Tag: มะเร็ง
-
ประโยชน์ของผิวส้มและเนื้อส้มที่มีต่อสุขภาพของเรา
ประโยชน์ของผิวส้มและเนื้อส้มที่มีต่อสุขภาพของเรา เชื่อไหมว่า “ส้ม” เนี่ย มีประโยชน์ต่อสุขภาพของเราทั้งผล ไม่ว่าจะเป็นเปลือกภายนอกตลอดจนเนื้อส้มภายใน มาลองดูกันทีละส่วนเลยค่ะว่า แต่ละส่วนของส้มนั้นมีผลต่อสุขภาพของเราอย่างไรได้บ้าง เริ่มเลยค่ะ 1. เนื้อของส้ม เนื้อส้มมีวิตามินซี และเบต้าแคโรทีนสูงมาก เนื้อส้มเพียง 100 กรัม สามารถให้วิตามินซีและเบต้าแคโรทีนที่เพียงพอสำหรับร่างกายแต่ละวันแล้ว นอกจากทำให้ผิวสวย ด้วยคุณสมบัติของการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระของวิตามินซี จึงช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยบนผิว ทำให้ผลิตคอลลาเจนได้มากขึ้น ผิวจึงสวยใสแลดูอ่อนกว่าวัย และเสริมพลังด้วยเบต้าแคโรทีน ที่ช่วยให้ผนังหลอดเลือดและเส้นฝอยแข็งแรง จึงลดอาการเส้นเลือดฝอยแตกตามผิวกายส่วนต่าง ๆ ได้ ทั้งยังทำให้เส้นผมและเล็บแข็งแรง วิตามินซียังช่วยป้องกันโรคลักปิดลักเปิดหรือโรคเลือดออกตามไรฟันได้ด้วย 2. ผิวส้ม หรือเปลือกส้ม ประโยชน์ของเปลือกส้มอยู่ที่น้ำมันหอมระเหยบนเปลือก ที่ช่วยสลายความเครียด และความเมื่อยล้า ช่วยให้ร่างกายและความคิดได้ผ่อนคลาย เพียงนำน้ำมันหอมระเหยอมาสูดดมหรือนวดตามร่างกายส่วนร่าง ๆ ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายในขณะที่กระตุ้นระบบประสาทได้อีก อีกทั้งยังมีการวิจัยของเภสัชกรในอังกฤษที่ค้นพบว่าเปลือกส้มมีฤทธิ์ในการทำลายเซลล์มะเร็งได้ โดยเฉพาะในเปลือกของส้มเขียวหวานที่สามารถทำลายเซลล์มะเร็งได้บางชนิด ซึ่งในอนาคตอาจมีการพัฒนาขึ้นไปสู่การบำบัดโรคมะเร็งแนวใหม่ได้ ว่าแล้ววันนี้ออกไปส้มมาทานกันดีกว่าค่ะ
-
ระวัง! 6 โรคยอดฮิตมนุษย์ออฟฟิศบ้าพลัง
ระวัง! 6 โรคยอดฮิตมนุษย์ออฟฟิศบ้าพลัง สำหรับหนุ่มสาวออฟฟิศที่ทำงานกันหามรุ่งหามค่ำ แม้ตอนนี้จะยังมีร่างกายแข็งแรงอยู่ แต่ก็ใช่ว่าการทำงานใช้ร่างกายอย่างหนักหน่วงนั้นจะไม่สร้างปัญหาให้กับร่างกายนะคะ เพราะจากการวิจัยและสำรวจมาหลายสิบปีในวงการแพทย์ พบว่าเหล่ามนุษย์ออฟฟิศทั้งหลายนั้นมีอัตราความเจ็บป่วยจากการทำงานในปริมาณที่เพิ่มสูงขึ้นทุกปีอย่างน่ากลัว นั่นเป็นเพราะชาวออฟฟิศทั้งหลายมักปล่อยให้ปีศาจร้ายทำลายสุขภาพอย่าง