Tag: มะเร็งเต้านม

  • วิธีเลือกทานผัก…ให้ปลอดจากสารเคมีทางการเกษตร

    วิธีเลือกทานผัก…ให้ปลอดจากสารเคมีทางการเกษตร

    วิธีเลือกทานผัก…ให้ปลอดจากสารเคมีทางการเกษตร พิษจากสารเคมีทางการเกษตรนั้นทั่วทั้งโลกตระหนักดีกว่าก่อให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บมากมายทั้งตัวของเกษตรกรผู้ผลิตเองและไล่ไปถึงผู้บริโภคด้วย ที่ว่าร้ายก็เป็นเพราะว่าสารเคมีทางการเกษตรนี้ก่อให้เกิดปัจจัยเสี่ยงของโรคมะเร็งชนิดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น มะเร็งต่อมน้ำเหลือง มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม มะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็งกระเพาะ มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งรังไข่และมะเร็งที่ไต เป็นต้น จากการสุ่มตรวจเลือดของประชาชนโดย กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขนั้น ได้ดูระดับของเอนไซม์ อะเซทิล โคลิเนสเทอเรส ในเลือด ซึ่งหากลดต่ำลงหากได้รับสารในกลุ่มออร์แกโนฟอสเฟตและคาบาร์เมต พบว่ามีสัสดส่วนผู้ที่มีความเสี่ยงถึงร้อยละ 54 และจากการศึกษาของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พบว่าผู้ที่มีระดับเอนไซม์อะเซทิล โคลิเนสเทอเรสต่ำนั้นมีความสัมพันธ์กับสภาวะดีเอ็นเอถูกทำลาย จนอาจกลายพันธุ์เป็นมะเร็งได้ในอนาคต ดังนั้นทั้งเราจึงต้องร่วมมือกันในการทำให้อาหารที่บริโภคนั้นปลอดภัยมากยิ่งขึ้น นอกจากเกษตรกรผู้ปลูกจะต้องใส่ใจการผลิตอาหารที่ปลอดสารพิษ ด้วยการหันมาปลูกพืชเกษตรอินทรีย์ พืชผักปลอดสารพิษแล้ว ผู้บริโภคก็ต้องหันมาสนับสนุนอาหารเหล่านี้เช่นกัน ด้วยการเลือกผักมาประกอบอาหารดังต่อไปนี้ – ทานผักให้มีความหลากหลาย หมุนเวียนเปลี่ยนชนิดไปเรื่อย ๆ ยิ่งหากทานเป็นผักพื้นบ้านก็จะยิ่งปลอดภัยจากสารเคมีมากยิ่งขึ้น – เลือกอาหารหรือผักอินทรีย์จากแหล่งผลิตที่วางใจได้ – เมื่อนำมาปรุงควรลอกเปลือกชั้นนอกทิ้งไปก่อน เช่น กะหล่ำปลี ผักกาดขาว เพราะใบชั้นนอกจะมีสารเคมีตกค้างมากกว่าใบชั้นใน – ล้างผักด้วยการแช่น้ำ เช่น เปิดน้ำจากก๊อกให้ไหลผ่านผักโดยตรง 2 นาที หรือจะใช้วิธีแช่ผักในน้ำปูนใส น้ำด่างทับทิม น้ำซาวข้าว…

