Category: ความดันโลหิตสูง
-
อาหารต้องห้ามของ 10 โรค
—
by
in ข่าวสุขภาพ, ความดันโลหิตสูง, ตับ, ท้องผูก, ริดสีดวงทวารหนัก, สิว, หอบหืด, หัวใจ, เบาหวาน, ไข้หวัด, ไตอาหารต้องห้ามของ 10 โรค อาหารต้องห้ามหรือของแสลง ก็คืออาหารท่านเข้าไปแล้วทำให้อาการกำเริบหรือโรคที่เป็นอยู่หายช้าลง มีพื้นฐานมาจากภูมิปัญญาทางการแพทย์พื้นบ้าน รู้ไว้จะดีกว่านะคะ ..หากเป็นโรคกระเพาะ หลีกเลี่ยงอาหารจำพวกกาแฟ ชาแก่ ๆ ของทอด อาหารรสเผ็ด หรือมีไขมันสูง อาจทำให้โรคหายยากขึ้น ควรทานอาหารให้ตรงเวลาและเลือกอาหารที่ย่อยง่ายดีกว่า .. หากเป็นไข้ หรือเป็นไข้หวัด เลี่ยงอาหารที่มีความเย็น ของทอด ของมัน ที่ย่อยยาก จะยิ่งทำให้ตัวร้อนขึ้น .. หากเป็นโรคความดันโลหิตสูง หลีกเลี่ยงอาหารที่ไขมัน และคอเลสเตอรอลสูง เช่น โกโก้ ไข่ปลา ไขกระดูก หมูสามชั้น สุรา แอลกอฮอล์ต่าง ๆ รวมทั้งหลีกเลี่ยงอาหารรสเผ็ดจัดและผลไม้ที่มีความหวานอย่างขนุน ทุเรียน ลำไย ด้วย .. หากเป็นโรคตับหรือถุงน้ำดี เลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอลด์ อาหารติดมัน เนื้อสัตว์ติดมัน เครื่องใน ของทอด ของหวานจั เพราะอาจทำให้ประสิทธิภาพของการย่อยอาหารลดลง เพิ่มภาระให้กับตับและถุงน้ำดี ..หากเป็นโรคหัวใจและโรคไต เลี่ยงอาหารที่มีความเค็ม เพราะจะทำให้การไหลเวียนของเลือดช้าลง หัวใจทำงานหนักขึ้น ไตเองก็ต้องขับเกลือมากขึ้น…
-
น้ำมันเปลือกมะนาว.. ต้านเครียดได้ดี
น้ำมันเปลือกมะนาว.. ต้านเครียดได้ดี ศาสตร์อโรมาเทอราปี เป็นศาสตร์ที่ใช้ “กลิ่นของสมุนไพรหรือสารต่าง ๆ” มาบำบัดสุขภาพและเพื่อความงาม รวมไปถึงการใช้ในพิธีกรรมต่าง ๆ ตามความเชื่อแต่ละศาสนา ซึ่งน้ำมันหอมระเหยที่นำมาใช้นั้นก็มักจะมาจากพืชในท้องถิ่นของแต่ละประเทศ ซึ่งเราสามารถนำน้ำมันหอมระเหยมาใช้ลดอาการหรือบำรุงสุขภาพได้ทั้งทางกายและทางใจ ช่วยลดความเครียดได้ด้วย อีกทั้งยังไม่มีอันตรายเพราะเป็นการใช้สารสกัดจากธรรมชาติมากทำการรักษา จึงปราศจากผลข้างเคียงให้ต้องกังวล วันนี้จะมาแนะนำน้ำมันหอมระเหยจากพืชที่เราคุ้นตากันดีอย่าง “มะนาว” ว่ามีคุณประโยชน์อะไรต่อสุขภาพของเรากันบ้าง กลิ่นของน้ำมันสกัดจากเปลือกมะนาวนั้น นักวิทยาศาสตร์และนักการแพทย์ได้วิจัยพบแล้วว่ากลิ่นของมะนาว โดยเฉพาะที่สกัดได้จากเปลือกนั้น ช่วยลดความเครียดทางจิตใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับการใช้บำบัดแทนการใช้ยา แล้วยังมีฤทธิ์ต่อระบบต่าง ๆ ผ่านทางผิวหนัง ช่วยระงับเชื้อจากบาดแผลหรือแมลงสัตว์กัดต่อยได้ อีกทั้งน้ำมันหอมระเหยกลิ่นมะนาวนั้นเมื่อช่วยลดความเครียดในสมองได้แล้ว ยังช่วยลดความดันโลหิตได้อีกด้วย
-
ระวัง! 6 โรคยอดฮิตมนุษย์ออฟฟิศบ้าพลัง
