Category: เบาหวาน
-
10 วิธีขจัดความเครียด
10 วิธีขจัดความเครียด ความเครียดที่ใครต่อใครก็เป็นกันอยู่นั้น ท่านอาจคิดว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดาของชีวิตเรา แต่ความจริงแล้วหากมีความเครียดที่มากเกินไป อาจส่งผลกระทบรุนแรงต่อสุขภาพเราได้ ไม่ว่าจะเป็น โรคความดันโลหิตสูง แผลในกระเพาะอาหาร โรคหัวใจ โรคอ้วน เบาหวาน หรือฆ่าตัวตาย ตลอดจนเรื่อยจนถึงปัญหากับสังคมรอบข้าง และความจำได้ด้วย ความเครียดจึงเป็นปัญหาที่ไม่ควรมองข้าม แต่ควรหาทางขจัดความเครียดออกไปจะดีกว่าค่ะ 1. หากมีความเครียดที่เกิดจากการต้องไปทำอะไรแปลกใหม่ เช่น การสัมภาษณ์งาน หรือนำเสนอผลงาน ให้ลองนึกภาพเหตุการณ์หรือวางแผนไว้ล่วงหน้าเพื่อสร้างความมั่นใจให้มากขึ้น ให้มองเห็นแต่ภาพดี ๆ แต่ความสำเร็จเท่านั้น กับทั้งเตรียมตอบคำถาม แก้สถานการณ์ไว้ด้วย 2. มองด้านดีของปัญหา จะทำให้สบายใจได้มากขึ้น 3. ลองวางแผนไว้ล่วงหน้าว่าหากมีเหตุการณ์ด้านลบเกิดขึ้นจะทำอะไรกับชีวิต เช่น บริษัทปลดออกจากงาน เป็นต้น 4. เวลาสมองเกิดความตึงเครียดให้ใช้วิธีหายใจเข้าออกลึก ๆ 5. สร้างอารมณ์ที่ดีขึ้นด้วยการเปลี่ยนความคิดจากความเครียดหรือเรื่องที่ไม่สบายใจอย่างฉับพลันไปเป็นเรื่องที่ทำให้มีความสุข เช่น มองดูภาพสัตว์เลี้ยง หรือลูก ๆ หรือเด็กทารกที่ทำให้อารมณ์ดี 6. ผ่อนคลายกล้ามเนื้อดู เพราะความเครียดมากทำให้เราเกร็งกล้ามเนื้อโดยไม่รู้ตัว ค่อย ๆ ไล่ผ่อนคลายไปทีละส่วน ๆ 7. การออกกำลังกายให้เหงื่อออกช่วยลดความเครียดได้…
-
ตับแข็งไม่ได้เกิดจากการกินเหล้าเท่านั้น
ตับแข็งไม่ได้เกิดจากการกินเหล้าเท่านั้น โรคตับ นั้นมีสาเหตุหลายประการ ซึ่งภาวะไขมันพอกตับนั่นก็เป็นอีกปัญหาที่พบมาก เกิดได้จากการดื่มเหล้า การสูบบุหรี่ การรับสารพิษสารเคมีต่าง ๆ ภาวะขาดอาหาร หรือได้รับสารอาหารมากเกินไปจนร่างกายสะสมไว้ในรูปแบบไตรกลีเซอไรด์ในตับ ผู้ป่วยโรคตับอักเสบเรื้อรังนั้นกว่าร้อยละ 60 มีภาวะไขมันพอกตับ และมักมีปัจจัยต่อไปนี้ร่วมด้วย ได้แก่ อ้วนลงพุง ไขมันที่ลำตัวมากกว่าแขนขา เป็นเบาหวาน มีไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง ไขมันพอกตับนี้ส่วนใหญ่ไม่แสดงอาการออกมา กว่าจะรู้ตัวก็มักเป็นโรคตับอักเสบหรือตับแข็งไปแล้ว มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นจะแสดงอาการออกมา ซึ่งอาจมีอาการปวดแน่นชายโครงขวา อ่อนเพลียง่าย ๆ ผู้ที่มีกรรมพันธุ์ครอบครัว ญาติพี่น้องเป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง ยิ่งควรให้ความใส่ใจกับสุขภาพมากเป็นพิเศษ ได้แก่… – ดูแลน้ำหนักตัวให้อยู่ในมาตรฐาน ดูแลอาหารการกิน เลี่ยงอาหารที่ปรุงด้วยกะทิ น้ำมัน นม เนย ชีส กุ้ง ปูไข่ ไข่แดง และอื่น ๆ รวมไปถึงอาหารที่มีน้ำตาลและแป้งมากด้วย เนื่องจากอาจเกิดการสะสมของไตรกลีเซอร์ไรด์ในตับได้ ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอด้วย – หมั่นตรวจสุขภาพทุกปี เพื่อให้ทราบความผิดปกติของร่างกายในส่วนต่าง ๆ รวมทั้งตับด้วย และควรดูแลสุขภาพอย่างสม่ำเสมอเหมาะสม –…