  • ใส่ใจสุขภาพ ลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง

    ใส่ใจสุขภาพ ลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง

    ใส่ใจสุขภาพ ลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง ตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา มีรายงานการพบมะเร็งแล้วในคนกว่าร้อยชนิด และคนไทยเองก็ตายด้วยโรคมะเร็งเป็นอันหนึ่งหนึ่งมาโดยตลอด และยังมีแนวโน้มการป่วยและตายมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นมะเร็งตับ มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่ และมะเร็งทวารหนัก โดยผู้ที่ป่วยกว่าครึ่งจะเป็นผู้สูงอายุ เนื่องจากมะเร็งเป็นโรคที่ค่อย ๆ คืบคลานอย่างช้า ๆ แบบค่อยเป็นค่อยไป ดังนั้นจึวควรดูแลตัวเองให้แข็งแรงจะช่วยลดความเสี่ยงการเป็นมะเร็งได้ด้วยการดูแลเอาใจใส่สุขภาพดังต่อไปนี้ 1. รักษาตัวไม่ให้อ้วนเกินมาตรฐาน ทานอาหารแต่พอดีและออกกำลังกายเป็นประจำ รักษาสภาพจิตใจให้สดใสสดชื่นทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันโรคมากขึ้น 2. ทานอาหารให้ครบถ้วนให้ได้วิตามินและแร่ธาตุที่หลากหลาย แต่ลดอาหารที่มีไขมันสูง อาหารทอดหรือย่าง รวมไปถึงอาหารหมักดอง อาหารแปรรูปใส่ดินประสิว หรือเสี่ยงมีเชื้อรา และอาหารที่ปรุงสุก ๆ ดิบ ๆ ด้วย ควรทานอาหารสด ๆ ผักสด ผลไม้สด นอกจากจะมีสารต้านอนุมูลอิสระแล้วยังมีกากใยอาหารช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ได้อีกด้วย 3. งดสูบบุหรี่ สามารถลดความเสี่ยงการเป็นมะเร็งปอดได้ร้อยละ 60 4. งดสุรา หากสูบบุหรี่จะเพิ่มความเสี่ยงในการมะเร็งถึงเก้าเท่าและหากสูบบุหรี่ด้วยอีกจะเพิ่มความเสี่ยงสูงถึง 50 เท่า! 5. มีเพศสัมพันธ์เมื่อพร้อม เมื่อถึงวัยที่เหมาะสม ผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อยและมีคู่หลายคนมีความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งปากมดลูกมากขึ้น 6.…

  • รักษาสุขภาพป้องกันมะเร็งไว้ก่อน

    รักษาสุขภาพป้องกันมะเร็งไว้ก่อน

    รักษาสุขภาพป้องกันมะเร็งไว้ก่อน สาเหตุการตายของคนไทยนั้นเกิดจากโรคมะเร็งเป็นอันดับหนึ่งมานานหลายปีแล้ว ปีหนึ่ง ๆ กว่าสามแสนรายเลยทีเดียว มะเร็งนั้นก็รู้กันอยู่แล้วว่ารักษาได้ยาก บางรายก็รักษาไม่หาย อีกทั้งยังมีหลายปัจจัยในการก่อโรคที่ระบุให้แน่ชัดลงไปไม่ได้อีกด้วย แต่การดูแลสุขภาพตัวเองไว้อย่างเหมาะสม เชื่อได้ว่าจะป้องกันการเกิดมะเร็งได้ ซึ่งการดูแลตัวเองดังกล่าวนั้นได้แก่ 1. เน้นทานอาหารที่สะอาด ปลอดภัย มีไขมันน้อย และมีเส้นใยอาหารสูง ๆ อย่างผักผลไม้ทั้งหลาย ที่ยังให้วิตามินแร่ธาตุกับร่างกาย ช่วยต้านทานอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งได้ ไม่ควรทานอาหารปิ้งย่างไหม้เครียด ของหมักดองหรือแปรรูป ตลอดจนอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อรา และอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ อย่างปลาร้า ปลาจ่อมด้วยนะคะ 2. ทำให้การออกกำลังกายเป็นกิจวัตรของคุณ และควบคุมน้ำหนักตัวให้พอดีกับส่วนสูง เพื่อให้ร่างกายมีความแข็งแรงกระฉับกระเฉง และเสริมภูมิต้านทานให้มีประสิทธิภาพ 3. เลิกสูบบุหรี่ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งปอด และงดดื่มสุราด้วยเพราะเป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งในช่องปาก มะเร็งกล่องเสียง คอหอย มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งตับ มะเร็งลำไส้ และมะเร็งเต้านมด้วย 4. หลีกเลี่ยงการเผชิญแสงแดดจัดจ้าในช่วงเวลาตั้งแต่ 10.00-16.00 น. แต่หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่าลืมทาครีมกันแดดก่อนทุกครั้งด้วยค่ะ 5. ไม่สำส่อนในกามารมณ์ และมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และลดความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัสเอชพีวีอันเป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูกด้วย 6.…