โรคเครียด, การทำงานนานเกินไป, พฤติกรรมกินอาหารไม่ตรงเวลา และไม่ยอมออกกำลังกาย เหล่านี้มาเป็นตัวการร้ายทำลายสุขภาพ ซึ่งโรคร้ายที่ทำลายสุขภาพชาวออฟฟิศมากที่สุด 6 โรค ก็คือ 1. ต้อหิน และตาพร่า ทำให้มองภาพได้ไม่ชัด ตาสู้แสงไม่ได้ และอาจลุกลามทำให้ตาบอดไ 2. ไมเกรน ปวดศีรษะ นอนไม่หลับ คลื่นไส้อ่อนเพลีย และเสียสมรรถภาพในการทำงาน 3. อาการนิ้วล็อค ทำให้นิ้วกระดิกไม่ได้ ตึง และรู้สึกเจ็บ กล้ามเนื้ออักเสบ 4. ปวดหลังเรื้อรัง รวมไปถึงอาการปวดไหล่ ต้นคอ ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้เป็นอัมพาตได้ 5. โรคอ้วน มีความเสี่ยงทำให้เป็นโรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจ ตลอดจนความดันโลหิตสูง 6. โรคกรดไหลย้อน เป็นสาเหตุของโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร และมะเร็งหลอดอาหาร สำหรับหนุ่มสาวออฟฟิศทั้งหลายที่เริ่มมีอาการนี้แล้ว หรือยังไม่มีก็ควรหันมาดูแลสุขภาพของตัวเองด้วยเคล็ดลับดังต่อไปนี้ – อย่าเพ่งจ้องจอคอมพิวเตอร์นานเกินไป ควรพักผ่อนสายตาบ้าง…
-
ประสบการณ์การ เป็นโรคอีสุกอีใสในวันสงกรานต์
ประสบการณ์การเป็นโรคอีสุกอีใสในวันสงกรานต์ วันนี้จะมาขอเล่าประสบการณ์การเป็นอีสุกอีใสในช่วงเวลาสงกรานต์ให้ฟังกัน แม้ตอนนี้จะหายเป็นปกติแล้ว จะเหลือก็เพียงร่อยรอยของตุ่มที่แห้งและกำลังตกสะเก็ด เลยจะมารวบรวมข้อมูลไว้เผื่อจะมีประโยชน์ต่อคนอื่น ๆ ในอนาคตบ้างนะครับ โรคอีสุกอีใส หรือในภาษาอังกฤษว่า Chickenpox นั้นเป็นโรคที่เกิดจากไวรัสวาริเซลลา มีอาการเป็นผื่นแดงราบ ตุ่มใส ตุ่มหนอง กระจายตามลำตัว แผ่นหลัง ใบหน้า และมีไข้ร่วมด้วย ต้นเหตของโรคเกิดจาก ไวรัสวาริเซลลา หรือ Human herpes virus type3 เป็นไว้รัสชนิดเดียวที่ทำให้เกิดโรคงูสวัด สามารถติดต่อได้ด้วยการสัมผัสถูกตุ่มน้ำโดยตรง หรือสัมผัสถูกของใช้ที่ผู้ที่ป่วยเป็นอีสุกอีใสหรืองูสวัดใช้อยู่ รวมทั้งการสูดหายใจเอาละลองของตุ่มน้ำ ผ่านทางเยื่อเมือกมีระยะฟักตัวประมาณ 10-20 วัน สำหรับในรายที่เป็นงูสวัด สามารถติดต่อในรูปแบบของอีสุกอีใสได้ โดยเฉพาะมารดาที่ให้นมบุตร หากมารดางูสวัด ลูกก็อาจเป็นอีสุกอีใสได้ อาการของโรคนั้น หากเป็นเด็กจะมีไข้ต่ำ ๆ มีอาการอ่อนเพลียและเบื่ออาหาร ส่วนในผู้ใหญ่จะมีไข้สูง ปวดเมื่อยตามเนื้อตัวคล้ายไข้หวัด แต่ก็จะมีผื่นขึ้นไปด้วยตั้งแต่วันที่เริ่มมีไข้ หรือหลังจากมีไข้แล้วหนึ่งวัน ซึ่งในช่วงแรกผื่นจะเป็นผื่นแดงราบก่อน แล้วจึงกลายมาเป็นตุ่มนูน มีน้ำใส ๆ และคัน ต่อมาอีก 2-3 วันจะตกสะเก็ด โดยจะเกิดขึ้นไล่จากไรผมก่อนแล้วกระจายไปตามใบหน้าและลำตัว แผ่นหลัง…
