Category: มะเร็ง
-
ล้างสารพิษในร่างกาย ง่ายๆ ด้วยตัวเอง
ล้างสารพิษในร่างกาย ง่ายๆ ด้วยตัวเอง คุณจะรู้หรือไม่ว่า…. การล้างสารพิษที่ตกค้างอยู่ในร่างกายของเราออกไป นั้นจะช่วยทำให้ร่างกายของเราแข็งแรงขึ้น และช่วยให้เลือดลมเดินสะดวก ยิ่งถ้าทำเป็นประจำ ก็จะช่วยฟื้นฟูสุขภาพร่างกายที่ทรุดโทรมลง และยังช่วยรักษาโรคร้ายอย่าง “มะเร็ง“ รวมถึงโรคภูมิแพ้ โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง หอบหืด เบาหวาน รวมกระทั่งลดความอ้วนได้อีกด้วย หัวใจหลักๆของการทำงานในการล้างสารพิษในร่างกาย 1 วัน คือ จะต้องทานให้ได้แคลลอรี่ที่น้อยกว่า 800 แคลลอรี่ เพื่อให้ระบบย่อยอาหารและตับได้มีการพักผ่อน และต่อจากนั้น ตับก็จะขับสารพิษออกมา และอาหารที่เราทานเข้าไปในวันนั้นจะต้องไม่มีเนื้อสัตว์ปะปนเด็ดขาด หากเข้าใจกันดีแล้ว เรามาเข้าสู่ขั้นตอนการล้างสารพิษกันเลยค่ะ 1. เลือกผลไม้ที่เราชื่นชอบมา 1 ชนิด อย่างเช่น ฝรั่ง แคนตาลูป มะละกอ แอปเปิ้ล ชมพู่ มะม่วง ส้มโอ หรืออะไรก็ตาม แต่จะมีผลไม้ที่ต้องยกเว้นไว้ 2 อย่าง คือ ทุเรียนและสับประรด เนื่องจากในทุเรียนจะมีแคลลอรี่สูงมาก และยังย่อยยากอีกด้วย ส่วนในสับประรดนั้น จะมีกรดที่สูง ถ้าหากต้องทานทั้งวัน จะทำให้เราท้องอืดได้ 2. ทานแต่ผลไม้ที่เราเลือก…
-
World Cancer Research Fund แห่งประเทศอังกฤษ ยันอาหารไทยมีคุณค่าทางโภชนาการสูง!
World Cancer Research Fund แห่งประเทศอังกฤษ ยันอาหารไทยมีคุณค่าทางโภชนาการสูง! มีองค์การที่สำคัญแห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักร ก็คือ องค์กรวิจัยมะเร็งโลก หรือ World cancer research fund ได้แนะนำให้คนในชาติของตนเองเมื่อไปทานอาหารนอกบ้านหรือนอกประเทศแล้ว ให้ทานอาหารจากประเทศจีน อิตาลี อินเดีย และอาหารไทย เพราะจัดว่าเป็นอาหารที่คุณค่าทางโภชนาการสูงและมีประโยชน์ต่อร่างกายมาก นั่นเป็นเพราะว่าอาหารไทยเองเป็นอาหารที่รสชาติอร่อย มีสัดส่วนของสารอาหารที่พอเหมาะและมีคุณภาพ มีความแตกต่างกันไปตามภูมิภาค และมีให้อาหารให้เลือกกินหลากหลายในแต่ละฤดูกาล แต่สำหรับคนไทยกลับกินอาหารไทยน้อยลงเอง มีการดัดแปลงสูตรกันมากขึ้น หรือนิยมทานอาหารจานด่วนกันมากขึ้น ซึ่งอาหารจานด่วนเหล่านี้ มักมีแคลอรี่สูง มีสัดส่วนของแป้ง ไขมัน และเนื้อสัตว์มากขึ้น ปรุงแต่งรสชาติมากขึ้น เพิ่มนมเนย ไขมันต่าง ๆ เข้าไปมากกว่าเดิม สมดุลของสารอาหารจึงเสียไป ทำให้ตัวคนไทยเองมีภาวะเป็นโรคอ้วนกันมากขึ้น สุขภาพเสื่อมโทรม ทั้งที่เป็นเจ้าของอาหารที่ดีที่สุดชนิดหนึ่งในโลก แล้วในอาหารไทยมีดีอะไร ต่างชาติจึงแนะนำให้ทานกัน หากจะนับอาหารที่เด่น ๆ และอร่อยถูกปากชาวต่างชาติ ก็ได้แก่ – ต้มยำต่าง ๆ มีแคลอรี่ต่ำ มีสมุนไพรบำรุงร่างกาย และมีโปรตีนจากเนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมันสูง – แกงเลียง…
