Category: มะเร็ง

  • ทานถั่วป่นและพริกป่นมากเสี่ยงเป็นมะเร็งตับได้นะ

    ทานถั่วป่นและพริกป่นมากเสี่ยงเป็นมะเร็งตับได้นะ

    ทานถั่วป่นและพริกป่นมากเสี่ยงเป็นมะเร็งตับได้นะ นอกจากสารอะฟลาทอกซินจะพบมากในถั่วป่นแล้ว ในพริกป่นก็สามารถพบได้มากเช่นเดียวกัน โดยสารชนิดนี้เป็นสารก่อมะเร็งตับร้ายแรง พบได้ในถั่วลิสงและผลิตภัณฑ์ทำจากถั่วลิสงทุกชนิด รวมไปถึงธัญพืชและผลิตภัณฑ์แปรรูปหลากหลาย เนื่องจากสารพิษอะฟลาทอกซินนี้สามารถทนความร้อนได้ถึง 250 องศาเซลเซียส ดังนั้นแม้จะนำเอามาปรุงอาหารแล้วก็ยังไม่สามารถทำลายสารพิษชนิดนี้ได้อยู่ดี ยิ่งหากเป็นแม่ลูกอ่อนทานอาหารที่มีสารพิษนี้เข้าไป สารพิษจะถ่ายทอดสู่ลูกได้ผ่านทางน้ำนมและทำอันตรายต่อทารก ซึ่งเคยปรากฏในการศึกษาวิจัยมาแล้ว หากจำเป็นต้องทาน ก็ควรเลือกให้ดี เมื่อไปกินอาหารนอกบ้านควรระวังอาหารที่ต้องปรุงรส ไม่ว่าจะเป็น ก๊วยเตี๋ยว ผัดไทย ยำ ฯลฯ หรืออาหารที่ปรุงรสจัดอื่น ๆ หากสังเกตได้ว่าเครื่องปรุงในพวงเครื่องปรุงมีความอับชื้นและมีกลิ่นหืน จับตัวเป็นก้อนและมีสีที่ไม่ปกติ เช่น มีสีเหลืองคล้ำหรือมีเชื้อรา ฯลฯ ก็ไม่ควรตักมาปรุง หลีกเลี่ยงไปเลยจะปลอดภัยกว่า และควรกำชับให้แม่ค้าว่าไม่ใส่ถั่วป่นหรือพริกป่น แต่ให้ปรุงด้วยพริกสดแทน ก็จะได้รสชาติที่เผ็ดร้อนเหมือนกัน

