Tag: โรคมะเร็ง

  • ระวัง! 6 โรคยอดฮิตมนุษย์ออฟฟิศบ้าพลัง

    ระวัง! 6 โรคยอดฮิตมนุษย์ออฟฟิศบ้าพลัง

    ระวัง! 6 โรคยอดฮิตมนุษย์ออฟฟิศบ้าพลัง สำหรับหนุ่มสาวออฟฟิศที่ทำงานกันหามรุ่งหามค่ำ แม้ตอนนี้จะยังมีร่างกายแข็งแรงอยู่ แต่ก็ใช่ว่าการทำงานใช้ร่างกายอย่างหนักหน่วงนั้นจะไม่สร้างปัญหาให้กับร่างกายนะคะ เพราะจากการวิจัยและสำรวจมาหลายสิบปีในวงการแพทย์ พบว่าเหล่ามนุษย์ออฟฟิศทั้งหลายนั้นมีอัตราความเจ็บป่วยจากการทำงานในปริมาณที่เพิ่มสูงขึ้นทุกปีอย่างน่ากลัว นั่นเป็นเพราะชาวออฟฟิศทั้งหลายมักปล่อยให้ปีศาจร้ายทำลายสุขภาพอย่าง โรคเครียด, การทำงานนานเกินไป, พฤติกรรมกินอาหารไม่ตรงเวลา และไม่ยอมออกกำลังกาย เหล่านี้มาเป็นตัวการร้ายทำลายสุขภาพ ซึ่งโรคร้ายที่ทำลายสุขภาพชาวออฟฟิศมากที่สุด 6 โรค ก็คือ 1. ต้อหิน และตาพร่า ทำให้มองภาพได้ไม่ชัด ตาสู้แสงไม่ได้ และอาจลุกลามทำให้ตาบอดไ 2. ไมเกรน ปวดศีรษะ นอนไม่หลับ คลื่นไส้อ่อนเพลีย และเสียสมรรถภาพในการทำงาน 3. อาการนิ้วล็อค ทำให้นิ้วกระดิกไม่ได้ ตึง และรู้สึกเจ็บ กล้ามเนื้ออักเสบ 4. ปวดหลังเรื้อรัง รวมไปถึงอาการปวดไหล่ ต้นคอ ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้เป็นอัมพาตได้ 5. โรคอ้วน มีความเสี่ยงทำให้เป็นโรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจ ตลอดจนความดันโลหิตสูง 6. โรคกรดไหลย้อน เป็นสาเหตุของโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร และมะเร็งหลอดอาหาร สำหรับหนุ่มสาวออฟฟิศทั้งหลายที่เริ่มมีอาการนี้แล้ว หรือยังไม่มีก็ควรหันมาดูแลสุขภาพของตัวเองด้วยเคล็ดลับดังต่อไปนี้ – อย่าเพ่งจ้องจอคอมพิวเตอร์นานเกินไป ควรพักผ่อนสายตาบ้าง…

