Tag: ท้องอืด
-
หัดเด็ก…ให้กินผักตั้งแต่เล็ก
หัดเด็ก…ให้กินผักตั้งแต่เล็ก เดี๋ยวนี้เราจะเห็นเด็ก ๆ มากมายที่ไม่ค่อยกินผักสักเท่าไร แถมยังชอบกินอาหารจังก์ฟู้ดที่มีไขมันสูงด้วย เด็กตัวอ้วนกลม ไม่แข็งแรง ขี้โรคจึงเต็มโรงเรียนอนุบาลไปหมด หากไม่หัดให้เด็กกินผักบ้างจะทำให้ร่างกายของเขาขาดเส้นใยอาหาร การขับถ่ายก็ไม่ดี ท้องอืด ท้องผูก และไม่ได้รับการขับถ่ายพิษออกมา แล้วยังอาจทำให้ขาดวิตามินและแร่ธาตุมากมายจากผักอีกด้วย ความจริงแล้วการหัดให้เด็กทานผักนั้นควรเริ่มตั้งแต่หลังจากเริ่มหย่านม ก็คือตั้งแต่อายุ 6 เดือนขึ้นไป โดยควรเลือกผักให้ลูกทานพร้อมอาหารหลักที่มีสารอาหารครบห้าหมู่ แล้วจึงค่อยๆ สร้างความคุ้นเคยให้เด็กกินอาหารอื่นนอกจากนมให้มากขึ้นตามลำดับ การหัดให้เด็กได้ลองกินผักมื้อแรกนั้นเป็นจุดที่สำคัญมาก ควรให้เด็กทานผักนิ่ม ๆ ก่อน เช่น ฟักทอง แครอท ผักกาดขาด ตำลึง ซึ่งลูกอาจปฏิเสธในครั้งแรก แต่ควรอดทนและลองพยายามใหม่ ซึ่งอาจลองเปลี่ยนเป็นผักนิ่ม ๆ ชนิดอื่นบ้าง การให้ลูกกินผักนั้นไม่ควรบังคับหรือขัดใจ ควรทำให้เด็กรู้สึกมีความสุขและสนุกในการกิน เพื่อให้รู้สึกดีกับการกินผัก หาไม่แล้วเด็กอาจเกลียดการกินผักไปเลยก็ได้ถ้าคุณเคี่ยวเข็ญหรือลงโทษ หลังจากเริ่มจากผักนิ่ม ๆได้แล้ว ควรทำให้เด็กคุ้นเคยกับผักที่มีกลิ่นฉุนมากขึ้นเช่น ต้นหอม ผักชี ขึ้นฉ่าย โดยให้เด็กทานตั้งแต่อายุ 9-10 เดือน เพราะในระยะนี้เด็กยังไม่รู้จักเลือกรสและกลิ่นของผักจึงสามารถกินได้ทุกอย่าง ซึ่งปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เด็กกินผักได้ก็คือ พ่อแม่ต้องเป็นตัวอย่างที่ดี ต้องกินผักให้เด็กเห็น และชมเชยลูกทุกครั้งที่เด็กชอบผักและอยากกินผัก สิ่งที่สำคัญที่สุดนั้นก็คือ เด็กต้องมีผู้ใหญ่เป็นแบบอย่างของการกินที่ดีนั้นเอง…
-
การเลือกทานอาหาร ให้เหมาะกับ การออกกำลังกาย