  • 10 ข้อการใช้น้ำมันทอดอาหาร เลี่ยงมะเร็งได้

    10 ข้อการใช้น้ำมันทอดอาหาร เลี่ยงมะเร็งได้

    10 ข้อการใช้น้ำมันทอดอาหาร เลี่ยงมะเร็งได้ อาหารทอดซ้ำเป็นอาหารที่ทำให้เราเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งมากที่สุดชนิดหนึ่ง ยิ่งหากเป็นอาหารที่ซื้อจากผู้ประกอบอาหารขายแล้วก็มักจะใช้น้ำมันทอดซ้ำเพื่อประหยัดต้นทุนเสมอ ดังนั้นการซื้ออาหารจากร้านเหล่านี้จึงทำให้เกิดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งมากกว่าการซื้อหามาปรุงเอง ในส่วนของผู้ที่ปรุงอาหารทานเอง จึงควรระมัดระวังการใช้น้ำมันให้มาก ลองนำเอาวิธีการเหล่านี้ไปใช้เป็นคู่มือการประกอบอาหารของคุณกันนะคะ 1. ควรใช้น้ำมันพืชในการปรุงอาหารมากกว่าน้ำมันสัตว์ เพื่อมิให้เกิดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ 2. ควรใช้น้ำมันที่เหมาะสำหรับการทอดเช่น น้ำมันปาล์มโอเลอิน ที่มีความคงตัวและเกิดควันช้า 3. ไม่ควรใช้น้ำมันข้าวโพด น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันดอกคำฝอย น้ำมันหมู น้ำมันวัว และไขมันอื่น ๆ ทอดอาหาร เพื่อน้ำมันเหล่านี้มีสภาพไม่คงตัวและเสื่อมสภาพเร็ว 4. หากน้ำมันที่ใช้ทอดมีลักษณะที่เปลี่ยนไป เช่น มีกลิ่นเหม็นหืน เหนียวข้น เป็นสีดำ เกิดฟอง ควัน เหม็นไหม้ มีไอน้ำมัน ทำให้ระคายเคืองตาและลำคอ ให้เปลี่ยนน้ำมันทอดใหม่ทันทีอย่าเสียดายค่ะ 5. ในระหว่างและหลังการทอดอาหารควรกรองกากอาหารทิ้งด้วย โดยเฉพาะอาหารที่มีการชุบแป้ง ควรใช้ตะแกรงหรือผ้าขาวบางกรองเศษอาหารและผงขนาดเล็กออกจากน้ำมัน 6. เพื่อลดการแตกตัวของน้ำมันและชะลอการเสื่อมสลายของน้ำมันทอดอาหาร ควรซับน้ำมันส่วนเกินบริเวณผิวหน้าอาหารดิบก่อนจุ่มลงไปทอดในกะทะ 7. ควรทอดอาหารครั้งละไม่มาก เพื่อให้ความร้อนเกิดขึ้นกับน้ำมันน้อยและใช้เวลาการทอดน้อยลง 8. ไม่ควรทอดด้วยไฟแรงเกินไปนัก 9. ควรเปลี่ยนน้ำมันทอดบ่อย ๆ หากทอดอาหารที่มีเครื่องปรุงเป็นเกลือหรือมีเครื่องปรุงจำนวนมาก…

  • ปล่อยตัวให้อ้วนตั้งแต่วัยรุ่น เสี่ยงการมะเร็งได้สูงในระยะยาว

    ปล่อยตัวให้อ้วนตั้งแต่วัยรุ่น เสี่ยงการมะเร็งได้สูงในระยะยาว

    ปล่อยตัวให้อ้วนตั้งแต่วัยรุ่น เสี่ยงการมะเร็งได้สูงในระยะยาว มีงานวิจัยที่ระบุว่าเด็กวัยรุ่นที่มีค่าดัชนีมวลกายสูงเกินกว่าค่าเฉลี่ยตั้งแต่ต้น ๆ ของชีวิตจะทำให้มีโอกาสในการเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งสูงกว่าเพื่อนวัยเดียวกันถึงร้อยละ 35 เลยทีเดียว แม้จะโตมาแล้วปรับปรุงดูแลสุขภาพ ออกกำลังกายและเปลี่ยนแปลงการกินอาหารไปแล้ว แต่ความเสี่ยงก็ไม่ได้ลดลงตามไปด้วยเลย ซึ่งการวิจัยหนนี้นั้นเกิดจากการวิเคราะห์ข้อมูลของนักศึกษาชายเกือบสองหมื่นคนที่จบจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดในช่วงปะ 191601950 โดยนักวิจัยจาก Medical Research Council (MRC), University College London และ Harvard School of Public Health พบว่าคนที่อ้วนตั้งแต่อายุ 18 ปีนั้น จะเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากมะเร็งได้มากกว่าผู้ที่มีรูปร่างปกติหรือมีค่า BMI ต่ำ ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า ความอ้วนในช่วงวัยรุ่น ทำให้คนเราเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งในภายหลังแม้ว่าต่อมาจะสามารถลดน้ำหนักได้ในวัยกลางคนแล้ว แต่ความเสี่ยงดังกล่าวก็ยังมีอยู่เท่าเดิม และความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งนี้ก็ยังมากในกลุ่มที่อ้วนในวัยรุ่น มากกว่าอ้วนในวัยกลางคนเสียอีก การวิจัยนี้ทำให้เราทราบว่า การรักษาสุขภาพให้ดีก็ต้องเริ่มต้นรักษาตั้งแต่ช่วงวัยรุ่น ไม่ควรปล่อยตัวให้อ้วน และควบคุมน้ำหนักของร่างกายให้อยู่ในมาตรฐานไว้ตลอดเพื่อลดโอกาสการเป็นมะเร็งด้วย แต่สำหรับในเมืองไทยนั้น พ่อแม่ที่มีลูก ๆ อยู่ในช่วงวัยรุ่น ซึ่งมักจะห่วงสวยงามอยู่แล้ว พ่อแม่ก็ควรแนะนำแนวทางในการลดน้ำหนักที่ถูกต้องให้กับลูก ๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมอาหาร การเลือกทานอาหารที่มีไขมันต่ำ การไปออกกำลังกาย และคอยดูแลไม่ให้ลูกพึ่งการลดน้ำหนักทางลัด ไม่ว่าจะเป็นการกินยา…