ระวัง! 6 โรคยอดฮิตมนุษย์ออฟฟิศบ้าพลัง สำหรับหนุ่มสาวออฟฟิศที่ทำงานกันหามรุ่งหามค่ำ แม้ตอนนี้จะยังมีร่างกายแข็งแรงอยู่ แต่ก็ใช่ว่าการทำงานใช้ร่างกายอย่างหนักหน่วงนั้นจะไม่สร้างปัญหาให้กับร่างกายนะคะ เพราะจากการวิจัยและสำรวจมาหลายสิบปีในวงการแพทย์ พบว่าเหล่ามนุษย์ออฟฟิศทั้งหลายนั้นมีอัตราความเจ็บป่วยจากการทำงานในปริมาณที่เพิ่มสูงขึ้นทุกปีอย่างน่ากลัว นั่นเป็นเพราะชาวออฟฟิศทั้งหลายมักปล่อยให้ปีศาจร้ายทำลายสุขภาพอย่าง โรคเครียด, การทำงานนานเกินไป, พฤติกรรมกินอาหารไม่ตรงเวลา และไม่ยอมออกกำลังกาย เหล่านี้มาเป็นตัวการร้ายทำลายสุขภาพ ซึ่งโรคร้ายที่ทำลายสุขภาพชาวออฟฟิศมากที่สุด 6 โรค ก็คือ 1. ต้อหิน และตาพร่า ทำให้มองภาพได้ไม่ชัด ตาสู้แสงไม่ได้ และอาจลุกลามทำให้ตาบอดไ 2. ไมเกรน ปวดศีรษะ นอนไม่หลับ คลื่นไส้อ่อนเพลีย และเสียสมรรถภาพในการทำงาน 3. อาการนิ้วล็อค ทำให้นิ้วกระดิกไม่ได้ ตึง และรู้สึกเจ็บ กล้ามเนื้ออักเสบ 4. ปวดหลังเรื้อรัง รวมไปถึงอาการปวดไหล่ ต้นคอ ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้เป็นอัมพาตได้ 5. โรคอ้วน มีความเสี่ยงทำให้เป็นโรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจ ตลอดจนความดันโลหิตสูง 6. โรคกรดไหลย้อน เป็นสาเหตุของโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร และมะเร็งหลอดอาหาร สำหรับหนุ่มสาวออฟฟิศทั้งหลายที่เริ่มมีอาการนี้แล้ว หรือยังไม่มีก็ควรหันมาดูแลสุขภาพของตัวเองด้วยเคล็ดลับดังต่อไปนี้ – อย่าเพ่งจ้องจอคอมพิวเตอร์นานเกินไป ควรพักผ่อนสายตาบ้าง…
-
8 โรคต้องระวัง เมื่อเข้ารับบริการ ขูดหินปูน
8 โรคต้องระวัง เมื่อเข้ารับบริการ ขูดหินปูน กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้เปิดเผยว่าหากที่ต้องการเข้ารับการขูดหินปูน เป็นผู้ป่วยด้วยโรค 8 โรคนี้จำเป็นต้องแจ้งทันตแพทย์ก่อนทุกครั้งก่อนรับการทำฟันหรือขูดหินปูนก็คือ กลุ่มที่เป็นโรคเลือดออกง่ายและหยุดไหลยาก ได้แก่ 1. โรคเกล็ดเลือดต่ำหรือโรคลูคีเมีย อาจมีจ้ำเลือดหรือจุดเลือดออกตามร่างกายร่วมด้วย 2. โรคไตและผู้ที่มีประวัติเคยล้างไต เพราะจะได้รับยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด 3. ผู้ที่มีประวัติการผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจและการใช้ยาละลายลิ่มเลือด รวมไปถึงกลุ่มที่สองเป็นกลุ่มที่อาจแสดงอาการในระหว่างการทำฟัน ได้แก่ 1. โรคหัวใจอาจมีอาการเจ็บหน้าอก หอบเหนื่อย ใจสั่น 2. โรคหอบหืดอาจมีอาการหอบเหนื่อย ต้องมียาพ่นประจำ และได้รับยา Steriod 3. โรคลมชักและโรคความดันโลหิตสูง 4. โรคเบาหวานเพราะมีผลกระทบทำให้แผลหายยาก เหล่านี้จำเป็นต้องแจ้งให้ทันตแพทย์ทราบก่อนเผื่อในกรณีที่อาการกำเริบจะได้ช่วยเหลือได้ทันการณ์ อีกทั้ง ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย ยังเปิดเผยอีกว่าการขูดหินปูนหรือหินน้ำลายนี้ก็เพื่อป้องกันอาการเหงือกอักเสบหรือโรคปริทันต์ได้ ด้วยการใช้เครื่องมือขจัดหินปูนที่มีความสั่นสะเทือนทำให้หินปูนหลุดออกมา แล้วใช้เครื่องมือชิ้นเล็กกว่าขูดหินปูนละเอียดอีกครั้ง ซึ่งขั้นตอนนี้อาจทำให้มีเลือดออกได้บ้างเล็กน้อย แต่จะไม่มากจนมีผลใด ๆ ต่อสุขภาพผู้ป่วย ซึ่งหินปูนหรือหินน้ำลายนี้เป็นคราบจุลินทรีย์ที่มีการสะสมของแคลเซียมในน้ำลาย จนแข็งตัวคล้ายหินปูน ที่สะสมเชื้อโรคไว้หลายชนิดอีกทั้งยังเป็นแหล่งผลิตสารพิษที่ทำให้เกิดโรคเหงือกอักเสบหรือโรคปริทันต์ได้ การป้องกันการเกิดหินปูนก็คือการจำกัดคราบจุลินทรีย์โดยการแปรงฟันโดยเฉพาะคอฟันให้สะอาดวันละอย่างน้อย 2 ครั้ง เพื่อไม่ให้บริเวณนี้เป็นที่สะสมของคราบจุลินทรีย์จนกลายเป็นหินปูนได้ อีกทั้งยังควรมาตรวจสุขภาพช่องปากทุกปีและหากมีหินปูนก็ควรขูดหินปูนออกอย่างน้อยปีละครั้ง…