  • ประโยชน์สุด ๆ ของโยเกิร์ต

    ประโยชน์สุด ๆ ของโยเกิร์ต

    ประโยชน์สุด ๆ ของโยเกิร์ต โยเกิร์ตเป็นผลิตภัณฑ์นมที่หาซื้อมาทานได้ง่าย มีหลายรสชาติให้เลือกนะคะ  แล้วยังมีประโยชน์ต่อร่างกายแบบอเนกอนันต์เลยทีเดียว  ในโยเกิร์ตหนึ่งด้วยนั้นประกอบไปด้วยสารอาหารที่ช่วยบำรุงและรักษาร่างกายกว่า 11 ชนิด  ซึ่งแต่ละชนิดมีประโยชน์อย่างยิ่งยวดต่อร่างกาย ได้แก่   แคลเซียม ฟอสฟอรัส ไอโอดีน วิตามินบี 2 วิตามินบี 5 วิตามินบี 12 โปรตีน โพแทสเซียม สังกะสี ทริปโทฟาน และโมลิปเดนัม  การทานโยเกิร์ตเพียงถ้วยเดียว ช่วยเติมเต็มสารอาหารหลาย ๆ ชนิดได้ในคราวเดียว นอกเหนือจากสารอาหารข้างต้นแล้ว ในโยเกิร์ตยังมีเชื้อจุลินทรีย์ ที่มีประโยชน์ต่อการย่อยอาหารและมีประโยชน์ต่อลำไส้ ช่วยฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ตัวเลวในลำไส้ได้ จึงช่วยบรรเทาอาการท้องเสียได้อย่างรวดเร็วเลยทีเดียว อีกทั้งยังมีไขมันที่สำคัญชื่อว่า  คอนจูเกตเต็ดไลโนเลอิก ช่วยป้องกันทั้งโรคหัวใจ และลดความเสี่ยงการเกิดโรคเหงือกได้ด้วย ฯลฯ การทานโยเกิร์ตจึงเป็นการสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกาย เปรียบดั่งเป็นยาอายุวัฒนาที่ดีต่อสุขภาพ  โดยเฉพาะผู้สูงอายุ เพราะทานได้ง่าย  ทั้งยังมีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นการเผาผลาญ มีแคลเซียมสูง ช่วยลดความเครียด ป้องกันมะเร็งลำไส้ โรคความดันโลหิตสูง และป้องกันอาการกระดูกพรุนได้  จุลินทรีย์โยเกิร์ตยังช่วยลดกลิ่นปาก ช่วยกำจัดเชื้อแบคทีเรียแย่ ๆ ในช่องปากได้อย่างมีประสิทธิภาพ รู้อย่างนี้แล้วอย่าลืมหาโยเกิร์ตมาทานกันนะคะ

  • ประสบการณ์การ เป็นโรคอีสุกอีใสในวันสงกรานต์

    ประสบการณ์การ เป็นโรคอีสุกอีใสในวันสงกรานต์

    ประสบการณ์การเป็นโรคอีสุกอีใสในวันสงกรานต์ วันนี้จะมาขอเล่าประสบการณ์การเป็นอีสุกอีใสในช่วงเวลาสงกรานต์ให้ฟังกัน แม้ตอนนี้จะหายเป็นปกติแล้ว จะเหลือก็เพียงร่อยรอยของตุ่มที่แห้งและกำลังตกสะเก็ด เลยจะมารวบรวมข้อมูลไว้เผื่อจะมีประโยชน์ต่อคนอื่น ๆ ในอนาคตบ้างนะครับ โรคอีสุกอีใส หรือในภาษาอังกฤษว่า Chickenpox นั้นเป็นโรคที่เกิดจากไวรัสวาริเซลลา มีอาการเป็นผื่นแดงราบ ตุ่มใส ตุ่มหนอง กระจายตามลำตัว แผ่นหลัง ใบหน้า และมีไข้ร่วมด้วย ต้นเหตของโรคเกิดจาก ไวรัสวาริเซลลา หรือ Human herpes virus type3 เป็นไว้รัสชนิดเดียวที่ทำให้เกิดโรคงูสวัด สามารถติดต่อได้ด้วยการสัมผัสถูกตุ่มน้ำโดยตรง หรือสัมผัสถูกของใช้ที่ผู้ที่ป่วยเป็นอีสุกอีใสหรืองูสวัดใช้อยู่ รวมทั้งการสูดหายใจเอาละลองของตุ่มน้ำ ผ่านทางเยื่อเมือกมีระยะฟักตัวประมาณ 10-20 วัน สำหรับในรายที่เป็นงูสวัด สามารถติดต่อในรูปแบบของอีสุกอีใสได้ โดยเฉพาะมารดาที่ให้นมบุตร หากมารดางูสวัด ลูกก็อาจเป็นอีสุกอีใสได้ อาการของโรคนั้น หากเป็นเด็กจะมีไข้ต่ำ ๆ มีอาการอ่อนเพลียและเบื่ออาหาร ส่วนในผู้ใหญ่จะมีไข้สูง ปวดเมื่อยตามเนื้อตัวคล้ายไข้หวัด แต่ก็จะมีผื่นขึ้นไปด้วยตั้งแต่วันที่เริ่มมีไข้ หรือหลังจากมีไข้แล้วหนึ่งวัน ซึ่งในช่วงแรกผื่นจะเป็นผื่นแดงราบก่อน แล้วจึงกลายมาเป็นตุ่มนูน มีน้ำใส ๆ และคัน ต่อมาอีก 2-3 วันจะตกสะเก็ด โดยจะเกิดขึ้นไล่จากไรผมก่อนแล้วกระจายไปตามใบหน้าและลำตัว แผ่นหลัง…

  • ประโยชน์ของวิตามินซีที่มีต่อร่างกายของเรา

    ประโยชน์ของวิตามินซีที่มีต่อร่างกายของเรา

    ประโยชน์ของวิตามินซีที่มีต่อร่างกายของเรา คุณสมบัติเด่น ๆ ของวิตามินซีเลยก็คือ การที่มีคุณสมบัติเป็นวิตามินที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ นั่นเอง ซึ่งประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับจากการบริโภควิตามินซีอย่างพอเพียงและเป็นประจำก็คือ 1. ทำให้ร่างกายมีภูมิต้านทานสูงขึ้น 2. ช่วยป้องกันการก่อตัวของเซลล์มะเร็งในร่างกาย 3. ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง สดใส ไม่เหี่ยวย่นก่อนวัน 4. ป้องกันโรคเหงือก โรคในช่องปากต่าง ๆ เช่น โรคลักปิดลักเปิด หรือโรคเหงือกอักเสบได้ ฯลฯ และในทางกลับกันหากร่างกายของเราได้รับวิตามินซีไม่เพียงต่อความต้องการ ก็อาจก่อผลเสียได้ดังต่อไปนี้ 1. มีภูมิต้านทานโรคต่ำ เป็นหวัดและติดเชื้อได้ง่าย กับทั้งความสามารถในการกำจัดพิษยังลดลงอีกด้วย 2. ผิวหนังเหี่ยวย่น ไม่สดใส ขาดความยืดหยุ่น ปรากฏจุดด่างดำ และเกิดโรคเลือดออกตามไรฟัน 3. ประสาทสัมผัสด้อยลง อ่อนเพลีย ไม่สดใส ไม่มีเรี่ยวแรง 4. มีความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งตับ มะเร็งกระเพาะ และมะเร็งในส่วนอื่น ๆ 5. การทำงานของต่อมหมวกไตลดลง และเป็นโรคภูมิแพ้ได้ง่าย 6. ทำให้เป็นโรคโลหิตจาง หรือโรคอื่น ๆ ได้ง่าย แผลหายช้า อ่านแล้วอย่าเพิ่งเครียดไป…