-
การรักษาเบาหวานด้วยการปลูกถ่ายตับอ่อน
การรักษาเบาหวานด้วยการปลูกถ่ายตับอ่อน ปัจจุบันนี้การปลูกถ่ายอวัยวะเป็นการผ่าตัดที่แพทย์ไทยเรามีความชำนาญมากขึ้น จึงถูกนำมาใช้ในการรักษามากขึ้นด้วย แต่ปัญหากลับกลายเป็นว่ามีผู้บริจาคอวัยวะจำนวนน้อยลง ผู้ป่วยหลายรายจึงอาจต้องรอคอยนานบางท่านก็อาจต้องรอคอยทั้งชีวิต ผู้ป่วยรายใดได้รับบริจาคอวัยวะถือว่าเป็นความโชคดีเหมือนได้ชีวิตใหม่ สำหรับการปลูกถ่ายตับอ่อนนี้ก็เป็นวิธีการรักษาเบาหวานอีกวิธีหนึ่งเช่นกัน เพื่อการรักษาผู้ป่วยเบาหวานที่ต้องพึ่งอินซูลินหรือเบาหวานประเภทที่หนึ่ง เพราะเซลล์ที่ผลิตอินซูลินในตับอ่อนโดนทำลาย จึงต้องฉีดอินซูนลินวันละหลายครั้งทุกวัน เคยมีผู้ปลูกถ่ายตับอ่อนสำเร็จมาแล้ว โดยผู้ป่วยรายนี้เป็นเบาหวานชนิดที่หนึ่งเรื้อรัง มีภาวะไตวายด้วย จึงต้องเปลี่ยนไตไปด้วย โดยมีการปลูกถ่ายไตก่อน เพราะผู้ป่วยรายนี้ต้องมาฟอกเลือดด้วยไตเทียมอาทิตย์ละสองครั้งมาตลอด การปลูกถ่ายไตได้ผลดีแต่ก็ยังคงต้องฉีดอินซูลินทุกวันเพื่อควบคุมระดับน้ำตาล ต่อมาไม่นานเป็นเรื่องโชคดีมากที่มีผู้บริจาคตับอ่อนให้ จึงทำการปลูกถ่ายตับอ่อนบริเวณอุ้งเชิงกรานด้านซ้ายแล้วต่อหลอดเลือดเข้ากับหลอดเลือดไปเลี้ยงขา และต่อท่อตับอ่อนเข้ากับลำไส้เล็ก ใช้เวลาผ่าตัดเพียงสามชั่วโมง หลังการผ่าตัดได้รับยากดภูมิเป็นเวลา 18 วันโดยไม่เกิดภาะแทรกซ้อน ตับอ่อนที่ปลูกถ่ายทำงานได้ดี สามารถผลิตอินซูลินได้ทันทีหลังจากการผ่าตัดเพียงวันเดียว มีระดับน้ำตาลในเลือดเป็นปกติ ไม่ต้องฉีดอินซูลินและไม่ต้องกินยาลดระดับน้ำตาลในเลือด การผ่าตัดปลูกถ่ายตับอ่อนหนนี้จึงเป็นความสำเร็จที่ช่วยรักษาชีวิตผู้ป่วยเบาหวานเอาไว้ได้ ต้องเรียกว่าเป็นความโชคดีซ้ำซ้อนที่ผู้ป่วยได้รับการบริจาคอวัยวะถึงสองชิ้น แล้วยังประสบความสำเร็จในการปลูกถ่ายทั้งสองครั้งด้วย คุณภาพชีวิตจึงดีกว่าเดิมมาก หากในประเทศไทยมีผู้ป่วยโชคดีมาก ๆ เช่นนี้ก็คงดี ซึ่งก็คงต้องสนับสนุนโครงการบริจาคอวัยวะให้เป็นที่ยอมรับให้มากกว่านี้ให้ได้ก่อนน่ะค่ะ
-
ผักผลไม้ และสมุนไพรช่วยเลิกบุหรี่