การเลือกทานอาหาร ให้เหมาะกับ การออกกำลังกาย ประโยชน์ของการเล่นกีฬานั้นมีอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นความสามัคคีที่เกิดขึ้นหมู่ผู้แข่งขันและหมู่ผู้ที่เข้ามาเชียร์ เพื่อการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ เพื่อการคลายเครียด และที่สำคัญก็คือประโยชน์ต่อสุขภาพของผู้เล่น ช่วยให้ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง ทำให้ร่างกายมีกำลังวังชา ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานสอดประสานกันได้ดี อีกทั้งยังเหมาะสำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนักในกลุ่มผู้ที่มีน้ำหนักเกิน ทั้งยังช่วยเพิ่มน้ำหนักได้สำหรับคนที่ผอมเกินไป แม้การออกกำลังกายจะช่วยให้สุขภาพแข็งแรง ทำให้อวัยวะและระบบต่าง ๆ ทำงานได้ดี แต่ผู้ที่ออกกำลังกายก็จำเป็นต้องสังเกตสัญญาณเตือนที่ร่างกายบอกออกมาด้วย เช่น ออกกำลังกายนานหรือมากเกินไปจนกล้ามเนื้อปวดเมื่อยหรือไม่ หรือมีความอ่อนเพลียเพราะพักผ่อนน้อยไป หรือทานอาหารน้อยไปหรือเปล่า หรือการออกกำลังกายที่ผิดท่าทางหรือหักโหมมากเกินไปจนบาดเจ็บ ฯลฯ ดังนั้น ก่อนออกกำลังกายจึงจำเป็นต้องสังเกตอาการของร่างกาย รวมทั้งพลังงานจากอาหารที่เราทานเข้าไปด้วยว่าเหมาะสมกับการออกกำลังของเราหรือเปล่า นักกีฬาที่กำลังจะลงแข่งขันมักจะมีอาการตื่นเต้น และกังวลมากขึ้นจนอาจส่งผลต่อระบบต่าง ๆ ของร่างกาย บางคนก็ท้องเสีย ปวดปัสสาวะมาก ท้องอืด หรือเครียด ซึ่งส่งผลกระทบต่อการแข่งขัน ดังนั้นนักกีฬาควรเตรียมร่างกายให้พร้อมด้วยการทานอาหารที่เหมาะสม ทานอาหารที่คุ้นเคยจะได้ไม่สร้างปัญหาต่อระบบทางเดินอาหาร มีรสชาติไม่จัดเกินไป มีแป้งและน้ำตาลมากหน่อยเพื่อเป็นพลังงานกับร่างกาย มีความอ่อนนุ่ม เพื่อให้ร่างกายย่อยและดูดซึมได้เร็วจะได้ไม่หมดแรงเร็วเกินไปนัก ซึ่งการทานอาหารควรทานก่อนออกกำลังกายหรือลงแข่งขันประมาณ 2-3 ชั่วโมงเพื่อให้อาหารย่อยหมดก่อน หากลงเล่นกีฬาทั้งที่ยังมีอาหารอยู่ในกระเพาะแล้วอาจทำให้จุกเสียดและปวดท้องได้ การออกกำลังกายจะเผาผลาญพลังงานที่ร่างกายสะสมไว้ จึงทำให้รู้สึกหิวมากกว่าปกติ สำหรับผู้ที่กำลังลดน้ำหนักจึงควรมีสติในการกินดื่ม โดยเฉพาะของหวาน ๆ น้ำผลไม้ น้ำอัดลม…
-
World Cancer Research Fund แห่งประเทศอังกฤษ ยันอาหารไทยมีคุณค่าทางโภชนาการสูง!