  • สรรพคุณมากคุณค่าของเห็ดหลากหลายชนิด

    สรรพคุณมากคุณค่าของเห็ดหลากหลายชนิด

    สรรพคุณมากคุณค่าของเห็ดหลากหลายชนิด ไม่มีใครที่ไม่รู้จักเห็ด พืชที่ชอบขึ้นตามขอนไม้และที่ชื้นแฉะทั้งหลาย มีหลายสายพันธุ์ที่เป็นพิษ แต่ก็มีอีกหลายชนิดที่สามารถนำมาทานได้ และสามารถเพาะพันธุ์ขายได้ด้วย มาดูกันดีกว่าค่ะว่าเห็ดแต่ละชนิดที่เรากินกันอยู่ทุกวันนี้ให้คุณค่าต่อร่างกายอย่างไรกันบ้าง – เห็ดชิตาเกะ หรือเห็ดหอม เป็นยาทางแพทย์แผนจีน รักษาโรคได้หลากหลายชนิด ป้องกันเชื้อไวรัสและการก่อกำเนิดของเซลล์มะเร็งได้ ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด ให้กรดอะมิโน ให้วิตามินบี 1 บี 2 และวิตามินดีสูง บำรุงกระดูก มีปริมาณของโซเดียมต่ำจึงเหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคไต ทำให้กระดูกและฟันแข็งแรง ลดกรดในกระเพาะอาหาร บรรเทาหวัดได้ – เห็ดหลินจือ มีคุณสมบัติช่วยต้านมะเร็ง โดยประเทศญี่ปุ่นมักใช้ควบคู่กับการรักษาโรคมะเร็งและโรคชรา เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง โรคความดันโลหิตสูง เป็นต้น – เห็ดหูหนู ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้เม็ดเลือดขาว เพิ่มภูมิต้านทาน รักษาโรคกระเพาะและริดสีดวง บำรุงไตและปอด – เห็ดแชมปิญอง หรือเห็ดกระดุม ช่วยป้องกันและต้านทานมะเร็งเต้านมได้ ช่วยให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนได้น้อยลง จึงลดโอกาสการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งเต้านมให้น้อยลงตามไปด้วยนั่นเอง – เห็ดนางฟ้า เห็ดนางรม และเห็ดเป๋าฮื้อ เป็นเห็ดในตระกูลเดียวกัน เชื่อว่าป้องกันโรคไข้หวัด ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต และบรรเทาอาการโรคกระเพาะได้ –…

  • โทษของการกินอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ

    โทษของการกินอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ

    โทษของการกินอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ  เดี๋ยวนี้วัฒธรรมการกินอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ เริ่มเข้ามาฮิตพร้อมกับที่อาหารญี่ปุ่นครองตลาดเมืองไทยนะคะ ลืมกันไปหมดสิ้นเลยว่าประเทศไทยเราเคยรณรงค์เรื่องการหลีกเลี่ยงอาหารที่สุก ๆ ดิบ ๆ กันมาก่อน เห่อตามไปกินของดิบแบบญี่ปุ่นกันจนหมด ทั้งจริง ๆ แล้วพิษภัยที่มาจากอาหารที่ปรุงไม่สุกนั้นก็มีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเชื้อไวรัส แบคทีเรีย สารพิษจากเชื้อเหล่านี้ ทำให้มีไข้ ปวดท้อง ท้องเสียได้ พบมากทั้งในลำไส้ของสัตว์ปีกและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม รวมไปถึงอาหารทะเลและหอยหลายชนิดด้วย ยิ่งหากผู้ที่ได้รับเชื้อเป็นเด็ก คนชรา หญิงตั้งครรภ์ ผู้ที่มีร่างกายอ่อนแอ รวมไปถึงผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำอย่างเป็นมะเร็งอยู่ ก็มีโอกาสที่จะทำให้อาการรุนแรงจนถึงเสียชีวิตได้ด้วย ดังนั้นควรทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ ๆ ไม่ควรทานอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ และต้องปรุงด้วยอุณหภูมิสูงเกิน 100 องศา ก่อนปรุงต้องล้างน้ำให้สะอาดทั้งเนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ทุกชนิด ล้างแยกกัน แยกเขียง แยกมีดด้วย หลังจากหั่นแล้วก็ควรทำความสะอาดอีกครั้งด้วย และเพราะบ้านเราเป็นเมืองร้อน ในส่วนของอาหารที่ปรุงสุกแล้วเมื่อตั้งให้เย็นแล้วยังไม่ได้ทานควรนำเข้าตู้เย็นภายในสี่ชั่วโมง เพราะหากตั้งไว้นานเกินอาจทำให้เชื้อโรคก่อนตัว หรือสร้างสารพิษขึ้นมาในช่วงนั้นได้ และหากจะนำมาทานใหม่ก็ควรอุ่นให้เดือดทั่วถึงอีกครั้ง ขอให้ทราบไว้ว่านอกจากเชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้อไวรัสต่าง…

  • สารพิษที่ก่อให้เกิดโทษต่อร่างกายจากบุหรี่

    สารพิษที่ก่อให้เกิดโทษต่อร่างกายจากบุหรี่

    สารพิษที่ก่อให้เกิดโทษต่อร่างกายจากบุหรี่ เหตุผลที่การสูบบุหรี่เป็นการทำลายสุขภาพนั้นก็เป็นเพราะว่าในควันบุหรี่ประกอบไปด้วยสารพิษที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ และมีสารก่อมะเร็งไม่ต่ำกว่า 42 ชนิด ซึ่งสารสำคัญที่อันตรายมากได้แก่ – คาร์บอนมอนอกไซด์ เป็นสารที่ทำให้เม็ดเลือดไม่สามารถจับออกซิเจนได้เท่ากับเวลาปกติ หากได้รับมากเกินไปจะทำให้ขาดออกซิเจน มึนงง วิงเวียน เหนื่อยง่าย ตัดสินใจช้าและทำให้เกิดโรคหัวใจได้ – นิโคติน เป็นสารระเหยในบุหรี่ มีฤทธิ์กดประสาทส่วนกลาง ทำให้เกิดการหลั่งอิพิเนฟริน จึงทำให้ความดันเลือดสูงขึ้น หัวใจเต้นเร็วและไม่เป็นจังหวะ หลอดเลือดที่แขนขาหดตัว ทำให้มีไขมันในเส้นเลือดเพิ่มขึ้น ซึ่งก้นกรองที่บุหรี่ไม่ได้ช่วยกรองนิโคตินให้ลดลงแต่อย่างใดเลย – ทาร์ หรือน้ำมันดินนี้จะเป็นคราบข้นเหนียวสีน้ำตาลแก่จากการเผาไห้ของกระดาษและใบยาสูบ เป็นสารก่อมะเร็งหลายชนิด และกว่าครึ่งของน้ำมันดินจะจับที่ปอดทำให้ไอเรื้อรัง มีเสมหะ ในผู้ป่วยโรคมะเร็งปอดนั้นกว่าร้อยละ 90 เป็นผลมาจากการสูบบุหรี่ ผู้ที่สูบบุหรี่มากเกินวันละ 1 ซองนั้นจะมีโอกาสเป็นมะเร็งปอดมากกว่าปกติถึง 5-20 เท่าเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคทางเดินหายใจ ไอเรื้อรัง ไอถี่จนนอนไม่ได้ สารทาร์ยังทำให้เกิดโรคถุงลมโป่งพอง ทำให้หายใจขัดและหอบ และอาจทำให้เสียชีวิตได้ ไม่เพียงเท่านั้น การสูบบุหรี่ยังทำให้เกิดโรคอื่น ๆ ได้อีก ไม่ว่าจะเป็นโรคกระเพาะอาหาร ความดันโลหิตสูง ตับแข็ง โรคปริทนต์ โพรงกระดูกอักเสบ หลอดลมอักเสบ โรคหัวใจ…