-
ประโยชน์ของวิตามินซีที่มีต่อร่างกายของเรา
ประโยชน์ของวิตามินซีที่มีต่อร่างกายของเรา คุณสมบัติเด่น ๆ ของวิตามินซีเลยก็คือ การที่มีคุณสมบัติเป็นวิตามินที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ นั่นเอง ซึ่งประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับจากการบริโภควิตามินซีอย่างพอเพียงและเป็นประจำก็คือ 1. ทำให้ร่างกายมีภูมิต้านทานสูงขึ้น 2. ช่วยป้องกันการก่อตัวของเซลล์มะเร็งในร่างกาย 3. ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง สดใส ไม่เหี่ยวย่นก่อนวัน 4. ป้องกันโรคเหงือก โรคในช่องปากต่าง ๆ เช่น โรคลักปิดลักเปิด หรือโรคเหงือกอักเสบได้ ฯลฯ และในทางกลับกันหากร่างกายของเราได้รับวิตามินซีไม่เพียงต่อความต้องการ ก็อาจก่อผลเสียได้ดังต่อไปนี้ 1. มีภูมิต้านทานโรคต่ำ เป็นหวัดและติดเชื้อได้ง่าย กับทั้งความสามารถในการกำจัดพิษยังลดลงอีกด้วย 2. ผิวหนังเหี่ยวย่น ไม่สดใส ขาดความยืดหยุ่น ปรากฏจุดด่างดำ และเกิดโรคเลือดออกตามไรฟัน 3. ประสาทสัมผัสด้อยลง อ่อนเพลีย ไม่สดใส ไม่มีเรี่ยวแรง 4. มีความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งตับ มะเร็งกระเพาะ และมะเร็งในส่วนอื่น ๆ 5. การทำงานของต่อมหมวกไตลดลง และเป็นโรคภูมิแพ้ได้ง่าย 6. ทำให้เป็นโรคโลหิตจาง หรือโรคอื่น ๆ ได้ง่าย แผลหายช้า อ่านแล้วอย่าเพิ่งเครียดไป…
-
เฝ้าระวังมะเร็งเต้านม สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้
เฝ้าระวังมะเร็งเต้านม สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ นายแพทย์ กฤษณ์ จาฏามระ ที่ปรึกษากิตติม ศักดิ์ ของโรงพยาบาล บีเอ็นเอช ได้อธิบายว่าโรคมะเร็งเต้านมนั้น หนึ่งในหลายสาเหตุของโรคอาจเกิดจากพันธุกรรมที่ถ่ายทอดกันมาในครอบครัวได้ ซึ่งผู้ป่วยอาจเป็นญาติสายตรง เป็นมะเร็งเต้านมมาก่อน เช่น แม่ ป้า หรือพี่สาว ดังนั้นความเสี่ยงที่คนในครอบครัวจะเป็นมะเร็งเต้านมก็สูงกว่าในครอบครัวของผู้ที่ไม่มีผู้ป่วยมะเร็งเต้านม