-
มะเขือเทศผลเดียว.. แข็งแรงทั่วร่างกาย
มะเขือเทศผลเดียว.. แข็งแรงทั่วร่างกาย หากจะพูดถึงพืชผักสีแดงที่มีรสชาติอมเปรี้ยว อมหวานนิด ๆ กรอบและฉ่ำน้ำในตัวแล้ว ก็ต้องนึกถึงมะเขือเทศเป็นลำดับแรก ๆ เลยทีเดียวค่ะ มะเขือเทศเป็นพืชที่มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายด้านเลยทีเดียว เรียกได้ว่าทานมะเขือเทศแค่ผลเดียวก็ได้รับวิตามินและแร่ธาตุบำรุงร่างกายได้ทั่วจากหัวจรดเท้าเลย มาดูประโยชน์ของมะเขือเทศกันเลยค่ะว่ามีประโยชน์ต่อร่างกายของคุณอย่างไรกันบ้าง – มะเขือเทศมีวิตามินเอปริมาณสูงมาก ช่วยบำรุงสายตา – ทานมะเขือเทศมาก ๆ ช่วยผิวพรรณสดใสเปล่งปลั่ง แก้มเป็นสีชมพูระเรื่อ – วิตามินบีในมะเขือเทศช่วยให้ระบบต่าง ๆ ภายในร่างกายทำงานได้เป็นปกติ – ส่วนวิตามินซีที่พบมากเช่นกันในมะเขือเทศ ช่วยป้องกันไข้หวัด เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ จึงช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย – มะเขือเทศเป็นผักที่ทานได้อย่างสบายใจเพราะมีแคลอรี่ต่ำ ไม่ต้องกังวลกับน้ำหนักตัว – สารไลโคปีนในมะเขือเทศซึ่งทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระเช่นกัน ช่วยป้องกันการก่อตัวของมะเร็ง ซึ่งไลโคปีนในมะเขือเทศนี้มีฤทธิ์มากกว่าเบต้าแคโรทีนถึงสองเท่าเลยทีเดียวค่ะ มะเขือเทศเป็นพืชผักที่นำไปประกอบอาหารก็อร่อย หรือจะทานสด ๆ เหมือนผลไม้ก็ดีทั้งนั้น และแม้ว่าการทานมะเขือเทศจะมีประโยชน์แต่ก็อย่าลืมว่าการทานผักควรทานให้มีความหลากหลาย มีหลากสีสันจึงจะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารอย่างเต็มที่ด้วยนะคะ
-
ดับเบิ้ล “อาหาร” ชะลอความชรา
ดับเบิ้ล “อาหาร” ชะลอความชรา เราจะเป็นในอย่างที่เรากิน หรือ You are what you eat เป็นประโยคที่ช่วยให้เราได้หยุดคิดก่อนที่จะหยิบอาหารชนิดใดเข้าปาก ว่าอาหารชนิดนั้น ๆ จะให้ผลกับสุขภาพของเราอย่างไร ดังนั้นการกินอาหารจึงไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ หรือสักแต่กินตามท้องหิวหรือตามปากอยาก แต่ต้องมีเทคนิคการกินที่ดี รายการอาหารที่จะนำมาเสนอในตอนนี้จะเป็นคู่อาหารที่เมื่อจับคู่กันทานแล้ว จะช่วยชะลอความชราได้อย่างไม่น่าเชื่อ มาดูกันค่ะ คู่แรก ทานเนื้อปลา คู่กับ บร็อกโคลี่ อาหารคู่นี้เมื่อกินด้วยกันจะช่วยยับยั้งการก่อตัวและแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งได้ เนื่องจากซีลีเนียมและซัลโฟ ราเฟนที่อยู่ในอาหารทั้งคู่ จึงช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคมะเร็งลงมากกว่าเลือกกินเดี่ยว ๆ ถึง 13 เท่าเลยทีเดียวค่ะ คู่ที่สอง ทานโยเกิร์ตรสธรรมชาติ กับกล้วย เมื่อทานคู่กันจะช่วยดูแลลำไส้ ด้วยพรีไบโอติก และโพรไบโอติก เหมือนการช่วยกันผสานพลังในการดูแลระบบย่อยอาหารให้มีประสิทธิภาพ ทำงานได้อย่างเต็มที่ คู่ที่สาม ทานถั่วฝักยาวคู่กับพริกหวานสีแดง ช่วยป้องกันโรคทางเลือดและโลหิตจาง เพราะถั่วฝักยาวเป็นอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง และเมื่อทานคู่กับอาหารที่มีวิตามินซีสูง ๆ จะช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้อย่างเต็มที่ ซึ่งหากไม่ได้ทานร่วมกันแล้วอาจทำให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กจากผักได้ไม่ถึงร้อยละ 10 ในส่วนของถั่วฝักยาวนั้น สามารถเปลี่ยนเป็นผักคะน้าหรือบร็อกโคลี่ก็ได้ผลเช่นเดียวกันค่ะ คู่ที่สี่ ทานแอปเปิ้ลร่วมกับองุ่น เป็นการผสานพลังกันระหว่างสารเควอซิตินในแอปเปิ้ล…
-
ประโยชน์ของผิวส้มและเนื้อส้มที่มีต่อสุขภาพของเรา
ประโยชน์ของผิวส้มและเนื้อส้มที่มีต่อสุขภาพของเรา เชื่อไหมว่า “ส้ม” เนี่ย มีประโยชน์ต่อสุขภาพของเราทั้งผล ไม่ว่าจะเป็นเปลือกภายนอกตลอดจนเนื้อส้มภายใน มาลองดูกันทีละส่วนเลยค่ะว่า แต่ละส่วนของส้มนั้นมีผลต่อสุขภาพของเราอย่างไรได้บ้าง เริ่มเลยค่ะ 1. เนื้อของส้ม เนื้อส้มมีวิตามินซี และเบต้าแคโรทีนสูงมาก เนื้อส้มเพียง 100 กรัม สามารถให้วิตามินซีและเบต้าแคโรทีนที่เพียงพอสำหรับร่างกายแต่ละวันแล้ว นอกจากทำให้ผิวสวย ด้วยคุณสมบัติของการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระของวิตามินซี จึงช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยบนผิว ทำให้ผลิตคอลลาเจนได้มากขึ้น ผิวจึงสวยใสแลดูอ่อนกว่าวัย และเสริมพลังด้วยเบต้าแคโรทีน ที่ช่วยให้ผนังหลอดเลือดและเส้นฝอยแข็งแรง จึงลดอาการเส้นเลือดฝอยแตกตามผิวกายส่วนต่าง ๆ ได้ ทั้งยังทำให้เส้นผมและเล็บแข็งแรง วิตามินซียังช่วยป้องกันโรคลักปิดลักเปิดหรือโรคเลือดออกตามไรฟันได้ด้วย 2. ผิวส้ม หรือเปลือกส้ม ประโยชน์ของเปลือกส้มอยู่ที่น้ำมันหอมระเหยบนเปลือก ที่ช่วยสลายความเครียด และความเมื่อยล้า ช่วยให้ร่างกายและความคิดได้ผ่อนคลาย เพียงนำน้ำมันหอมระเหยอมาสูดดมหรือนวดตามร่างกายส่วนร่าง ๆ ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายในขณะที่กระตุ้นระบบประสาทได้อีก อีกทั้งยังมีการวิจัยของเภสัชกรในอังกฤษที่ค้นพบว่าเปลือกส้มมีฤทธิ์ในการทำลายเซลล์มะเร็งได้ โดยเฉพาะในเปลือกของส้มเขียวหวานที่สามารถทำลายเซลล์มะเร็งได้บางชนิด ซึ่งในอนาคตอาจมีการพัฒนาขึ้นไปสู่การบำบัดโรคมะเร็งแนวใหม่ได้ ว่าแล้ววันนี้ออกไปส้มมาทานกันดีกว่าค่ะ