World Cancer Research Fund แห่งประเทศอังกฤษ ยันอาหารไทยมีคุณค่าทางโภชนาการสูง! มีองค์การที่สำคัญแห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักร ก็คือ องค์กรวิจัยมะเร็งโลก หรือ World cancer research fund ได้แนะนำให้คนในชาติของตนเองเมื่อไปทานอาหารนอกบ้านหรือนอกประเทศแล้ว ให้ทานอาหารจากประเทศจีน อิตาลี อินเดีย และอาหารไทย เพราะจัดว่าเป็นอาหารที่คุณค่าทางโภชนาการสูงและมีประโยชน์ต่อร่างกายมาก นั่นเป็นเพราะว่าอาหารไทยเองเป็นอาหารที่รสชาติอร่อย มีสัดส่วนของสารอาหารที่พอเหมาะและมีคุณภาพ มีความแตกต่างกันไปตามภูมิภาค และมีให้อาหารให้เลือกกินหลากหลายในแต่ละฤดูกาล แต่สำหรับคนไทยกลับกินอาหารไทยน้อยลงเอง มีการดัดแปลงสูตรกันมากขึ้น หรือนิยมทานอาหารจานด่วนกันมากขึ้น ซึ่งอาหารจานด่วนเหล่านี้ มักมีแคลอรี่สูง มีสัดส่วนของแป้ง ไขมัน และเนื้อสัตว์มากขึ้น ปรุงแต่งรสชาติมากขึ้น เพิ่มนมเนย ไขมันต่าง ๆ เข้าไปมากกว่าเดิม สมดุลของสารอาหารจึงเสียไป ทำให้ตัวคนไทยเองมีภาวะเป็นโรคอ้วนกันมากขึ้น สุขภาพเสื่อมโทรม ทั้งที่เป็นเจ้าของอาหารที่ดีที่สุดชนิดหนึ่งในโลก แล้วในอาหารไทยมีดีอะไร ต่างชาติจึงแนะนำให้ทานกัน หากจะนับอาหารที่เด่น ๆ และอร่อยถูกปากชาวต่างชาติ ก็ได้แก่ – ต้มยำต่าง ๆ มีแคลอรี่ต่ำ มีสมุนไพรบำรุงร่างกาย และมีโปรตีนจากเนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมันสูง – แกงเลียง…
-
หลังทานอาหารอิ่ม ๆ อย่าทำแบบนี้!!!
หลังทานอาหารอิ่ม ๆ อย่าทำแบบนี้!!! 1. อย่าเพิ่งสูบบุหรี่ เพราะจากการทดลองพบว่าการสูบบุหรี่หลังอาหารนั้น เท่ากับการสูบบุหรี่ยามปกติถึงสิบมวนเลยทีเดียว ดังนั้นโอกาสการเป็นมะเร็งจึงสูงขึ้น 2. อย่าเพิ่งทานผลไม้หลังอาหาร ให้ทานในช่วงเวลาหลังอาหารไปแล้ว 1-2 ชั่วโมงจะดีกว่า 3. อย่าเพิ่งดื่มน้ำชา เพราะใบชามีความเป็นกรดสูง จึงทำให้โปรตีนในอาหารกระด้างขึ้น จึงย่อยยาก 4. หลังอิ่มใหม่ ๆ อย่าเพิ่งขยายเข็มขัด เพราะจะทำให้ลำไส้ขยับตัวไม่ปกติ และทำให้ลำไส้ทำงานไม่ปกติได้ด้วย 5. หลังการอิ่มข้าว อย่าเพิ่งอาบน้ำ เพราะเลือดจะไหลเวียนไปที่มือและเท้า จึงทำให้เลือดบริเวณท้องไหลเวียนไม่ดี จึงส่งผลให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ไม่ดีด้วย 6. หลังทานอาหาร อย่าเพิ่งเดินทันทีตามที่เคยเชื่อกันมา เพราะนั่นจะทำให้การย่อยเพื่อดูดซึมไม่ดีเท่าที่ควร ควรรออย่างน้อยสักครึ่งชั่วโมงดีกว่า 7. อย่าเพิ่งนอนทันที เพราะอาจทำให้ท้องอืด ท้องเฟ้อ เพราะอาหารย่อยไม่เต็มที่ได้ อีกอย่างจะทำให้อ้วนด้วยนะคะ