แต่แม้จะมีจำนวนผู้ป่วยมะเร็งเต้านมในครอบครัวหลายคนก็ไม่ได้หมายความว่าคนในครอบครัวจะต้องเป็นมะเร็งเต้านมอย่างแน่นอนทุกคน เพียงแต่มีความเสี่ยงมากกว่าเท่านั้นเอง จึงมิควรที่จะต้องกังวลว่าตนเองจะต้องเป็นแน่ ๆ ซึ่งวิธีที่ดีที่สุดก็คือการตรวจคัดกรองการเป็นมะเร็งเต้านม ด้วยการตรวจอัลตราซาวน์ หรือการตรวจแมมโมแกรม 3 มิติ ที่ให้ผลอย่างแม่นยำ รวมทั้งการตรวจเอ็มอาร์ไอสำหรับการคัดกรองมะเร็งเต้านมโดยเฉพาะได้ สำหรับผู้ที่ตรวจพบว่าตนเองเป็นมะเร็งเต้านมในระยะเริ่มต้นแล้ว ก็อย่าเพิ่งกังวลใจ เพราะมะเร็งระยะแรกนั้นสามารถรักษาให้หายขาดได้ ดังนั้นหากกังวลเพราะมีคนในครอบครัวเป็นมะเร็งกันหลายคน การหมั่นตรวจสุขภาพด้วยการคัดกรองมะเร็งเต้านม จึงเป็นการดูแลตัวเองและป้องกันได้อย่างดีที่สุด เพื่อที่เมื่อตรวจพบแล้วจะสามารถรักษาได้ทันท่วงที
-
เมนูอาหารก่อมะเร็ง.. ถ้าไม่อยากเป็นก็ต้องเลี่ยงนะ
เมนูอาหารก่อมะเร็ง.. ถ้าไม่อยากเป็นก็ต้องเลี่ยงนะ ต่อไปนี้เป็นเมนูอาหารที่ก่อมะเร็งได้ เพราะมีสารก่อมะเร็งแฝงอยู่ มาดูกันเป็นข้อเลยจะได้หลีกเลี่ยงได้ถูกนะคะ 1. อาหารจากน้ำมันทอดซ้ำ 2. อาหารพวกเนื้อสัตว์หมักดอง ทุกประเภท 3. อาหารอบปิ้งย่างที่ไหม้เกรียม 4. อาหารที่ทำจากปลาน้ำจืดดิบหรือสุกๆ ดิบๆ 5. อาหารรสเค็ม 6. อาหารขึ้นราที่มีสารอะฟลาทอกซิน 7. อาหารฟาสต์ฟู้ด ไม่ว่าจะเป็นพวกเบอร์เกอร์ ฮอตด็อก มันฝรั่งทอดต่าง ๆ 8. อาหารที่มีไขมันสูง นอกจากทำให้เกิดมะเร็งแล้วยังทำให้อ้วนซึ่งเป็นสาเหตุของมะเร็งได้อีก 9. อาหารที่มีสารพิษตกค้าง เช่น ยาฆ่าแมลงในผักผลไม้ ทำให้มีความเสี่ยงในการเกิด มะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลัน มะเร็งต่อมน้ำเหลือง และมะเร็งสมอง, สารหนูที่เป็นสาเหตุของมะเร็งผิวหนัง มะเร็งปอด และมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ รวมไปถึงพวกฟอร์มาลีนด้วย 10. สารสไตรีนที่เป็นส่วนประกอบของกล่องโฟมใส่อาหาร ซึ่งจะละลายออกมาในอุณหภูมิสูง ๆ ดังนั้นอย่านำไปใส่อาหารที่มีไขมันที่มีความร้อนสูง รวมทั้งแอลกอฮอล์ด้วยเพราะจะทำให้คุณได้รับสารก่อมะเร็งมากขึ้น รายการอาหารทั้งสิบรายการข้างต้น ถ้านาน ๆ ทานทีก็พอไหว แต่ถ้าไม่อยากเป็นมะเร็งก็อย่าทานบ่อย หรือทานซ้ำ ๆ นะคะ
-