ผักผลไม้ และสมุนไพรช่วยเลิกบุหรี่ หลายคนทราบดีว่าบุหรี่นั้นเป็นพิษทั้งผู้สูบและคนที่อยู่ใกล้ชิด อยากเลิกแต่ก็เลิกได้ยาก การจะเลิกบุหรี่ให้ได้นั้นต้องอาศัยความตั้งใจเป็นสำคัญ เพราะในช่วงแรกที่ร่างกายขาดนิโคตินนั้นจะรู้สึกหงุดหงิด ไม่มีความสุข และเครียดได้ ดังนั้นการนำเอาผักผลไม้ สมุนไพร รวมทั้งเทคนิคอื่น ๆ มาช่วยให้จิตใจสดใสขึ้นจึงเป็นเรื่องสำคัญ การออกกำลังกายหรือการเล่นโยคะ การนั่งสมาธิ ก็ช่วยให้คลายเครียดลงได้ ร่างกายหลั่งเอนโดรฟีนออกมามากขึ้น ทำให้มีความสุขช่วยเลิกบุหรี่ได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ยังมีผักผลไม้ที่ช่วยในการเลิกบุหรี่ได้อีกคือ – กล้วยหอม มีสารสำคัญช่วยลดความเครียดลงได้ เพราะในกล้วยหอมมีกรดอะมิโนทริปโตเฟน ซึ่งร่างกายจะเปลี่ยนเป็นซีโรโทนิน เป็นสารสื่อประสาทที่ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายผ่อนคลาย มีความสุข มีวิตามินบีหก และบีสิบสอง โพแทสเซียม แมกนีเซียม ช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วขึ้นจากการขาดนิโคติน อาจทานเป็นกล้อยหอมปั่นผสมน้ำผึ้งได้เช่นกัน (แต่ควรระวังไว้สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน) หรือกินกล้วยหอมแทนขนมจุบจิบก็ได้ หากไม่มีกล้วยหอมใช้กล้วยน้ำว้าแทนก็ได้ผลเช่นกัน – หญ้าดอกขาว มีโพแทสเซียมไนเตรท ทำให้ประสาทรับรสที่ลิ้นชาจึงไม่อยากสูบบุหรี่ – กานพลู หรือลูกจันทร์ ลองอมดอกกานพลูแห้งจะแก้ความอยากบุหรี่และระงับกลิ่นปากไปด้วยในตัว ช่วยเลิกบุหรี่ได้ง่ายขึ้น ส่วนลูกจันทร์จะช่วยความอยากบุหรี่ได้บ้างเป็นการชั่วคราว – มะขามป้อม มีวิตามินซีสูง มีสารแทนนิน ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง มีภูมิต้านทานสูงขึ้น ลองนำมะขามป้อมมาเคี้ยวสดหรืออมก็ได้เช่นกัน – มะนาว มีรสเปรี้ยวและมีวิตามินซีนู…
-
กินดีไม่มีตายเร็ว
กินดีไม่มีตายเร็ว เดี๋ยวนี้คนเรายิ่งโดยเฉพาะคนเมืองด้วยแล้วมีวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปมาก จึงทำให้รูปแบบการกินอาหารเปลี่ยนไปด้วย พิถีพิถันน้อยลง พึ่งการกินอาหารนอกบ้าน ซื้ออาหารถุง อาหารสำเร็จรูปกินกันมากขึ้น กินผักผลไม้น้อยลง ทานขนมหวานที่น้ำตาลและไขมันสูงมากขึ้นแทนกินผลไม้ ร่างกายจึงได้รับคาร์โบไฮเดรตและไขมัน รวมไปถึงเกลือมากเกินความจำเป็น อย่าว่าแต่เด็กเลย ผู้ใหญ่บางคนก็กินผักไม่เป็น พ่อแม่ก็ไม่มีเวลาปลูกฝัง ทั้งบางคนก็ไม่ยอมกินเองด้วย เด็กก็โตมาเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่กินผัก นั่งเล่นอยู่แต่หน้าคอมพิวเตอร์ กินขนมแทนข้าว วัน ๆ ไม่ออกกำลังกาย โตมาก็มีปัญหาโรคอ้วน เบาหวาน ความดันโลหิตสูง เหมือนผู้ใหญ่ทั้ง ๆ ที่อายุแค่วัยรุ่น ดังนั้นพ่อแม่จึงควรฝึกนิสัยการกินที่ดีให้กับลูก และปลูกฝังให้เด็กได้กลับมาใช้ชีวิตให้สมกับการเป็นมนุษย์ที่แท้จริง