  • ใส่ใจกับอาหาร ต้านมะเร็งได้ผลนะ

    ใส่ใจกับอาหาร ต้านมะเร็งได้ผลนะ

    ใส่ใจกับอาหาร ต้านมะเร็งได้ผลนะ ในปัจจุบันมีแนวโน้มการป่วยและตายด้วยโรคมะเร็งสูงขึ้นแบบยั้งไม่หยุด ฉุดไม่อยู่ ในจำนวนผู้ป่วยทั้งหมดนั้นกว่าครึ่งคือผู้สูงอายุ ที่เซลล์มะเร็งค่อย ๆ ก่อตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป และกว่าจะพบว่าตนเองเป็นมะเร็งก็มักจะอยู่ในระยะลุมลามที่ยากจะรักษาให้หายขาดได้แล้ว ทั้งที่โรคมะเร็งนั้นหากตรวจพบตั้งแต่ระยะเริ่มแรกมีโอกาสที่จะรักษาให้หายได้ถึงร้อย 80 เลยทีเดียว ดังนั้นเราทุกคนจึงควรตรวจสุขภาพประจำปีไว้เพื่อหาความผิดปกติของร่างกาย เพื่อป้องกันโรคร้ายไว้แต่เนิ่น ๆ รวมไปถึงการใส่ใจเลือกอาหารการกินก็สามารถต้านมะเร็งได้อีกทางหนึ่งด้วยนะ – ทานอาหารที่มีเส้นใยอาหารให้มากเข้าไว้ ไม่ว่าจะเป็นผักสด ผลไม้สดต่าง ๆ รวมไปถึงข้าวกล้อง ข้าวโพด ธัญพืช โฮลเกรน ฯลฯ เหล่านี้ป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ – ผักและผลไม้สีเขียว มีเบต้าแคโรทีนและวิตามินเอสูง ป้องกันมะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งกล่องเสียงและมะเร็งปอดได้ รวมไปถึงผักและผลไม้รสเปรี้ยวที่มีวิตามินซีมาก ๆ ช่วยป้องกันมะเร็งหลอดอาหารและกระเพาะอาหารได้อีกทางหนึ่ง – ทานผักตระกูลกะหล่ำให้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น คะน้า กะหล่ำดอก กะหล่ำปลี หัวผักกาด เหล่านี้ป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งลำไส้ส่วนปลาย มะเร็งกระเพาะอาหาร และมะเร็งในอวัยวะทางเดินหายใจทั้งหมด นอกจากอาหารที่ควรทานแล้วยังมีอาหารบางประเภทที่ควรหลีกเลี่ยงเพื่อป้องกันมะเร็งด้วยนะ – อาหารที่ขึ้นรา ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งตับ – อาหารที่มีไขมันสูง เพราะเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่ และมะเร็งต่อมลูกหมาก…