11 เทคนิคการทานอาหารเพื่อสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง
11 เทคนิคการทานอาหารเพื่อสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง การทานอาหารให้ครบถ้วนทั้งห้าหมู่ ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและไม่เจ็บป่วยได้ง่าย ซึ่งจะบอกว่าง่าย ๆ แสนง่าย แต่ทำไมบางคนก็ยังเป็นโรคขาดสารอาหารบางประเภทอยู่ดี บางทีอาจจะเป็นเพราะไม่รู้จักเทคนิคการทานอาหารให้ถูกต้องก็ได้ วันนี้มาลองดูเทคนิคการทานอาหารหลาย ๆ ข้อ ที่สรุปออกมาเป็นกฎง่าย ๆ ให้คุณไปลองทำตามกันนะคะ 1. ต้องทานอาหารเช้า อาหารเช้าจะทำให้คุณมีพลังสดใสไปได้ทั้งวัน ช่วยลดอัตราความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ ลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด การทานอาหารเช้ายังทำให้หิวอาหารมื้ออื่น ๆ ลดลงอีกด้วย ซึ่งเวลาในการทานอาหารเช้าควรอยู่ในช่วง เจ็ดโมงถึงไม่เกินเก้าโมงเช้า เพราะเป็นระยะเวลาที่กระเพาะอาหารเริ่มทำงาน หากไม่มีอาหารตกถึงท้องในช่วงนี้ กระเพาะอาหารก็จะไปดูดสารอาหารจากอุจจาระออกมา .. ฟังแบบนี้แล้วจะทานข้าวเช้าไหม? 2. เปลี่ยนไปใช้น้ำมันที่แม้จะมีราคาแพง แต่ดีต่อสุขภาพดีกว่า อย่างน้ำมันมะกอกหรือน้ำมันดอกทานตะวัน เหล่านี้มีกรดไขมันอิ่มตัวที่มีประโยชน์ ช่วยลดไขมันในเส้นเลือดได้ มีสารต้านอนุมูลอิสระ จึงช่วยยับยั้งการก่อมะเร็ง มีเบต้าคาโรทีนและวิตามินเอสูง ป้องกันโรคผิวหนังและริ้วรอยเหี่ยวย่นอื่น ๆ 3. ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ลิตรขึ้นไป เพราะน้ำจะช่วยให้ร่างกายสดชื่นได้ตลอดวัน ช่วยขับถ่ายของเสียง หล่อเลี้ยงเซลล์ในร่างกายให้ชุ่มชื่น รักษาความเข้มข้นของเลือดให้เป็นปกติ โดยให้ดื่มน้ำตามเวลาดังนี้ – ตื่นเช้า ดื่มน้ำ 1 แก้วหรือประมาณ…
-
การป้องกันอันตรายจากโรคไวรัสเอชพีวี
การป้องกันอันตรายจากโรคไวรัสเอชพีวี ไวรัสเอชพีวีนั้น เป็นสาเหตุหลักของการเกิดมะเร็งปากมดลูก หูดหงอนไก่ มะเร็งองคชาต และมะเร็งทวารหนักอีกด้วย และจากการลงสนามเก็บตัวอย่างสิ่งแวดล้อมของหน่วยไวรัสวิทยา ภาควิชาพยาธิวิทยา คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีนั้น พบว่าสถานที่ที่สามารถตรวจพบเชื้อไวรัสเอชพีวีได้ มักเป็นที่เย็น ชื้น และไม่มีแสงแดดส่องเข้าถึง