-
6 พืชผักสมุนไพร ที่ดีต่อระบบย่อยอาหาร
6 พืชผักสมุนไพร ที่ดีต่อระบบย่อยอาหาร สำหรับคนที่มีมักจะมีปัญหาในเรื่องของการย่อยอาหาร และการดูดซึมอาหารอยู่บ่อย ๆ ทุกมื้อของอาหารลองทานผักหรือสมุนไพรเหล่านี้ ดูจะช่วยลดอาการในช่องท้องได้ดีเลยทีเดียวค่ะ 1. พริกขี้หนูสด ความเผ็ดร้อนของพริกช่วยให้ช่องปากหลั่งน้ำลายออกมามากขึ้น จึงทำให้แป้งถูกย่อยและดูดซึมในปากได้ดี กระเพาะและลำไส้จึงทำงานน้อยลง 2. กระเพรา แม้ผัดกระเพราะจะดูเป็นอาหารสิ้นคิดก็ตาม แต่สรรพคุณของผักชนิดนี้นั้น มีเหลือคณานับ เพราะช่วยให้กระเพาะอาหารขับน้ำดีออกมามากขึ้น จึงสามารถย่อยอาหารเราได้มากขึ้น ช่วยย่อยไขมัน และระบายแก๊สได้ จึงลดอาการจุกเสียดไปด้วยในตัว 3. กระเทียม การทานกระเทียมสด ๆ ทันทีหลังอาหารจะช่วยให้กระเพาะของคุณย่อยอาหารได้ดีขึ้น เหมาะมากสำหรับผู้ที่มีปัญหากระเพาะไม่ย่อยอาหาร แล้วยังช่วยแก้ท้องอืด ขับลมได้ด้วยนะ 4. แมงลัก เป็นยาช่วยย่อยชั้นเลิศเลยทีเดียว แถมยังช่วยบรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อได้ เพียงทานใบแมงลักสด ๆ มื้อละ 4-5 ใบก็พอ สบายท้องขึ้นเยอะเลยค่ะ 5. หอมแดง หอมแดงมีสารฟลาโวนอยด์ เพคติน ไกลโคไซด์ และกลูโคคินินอยู่สูงมาก ช่วยบำรุงลำไส้ และช่วยย่อยอาหาร ทำให้เจริญอาหารด้วย 6. ตะไคร้ หากการกินสด ๆ ทำให้รู้สึกว่ากินยาก…
-
พึงระวัง..อาหารบางชนิดทำระบบย่อยคุณมีปัญหา!
พึงระวัง..อาหารบางชนิดทำระบบย่อยคุณมีปัญหา! – อาหารที่มีรสเปรี้ยว หรือมีกรดมากอย่างน้ำอัดลม น้ำมะนาว น้ำส้ม ความเป็นกรดจะระคายเคืองหลอดอาหาร แล้วยังอาจทำให้เกิดปัญหาท้องอืดท้องเฟ้อด้วย – ช็อกโกแลตอาจทำให้คุณเกิดปัญหาโรคกรดไหลย้อนได้ หากทานเล็กน้อยก็อาจไม่มีปัญหาอะไร แต่เกิดปัญหาเพราะคุณทานช็อกโกแลตมากเกินไป เพราะช็อกโกแลตทำให้กล้ามเนื้อหูรูดหลอดอาหารส่วนล่างคลายตัวออก กรดในกระเพาะจึงไหลย้อนกลับขึ้นมาที่หลอดอาหารได้ – กะหล่ำปลี และบร็อกโคลี่ดิบ ๆ ทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะอาหารได้ แต่ผักสองชนิดนี้มีประโยชน์มาก และมีเส้นใยอาหารมากอีกด้วย