ซึ่งแอลคาร์นิทีนที่ร่างกายดูดซึมไปใช้มากที่สุดก็คืออะเซติล แอล-คาร์นิทีน แหล่งกำเนิดของคาร์นิทีน มาจากการสังเคราะห์ได้ด้วยตนเองในร่างกายของเรา แล้วยังได้จากอาหารที่มีโปรตีนสูง เช่นเนื้อสัตว์ต่าง ๆ อีกด้วย   โดยหน้าที่ของคาร์นิทีนที่มีแต่การลดน้ำหนักก็คือการขนส่งกรดไขมันสายยาวเข้าสู่ไมโตรคอนเดรียเพื่อสร้างพลังงาน  แล้วยังขนส่งของเสียที่เซลล์สร้างขึ้นออกจาอวัยวะของเซลล์ อีกทั้งคาร์นิทีนยังป้องกันการสร้างไขมันในตับและหัวใจด้วย โดยคาร์นิทีนนี้จะนำไขมันไปใช้เป็นพลังงาน  ทำให้คุณเผาผลาญไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น  ในส่วนนี้จำเป็นต้องอาศัยการออกกำลังกายด้วย จึงจะทำให้ร่างกายเกิดการเผาผลาญไขมันส่วนเกินอย่างสมบูรณ์ได้  ดังนั้นหากคุณจะอาศัยทานแอลคาร์นิทีนอย่างเดียวแล้วนอนเฉย ๆ รับรองได้ว่า อ้วนเหมือนเดิมแน่นอน ไม่มีทางที่จะลดไขมันได้เลย สำหรับคนที่ต้องการลดความอ้วน  แล้วต้องการเลือกอาหารเสริมมาทาน ควรเลือกอาหารเสริมที่ประกอบไปด้วยอะเซทิล แอลคาร์นิทีนจะดีกว่า  แล้วให้หลีกเลี่ยงอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของน้ำตาลและคาร์เฟอีนมาก ๆ เพราะเป็นโทษต่อร่างกาย สรุปว่า  การจะลดความอ้วนหรือลดน้ำหนักอย่างได้ผลนั้นจำเป็นต้องอาศัยการควบคุมอาหาร  การออกกำลังกายเข้าร่วมด้วย จะอาศัยพึ่งแอลคาร์นิทีนอย่างเดียวไม่ได้เลย

  • ลดความอ้วน ทำได้ง่าย ไม่ต้องใช้ยาอีกต่อไป

    ลดความอ้วน ทำได้ง่าย ไม่ต้องใช้ยาอีกต่อไป

    ลดความอ้วน ทำได้ง่าย ไม่ต้องใช้ยาอีกต่อไป จากกระแสการแพ้ยาลดความอ้วนอย่างรุนแรงนั้น ประเด็นนี้สามารถสะท้อนทัศนคติคนไทยได้เป็นข้อ ๆ ก็คือ คนไทยส่วนใหญ่ไม่พึงพอใจกับรูปร่าง ขาดความรู้ด้านโภชนาการ ฝันอยากออกกำลังกายแต่ไร้เวลา ส่งผลให้ต้องเผชิญกับ “ภาวะอ้วนลงพุง” สัญญาณอันตรายของความเสี่ยงต่อโรคต่าง ๆ ดังนั้นวันนี้จะขอนำเอาคำแนะนำของนักวิทยาศาสตร์การกีฬาหรือ อาจารย์สาธิก ธนะทักษ์ โค้ชเป้ง มาให้คำแนะนำในการลดความอ้วนกันนะคะ หลักของการลดความอ้วนก็คือ 1. ไม่กินหวาน เพราะน้ำหวานทั้งหลายทุกประเภทให้แคลอรี่เท่ากับข้าวถึง 2 มื้อ หากต้องการลดความอ้วนก็ก็ต้องงดน้ำหวานต่าง ๆ 2. ทานครบมื้อและครบหมู่ เพื่อให้ได้สัดส่วนของโปรตีน ไขมัน และคาร์โบไฮเดรตอย่างถูกสัดส่วน และควรจำกัดปริมาณของข้าวด้วย 3. ลดกินเค็ม เพราะความเค็มทำให้เสียสุขภาพและทำให้เป็นโรคอ้วนทางอ้อมได้ อีกทั้งเกลือยังเป็นสาเหตุให้ร่างกายบวมน้ำ และทำให้เกิดเซลลูไล้ท์ได้ สำหรับการออกกำลังกายนั้น โค้ชเป้งได้ให้เคล็ดลับไว้ว่า เราควรออกกำลังกายระดับปานกลางประมาณ 150 นาทีต่อสัปดาห์ ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายชนิดแอโรบิกต่าง ๆ ทั้งการวิ่ง การปั่นจักรยาน การว่ายน้ำ ในระดับที่ร้องเพลงไม่ไหว หายใจแรง แต่ยังพอพูดได้ แต่สำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนัก ควรออกกำลังกายสัปดาห์ละ 300 นาทีหรือวันละ…

  • วลีเด็ด ที่จะช่วยให้คุณลดน้ำหนักได้สำเร็จ

    วลีเด็ด ที่จะช่วยให้คุณลดน้ำหนักได้สำเร็จ

    วลีเด็ด ที่จะช่วยให้คุณลดน้ำหนักได้สำเร็จ “มาลดความอ้วนกันเถอะ ฉันจะลดความอ้วนแล้วนะ” การลดความอ้วนนี่พูดง่ายนะ แต่เป็นอะไรที่ทำได้ยากมาก วันนี้เรามีตัวช่วยโดยการหาวลีเด็ดๆ มาให้เพื่อนๆได้ใช้กัน เผื่อจะช่วยให้การลดความอ้วนของใครๆเป็นไปได้ขึ้น หรือ ไม่ได้เลย ^__^ นักวิจัยได้ทดลองโดยการ นำอาหารอร่อยๆมาล่อใจกับผู้ที่ต้องการลดความอ้วนเป็นเวลา 1 อาทิตย์ และได้พบกับวลีเด็ดๆของกลุ่มตัวอย่าง คือ “ฉันไม่กิน…” แต่เมื่อเห็นอาหารที่ชอบมาล่อตาล่อใจ กลุ่มตัวอย่างครึ่งนึงกับอดใจไม่ไหวที่จะต้องกินมัน นักวิจัยจึงแนะนำว่า  ให้เปลี่ยนจากคำว่า “ฉันไม่กิน นู่น นี่ นั่น” เป็นคำว่า “ฉัน กิน ….. ไม่ ได้” โอกาศที่จะห้ามใจได้นั้น กลับมีถึง 80% สื่อได้ว่า คำพูดหรือสิ่งที่อยู่เหนือการควบคุมของสมองนั้น อาจเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้กลุ่มตัวอย่างห้ามใจได้ดียิ่งขึ้น…