  • อันตรายในห้องน้ำที่ทำให้คุณป่วยซ้ำ ๆ ป่วยบ่อย ๆ

    อันตรายในห้องน้ำที่ทำให้คุณป่วยซ้ำ ๆ ป่วยบ่อย ๆ

    อันตรายในห้องน้ำที่ทำให้คุณป่วยซ้ำ ๆ ป่วยบ่อย ๆ ใครที่มีอาการเจ็บป่วยบ่อย ๆ โดยไม่ทราบสาเหตุ บางทีลองมาสังเกตห้องน้ำของคุณบ้างนะคะ ว่ามีเชื้อโรคร้ายแฝงอยู่บ้างหรือเปล่า ลองมาเช็คดูไปพร้อม ๆ กันนะคะ 1. ยาแนวในห้องน้ำทำให้เกิดโรคภูมิแพ้และระบบทางเดินหายใจ หากสูดดมในปริมาณมาก อาจทำให้ระคายเคืองผิวหนัง ดังนั้นหลังจากการก่อสร้างบ้านหรือต่อเติมซ่อมแซมห้องน้ำ ควรเปิดประตู หรือพัดลมระบายอาการเพื่อระบายความเข้มข้นของสารเคมีจากยาแนวเหล่านี้ออกไปให้มากที่สุด 2. ความชื้นในห้องน้ำทำให้คุณป่วยได้ ไม่ควรปล่อยให้ห้องน้ำชื้น ควรเปิดพัดลมดูดอากาศและใช้ม๊อบถูกพื้น เช็คห้องน้ำให้หมาดหรือแห้งได้ก็จะยิ่งดี ป้องกันการก่อตัวของเชื้อราด้วย 3. ติดตั้งพัดลมดูดอากาศผิดตำแหน่ง เช่นติดไว้บนเพดาน ทำให้ความชื้นไม่ถูกระบายออกไป ทางที่ดีควรติดพัดลมระบายอากาศที่สามารถระบายอากาศสู่ภายนอกได้จะดีที่สุด 4. ใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีฤทธิ์รุนแรง ยิ่งโดยเฉพาะที่มีส่วนผสมของแอมโมเนียและคลอรีน เพราะสารทั้งสองชนิดทำให้เกิดอาการระคายเคืองผิวหนัง ปอด และทำให้เกิดโรคหอบหืดได้ด้วย 5. ก๊อกน้ำไม่สะอาดหรือไม่ยอมทำความสะอาด แพร่เชื้อโรคได้มากที่สุดนะคะ เพราะก็อกน้ำเป็นส่วนที่ทุกคนในบ้านจับต้องมากที่สุดแต่มักได้รับการทำความสะอาดน้อยที่สุดด้วย 6. ม่านห้องน้ำแบบไวนิล มีสารที่ก่ออันตรายและสารก่อมะเร็งได้ ควรเปลี่ยนมาเป็นแบบโพลีเสเตอร์หรือไนลอนดีกว่า 7. น้ำยาทำความสะอาดสำเร็จรูปที่มีความสามารถในการกัดเซาะได้ดีนั้น จะทำความรุนแรงต่อผิวและกลิ่นฉุน ๆ ยังระคายเคืองทางเดินหายใจได้อีก ลองเปลี่ยนมาใช้เบกกิ้งโซดาซึ่งหาซื้อได้ตามร้านขายอุปกรณ์เบเกอรี่ กับไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ทำความสะอาดห้องน้ำดีกว่า นำสองอย่างนี้มาผสมกันแล้วป้ายไว้บนสิ่งสกปรกประมาณครึ่งชั่วโมงแล้วขัดล้างตามปกติ จะปลอดภัยต่อสุขภาพของคุณมากกว่าค่ะ 8. ควรกรองคลอรีนออกจากน้ำด้วย…