แต่ควรปรุงให้สุกก่อนจะดีกว่า – มันบดและไอศกรีม ทำให้มีแก๊สในกระเพาะอาหารมาก ท้องอาจจะอืดหรือคุณอาจจะผายลมไม่หยุดได้ ซึ่งหมายความว่าร่างกายคุณอาจจะแพ้แลกโทส แต่แม้คุณจะไม่แพ้ อาหารทั้งสองอย่างนี้หากทานมากไปก็อาจอ้วนเพราะไขมันสูงได้ – นักเก็ตไก่ หรือไก่ชุบแป้งทอด หากเป็นเนื้อไก่ล้วนมันยังเป็นของที่ย่อยง่าย แต่เมื่อไรที่นำไปคลุกแป้ง มันจะกลายเป็นอาหารขยะ ย่อยยาก มีไขมันสูง สร้างปัญหาให้กับกระเพาะและระบบย่อยอาหารทั้งหมด ยังไม่รวมว่ากินมากแล้วอ้วนด้วยนะคะ – หัวหอมที่ไม่สุก เพราะในหัวหอมดิบนั้นมีไฟโตนิวเทรียนต์ จึงอาจทำให้ปวดท้องได้ แม้จะมีประโยชน์ต่อร่างกายและดีต่อหัวใจ ทางแก้ไขก็คือควรทานหัวหอมดิบและหัวหอมสุกผสมกันจะดีกว่า – หากคุณทานถั่วบ่อย ๆ ก็คงไม่ค่อยเป็นปัญหาอะไรนัก แต่หากคุณไม่ได้ทานบ่อย ๆ ร่างกายคุณก็อาจขาดเอนไซม์สำหรับการย่อยถั่ว ผลก็คือเมื่อทานเข้าไปแล้วจะเกิดแก๊สแล้วก็ท้องอืดได้ง่ายค่ะ – หมากฝรั่งปราศจากน้ำตาล…
-
เคล็ดลับการกินบุฟเฟ่ต์ให้ดีต่อสุขภาพ
เคล็ดลับการกินบุฟเฟ่ต์ให้ดีต่อสุขภาพ สำหรับคนที่มักชอบทานบุฟเฟต์หรือไปกินเลี้ยงบุฟเฟ่ต์กันบ่อย ๆ วันนี้ลองมาดูเคล็ดลับการทานบุฟเฟ่ต์แบบที่ไม่ทำให้เสียสุขภาพกันนะคะ – เลือกทานผักและทานปลาให้มากหน่อย เพราะย่อยง่ายไม่ทำให้ท้องอืดหรือจุกเสียดท้องเหมือนเนื้อหมู เนื้อวัว แล้วยังเป็นมีไขมันน้อยกว่าอีกด้วย – เน้นทานบุฟเฟ่ต์แบบต้ม หรือลวก จะดีกว่าแบบปิ้ง ย่าง หรือทอด จะได้ไม่เสี่ยงต่อสารก่อมะเร็ง – ปกติทานอาหารบุฟเฟ่ต์ก็ทานเป็นปริมาณมากอยู่แล้ว หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์หรือน้ำอัดลมไปด้วยจะดีกว่า เดี๋ยวจะอ้วนมากเกินไป ทั้งยังทำให้ย่อยยาก แล้วก็จะอ้วนขึ้นได้ง่าย ๆ ดื่มน้ำชาหรือน้ำเปล่าจะดีกว่าเยอะค่ะ – เวลาตักของสด หรือเนื้อสัตว์ต่าง ๆ จากไลน์บุฟเฟ่ต์ สังเกตสภาพของอาหาร ทั้งรูปลักษณ์ สีและกลิ่นด้วย ว่ามีความแตกต่างไปจากปกติหรือเปล่า เพราะเมืองไทยอากาศร้อน อาหารจะบูดได้ง่าย – หากทานเป็นบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่าง อย่าเกรงใจเจ้าของร้านหรือน้อง ๆ เด็กเสิร์ฟเลย หากกระทะหรือเตาย่างเริ่มไหม้เกรียมแล้ว ก็เปลี่ยนอันใหม่ดีกว่า ห่างไกลมะเร็งแล้วยังทำให้อาหารสุกเร็วขึ้นอีกด้วยนะ – ค่อย ๆ ทานไปเรื่อย ๆ อาจจะลุกเดินไปย่อยบ้าง จะได้ไม่ทานเยอะเกินไปจนท้องอืด อาหารไม่ย่อยได้ หรือจะทานไปคุยเฮฮาสังสรรค์ไปด้วยก็น่าจะดีกว่า – หลังจากการทานบุฟเฟต์แล้ว อย่าเพิ่งกลับบ้านนอน…
