Category: ข่าวสุขภาพ

  • ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากโรคเบาหวาน

    ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากโรคเบาหวาน

    ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากโรคเบาหวาน โรคเบาหวานเป็นโรคเรื้อรังที่มักเป็นตลอดชีวิต หากปล่อยปละละเลยหรือขาดการดูแล ก็อาจทำให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำหรือสูงจนรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ รวมไปถึงอาจเกิดโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ ที่จะค่อย ๆ ทำให้อวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายเสื่อมสภาพลงจนเกิดโรคแทรกซ้อนได้ทุกระบบ ซึ่งได้แก่ – หลอดเลือดแดงทั้งเล็กและใหญ่ทั่วร่างกายแข็งและตีบ ทำให้อวัยวะต่าง ๆ เกิดความเสื่อมได้ เช่น จอประสาทตาเสื่อม ตามัว ตาบอด ไตวายเรื้อรัง ประสาทเสื้อ ทำให้มีอาการชาปลายมือปลายเท้า ท้องเดินหรือท้องผูก – โรคกระเพาะอาหารเรื้อรัง – หน้าซีดเป็นลมเวลาลุกขึ้นยืน – องคชาตไม่แข็งตัว – หลอดเลือดหัวใจตีบ ทำให้หัวใจวายเสียชีวิตได้ – อัมพาต – ความจำเสื่อม – ติดเชื้อได้ง่าย เพราะเบาหวานทำให้ภูมิคุ้มกันต่ำลง และอาจติดเชื้อซ้ำซาก เช่น กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ช่องคลอดอักเสบ โรคเชื้อราที่ผิวหนัง ฝี พุพอง – การติดเชื้อรุนแรง เช่น กรวยไตอักเสบเฉียบพลัน ปอดอักเสบ วัณโรค –…

  • อาหารที่เหมาะสมสำหรับถวายพระสงฆ์

    อาหารที่เหมาะสมสำหรับถวายพระสงฆ์

    อาหารที่เหมาะสมสำหรับถวายพระสงฆ์ 1. เครื่องดื่มที่ไม่ผสมน้ำตาล น้ำสะอาด หรือเครื่องดื่มที่ไม่มีน้ำตาลจะดีที่สุด น้ำตาลทำให้อ้วนน้ำหนักเกิน และอาจทำให้เบาหวานกำเริบได้ 2. สำหรับนมวัว ควรเลือกนมจืดไขมันต่ำ หรือสูตรปราศจากไขมัน รวมไปถึงโยเกิร์ตรสธรรมชาติ เพื่อการขับถ่ายที่ดี 3. ในส่วนของข้าว ควรเลือกข้าวกล้องแทนข้าวขาวเพื่อมีคุณค่าทางอาหารสูงกว่า มีกากใยอาหารมากกว่า อิ่มอยู่ท้องนาน ระบบการย่อยก็ทำงานได้ดี ลดความเสี่ยงในการเป็นเบาหวานได้มาก 4. ใส่บาตรหรือถวายอาหารที่ไม่เข้ากะทิ เช่น แกงส้ม แกงเลียง แกงป่า แกงจืดต่าง ๆ หากต้องการถวายแกงกะทิ ให้ปรุงด้วยกะทิธัญพืชหรือนมแทนจะดีต่อสุขภาพมากกว่า 5. หากเป็นอาหารที่ปรุงจากเนื้อสัตว์ ควรเลือกเนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมัน ลอกหนังออกด้วยยิ่งดี และปรุงด้วยวิธีที่ใช้น้ำมันให้น้อยที่สุด เช่นการนึ่ง ต้ม ย่าง ปิ้ง อบ เป็นต้น 6. สำหรับอาหารที่ปรุงจากผัก เน้นผักสด หรือผักต้ม ผักนึ่ง เลี่ยงผักที่ผ่านการปรุงด้วยการทอดหรือผัดน้ำมันปริมาณมาก ลองถวายเป็นผักกับน้ำพริกหรือหลนดู แม้แต่สลัดผักก็ดีต่อสุขภาพท่านเช่นกันค่ะ 7. ถวายผลไม้สด ๆ ดีกว่าผลไม้กระป๋องหรือผลไม้แปรรูป และผลไม้สดก็มีประโยชน์ที่มากกว่าน้ำผลไม้ด้วย เพราะให้กากใยมากกว่า…