  • เช็คตัวเองว่ามีปัจจัยเสี่ยงของมะเร็งตับบ้างหรือเปล่า

    เช็คตัวเองว่ามีปัจจัยเสี่ยงของมะเร็งตับบ้างหรือเปล่า

    เช็คตัวเองว่ามีปัจจัยเสี่ยงของมะเร็งตับบ้างหรือเปล่า? มะเร็งตับเป็นมะเร็งที่ไม่ค่อยตรวจพบในระยะแรกเท่าไร แต่ผู้ป่วยมักไปพบแพทย์ก็ตอนที่เป็นในระยะท้าย ๆ แล้ว อีกทั้งยังเป็นมะเร็งที่มีระยะฟักตัวนานอีกด้วย และมีปัจจัยหลายประการในการทำให้เป็นมะเร็งตับขึ้นมาได้ วันนี้มาลองตรวจสอบตัวเองกันดูว่าคุณเข้าข่ายว่าจะเป็นมะเร็งตับบ้างหรือเปล่านะคะ ปัจจัยเสี่ยงในการเป็นมะเร็งตับได้แก่ – เพศชายจะมีโอกาสเป็นมากกว่าเพศหญิง เพราะพฤติกรรมบางประการเช่น ดื่มเหล้าและสูบบุหรี่มากกว่า – ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ ชาวเอเชีย ชาวอเมริกา ชาวเกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก มีโฮกาสเป็นมะเร็งตับสูงกว่า – ผู้ที่มีเชื้อไวรัสตับอักเสบบี ไวรัสตับอักเสบซี ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคตับแข็ง ก็สามารถเป็นโรคมะเร็งตับได้เช่นกัน เชื้อนี้สามารถติดต่อกันได้ทั้งทางเพศสัมพันธ์ การใช้เข็มฉีดยา และการถ่ายทอดจากแม่สู่ลูกในครรภ์ รวมไปถึงการรับเลือดบริจาคด้วย – เป็นโรคตับแข็ง เพราะเซลล์ตับจะถูกทำลายและเหลือรอยแผลไว้ มักเกิดจากการดื่มแอกอฮอล์, เป็นไวรัสตับอักเสบบีและซี รวมไปถึงภาวะมีธาตุเหล็กในร่างกายมากเกินไป จะพัฒนาสู่การเป็นมะเร็งตับได้ – ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานมาก โดยเฉพาะผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์มากหรือมีภาวะตับอักเสบร่วมด้วย – ผู้ที่เป็นโรคอ้วน ก็เสี่ยงเช่นกัน – มักได้รับสาร Aflatoxine เป็นเวลานาน ซึ่งสารนี้คือเชื้อราที่อยู่ในพืชตระกูลถั่วต่าง ๆ ทั้งข้าว ข้าวสาลี ข้าวโพด ถั่วลิสง เป็นต้น – เป็นผู้ที่ได้รับสาร Vinyl…