  • ตรวจสอบความเสี่ยง…ในการเป็นมะเร็งเต้านม

    ตรวจสอบความเสี่ยง…ในการเป็นมะเร็งเต้านม

    ตรวจสอบความเสี่ยง…ในการเป็นมะเร็งเต้านม รองจากมะเร็งปากมดลูกแล้ว ก็เห็นจะเป็นมะเร็งเต้านมนี่ล่ะค่ะที่พบได้มากที่สุดในเพศหญิง และเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ด้วยเช่นกัน ซึ่งมีความเสี่ยงถึง 1 ใน 9 ของผู้หญิงเลยทีเดียวที่จะเป็นมะเร็งเต้านม ซึ่งปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดมะเร็งเต้านมนั้นได้แก่ การใช้ฮอร์โมนทดแทนในการรักษา เมื่อเข้าสู่ช่วงวัยทอง, การใช้ยาคุมกำเนิดแบบรับประทานเป็นเวลานาน, ไม่เคยให้นมบุตร, ดื่มเหล้าวันละ 2 แก้วขึ้นไป, อ้วน น้ำหนักตัวมาก, ไม่ออกกำลังกาย รวมทั้งทานอาหารที่มีไขมันมากเกินไปด้วย และปัจจัยบางประการที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมได้ แต่ก็เป็นปัจจัยในการเป็นโรคมะเร็งเต้านมด้วย ก็คือ อายุที่มากขึ้น, การมีประจำเดือนมาเร็วก่อนอายุ 12 ปี และหมดช้าคือหลังอายุ 50 ปี, มีคนในครอบครัวเคยเป็นมะเร็งเต้านมมาก่อน หรือมีความผิดปกติของยีนส์ที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากพ่อแม่, ไม่เคยมีบุตร หรือมีภายหลังอายุ 50 ปี, เคยตรวจพบว่าเต้านมมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ในภาวะก่อนเป็นมะเร็งเต้านม รวมทั้งเคยมีประวัติเป็นมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งลำไส้ใหญ่ รวมไปถึงมีคนในครอบครัวเคยเป็นด้วย สำหรับผู้ที่กังวลว่าตนเองจะเข้าข่ายมีความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านมด้วยนั้น การตรวจคลำเต้านมด้วยตนเองเป็นประจำ เพื่อหาความผิดปกติ รวมทั้งไปตรวจร่างกายกับแพทย์เป็นประจำก็เป็นการช่วยลดความเสี่ยงและลดความรุนแรงในการเป็นโรคได้อีกวิธีหนึ่ง อีกทั้งการตรวจพบตั้งแต่ระยะเริ่มแรกจะมีอัตราการหายจากโรคมากกว่าผู้ที่ไม่คอยตรวจคลำเต้านมด้วยค่ะ

  • ประมวลผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงในการเป็นมะเร็ง

    ประมวลผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงในการเป็นมะเร็ง

    ประมวลผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงในการเป็นมะเร็ง จากสถิตินับถึงปีปัจจุบันพบว่าคนไทยนั้นเป็นมะเร็งเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว และมีอัตราการตายจากโรคนี้เพิ่มขึ้นมากขึ้นเรื่อย ๆ จนตอนนี้โรคมะเร็งกลายเป็นสาเหตุการตายอันดับที่หนึ่ง แซงหน้าอุบัติเหตุ โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง หรือโรคหลอดเลือดสมอง รวมทั้งโรคปอดไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งโรคมะเร็งที่คร่าชีวิตคนไทยมากเป็นอันดับหนึ่งก็คือ มะเร็งตับ รองลงมาเป็นมะเร็งปอด มะเร็งเต้านม และก็มะเร็งลำไส้ใหญ่ โดยปัจจัยเสี่ยงของการเป็นโรคมะเร็งได้แก่ – ปัจจัยจากสิ่งแวดล้อมภายนอก นั่นคือการได้รับสารก่อมะเร็งที่ปนเปื้อนจากอาหาร, การได้รับรังสีเอกซ์, รังสียูวีจากแสงแดด, การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบทุกชนิด, การติดเชื้อไวรัสแพบพิลโลมา, พยาธิใบไม้ตับ รวมถึงการดื่มเหล้าสูบบุหรี่ด้วย ฯลฯ – ปัจจัยจากความผิดปกติภายใน เช่น พันธุกรรม, ภูมิคุ้มกันบกพร่อง ภาวะทุพโภชนาการ ฯลฯ ซึ่งเราสามารถสรุปกลุ่มผู้ที่เสี่ยงต่อการมะเร็งได้ดังนี้ 1. กลุ่มที่ดื่มเหล้าเป็นประจำ เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งตับ 2. กลุ่มที่สูบบุหรี่ เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งทางเดินหายใจ มะเร็งปอด มะเร็งกล่องเสียง แล้วหากดื่มเหล้าด้วยก็อาจเป็นมะเร็งช่องปากในลำคอได้อีก 3. กลุ่มที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดบี หรือทานอาหารที่ปนเปื้อนอะฟลาทอกซิล ที่เป็นเชื้อราที่ปนเปื้อนในอาหาร ทั้งพริกป่น ถั่วลิสงป่น ฯลฯ เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งตับ แล้วถ้าได้รับทั้งสองชนิดก็มีโอกาสในการเป็นมะเร็งตับเพิ่มมากขึ้น 4. กลุ่มที่ติดเชื้อพยาธิใบไม้ในตับ และทานอาหารที่ใส่ดินประสิว…

  • เป็นซีสหรือมะเร็งเต้านมกันแน่นะ?