ให้ออกกำลังกายบ้างไม่ใช่นั่งหน้าจออย่างเดียว และพ่อแม่ก็ควรทำตัวให้เป็นตัวอย่างที่ดีกับลูกด้วย ในด้านของอาหารควรเลือกอาหารกินให้ดีและห่างไกลโรคดังต่อไปนี้ – กินเป็นเวลา กินให้ครบสามมื้อ มื้อเช้ากินให้อิ่ม กลางวันกินพอประมาณ มื้อเย็นควรเลือกทานอาหารเบาๆ โดยให้ห่างจากเวลานอนอย่างน้อยสามชั่วโมง – เลือกทางอาหารตามฤดูกาล เพราะจะปลอดภัยจากสารเคมีมากกว่าอาหารนอกฤดูกาล หรืออาหารที่ผ่านกระบวนการแปรรูปต่าง ๆ หลีกเลี่ยงอาหารที่ปรุงรสให้หวานมันเค็มมาก – กินให้พออิ่มและครบถ้วนทั้งห้าหมู่ในแต่ละมื้อ ผู้ที่มีน้ำหนักเกินควรเพิ่มสัดส่วนของผักและผลไม้ให้มากขึ้น อาจกินผลไม้จำพวกชมพู่ ฝรั่ง แอปเปิลก่อนอาหาร และกินให้ช้า ๆ เคี้ยวให้ละเอียด ๆ…
-
สัญญาณเตือนก่อนเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต
สัญญาณเตือนก่อนเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต หรือโรคหลอดเลือดสมองนั้น เกิดจากการที่สมองได้รับเลือดไปเลี้ยงไม่พอเพียงจึงสูญเสียการควบคุมร่างกายไป มีสถิติพบว่ามีคนเกิดอาการเช่นนี้ถึงราว 3 ในทุกสองชั่วโมงและยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีกด้วย อาการของสมองขาดเลือดชั่วคราวนั้นอาจมีเพียงอาการเดียวหรือมากกว่าก็ได้ แต่จะมีอาการที่สังเกตและจดจำได้ง่ายดังตัวย่อว่า FAST นี้ ได้แก่ Face ดูที่ใบหน้า จะเห็นว่าเวลายิ้มมุมปากข้างใดข้างหนึ่งตกลงหรือดื่มน้ำแล้วน้ำไหลออกมุมปากข้างใดข้างหนึ่งควบคุมไม่ได้ Arms ดูที่ท่อนแขน จะยกแขนข้างใดข้างหนึ่งไม่ได้ Speech ดูที่การพูด มีปัญหาทางด้านการพูดแม้แต่ประโยคง่าย ๆ ก็พูดให้คนอื่นเข้าใจไม่ได้ Time สังเกตที่เวลา หากมีอาการเหล่านี้ให้รีบนำส่งโรงพยาบาลภายในสามชั่วโมง การจำหลักเหล่านี้จะสามารถสังเกตอาการที่สำคัญของโรคหลอดเลือดสมองและจะได้นำตัวเองหรือผู้ป่วยใกล้ชิดส่งแพทย์ได้ทันเวลา จะสามารถช่วยรักษาและฟื้นฟูผู้ป่วยได้กลับมาเป็นปกติหรือใกล้เคียงได้มากที่สุด โรคนี้สามารถป้องกันได้ด้วยการดูแลสุขภาพตัวเองดังนี้ 1. ควบคุมน้ำหนักตัวให้เหมาะสม ตามส่วนสูงและโครงร่าง มีเกณฑ์อยู่ว่าผู้ใหญ่ควรมีค่าดัชนีมวลกายหรือ BMI อยู่ในช่วงระหว่าง 18.5-22.9 2. งดหรือหลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสชาติหวาน มีไขมันมาก หรือเค็มจัด กินผัก ผลไม้ที่ไม่หวาน และอาหารพวกธัญพืชเพิ่มขึ้น 3. ตรวจเช็คตัวเองว่ามีความเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือไขมันในเลือดสูงหรือโรคอื่นหรือไม่แล้วควรปรึกษาแพทย์เพื่อรักษา 4. ออกกำลังกายในระดับปานกลางอย่างน้อยวันละครึ่งชั่วโมง สัปดาห์ละ 3-4 วันขึ้นไป 5.…
-