  • รักษาจิตใจไว้ในแดนบวก ช่วยป้องกันโรคมะเร็งได้

    รักษาจิตใจไว้ในแดนบวก ช่วยป้องกันโรคมะเร็งได้

    รักษาจิตใจไว้ในแดนบวก ช่วยป้องกันโรคมะเร็งได้ โรคมะเร็ง เป็นโรคที่ทำให้เรานึกถึงความตายและความทุกข์ทรมาน เป็นส่วนใหญ่นะคะ ในปัจจุบันนี้คนเป็นมะเร็งก็เพิ่มขึ้น ๆ ทุกวันด้วย ปัจจัยในการเป็นมะเร็งเกิดขึ้นได้หลากหลายค่ะ ไม่ว่าจะเป็นอาหาร อากาศ มลพิษต่าง ๆ กรรมพันธุ์ รวมไปถึง ความเครียดด้วย และความเครียดนี่ล่ะค่ะที่เป็นอีกตัวการสำคัญที่ทำให้ร่างกายเราเจ็บป่วย และเป็นมะเร็ง ความเครียดเกิดจากจากอารมณ์ด้านลบหลายตัว ไม่ว่าจะเป็น ความโกรธ ความเกลียด ความชิงชัง ความริษยา ความหงุดหงิด ความอยาได้อยากมี ฯลฯ เหล่านี้มีผลต่อสุขภาพร่างกายของเราทั้งสิ้น การที่อารมณ์มีผลต่อสุขภาพของเรา เพราะทุกระบบของร่างกายมนุษย์นั้นเชื่อมโยงถึงกัน จิตใจดีจะทำให้ระบบภูมิต้านทานดีขึ้น ผู้ที่มีภูมิต้านทานดีก็จะทำให้ร่างกายแข็งแรง เมื่อเจ็บป่วยก็จะหายเร็วกว่าคนที่มีแต่ความเคร่งเครียด ท้อแท้ สิ้นหวัง เวลาร่างกายมีความเครียดนั้นเส้นเลือดฝอยจะหดตัวลง เนื่องจากระบบประสาทซิมพาเทติกถูกกระตุ้น อวัยวะที่เกี่ยวเนื่องกับภูมิคุ้มกันจะลดความไวลง ผู้ที่มีความเครียดนาน ๆ จะทำให้ฮอร์โมนคอร์ติซอลสูงกว่าปกติ จึงเป็นสาเหตุให้เสี่ยงต่อการก่อตัวของมะเร็งร้ายได้ง่ายขึ้น ยิ่งผู้ป่วยมีจิตใจที่ห่อเหี่ยว สิ้นหวัง ก็ทำให้ร่างกายอ่อนแอมากยิ่งขึ้น โรคจึงลุกลามได้ไปง่ายยิ่งขึ้นด้วย ในด้านของฝึกฝนจิตใจเพื่อลดความเจ็บปวดจากมะเร็งนั้น ทางตะวันตกจะเน้นให้ผู้ป่วยใช้เทคนิคการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ จะได้ลดความเจ็บปวดลง ใช้เทคนิคการสร้างจินตภาพเพื่อเพิ่มการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว และช่วยขจัดเซลล์มะเร็ง ฝึกลดความโกรธ ลดอารมณ์ที่ขุ่นมัวลงไป มองโลกในแง่ดีมากขึ้น ให้อภัยและปล่อยวาง…

  • ป้องกันมะเร็งแบบไม่ยาก ทำตามได้ทุกคน

    ป้องกันมะเร็งแบบไม่ยาก ทำตามได้ทุกคน

    ป้องกันมะเร็งแบบไม่ยาก ทำตามได้ทุกคน โรคมะเร็งเป็นโรคที่ใคร ๆ ก็หวาดผวา เพราะอาการของโรคจะสร้างความเจ็บปวดทรมานมาก ลุกลามไปอวัยวะอื่น ๆ ได้ และมักคิดกันว่าคงรักษาไม่หาย รอวันตายอย่างเดียว แต่ความจริงแล้วมะเร็งบางโรคสามารถป้องกันได้และรักษาให้หายขาดได้หากพบตั้งแต่ในระยะแรก ๆ วันนี้จึงขอนำเอาวิธีการป้องกันมะเร็งแบบไม่ฝาก แบบที่สามารถทำตามได้ทุกคนมาฝากกันนะคะ 1. หมั่นตรวจร่างกายบ่อย ๆ สำคัญมาก แม้จะแข็งแรงอยู่แล้ว เพราะคนที่พบว่าตนเองเป็นมะเร็งแล้วต้องตายหรือรักษาไม่ได้นั้นมักเป็นเพราะว่า ผู้นั้นมักตรวจพบว่าตนเป็นมะเร็งในระยะรุนแรงแล้ว ซึ่งตลอดมาก็วินิจฉัยโรคเอง ซื้อยากินเอง อาการเตือนเหล่านี้หากไม่ได้รับการวินิจฉัยให้ละเอียดก็ทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นโรคอื่น ๆ ได้เช่นกัน ดังนั้นจึงควรตรวจสุขภาพทุกปี และในระหว่างนั้นหากมีสิ่งผิดปกติอื่น ๆ ตามร่างกายเช่น มีตุ่มมีเนื้องอก หรือมีเลือดออก ฯลฯ ควรรีบไปตรวจเลยนะคะ 2. เลือกทานอาหารที่ช่วยต้านทานเซลล์มะเร็งได้ ซึ่งได้แก่ ผักและผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระได้ ไม่ว่าจะเป็นผักคะน้า กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก มะเขือเทศ กระเทียม หัวหอม ขึ้นฉ่าย ผักโขม หัวหอม ผักโขม แอปเปิ้ล แครอท ฯลฯ, ดื่มชาเขียวที่มีสารคาเตชินและสารต้านอนุมูลอิสระมากมาย, น้ำสะอาด ๆ…