    เป็นซีสหรือมะเร็งเต้านมกันแน่นะ?

    เป็นซีสหรือมะเร็งเต้านมกันแน่นะ? โดยมากแล้วความเข้าใจของคนทั่วไป มักจะเข้าใจว่าหากคลำพบก้อนบริเวณเต้านม ก็เรียกว่าซีสทั้งหมด ซึ่งบางทีอาจเป็นเรื่องไม่ถูกต้องนัก การจะระบุว่าเป็นซีสหรือก้อนเนื้อชนิดอื่น ความได้รับการตรวจจากแพทย์ให้แน่ชัด  คำว่า ซีสในเต้านมนี้มาจากภาษาอังกฤษาว่า Fibrocystic ไฟโบรซีสติก หรือภาวะที่เกิดมีซีสขึ้น เรียกได้อีกอย่างว่า ถุงน้ำนั่นเอง ซีสที่เต้านมนั้นจะมีภาวะเป็นถุงน้ำขึงอยู่ในเนื้อเต้านม มักรวมกันอยู่เป็นหย่อม ๆ เมื่อคลำจากภายนอกจะเป็นก้อน ๆ ใหญ่ ๆ เล็ก ๆ คละกันได้ สาเหตุการเป็นซีสนั้นบอกแน่ชัดไม่ได้ แต่อาจเกิดขึ้นจากภาวะการเปลี่ยนแปลงต่อมเต้านมในร่างกาย แล้วมีน้ำเข้าไปสะสมอยู่ข้างในเนื้อเต้านมแล้วรวมตัวกันเป็นถุงน้ำ  ซึ่งถูกควบคุมด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจนที่เป็นฮอร์โมนเพศหญิง  เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงกับฮอร์โมนเหล่านี้จึงจึงเกิดการเปลี่ยนแปลงของเนื้อเต้านมจนกลายเป็นถุงน้ำในที่สุด  มักจะพบว่าซีสนี้จะโตขึ้นในช่วงที่ประจำเดือนใกล้จะมาและหดตัวลงเมื่อประจำเดือนมาแล้ว อาการของคนที่เป็นซีสเต้านมนั้นมักจะมีอาการปวด หรือเจ็บเนื่องจากน้ำในซีสดันเนื้อเต้านม จนเกิดอาการตึงปวด  อาจคลำพบก้อนที่เต้านมด้วย อาจพบได้หลายตำแหน่ง และโต ๆ ยุบ ๆ ตามระยะรอบเดือน ต่างจากมะเร็ง  มะเร็งจะเป็นก้อนที่โตขึ้นเรื่อย ๆ  และไม่เจ็บกับเมื่อคลำแล้วจะแข็ง ๆ  แต่ซีสจะเจ็บและนุ่ม ๆ หยุ่น ๆ ได้  ซึ่งลักษณะที่แตกต่างกันนี้คือจุดที่แยกกันระหว่างซีสกับมะเร็งเต้านม แต่ก็มีวิธีอื่นในการจำแนกว่าเป็นซีสหรือมะเร็งกันแน่ก็ด้วยการทำอัลตราซาวด์ กับอีกวิธีก็คือใช้เข็มฉีดยาเจาะดู  หากเป็นซีสเมื่อเจาะแล้วจะได้น้ำออกมาและก้อนจะยุบตัวหายไป  แต่หากเป็นก้อนเนื้อแพทย์จะนำไปพิสูจนอีกทีว่าเป็นก้อนเนื้อชนิดไหนกันแน่…