-
10 ยาแพทย์แผนไทยราคาประหยัด ชุดละ 200 บาท
10 ยาแพทย์แผนไทยราคาประหยัด ชุดละ 200 บาท นายแพทย์ธวัชชัย กมลธรรม อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข ได้เปิดเผยว่าขณะนี้ได้มีโครงการจัดทำชุดกล่องยาสมุนไพรเพื่อการดูแลสุขภาพในครัวเรือน โดยยาสมุนไพรไทยนี้เหมือนเป็นยาประจำบ้านสำหรับดูแลรักษาอาการเจ็บป่วยทั่วไปได้ ซึ่งปัจจุบันนี้ได้มีการพัฒนาการผลิตให้ได้มาตรฐานยิ่งขึ้น ดังนั้นเพื่อให้ประชาชนทุกคนเข้าถึงช่องทางของยาสมุนไพร และลดค่าใช้จ่ายด้านการดูแลสุขภาพลง กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทย จึงได้มีการจัดทำยาแผนไทยประจำบ้านที่มีถึง 10 ตัวยาในกล่องเดียว สามารถรักษาได้ครอบคลุมทุกโรคพื้นฐาน ประกอบไปด้วย ยาหอม แก้ลมวิงเวียน, ขมิ้นชันแคปซูล รักษาแผลในกระเพาะ ลดอาการจุดเสีย ท้องอืดเฟ้อ, ฟ้าทะลายโจรแคปซูล บรรเทาหวัดและท้องเสีย, ยาเหลืองปิดสมุทร รักษาอาการท้องร่วง, ยาจันทลีลา ลดไข้ตัวร้อน และไข้เปลี่ยนฤดู, ยาธรณีสันฑฆาต รักษาอาการท้องผูก เป็นยาระบาย, น้ำมันเหลือง ทาแก้ปวดเมื่อย, คาลาไมน์พญายอ รักษาผื่นแพ้ แมลงสัตว์กัดต่อย, โลชั่นกันยุงตะไคร้หอม และ ยาเปลือกมังคุด รักษาแผลสด “เบื้องต้นจัดทำชุดยาแผนไทยประจำบ้านทั้งหมด 1 หมื่นชุด เพื่อส่งต่อไปยังโรงพยาบาลทุกแห่ง ทั้งโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล โรงพยาบาลชุมชน เพื่อใช้เป็นแบบอย่างในการเผยแพร่และให้ความรู้ประชาชนได้ซื้อเก็บไว้เป็นทางเลือกในแต่ละครัวเรือน โดยหาซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อทั่วไป ราคาประมาณ 200…
-
ระวังนะ นั่งเก้าอี้รถเมล์นาน ๆ โรคจะถามหา
ระวังนะ นั่งเก้าอี้รถเมล์นาน ๆ โรคจะถามหา คนที่ต้องโดยสารรถเมล์เป็นประจำเนี่ย แต่ละวันหากได้ขึ้นไปแล้วเจอเก้าอี้ได้นั่งบ้างก็บุญแล้ว แต่เบาะที่อุตส่าห์ได้นั่งก็ช่างแตกต่างกันเหลือเกินในรถแต่ละคน บางคนก็นั่งสบายดี บางคันก็เบาะชันหรือเอนมากจนปวดหลังเหลือเกิน ทั้งยังบางคันที่เบาะแข็งยังกับไม้อีก ปวดทั้งหลังปวดทั้งก้นไปหมด หากนั่งนาน ๆ เข้าเจ้าเบาะแผ่นเล็ก ๆ นี่ก็สร้างปัญหาให้กับร่างกายได้เหมือนกันนะคะ มาลองไล่กันดูค่ะ 1. ปัญหาต่อกล้ามเนื้อและโรคกระดูก การนั่งอยู่บนเบาะที่ไม่พอดีกับแนวกระดูกสันหลังในท่าเดิมเป็นเวลานาน ๆ ทำให้ต้องเกร็งหลังตั้งฉากให้พอดีกับเบาะตลอดเวลา หากนั่งท่านี้สัก 1 ชม.