  • เฝ้าระวังมะเร็งเต้านม สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้

    เฝ้าระวังมะเร็งเต้านม สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้

    เฝ้าระวังมะเร็งเต้านม สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ นายแพทย์ กฤษณ์ จาฏามระ ที่ปรึกษากิตติม ศักดิ์ ของโรงพยาบาล บีเอ็นเอช   ได้อธิบายว่าโรคมะเร็งเต้านมนั้น หนึ่งในหลายสาเหตุของโรคอาจเกิดจากพันธุกรรมที่ถ่ายทอดกันมาในครอบครัวได้  ซึ่งผู้ป่วยอาจเป็นญาติสายตรง เป็นมะเร็งเต้านมมาก่อน เช่น แม่ ป้า หรือพี่สาว  ดังนั้นความเสี่ยงที่คนในครอบครัวจะเป็นมะเร็งเต้านมก็สูงกว่าในครอบครัวของผู้ที่ไม่มีผู้ป่วยมะเร็งเต้านม แต่แม้จะมีจำนวนผู้ป่วยมะเร็งเต้านมในครอบครัวหลายคนก็ไม่ได้หมายความว่าคนในครอบครัวจะต้องเป็นมะเร็งเต้านมอย่างแน่นอนทุกคน  เพียงแต่มีความเสี่ยงมากกว่าเท่านั้นเอง  จึงมิควรที่จะต้องกังวลว่าตนเองจะต้องเป็นแน่ ๆ  ซึ่งวิธีที่ดีที่สุดก็คือการตรวจคัดกรองการเป็นมะเร็งเต้านม ด้วยการตรวจอัลตราซาวน์ หรือการตรวจแมมโมแกรม 3 มิติ ที่ให้ผลอย่างแม่นยำ รวมทั้งการตรวจเอ็มอาร์ไอสำหรับการคัดกรองมะเร็งเต้านมโดยเฉพาะได้ สำหรับผู้ที่ตรวจพบว่าตนเองเป็นมะเร็งเต้านมในระยะเริ่มต้นแล้ว ก็อย่าเพิ่งกังวลใจ เพราะมะเร็งระยะแรกนั้นสามารถรักษาให้หายขาดได้  ดังนั้นหากกังวลเพราะมีคนในครอบครัวเป็นมะเร็งกันหลายคน  การหมั่นตรวจสุขภาพด้วยการคัดกรองมะเร็งเต้านม จึงเป็นการดูแลตัวเองและป้องกันได้อย่างดีที่สุด เพื่อที่เมื่อตรวจพบแล้วจะสามารถรักษาได้ทันท่วงที

  • เมนูอาหารก่อมะเร็ง.. ถ้าไม่อยากเป็นก็ต้องเลี่ยงนะ

    เมนูอาหารก่อมะเร็ง.. ถ้าไม่อยากเป็นก็ต้องเลี่ยงนะ

    เมนูอาหารก่อมะเร็ง.. ถ้าไม่อยากเป็นก็ต้องเลี่ยงนะ ต่อไปนี้เป็นเมนูอาหารที่ก่อมะเร็งได้ เพราะมีสารก่อมะเร็งแฝงอยู่ มาดูกันเป็นข้อเลยจะได้หลีกเลี่ยงได้ถูกนะคะ 1. อาหารจากน้ำมันทอดซ้ำ 2. อาหารพวกเนื้อสัตว์หมักดอง ทุกประเภท 3. อาหารอบปิ้งย่างที่ไหม้เกรียม 4. อาหารที่ทำจากปลาน้ำจืดดิบหรือสุกๆ ดิบๆ 5. อาหารรสเค็ม 6. อาหารขึ้นราที่มีสารอะฟลาทอกซิน 7. อาหารฟาสต์ฟู้ด ไม่ว่าจะเป็นพวกเบอร์เกอร์ ฮอตด็อก มันฝรั่งทอดต่าง ๆ 8. อาหารที่มีไขมันสูง นอกจากทำให้เกิดมะเร็งแล้วยังทำให้อ้วนซึ่งเป็นสาเหตุของมะเร็งได้อีก 9. อาหารที่มีสารพิษตกค้าง เช่น ยาฆ่าแมลงในผักผลไม้ ทำให้มีความเสี่ยงในการเกิด มะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลัน มะเร็งต่อมน้ำเหลือง และมะเร็งสมอง, สารหนูที่เป็นสาเหตุของมะเร็งผิวหนัง มะเร็งปอด และมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ รวมไปถึงพวกฟอร์มาลีนด้วย 10. สารสไตรีนที่เป็นส่วนประกอบของกล่องโฟมใส่อาหาร ซึ่งจะละลายออกมาในอุณหภูมิสูง ๆ ดังนั้นอย่านำไปใส่อาหารที่มีไขมันที่มีความร้อนสูง รวมทั้งแอลกอฮอล์ด้วยเพราะจะทำให้คุณได้รับสารก่อมะเร็งมากขึ้น รายการอาหารทั้งสิบรายการข้างต้น ถ้านาน ๆ ทานทีก็พอไหว แต่ถ้าไม่อยากเป็นมะเร็งก็อย่าทานบ่อย หรือทานซ้ำ ๆ นะคะ  