-
ระวัง! 6 โรคยอดฮิตมนุษย์ออฟฟิศบ้าพลัง
ระวัง! 6 โรคยอดฮิตมนุษย์ออฟฟิศบ้าพลัง สำหรับหนุ่มสาวออฟฟิศที่ทำงานกันหามรุ่งหามค่ำ แม้ตอนนี้จะยังมีร่างกายแข็งแรงอยู่ แต่ก็ใช่ว่าการทำงานใช้ร่างกายอย่างหนักหน่วงนั้นจะไม่สร้างปัญหาให้กับร่างกายนะคะ เพราะจากการวิจัยและสำรวจมาหลายสิบปีในวงการแพทย์ พบว่าเหล่ามนุษย์ออฟฟิศทั้งหลายนั้นมีอัตราความเจ็บป่วยจากการทำงานในปริมาณที่เพิ่มสูงขึ้นทุกปีอย่างน่ากลัว นั่นเป็นเพราะชาวออฟฟิศทั้งหลายมักปล่อยให้ปีศาจร้ายทำลายสุขภาพอย่าง โรคเครียด, การทำงานนานเกินไป, พฤติกรรมกินอาหารไม่ตรงเวลา และไม่ยอมออกกำลังกาย เหล่านี้มาเป็นตัวการร้ายทำลายสุขภาพ ซึ่งโรคร้ายที่ทำลายสุขภาพชาวออฟฟิศมากที่สุด 6 โรค ก็คือ 1. ต้อหิน และตาพร่า ทำให้มองภาพได้ไม่ชัด ตาสู้แสงไม่ได้ และอาจลุกลามทำให้ตาบอดไ 2. ไมเกรน ปวดศีรษะ นอนไม่หลับ คลื่นไส้อ่อนเพลีย และเสียสมรรถภาพในการทำงาน 3. อาการนิ้วล็อค ทำให้นิ้วกระดิกไม่ได้ ตึง และรู้สึกเจ็บ กล้ามเนื้ออักเสบ 4. ปวดหลังเรื้อรัง รวมไปถึงอาการปวดไหล่ ต้นคอ ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้เป็นอัมพาตได้ 5. โรคอ้วน มีความเสี่ยงทำให้เป็นโรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจ ตลอดจนความดันโลหิตสูง 6. โรคกรดไหลย้อน เป็นสาเหตุของโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร และมะเร็งหลอดอาหาร สำหรับหนุ่มสาวออฟฟิศทั้งหลายที่เริ่มมีอาการนี้แล้ว หรือยังไม่มีก็ควรหันมาดูแลสุขภาพของตัวเองด้วยเคล็ดลับดังต่อไปนี้ – อย่าเพ่งจ้องจอคอมพิวเตอร์นานเกินไป ควรพักผ่อนสายตาบ้าง…
-
ประโยชน์สุด ๆ ของโยเกิร์ต
ประโยชน์สุด ๆ ของโยเกิร์ต โยเกิร์ตเป็นผลิตภัณฑ์นมที่หาซื้อมาทานได้ง่าย มีหลายรสชาติให้เลือกนะคะ แล้วยังมีประโยชน์ต่อร่างกายแบบอเนกอนันต์เลยทีเดียว ในโยเกิร์ตหนึ่งด้วยนั้นประกอบไปด้วยสารอาหารที่ช่วยบำรุงและรักษาร่างกายกว่า 11 ชนิด ซึ่งแต่ละชนิดมีประโยชน์อย่างยิ่งยวดต่อร่างกาย ได้แก่ แคลเซียม ฟอสฟอรัส ไอโอดีน วิตามินบี 2 วิตามินบี 5 วิตามินบี 12 โปรตีน โพแทสเซียม สังกะสี ทริปโทฟาน และโมลิปเดนัม การทานโยเกิร์ตเพียงถ้วยเดียว ช่วยเติมเต็มสารอาหารหลาย ๆ ชนิดได้ในคราวเดียว นอกเหนือจากสารอาหารข้างต้นแล้ว ในโยเกิร์ตยังมีเชื้อจุลินทรีย์ ที่มีประโยชน์ต่อการย่อยอาหารและมีประโยชน์ต่อลำไส้ ช่วยฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ตัวเลวในลำไส้ได้ จึงช่วยบรรเทาอาการท้องเสียได้อย่างรวดเร็วเลยทีเดียว อีกทั้งยังมีไขมันที่สำคัญชื่อว่า คอนจูเกตเต็ดไลโนเลอิก ช่วยป้องกันทั้งโรคหัวใจ และลดความเสี่ยงการเกิดโรคเหงือกได้ด้วย ฯลฯ การทานโยเกิร์ตจึงเป็นการสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกาย เปรียบดั่งเป็นยาอายุวัฒนาที่ดีต่อสุขภาพ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ เพราะทานได้ง่าย ทั้งยังมีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นการเผาผลาญ มีแคลเซียมสูง ช่วยลดความเครียด ป้องกันมะเร็งลำไส้ โรคความดันโลหิตสูง และป้องกันอาการกระดูกพรุนได้ จุลินทรีย์โยเกิร์ตยังช่วยลดกลิ่นปาก ช่วยกำจัดเชื้อแบคทีเรียแย่ ๆ ในช่องปากได้อย่างมีประสิทธิภาพ รู้อย่างนี้แล้วอย่าลืมหาโยเกิร์ตมาทานกันนะคะ
-
ประโยชน์ของวิตามินซีที่มีต่อร่างกายของเรา
ประโยชน์ของวิตามินซีที่มีต่อร่างกายของเรา คุณสมบัติเด่น ๆ ของวิตามินซีเลยก็คือ การที่มีคุณสมบัติเป็นวิตามินที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ นั่นเอง ซึ่งประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับจากการบริโภควิตามินซีอย่างพอเพียงและเป็นประจำก็คือ 1. ทำให้ร่างกายมีภูมิต้านทานสูงขึ้น 2. ช่วยป้องกันการก่อตัวของเซลล์มะเร็งในร่างกาย 3. ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง สดใส ไม่เหี่ยวย่นก่อนวัน 4. ป้องกันโรคเหงือก โรคในช่องปากต่าง ๆ เช่น โรคลักปิดลักเปิด หรือโรคเหงือกอักเสบได้ ฯลฯ และในทางกลับกันหากร่างกายของเราได้รับวิตามินซีไม่เพียงต่อความต้องการ ก็อาจก่อผลเสียได้ดังต่อไปนี้ 1. มีภูมิต้านทานโรคต่ำ เป็นหวัดและติดเชื้อได้ง่าย กับทั้งความสามารถในการกำจัดพิษยังลดลงอีกด้วย 2. ผิวหนังเหี่ยวย่น ไม่สดใส ขาดความยืดหยุ่น ปรากฏจุดด่างดำ และเกิดโรคเลือดออกตามไรฟัน 3. ประสาทสัมผัสด้อยลง อ่อนเพลีย ไม่สดใส ไม่มีเรี่ยวแรง 4. มีความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งตับ มะเร็งกระเพาะ และมะเร็งในส่วนอื่น ๆ 5. การทำงานของต่อมหมวกไตลดลง และเป็นโรคภูมิแพ้ได้ง่าย 6. ทำให้เป็นโรคโลหิตจาง หรือโรคอื่น ๆ ได้ง่าย แผลหายช้า อ่านแล้วอย่าเพิ่งเครียดไป…
-
เฝ้าระวังมะเร็งเต้านม สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้