  • มะเร็งเต้านม… สาเหตุและการดูแลตัวเอง

    มะเร็งเต้านม… สาเหตุและการดูแลตัวเอง

    มะเร็งเต้านม… สาเหตุและการดูแลตัวเอง หากจะมีโรคร้ายใดที่ผู้หญิงแทบทุกคนกลัวมากที่สุด ก็เห็นจะไม่พ้นโรคมะเร็งเต้านม ที่คร่าชีวิตผู้หญิงไปเป็นจำนวนมากจนมีสถิติสูงเกินหน้ามะเร็งปากมดลูกแล้ว ความร้ายกาจของโรคนี้นอกจากความเจ็บปวดทรมานแล้วยังอาจต้องตัดเต้านมซึ่งเป็นของรักของหวงของร่างกายหญิงสาวทิ้งไว้เพื่อรักษาชีวิตไว้ ทำให้สูญเสียความมั่นใจความเป็นผู้หญิงอย่างมาก ซึ่งสาเหตุของการเกิดมะเร็งเต้านมนั้นมาจากหลายสาเหตุได้แก่ – กรรมพันธุ์ – การไม่มีลูก – ทำงานดึกดื่น ขาดการพักผ่อน เครียด – ขาดการออกกำลังกาย – ทานอาหารที่มีไขมันสูง ปล่อยตัวให้อ้วน – ดื่มเหล้า – มีประจำเดือนเร็ว คือตั้งแต่อายุ 12 และหมดประจำเดือนหลังอายุ 55 xu ซึ่งการป้องกันมะเร็งเต้านมนั้นก็ทำได้เพียงแต่ หลีกเลี่ยงบุหรี่และสุรา ออกกำลังอย่างสม่ำสเมอ ทำกิจใจให้ร่างเริง และเลี้ยงด้วยด้วยนมแม่อย่างเดียวอย่างน้อยหกเดือน รวมไปถึงลดการทานอาหารที่มีไขมันสูงและรักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานด้วย นอกจากนี้แล้ว การหมั่นตรวจคลำเต้านมตัวเองอย่างสม่ำเสมอก็เป็นเรื่องสำคัญ เพราะหากพบความผิดปกติก็ยังสามารถลดความรุนแรงได้ และอาจหายขาดได้หากรักษาอย่างทันท่วงที โดยการตรวจมะเร็งเต้านมนั้นทำได้หลายวิธี ด้วยการคลำด้วยนิ้วเพียงสามนิ้ว ได้แก่ นิ้วชี้ นิ้วกลาง นิ้วนาง คลำในระหว่างการอาบน้ำก็ได้ดังนี้ 1. คลำในแนววนเป็นก้นหอย โดยเริ่มจากส่วนบนวนไปจนถึงฐานนมบริเวณรักแร้ 2. คลำแบบขึ้นลง เริ่มจากใต้ราวนมถึงรักแร้วแล้วขยับนิ้วขึ้นลงในแนวขึ้นลง สลับไปเรื่อย ๆ…