  • 11  เทคนิคการทานอาหารเพื่อสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง

    11 เทคนิคการทานอาหารเพื่อสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง

    11  เทคนิคการทานอาหารเพื่อสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง การทานอาหารให้ครบถ้วนทั้งห้าหมู่ ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและไม่เจ็บป่วยได้ง่าย ซึ่งจะบอกว่าง่าย ๆ แสนง่าย แต่ทำไมบางคนก็ยังเป็นโรคขาดสารอาหารบางประเภทอยู่ดี บางทีอาจจะเป็นเพราะไม่รู้จักเทคนิคการทานอาหารให้ถูกต้องก็ได้ วันนี้มาลองดูเทคนิคการทานอาหารหลาย ๆ ข้อ ที่สรุปออกมาเป็นกฎง่าย ๆ ให้คุณไปลองทำตามกันนะคะ 1. ต้องทานอาหารเช้า อาหารเช้าจะทำให้คุณมีพลังสดใสไปได้ทั้งวัน ช่วยลดอัตราความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ ลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด การทานอาหารเช้ายังทำให้หิวอาหารมื้ออื่น ๆ ลดลงอีกด้วย ซึ่งเวลาในการทานอาหารเช้าควรอยู่ในช่วง เจ็ดโมงถึงไม่เกินเก้าโมงเช้า เพราะเป็นระยะเวลาที่กระเพาะอาหารเริ่มทำงาน หากไม่มีอาหารตกถึงท้องในช่วงนี้ กระเพาะอาหารก็จะไปดูดสารอาหารจากอุจจาระออกมา .. ฟังแบบนี้แล้วจะทานข้าวเช้าไหม? 2. เปลี่ยนไปใช้น้ำมันที่แม้จะมีราคาแพง แต่ดีต่อสุขภาพดีกว่า อย่างน้ำมันมะกอกหรือน้ำมันดอกทานตะวัน เหล่านี้มีกรดไขมันอิ่มตัวที่มีประโยชน์ ช่วยลดไขมันในเส้นเลือดได้ มีสารต้านอนุมูลอิสระ จึงช่วยยับยั้งการก่อมะเร็ง มีเบต้าคาโรทีนและวิตามินเอสูง ป้องกันโรคผิวหนังและริ้วรอยเหี่ยวย่นอื่น ๆ 3. ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ลิตรขึ้นไป เพราะน้ำจะช่วยให้ร่างกายสดชื่นได้ตลอดวัน ช่วยขับถ่ายของเสียง หล่อเลี้ยงเซลล์ในร่างกายให้ชุ่มชื่น รักษาความเข้มข้นของเลือดให้เป็นปกติ โดยให้ดื่มน้ำตามเวลาดังนี้ – ตื่นเช้า ดื่มน้ำ 1 แก้วหรือประมาณ…