ระวังและป้องกัน…โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบในผู้หญิง
ระวังและป้องกัน…โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบในผู้หญิง โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบนี้ เรียกได้ว่าผู้หญิงแทบทุกคนทุกช่วงวัยต้องเคยเป็นมากันทั้งนั้น เป็นโรคที่รักษาไม่ยากแต่หากไม่รักษาแต่ปล่อยไว้จะลุกลามจนอาจกลายเป็นโรคกรวยไตอักเสบเรื้อรังก็อาจทำให้เกิดภาวะไตวายเรื้อรังซึ่งยากต่อการรักษาได้ โรคนี้นั้นเกิดจากเชื้อแบคทีเรียซึ่งมักปะปนอยู่ในอุจจาระของคนเรา มักจะแปดเปื้อนอยู่รอบ ๆ ทวารหนัก หากทำความสะอาดไม่สมบูรณ์ เชื้อโรคก็อาจแปดเปื้อนเข้าสู่ท่อปัสสาวะ เข้าไปภายในกระเพาะปัสสาวะได้ ยิ่งโดยเฉพาะเพศหญิงนั้นจะมีท่อปัสสาวะสั้นจึงง่ายต่อการติดเชื้อมากกว่าผู้ชายที่มีท่อปัสสาวะยาวและอยู่ห่างจากทวารหนักมาก เมื่อเชื้อโรคเข้าสู่กระเพาะปัสสาวะแล้วหากมีการถ่ายปัสสาวะออกทุกครั้งที่ปวดก็จะสามารถขับเชื้อโรคออกมาได้ ไม่เกิดการอักเสบของกระเพาะปัสสาวะ แต่ถ้าอั้นไว้ก็จะทำให้เชื้อมีเวลาที่จะแบ่งตัวเจริญแพร่พันธุ์ได้เกิดการอักเสบของกระเพาะปัสสาวะ เกิดอาการขัดเบาขึ้น โรคนี้จึงมักพบได้ในผู้หญิงที่ทำความสะอาดหลังอุจจาระไม่ดีและชอบอั้นปัสสาวะไว้ รวมไปถึงบางคนที่ยังเป็นกลุ่มเสี่ยงด้วย ได้แก่คนที่เป็นเบาหวาน หญิงตั้งครรภ์ ผู้ที่มีภาวะอุดกั้นของทางเดินปัสสาวะ ผู้ป่วยที่มีการสวนปัสสาวะหรือมีการคาสายสวนปัสสาวะไว้ หรือมีการใช้เครื่องมือแพทย์สอดใส่ท่อปัสสาวะ อาการของโรคนี้ก็คือ ผู้ป่วยมักจะมีอาการถ่ายกะปริบกะปรอย ออกทีละน้อยปวดขัดหรือแสบร้อนเวลาถ่ายปัสสาวะ เข้าห้องน้ำทุกชั่วโมงหรือชั่วโมงละหลายครั้ง รู้สึกเหมือนถ่ายไม่สุด บางรายอาจปวดท้องน้อย ปัสสาวะมักจะใส ๆ บางคนก็ขุ่นหรือมีเลือดปน มักไม่มีไข้ยกเว้นมีกรวยไตอักเสบด้วยจะมีไข้สูง หนาวสั่น ปัสสาวะขุ่น ปวดเอวด้วย ในเด็กเล็กจะมีอาการปัสสาวะรดที่นอนและมีไข้ เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน มักมีอาการหลังจากอั้นปัสสาวะนาน ๆ หรือมีการสวนปัสสาวะ เมื่อมีอาการขัดเบาซึ่งสงสัยว่าอาจเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบความปฏิบัติตัวดังต่อไปนี้ – ดื่มน้ำให้มาก ๆ วันละ สามลิตรขึ้นไป หรือดื่มน้ำเฉลี่ยชั่วโมงละ 1 แก้ว ถ่ายปัสสาวะทุกครั้งที่ปวด น้ำจะช่วยขับเอาเชื้อโรคออกมาและลดอาการปวดแสบปวดร้อนเวลาปัสสาวะได้ –…
-
เลือกทานอาหารช่วยลดน้ำตาลและไขมันในเลือด