อีกทั้งเป็นสถานที่ที่เป็นสถานบันเทิง ที่มีกลุ่มวัยรุ่น ผู้ใหญ่ตอนต้น ที่ยังอยู่ในวัยเจริญพันธุ์ ซึ่งมีการติดต่อและแพร่เชื้อไวรัสเอชพีวีได้สูงสุด ด้วย ซึ่งการระวังและป้องกันเบื้องต้นก็คือการล้างมือให้สะอาด ทั้งก่อนและหลังการเข้าห้องน้ำทุกครั้ง เพื่อลดปริมาณเชื้อที่อาจติดมาโดยไม่รู้ตัว นอกจากนี้ยังสามารถป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้โดยลดพฤติกรรมเสี่ยงตรวจคัดกรองเพื่อตรวจหาความผิดปกติที่ปากมดลูกเพื่อให้การรักษาก่อนที่จะกลายเป็นมะเร็งปากมดลูก หรือใช้วิธีฉีดวัคซีนป้องกันร่วงด้วย โดยปัจจุบันนี้มีวัคซีนเอชพีวีที่ควรให้เด็กผู้หญิงวัยก่อนมีเพศสัมพันธ์ช่วงอายุ 11-12 ปีฉีดจำนวนสามเข็ม เมื่อฉีดแล้วจะป้องกันการติดเชื้อเอชพีวีได้อย่างน้อย 30 ปีโดยไม่ต้องฉีดกระตุ้น อีกทั้งในบางประเทศยังฉีดให้เด็กผู้ชายด้วย ในส่วนของคุณพ่อคุณแม่ทั้งหลาย ก็ควรสอนลูก ๆ ให้ป้องกันและระวังตัวด้วยการสอนให้ล้างมือให้สะอาดเมื่อเข้าไปในสถานที่สาธารณะต่าง ๆ อีกทั้งยังควรพาลูก ๆ ไปฉีดวัคซีนให้ครบเมื่อถึงอายุกำหนดด้วยก็จะเป็นการป้องกันไว้ก่อนได้
-
รู้ทั้งรู้.. แต่เธอก็จะสูบต่อไป
รู้ทั้งรู้.. แต่เธอก็จะสูบต่อไป จากรายงานของสำนักข่าวซั่งไห่ เดลี่ ชี้ว่าหญิงสาวชาวเซี่ยงไฮ้นั้นสูบบุหรี่มากขึ้น เพราะต้องการหนีความเศร้า ความกดดันและสร้างปฏิสัมพันธ์ทางสังคม จากรายงานภายในที่ประชุมหน่วยโรคมะเร็งปอดนานาชาติแห่งมหานครเซี่ยงไฮ้ เผยว่ามีหญิงเซี่ยงไฮ้ร้อยละ 3.7 ที่สูบบุหรี่แต่ขณะนี้ตัวเลขพุ่งทะยานขึ้นไปเป็นร้อยละ 4.8 แล้ว โดยผู้สันทันกรณีเผยว่าต้นเหตุมาจากการทำงานหนัก ความต้องการความตื่นเต้น อยากสนุกสนาน อยากได้การยอมรับจากเพื่อนฝูงและคนรอบข้าง พวกเธอจึงสูบบุหรี่มากขึ้น ดังเช่น ลู่ จยาเฉิน พนักงานโรงแรม วัย 25 ปี บอกว่าเธอสูบบุหรี่ตั้งแต่เริ่มเข้าเรียนมหาวิทยาลัย ตอนอายุได้ 18 ปี วันที่เริ่มต้นวันนั้นรู้สึกหงุดหงิดเพราะทะเลาะกับแฟน และเพื่อนร่วมหอพักก็ยืนบุหรี่ให้ บอกว่ามันจะทำให้รู้สึกดีขึ้น ไม่ต่างจากหญิงคนอื่นที่สูบบุหรี่มวนแรกเพื่อลดอารมณ์ด้านลบของตัวเอง บางส่วนสูบเพราะรู้สึกเปล่าเปลี่ยวหรือศร้าใจ ซึ่งทั้งหมดล้วนกลายสภาพจากการสูบเพื่อพักผ่อนสบายใจ เป็นการเสพติดอย่างถอนตัวไม่ได้ อีกรายหนึ่ง หยวน อิน วัย 30 ปี