  • การป้องกันอันตรายจากโรคไวรัสเอชพีวี

    การป้องกันอันตรายจากโรคไวรัสเอชพีวี

    การป้องกันอันตรายจากโรคไวรัสเอชพีวี ไวรัสเอชพีวีนั้น เป็นสาเหตุหลักของการเกิดมะเร็งปากมดลูก หูดหงอนไก่ มะเร็งองคชาต และมะเร็งทวารหนักอีกด้วย  และจากการลงสนามเก็บตัวอย่างสิ่งแวดล้อมของหน่วยไวรัสวิทยา ภาควิชาพยาธิวิทยา  คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีนั้น พบว่าสถานที่ที่สามารถตรวจพบเชื้อไวรัสเอชพีวีได้ มักเป็นที่เย็น ชื้น และไม่มีแสงแดดส่องเข้าถึง  อีกทั้งเป็นสถานที่ที่เป็นสถานบันเทิง ที่มีกลุ่มวัยรุ่น ผู้ใหญ่ตอนต้น ที่ยังอยู่ในวัยเจริญพันธุ์ ซึ่งมีการติดต่อและแพร่เชื้อไวรัสเอชพีวีได้สูงสุด ด้วย ซึ่งการระวังและป้องกันเบื้องต้นก็คือการล้างมือให้สะอาด ทั้งก่อนและหลังการเข้าห้องน้ำทุกครั้ง เพื่อลดปริมาณเชื้อที่อาจติดมาโดยไม่รู้ตัว  นอกจากนี้ยังสามารถป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้โดยลดพฤติกรรมเสี่ยงตรวจคัดกรองเพื่อตรวจหาความผิดปกติที่ปากมดลูกเพื่อให้การรักษาก่อนที่จะกลายเป็นมะเร็งปากมดลูก หรือใช้วิธีฉีดวัคซีนป้องกันร่วงด้วย  โดยปัจจุบันนี้มีวัคซีนเอชพีวีที่ควรให้เด็กผู้หญิงวัยก่อนมีเพศสัมพันธ์ช่วงอายุ 11-12 ปีฉีดจำนวนสามเข็ม  เมื่อฉีดแล้วจะป้องกันการติดเชื้อเอชพีวีได้อย่างน้อย 30 ปีโดยไม่ต้องฉีดกระตุ้น  อีกทั้งในบางประเทศยังฉีดให้เด็กผู้ชายด้วย ในส่วนของคุณพ่อคุณแม่ทั้งหลาย ก็ควรสอนลูก ๆ ให้ป้องกันและระวังตัวด้วยการสอนให้ล้างมือให้สะอาดเมื่อเข้าไปในสถานที่สาธารณะต่าง ๆ อีกทั้งยังควรพาลูก ๆ ไปฉีดวัคซีนให้ครบเมื่อถึงอายุกำหนดด้วยก็จะเป็นการป้องกันไว้ก่อนได้  

  • โรคท้องเสีย อาการธรรมดาที่อาจไม่ธรรมดา

    โรคท้องเสีย อาการธรรมดาที่อาจไม่ธรรมดา

    โรคท้องเสีย  อาการธรรมดาที่อาจไม่ธรรมดา อย่าเพิ่งแปลกใจที่หัวข้อเรื่องนี้อาจขัดความคิดของใครหลาย ๆ คน เพราะเข้าใจมาตลอดว่าอาการท้องเสียนั้นเป็นเรื่องธรรมดา แต่บทความในวันนี้จะนำคุณผู้อ่านได้ไปเห็นว่าความจริงแล้วอาการท้องเสียนั้น อาจนำไปสู่อาการที่คาดไม่ถึงและเสียชีวิตได้เช่นกัน หากชะล่าใจ เรามาระแวดระวังเรื่องนี้ด้วยการใส่ใจกับอาการท้องเสียและหาความรู้กันใหม่ก่อนดีกว่า โรคท้องร่วง ท้องเสีย หรืออุจจาระร่วงนั้น หมายถึงการถ่ายอุจจาระเหลว หรืออุจจาระเป็นน้ำเกินกว่า 2 ครั้งในวันเดียว หรือการอุจจาระเป็นมูกปนเลือดเพียงครั้งเดียวก็ถือว่าท้องเสียแล้ว ซึ่งในอดีตนั้นจะเรียกการถ่ายอุจจาระที่ปนมูกเลือดว่าเป็นโรคบิด เพราะผู้ป่วยจะมีอาการปวดบิดในท้องขณะที่เบ่งอุจจาระไปด้วย โรคท้องเสียนั้นแบ่งออกได้เป็นสองชนิดก็คือ 1. โรคท้องเสียแบบเฉียบพลัน มักจะเกิดจากอาหารเป็นพิษ หรือติดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย พยาธิในลำไส้ 2. โรคท้องเสียแบบเรื้อรัง ซึ่งมักมีอาการท้องเสียนานกว่า 2 อาทิตย์เป็นต้นไป มักไม่ได้เกิดจากอาหารเป็นพิษ หรือติดเชื้อ แต่เกิดจากการย่อยอาหารและการดูดซึมที่ผิดปกติ การอักเสบจากภูมิแพ้ หรือติดเชื้อ ตลอดจนเป็นมะเร็งในทางเดินอาหาร ดังนั้นโรคท้องเสียชนิดนี้จึงเป็นเรื่องไม่ธรรมดา หรือแม้แต่ท้องเสียแบบเฉียบพลันเอง ก็อาจพบได้ว่าทำให้เสียชีวิตได้เหมือนกัน ถ้าได้รับการรักษาไม่ถูกต้องหรือช้าเกินไป ส่วนใหญ่การเสียชีวิตจะเกิดจากภาวะช็อก หรือภาวะที่เกิดจากการขาดน้ำและเกลือแร่เป็นจำนวนมาก ส่วนน้อยที่จะเกิดจากภาวะโลหิตเป็นพิษ ซึ่งทั้งสองแบบมีอาการเตือนแต่อาจถถูกละเลยจากแพทย์และผู้ป่วยเอง เพราะถ้าสังเกตได้ทันก็จะรอดชีวิต ซึ่งทุกคนควรสังเกตอาการเหล่านี้เอาไว้ โดยสัญญาณอันตรายมีทั้งหมด 6 ข้อดังต่อไปนี้ และผุ้ป่วยต้องรีบบอกแพทย์ไม่ว่าแพทย์จะถามหรือไม่ก็ตาม อีกทั้งสัญญาณเตือน 6 ข้อนี้ยังสามารถใช้กับโรคที่เกิดอาการช็อกแทรกซ้อนอื่น…