-
WHO ชี้การลดเกลือและเพิ่มโปตัสเซี่ยม ช่วยป้องกันโรคความดันโลหิตสูงได้
WHO ชี้การลดเกลือและเพิ่มโปตัสเซี่ยม ช่วยป้องกันโรคความดันโลหิตสูงได้ องค์การอนามัยโลกเปิดเผยว่าโรคความดันโลหิตสูงคุกคามสุขภาพของคนทั่วโลกราวหนึ่งพันล้านคน ความดันโลหิตสูงเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตและอัมพาต โรคความดันโลหิตสูงถือเป็นภัยเงียบเพราะไม่ปรากฏอาการชัดเจน ข่าวดีคือเราสามารถป้องกันโรคความดันโลหิตสูงได้ มีผลการวิจัยหลายชิ้นที่ระบุว่าการลดปริมาณเกลือในอาหารที่เรารับประทานลงจะช่วยลดความเสี่ยงต่ออาการเส้นโลหิตในสมองแตกและโรคอื่นๆที่เกี่ยวข้องได้ นักวิจัยกล่าวว่า การลดปริมาณเกลือในอาหารลงช่วยลดอาการความดันโลหิตสูงได้ แต่จะดีขึ้นถ้าคนเราได้รับโปตัสเซี่ยมวันละสี่กรัม หากต้องการเพิ่มโปตัสเซี่ยมหนึ่งกรัม ควรรับประทานผักและผลไม้เพิ่มขึ้นราวสองถึงสามครั้งต่อวัน โดยอาจจะรับประทานกล้วยสามลูกต่อวัน หรือ ส้มสามลูกต่อวัน หรืออาจจะรับประทานกล้วย แอปเปิ้ล และ ส้ม อย่างละหนึ่งลูกต่อวัน หรืออาจจะรับประทานผักหนึ่งครั้งต่อวันและผลไม้อย่างน้อยสองลูกต่อวัน เนื่องจากโปตัสเซี่ยมมีความสำคัญต่อการทำงานของระบบประสาทและการควบคุมกล้ามเนื้อ ได้ดี ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพแสดงความกังวลต่อสุขภาพของคนในประเทศกำลังพัฒนาที่เศรษฐกิจกำลังเติบโตว่าคนในประเทศกำลังพัฒนาเริ่มนิยมรับประทานอาหารแบบเดียวกับคนในประเทศพัฒนาแล้ว เป็นอาหารที่เค็ม หวาน และมัน ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าคนในประเทศกำลังพัฒนาจะป่วยด้วยโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดและหัวใจกันเพิ่มมากขึ้น พอๆกับโรคที่มีสาเหตุจากโรคอ้วน
-
ผู้ป่วยโรคหัวใจ ส่วนมากไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ เรื่องการดูแลตัวเอง
ผู้ป่วยโรคหัวใจ ส่วนมากไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ เรื่องการดูแลตัวเอง นักวิจัยชาวแคนนาดา สำรวจพบว่า ผู้ป่วยโรคหัวใจส่วนใหญ่ ไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่งแพทย์ เพื่อดูแลสุขภาพของตัวเอง และยังมีผู้ป่วยที่ยังโรคหัวใจและโรคเล้นเลือดสมองแตกที่ยังไม่ยอมเลิกสูบบุหรี่ แต่ก็ยังมีผู้ป่วยโรคหัวใจอยู่อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งน้อยมาก ที่ยอมปฏิบัติตรามคำสั่งแพทย์ และใส่ใจดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่อง จากการสำรวจในส่วนเรื่องรายได้ของผู้ป่วยนั้น จริงๆแล้วไม่ได้มีส่วนมากนัก ต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมหลังเกิดอาการเกี่ยวกับความดันโลหิตสูง ทั้งนี้คนรายได้สูงจะมีพฤติกรรมด้านการรับประทานอาหารดีกว่าคนรายได้น้อยเพียงเล็กน้อยเท่านั้น นักวิจัยให้คำแนะนำว่า สิ่งที่ดีที่สุดคือ ผู้ป่วยต้องมีกำลังใจและ ฮึดกลับมาดูแลสุขภาพตัวเองอย่างต่อเนื่อง แนะนำให้มีการออกกำลังกายเล็กๆน้อยๆ แต่สม่ำเสมอ หรือเดินอย่างน้อย 10,000 ก้าว จะเป็นทางที่ดีต่อสุขภาพ