เลือกทานอาหารช่วยลดน้ำตาลและไขมันในเลือด ในแต่ละปีนั้นประเทศไทยพบผู้ป่วยเบาหวานรายใหม่ปีละกว่าสามแสนคน และผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงรายใหม่ปีละแปดแสนคนเลยทีเดียว เพราะมีสาเหตุมาจากการกินอาหารที่ไขมันสูง มีเกลือมากและรสชาติหวานมากเกินไป ทางกระทรวงสาธารณสุขจึงเน้นการป้องกัน ควบคุมและเฝ้าระวังเพื่อลดปัญหาความเจ็บป่วยนี้ให้ลดน้อยลง ให้คนไทยมีสุขภาพที่แข็งแรง ลดการทานยา และมีจำนวนผู้ป่วยลดน้อยลงให้ได้ อาหารสำหรับผู้ป่วยเบาหวานนั้น จึงควรควบคุมระดับน้ำตาลให้พอดีด้วยการกินแป้งที่ไม่ขัดข้าว พวกข้าวซ้อมมือ ข้าวกล้อง มัน เผือก เท่าที่พออิ่ม อาหารเหล่านี้มีเส้นใยอยู่ด้วยจึงช่วยลดการดูดซึมน้ำตาลได้ อาหารอีกชนิดได้แก่ผักใบ ช่วยลดน้ำตาล ควบคุมน้ำหนักตัว และเส้นใยอาหารทำให้ดูดซึมน้ำตาลได้ช้าลง ลดระดับคอเลสเตอรอลได้ดี อีกประการก็คือควรลดน้ำหนักตัวให้อยู่ในมาตรฐาน จะรักษาระดับน้ำตาลในเลือดได้ดี รวมไปถึงระดับไขมันและความดันโลหิตด้วย หลีกเลี่ยงอาหารจำพวกคอเลสเตอรอลและไขมันอิ่มตัว ไม่ว่าจะเป็น เนื้อแดง ไขมันสัตว์ กะทิ เนย นมไขมันสูง เพราะจะกระตุ้นให้ระดับคอเลสเตอรอลและไตรกรีเซอไรด์ในเลือดเพิ่มขึ้น รวมไปถึงไขมันทรานส์ที่พบได้มากในอาหารทอดน้ำมัน เบเกอรี่ เนย นมข้น ก็ยังเพิ่มระดับของ LDL ขึ้นและลดไขมันตัวดี HDL ลง เกิดความเสี่ยงต่อการเป็นผนังหลอดเลือดแข็งตัว และเกิดโรคหลอดเลือดได้ ไม่ว่าจะเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดจากเส้นเลือดหัวใจตีบ เสี่ยงต่อการไตวาย ซึ่งจะพบได้มากในผู้ป่วยเบาหวานประเภทสอง ผู้ป่วยเบาหวานและไขมันในเส้นเลือดสูงนั้น ก็สามารถมีสุขภาพที่ดีได้ หากมีความตั้งใจที่จะปรับพฤติกรรมตนเองด้วยการกินอาหารที่ดี รักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในมาตรฐาน หมั่นออกกำลังกายสม่ำเสมอ…
-
การดูแลสุขภาพผู้สูงอายุให้ห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บ
การดูแลสุขภาพผู้สูงอายุให้ห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บ ผู้สูงอายุนั้นจะเกิดความเจ็บไข้ได้ป่วยจากสาเหตุสี่ประการได้แก่ 1. ความเสื่อมโทรมลงของอวัยวะซึ่งเป็นไปตามวัย 2. พฤติกรรมและการดูแลสุขภาพเท่าที่ผ่านมา 3. การเปลี่ยนแปลงไปของเซลล์ภายในร่างกาย 4. ปัจจัยที่ถ่ายทอดกันมากทางพันธุกรรม หลายโรคนั้นสามารถป้องกันได้ ด้วยการดูแลรักษาสุขภาพไว้ให้ดี ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องอาหารการกินที่ควรกินให้ครบหมู่ แต่ให้เน้นผักและผลไม้ หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง หวานหรือเค็มจัด ดื่มน้ำมาก ๆ และหมั่นออกกำลังกายในแบบที่ชอบ เพื่อลดภาวะอ้วนน้ำหนักเกินอันเป็นต้นเหตุของโรคเรื้อรังได้อีกหลายโรคไม่ว่าจะเป็น เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและข้อเข่าเสื่อม ทั้งยังเป็นสาเหตุของมะเร็งบางชนิดได้อีกด้วย การพยายามรักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในมาตรฐานจึงเป็นมาตรการดูแลรักษาสุขภาพที่ดีอีกอย่างหนึ่งด้วย ในผู้สูงอายุนั้นควรมีการดูแลสุขภาพร่างกายของตนเองให้เป็นพิเศษ เช่น สังเกตว่ามีแผลเรื้อรังไม่หายบ้างหรือเปล่า มีปัญหาการกลืนหรือย่อยอาหารหรือไม่ รู้สึกเบื่ออาหาร น้ำหนักลด ไอเรื้อรัง ไข้เรื้อรัง เหนื่อยง่าย เจ็บหน้าอก ท้องเสีย ท้องผูกเรื้อรังบ้างหรือเปล่า ฯลฯ เหล่านี้จำเป็นต้องไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายให้ละเอียดต่อไป โรคที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุนั้นสามารถป้องกันและดูแลตนเองเพื่อลดความรุนแรงได้ อย่างเช่น – โรคไขข้อเสื่อม ควรดูแลไม่ให้น้ำหนักมากเกินจนไปส่งผลให้ข้อเข่ารับน้ำหนักตัวเกิน หมั่นบริหารกล้ามเนื้อรอบข้อให้แข็งแรง ทนุถนอมข้อเข่าให้มาก ๆ อย่างเคลื่อนไหวร่างกายหรือบิดข้อมากเกินไป ควรนั่งบนเก้าอี้ที่สบาย หลีกเลี่ยงการนั่งพับเพียบ ขัดสมาธิ หรือคุกเข่าเพื่อลดการแรงกระทำต่อข้อ ป้องกันการหกล้มด้วยการฝึกเดินหรือใช้เครื่องพยุงร่างกาย ปรับสภาพแวดล้อในบ้านด้วยการทำพื้นไม่ให้ลื่น…
-
อร่อยปาก…ลำบากพุง !!!
อร่อยปาก…ลำบากพุง !!! อาหารอร่อย ๆ นั้นทุกคนไม่ว่าใครก็ชอบกิน เพราะอาหารอร่อยทำให้ผู้ทานรู้สึกมีความสุข คลายเครียดได้ หลายคนที่มีความเครียด หรือความกดดันจากชีวิตด้านอื่นมักจะเลือกการกินเพื่อบรรเทาความเครียดในตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นรสชาติที่ถูกปากที่ถูกปรุงรสด้วยเครื่องปรุงต่าง ๆ กลิ่นหอมที่ได้กลิ่นเมื่อไรก็น้ำลายสอ ความอร่อย หวานหอม สดชื่นจากเครื่องดื่ม และบรรยากาศดี ๆ ในร้านอาหารก็ยิ่งทำให้รู้สึกอยากกินบ่อย ๆ เมื่อเป็นแบบนี้นาน ๆ เข้า ความอ้วนและน้ำหนักเกินก็มาเยือน ยิ่งถ้าไม่ค่อยมีเวลาได้ออกกำลังกายมากขึ้น การมีโรคเรื้อรังก็ตามมา และนับวันปัญหาก็ยิ่งเพิ่มขึ้นในกลุ่มคนที่มีอายุน้อยลงไปเรื่อย ๆ ยิ่งในประเทสสหรัฐอเมริกาแล้ว อาหารที่ประชากรในประเทศทานก็ยิ่งเอื้อให้เกิดภาวะน้ำหนักเกินได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น มันฝรั่งทอด เนื้อแดงชนิดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ไส้หรอก หมูแฮม เบคอน อาหารขยะต่าง ๆ รวมไปถึงกิจกรรมต่าง ๆ ที่คนอเมริกันทำนั้นก็ไม่ค่อยจะทำให้มีให้มีสุขภาพดีเท่าไร ไม่ว่าจะเป็นการนั่ง ๆ นอนๆ ดูทีวี หรือนอนน้อย เหล่านี้ทำให้ชาวอเมริกันประสบปัญหากับโรคอ้วนมากขึ้น แม้แต่คนไทยเองที่เริ่มกินเนื้อสัตว์มากกว่ากินข้าวและผัก ดื่มน้ำอัดลม ชาเย็น ของทอดน้ำมัน และอาหารปรุงแต่งมากขึ้น กินผักผลไม้น้อยลง นั่ง…