ก็พอได้อยู่ แต่หากใครบ้านไกลเกินชั่วโมงแล้ว อาการกล้ามเนื้ออักเสบถามหาแน่นอน ยิ่งถ้าหากนั่งติดต่อกันเป็นเวลานาน ๆ หลาย ๆ เดือนหรือหลายปีก็อาจทำให้กล้ามเนื้อผิดปกติ และมีอาการปวดหลังตามมาอีกได้แน่ๆ และหากสะสมมากขึ้นก็อาจทำให้เกิดแนวกระดูกผิดปกติ กระดูกคดหรือเคลื่อนได้เลยทีเดียว และหากเป็นผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป ก็อาจทำให้กระดูกสันหลังเสื่อมด้วย น่ากลัวไม่ใช่เล่นเลย 2. โรคทางเดินอาหาร การนั่งท่าเดิมนาน ๆ 2 ชั่วโมงขึ้นไปมากกว่า 1 สัปดาห์จะทำให้กระเพาะอาหาร ลำไส้ บีบตัวน้อยกว่าปกติ ทำให้เกิดอาการท้องผูก ท้องอืดตามมาได้ 3. สมรรถภาพทางเพศถดถอย เพราะบ้านเรามีอากาศร้อนอบอ้าว…
-
เทคนิควิธีรับมือกับปัญหา “ปวดท้อง” และปัญหาระบบทางเดินอาหาร
เทคนิควิธีรับมือกับปัญหา “ปวดท้อง” และปัญหาระบบทางเดินอาหาร – ปวดแสบปวดร้อนกลางอก อาการบ่งบอกถึง โรคกรดไหลย้อน แต่ไม่ต้องกังวลไปนักถ้าหลังจากที่รับประทานยาลดกรดแล้วมีอาการดีขึ้น แต่ถ้าอาการปวดแสบปวดร้อนนั้น เกิดขึ้นบ่อยกว่าสัปดาห์ละ 2 ครั้งหละก็ ขอแนะนำว่าอย่าปล่อยไว้นาน เพราะกรดจะเข้าไปทำลายหลอดอาหาร ทำให้น้ำหนักลดและรับประทานอาหารได้ยาก – ไส้ติ่งอักเสบ อาการของผู้ที่เป็นไส้ติ่งอักเสบนั้น จะมีการปวดท้องที่ช่องท้องส่วนบนอย่างรุนแรง และจะลามไปปวดที่ช้องท้องน้อยด้านขวา และจะมีอาการร่วมด้วยคือ อาการคลื่นไส้ อาเจียน และอาจจะมีไข้ขึ้นสูงอีกด้วย ถ้าหากเกิดอาการแบบนี้ ต้องรับไปหาหมออย่างรวดเร็ว เพราะถ้าทิ้งไว้นาน อาการจะเลวร้ายลงอย่างรวดเร็วภายใน 24 ชั่วโมง และถ้ายังปล่อยไว้โดยไม่ยอมรักษา ไส้ติ่งอาจจะแตก ติดเชื้อ และอาจทำให้ถึงขั้นเสียชีวิตได้เลย – กระเพาะอาหารและลำไส้อักเสบ จะมีอาการปวดท้องเกร็งเป็นระยะๆ และจะมีอาการร่วมคือ อาการท้องเสีย คลื่นไส้ และเจ็บปวดมาก วิธีแก้คือ ควรดื่มน้ำเยอะๆ และคอยดูอาการ หากคุณมีภาวะขาดน้ำหรือ กินแล้วยังท้องเสีย ถ่ายบ่อยเกินสองวันหละก็ ควรรีบไปหาหมออย่างด่วน – แผลเปื่อยเพปติก หรือ แผลเปื่อยในลำไส้เล็ก จะมีอาการปวดหัวตื้อๆ ปวดถี่ๆ คลื่นไส้…