  • มาดูกันว่า อาหารชนิดไหน ทำให้คุณอายุยืนมากกว่ากัน

    มาดูกันว่า อาหารชนิดไหน ทำให้คุณอายุยืนมากกว่ากัน

    มาดูกันว่า อาหารชนิดไหน ทำให้คุณอายุยืนมากกว่ากัน อาหารแต่ละชนิดนั้น แม้จะมีคุณค่าทางอาหารเหมือนกัน แต่กลับเพิ่มโอกาสให้มีอายุยืนมากขึ้น ไม่เท่ากัน ลองมาดูตัวเลขกันนะคะ ว่าอาหารชนิดไหนจะให้โอกาสสุขภาพดีและอายุที่ยืนมากกว่า ผักสด เพิ่มโอกาสอายุยืนขึ้น 16% ผักในสลัด เพิ่มโอกาสอายุยืนขึ้น 13% ผลไม้แห้ง เพิ่มโอกาสอายุยืนขึ้น 9% หากเป็นของที่ทำให้สุกแล้ว.. ผักปรุงสุกพร้อมอาหาร เพิ่มโอกาสอายุยืนขึ้น 8% ผลไม้ปรุงสุกในขนม เพิ่มโอกาสอายุยืนขึ้น 7% ถั่วเมล็ดแห้ง เพิ่มโอกาสอายุยืนขึ้น 5% ผลไม้ในรูปแบบต่าง ๆ กัน ผลไม้ เพิ่มโอกาสอายุยืนขึ้น 4% น้ำผลไม้ (ไม่เติมน้ำตาล) เพิ่มโอกาสอายุยืนขึ้น 3% ผลไม้กระป๋อง – แช่แข็ง (เติมน้ำตาล) เพิ่มโอกาสอายุยืนขึ้น -17% (ตัวเลขติดลบก็หมายถึงเพิ่มโอกาสเสียชีวิตนั่นเอง) สรุปได้ว่า หากเป็นผักหรือผลไม้สดทั้งผล จะดีที่สุด รองลงมาก็คือ ผักผลไม้ทั้งผล ถั่ว ที่ทำให้สุกแล้ว ส่วนที่พอไหวก็คือน้ำผลไม้ แต่ไม่ใส่น้ำตาล ส่วนผลไม้หรือน้ำผลไม้ที่ใส่น้ำตาลหรือน้ำเชื่อม…