  • เฝ้าระวังมะเร็งเต้านม สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้

    เฝ้าระวังมะเร็งเต้านม สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้

    เฝ้าระวังมะเร็งเต้านม สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ นายแพทย์ กฤษณ์ จาฏามระ ที่ปรึกษากิตติม ศักดิ์ ของโรงพยาบาล บีเอ็นเอช   ได้อธิบายว่าโรคมะเร็งเต้านมนั้น หนึ่งในหลายสาเหตุของโรคอาจเกิดจากพันธุกรรมที่ถ่ายทอดกันมาในครอบครัวได้  ซึ่งผู้ป่วยอาจเป็นญาติสายตรง เป็นมะเร็งเต้านมมาก่อน เช่น แม่ ป้า หรือพี่สาว  ดังนั้นความเสี่ยงที่คนในครอบครัวจะเป็นมะเร็งเต้านมก็สูงกว่าในครอบครัวของผู้ที่ไม่มีผู้ป่วยมะเร็งเต้านม แต่แม้จะมีจำนวนผู้ป่วยมะเร็งเต้านมในครอบครัวหลายคนก็ไม่ได้หมายความว่าคนในครอบครัวจะต้องเป็นมะเร็งเต้านมอย่างแน่นอนทุกคน  เพียงแต่มีความเสี่ยงมากกว่าเท่านั้นเอง  จึงมิควรที่จะต้องกังวลว่าตนเองจะต้องเป็นแน่ ๆ  ซึ่งวิธีที่ดีที่สุดก็คือการตรวจคัดกรองการเป็นมะเร็งเต้านม ด้วยการตรวจอัลตราซาวน์ หรือการตรวจแมมโมแกรม 3 มิติ ที่ให้ผลอย่างแม่นยำ รวมทั้งการตรวจเอ็มอาร์ไอสำหรับการคัดกรองมะเร็งเต้านมโดยเฉพาะได้ สำหรับผู้ที่ตรวจพบว่าตนเองเป็นมะเร็งเต้านมในระยะเริ่มต้นแล้ว ก็อย่าเพิ่งกังวลใจ เพราะมะเร็งระยะแรกนั้นสามารถรักษาให้หายขาดได้  ดังนั้นหากกังวลเพราะมีคนในครอบครัวเป็นมะเร็งกันหลายคน  การหมั่นตรวจสุขภาพด้วยการคัดกรองมะเร็งเต้านม จึงเป็นการดูแลตัวเองและป้องกันได้อย่างดีที่สุด เพื่อที่เมื่อตรวจพบแล้วจะสามารถรักษาได้ทันท่วงที

  • โรคมะเร็งรังไข่.. ภัยคร่าชีวิตสตรีที่ต้องระวัง

    โรคมะเร็งรังไข่.. ภัยคร่าชีวิตสตรีที่ต้องระวัง

    โรคมะเร็งรังไข่.. ภัยคร่าชีวิตสตรีที่ต้องระวัง มะเร็งทางนรีเวชที่ตรวจพบบ่อยเป็นอันดับหนึ่งก็คงเป็นมะเร็งปากมดลูก  แต่อันดับสองเป็นของมะเร็งรังไข่ที่ก็เป็นอันตรายไม่แพ้กัน หากตรวจพบต้องรีบรักษาในทันที สำหรับโรคมะเร็งรังไข่นี้จะเกิดขึ้นประมาณ 5 คน ต่อประชากรสตรี 1 แสนคนต่อปี   มีผู้ป่วยมะเร็งรังไข่รายใหม่ประมาณ 1,500 คนต่อปี ยิ่งอายุมากก็ยิ่งมีความเสี่ยงมากยิ่งขึ้นไปด้วย มะเร็งรังไข่นั้น จะไม่ค่อยแสดงอาการนัก จะมีอาการแค่ท้องอืดท้องเฟ้อ จึงเข้าใจว่าเป็นโรคกระเพาะไป จึงทำให้คนไข้พบแพทย์ช้า  โรคนี้หากวินิจฉันได้แต่เนิ่น ๆ ก็ยังสามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่หากพบเจอในระยะท้าย ๆ แล้วก็คงหายได้ยาก  ซึ่งปัจจัยที่ทำให้เป็นโรคนี้ก็คือ มีญาติใกล้ชิดเป็นโรคนี้ หรือเป็นมะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้หรืออื่น ๆ  โดยเฉพาะหากมีอายุเกิน 40 ปีขึ้นไป หรือชอบรับประทานอาหารที่มีไขมันหรือนมเนยมาก ๆ โดยอาการของมะเร็งรังไข่ ก็คือ ท้องโตขึ้น เนื่องจากมีก้อนหรือน้ำในท้อง มีตั้งแต่น้ำน้อยจนถึงน้ำมาก มีลูกแตงโมในท้อง  ส่วนของผู้ป่วยจะมีอาการของระบบทางเดินอาหาร เช่น ท้องอืด ท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อย ท้องผูก ปัสสาวะบ่อย ขัด เนื่องจากก้อนของรังไข่ไปกดเบียด ผู้ป่วยจะผอมลง เป็นอาการของมะเร็งทั่วไป อาจมีเลือดออกทางช่องคลอด ซึ่งจะเห็นได้ว่าอาการของมะเร็งรังไข่ไม่จำเพาะเจาะจงชัดเจน …