ทำงานด้านโฆษณาประชาสัมพันธ์ เธอสูบบุหรี่เพื่อว่านี่คือความ “เก๋ไก๋” และบอกว่าการสูบบุหรี่เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับการเข้าสังคม แล้วยังบอกอีกด้วยความ จะเห็นผู้หญิงมากมายที่สูบบุหรี่ในบาร์มากกว่าบนท้องถนน และการที่สูบบุหรี่ก็เพราะอิทธิพลของคนรอบข้างที่เข้าไปคลุกคลีด้วย ซึ่งจากรายงานของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของเซี่ยงไฮ้เมื่อไม่นานมานี้เปิดเผยว่า โรคมะเร็งปอดกลายเป็นโรคมะเร็งที่ผลาญชีวิตของผู้หญิงมากเป็นอันดับสามแล้ว เพราะลักษณะทางกายภาพของเพศหญิงนั้นอ่อนไหวต่อนิโคตินและสารอื่น ๆ ที่ผลิตออกมาจากบุหรี่มากกว่าผู้ชาย หญิงสาวที่สูบบุหรี่ทั้งหลายจึงควรตรวจร่างกายทุก…
-
โรคมะเร็งรังไข่.. ภัยคร่าชีวิตสตรีที่ต้องระวัง
โรคมะเร็งรังไข่.. ภัยคร่าชีวิตสตรีที่ต้องระวัง มะเร็งทางนรีเวชที่ตรวจพบบ่อยเป็นอันดับหนึ่งก็คงเป็นมะเร็งปากมดลูก แต่อันดับสองเป็นของมะเร็งรังไข่ที่ก็เป็นอันตรายไม่แพ้กัน หากตรวจพบต้องรีบรักษาในทันที สำหรับโรคมะเร็งรังไข่นี้จะเกิดขึ้นประมาณ 5 คน ต่อประชากรสตรี 1 แสนคนต่อปี มีผู้ป่วยมะเร็งรังไข่รายใหม่ประมาณ 1,500 คนต่อปี ยิ่งอายุมากก็ยิ่งมีความเสี่ยงมากยิ่งขึ้นไปด้วย มะเร็งรังไข่นั้น จะไม่ค่อยแสดงอาการนัก จะมีอาการแค่ท้องอืดท้องเฟ้อ จึงเข้าใจว่าเป็นโรคกระเพาะไป จึงทำให้คนไข้พบแพทย์ช้า โรคนี้หากวินิจฉันได้แต่เนิ่น ๆ ก็ยังสามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่หากพบเจอในระยะท้าย ๆ แล้วก็คงหายได้ยาก ซึ่งปัจจัยที่ทำให้เป็นโรคนี้ก็คือ มีญาติใกล้ชิดเป็นโรคนี้ หรือเป็นมะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้หรืออื่น ๆ โดยเฉพาะหากมีอายุเกิน 40 ปีขึ้นไป หรือชอบรับประทานอาหารที่มีไขมันหรือนมเนยมาก ๆ โดยอาการของมะเร็งรังไข่ ก็คือ ท้องโตขึ้น เนื่องจากมีก้อนหรือน้ำในท้อง มีตั้งแต่น้ำน้อยจนถึงน้ำมาก มีลูกแตงโมในท้อง ส่วนของผู้ป่วยจะมีอาการของระบบทางเดินอาหาร เช่น ท้องอืด ท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อย ท้องผูก ปัสสาวะบ่อย ขัด เนื่องจากก้อนของรังไข่ไปกดเบียด ผู้ป่วยจะผอมลง เป็นอาการของมะเร็งทั่วไป อาจมีเลือดออกทางช่องคลอด ซึ่งจะเห็นได้ว่าอาการของมะเร็งรังไข่ไม่จำเพาะเจาะจงชัดเจน …