เฝ้าระวังมะเร็งเต้านม สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ นายแพทย์ กฤษณ์ จาฏามระ ที่ปรึกษากิตติม ศักดิ์ ของโรงพยาบาล บีเอ็นเอช ได้อธิบายว่าโรคมะเร็งเต้านมนั้น หนึ่งในหลายสาเหตุของโรคอาจเกิดจากพันธุกรรมที่ถ่ายทอดกันมาในครอบครัวได้ ซึ่งผู้ป่วยอาจเป็นญาติสายตรง เป็นมะเร็งเต้านมมาก่อน เช่น แม่ ป้า หรือพี่สาว ดังนั้นความเสี่ยงที่คนในครอบครัวจะเป็นมะเร็งเต้านมก็สูงกว่าในครอบครัวของผู้ที่ไม่มีผู้ป่วยมะเร็งเต้านม แต่แม้จะมีจำนวนผู้ป่วยมะเร็งเต้านมในครอบครัวหลายคนก็ไม่ได้หมายความว่าคนในครอบครัวจะต้องเป็นมะเร็งเต้านมอย่างแน่นอนทุกคน เพียงแต่มีความเสี่ยงมากกว่าเท่านั้นเอง จึงมิควรที่จะต้องกังวลว่าตนเองจะต้องเป็นแน่ ๆ ซึ่งวิธีที่ดีที่สุดก็คือการตรวจคัดกรองการเป็นมะเร็งเต้านม ด้วยการตรวจอัลตราซาวน์ หรือการตรวจแมมโมแกรม 3 มิติ ที่ให้ผลอย่างแม่นยำ รวมทั้งการตรวจเอ็มอาร์ไอสำหรับการคัดกรองมะเร็งเต้านมโดยเฉพาะได้ สำหรับผู้ที่ตรวจพบว่าตนเองเป็นมะเร็งเต้านมในระยะเริ่มต้นแล้ว ก็อย่าเพิ่งกังวลใจ เพราะมะเร็งระยะแรกนั้นสามารถรักษาให้หายขาดได้ ดังนั้นหากกังวลเพราะมีคนในครอบครัวเป็นมะเร็งกันหลายคน การหมั่นตรวจสุขภาพด้วยการคัดกรองมะเร็งเต้านม จึงเป็นการดูแลตัวเองและป้องกันได้อย่างดีที่สุด เพื่อที่เมื่อตรวจพบแล้วจะสามารถรักษาได้ทันท่วงที
-
การป้องกันอันตรายจากโรคไวรัสเอชพีวี
การป้องกันอันตรายจากโรคไวรัสเอชพีวี ไวรัสเอชพีวีนั้น เป็นสาเหตุหลักของการเกิดมะเร็งปากมดลูก หูดหงอนไก่ มะเร็งองคชาต และมะเร็งทวารหนักอีกด้วย และจากการลงสนามเก็บตัวอย่างสิ่งแวดล้อมของหน่วยไวรัสวิทยา ภาควิชาพยาธิวิทยา คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีนั้น พบว่าสถานที่ที่สามารถตรวจพบเชื้อไวรัสเอชพีวีได้ มักเป็นที่เย็น ชื้น และไม่มีแสงแดดส่องเข้าถึง อีกทั้งเป็นสถานที่ที่เป็นสถานบันเทิง ที่มีกลุ่มวัยรุ่น ผู้ใหญ่ตอนต้น ที่ยังอยู่ในวัยเจริญพันธุ์ ซึ่งมีการติดต่อและแพร่เชื้อไวรัสเอชพีวีได้สูงสุด ด้วย ซึ่งการระวังและป้องกันเบื้องต้นก็คือการล้างมือให้สะอาด ทั้งก่อนและหลังการเข้าห้องน้ำทุกครั้ง เพื่อลดปริมาณเชื้อที่อาจติดมาโดยไม่รู้ตัว นอกจากนี้ยังสามารถป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้โดยลดพฤติกรรมเสี่ยงตรวจคัดกรองเพื่อตรวจหาความผิดปกติที่ปากมดลูกเพื่อให้การรักษาก่อนที่จะกลายเป็นมะเร็งปากมดลูก หรือใช้วิธีฉีดวัคซีนป้องกันร่วงด้วย โดยปัจจุบันนี้มีวัคซีนเอชพีวีที่ควรให้เด็กผู้หญิงวัยก่อนมีเพศสัมพันธ์ช่วงอายุ 11-12 ปีฉีดจำนวนสามเข็ม เมื่อฉีดแล้วจะป้องกันการติดเชื้อเอชพีวีได้อย่างน้อย 30 ปีโดยไม่ต้องฉีดกระตุ้น อีกทั้งในบางประเทศยังฉีดให้เด็กผู้ชายด้วย ในส่วนของคุณพ่อคุณแม่ทั้งหลาย ก็ควรสอนลูก ๆ ให้ป้องกันและระวังตัวด้วยการสอนให้ล้างมือให้สะอาดเมื่อเข้าไปในสถานที่สาธารณะต่าง ๆ อีกทั้งยังควรพาลูก ๆ ไปฉีดวัคซีนให้ครบเมื่อถึงอายุกำหนดด้วยก็จะเป็นการป้องกันไว้ก่อนได้