  • รู้จักเลือกถวายปัจจัยพระสงฆ์ ช่วยรักษาสุขภาพเพื่อกุศลอันยิ่งใหญ่

    รู้จักเลือกถวายปัจจัยพระสงฆ์ ช่วยรักษาสุขภาพเพื่อกุศลอันยิ่งใหญ่

    รู้จักเลือกถวายปัจจัยพระสงฆ์ ช่วยรักษาสุขภาพเพื่อกุศลอันยิ่งใหญ่ สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า คือบุคคลผู้มีความสำคัญในการดำรงไว้ซึ่งพุทธศาสนา ดังนั้นเราพุทธศาสนิกชนควรส่งเสริมให้ธรรมฑูตเหล่านี้ได้มีสุขภาพดี มีอายุขัยยืนยาว ปราศจากโรคภัยเบียดเบียน เพื่อการเผยแผ่พุทธศาสนาได้อย่างเต็มศักยภาพไปตลอดชีวิต ด้วยกิจของสงฆ์และข้อปฏิบัติตามธรรมวินัย ทำให้พระสงฆ์มีวิถีชีวิตที่แตกต่างไปจากปุถุชน สุขภาพของท่านจึงสัมพันธ์กับวัตรปฏิบัติ ชุมชน สิ่งแวดล้อม ความเชื่อ วัฒนธรรม และความเคยชินของโยมอุปัฎฐากด้วย ทำให้พระสงฆ์ในปัจจุบันนี้มีความเสี่ยงในการเกิดโรคภัยหลายโรค ไม่ว่าจะเป็นโรคความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง โรคเบาหวาน และโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ ตามมาอีกมาก การถวายอาหารสำหรับพระสงฆ์ พระสงฆ์จะฉันอาหารที่ได้จากการบิณฑบาต ไม่เลือกอาหาร ไม่ติดรสชาติอาหาร ฉันพออิ่ม เพื่อให้มีพลังงานในการดำรงชีวิตและปฏิบัติศาสนกิจ ดังนั้นอาหารถวายพระสงฆ์จึงควรเลือกที่มีไขมันต่ำ น้ำตาลน้อย มีผักผลไม้ให้มาก ให้ถูกต้องตามหลักโภชนาการป้องกันโรคภัยเบียดเบียน การถวายยาสำหรับพระสงฆ์ พระสงฆ์จะฉันอาหารแค่วันละ 1-2 มื้อเท่านั้น คือมื้อเช้าและมื้อเพล ดังนั้นในแต่วันจึงมีช่วงเวลาที่ไม่มีอาหารในกระเพาะยาวนาน ในด้านของแพทย์ผู้รักษาจึงต้องปรับการจ่ายยาให้เหมาะสมกับระยะเวลาการออกฤทธิ์ ความสัมพันธ์ระหว่างอาหารและยา รวมทั้งภาวะแทรกซ้อนจากการฉันยาเมื่อท้องว่าง ยกตัวอย่างเช่น ยาสำหรับรักษาเบาหวาน ซึ่งระดับน้ำตาลในเลือดจะสัมพันธ์กับมื้ออาหารจึงต้องปรับให้เหมาะสมด้วย เพื่อการควบคุมระดับน้ำตาลได้ตลอดเวลา ป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากน้ำตาลในเลือดต่ำหรือสูงเกินไป การถวายสังฆทาน ความพิจารณาคุณภาพของอาหารและคุณประโยชน์ทางด้านโภชนาการ รวมไปถึงวันผลิตและวันหมดอายุด้วย บ่อยครั้งที่การถวายถังสังฆทานที่จัดชุดไว้ เป็นการถวายอาหารที่ใกล้หมดอายุให้กับหมู่สงฆ์ คุณอาจได้บาปแทนได้บุญ การถวายรองเท้าที่มีคุณภาพดี เพราะการเดินเท้าไปโปรดสัตว์ในหลายที่…

  • การดูแลผิวหนังสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน

    การดูแลผิวหนังสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน

    การดูแลผิวหนังสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน กว่าร้อยละสามสิบของผู้ป่วยเบาหวานมักเกิดปัญหาผิวหนัง ได้แก่ อาการคัน ผิวหนังอักเสบ การติดเชื้อ ฝีหนอง แผลหายยาก ดังนั้นผู้ป่วยโรคเบาหวานจึงควรดูแลผิวหนังของตนเองอย่างสม่ำเสมอ ได้แก่ – ทำความสะอาดผิวหนังและซับให้แห้งไว้เสมอ – บริเวณขาหนีบหรือรักแร้หลังอาบน้ำให้ซับให้แห้งและโรยแป้งฝุ่นไว้ ไม่ควรปล่อยให้อับชื้น โดยเฉพาะคนที่อ้วนเพราะอาจทำให้เกิดเชื้อราได้ง่าย – หากเป็นคนที่มีผิวแห้ง ควรทาโลชั่นหรือครีมเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหนัง หากมีเหงื่อออกมาสามารถทาแป้งฝุ่นบาง ๆ ให้สบายตัวขึ้นได้ – หากจำเป็นต้องออกแดด ควรทาครีมกันแดดทุกครั้ง – หลีกเลี่ยงการเกาหรือขีดข่วนอื่น ๆ – สำรวจผิวหนังตนเองสม่ำเสมอว่ามีตุ่ม ผื่น ก้อนหรือบาดแผลหรือไม่ – หากต้องฉีดอินซูลินควรดูว่าบริเวณที่ฉีดมีแผลหรือการอักเสบหรือเปล่า – ไม่ควรอาบน้ำร้อนเกินไป หรือแช่ฟองสบู่เพราะผิวจะยิ่งแห้ง ไม่ควรฟอกสบู่ยาหรือสบู่ที่มีฤทธิ์ทำให้ผิวแห้ง และหลังอาบน้ำควรทาครีมบำรุงผิวให้ความชุ่มชื้นด้วย ยกเว้นบริเวณซอกนิ้วเพราะอาจทำให้เกิดเชื้อราได้ – หากมีบาดแผลควรทำแผลให้ถูกวิธี สำหรับแผลสดให้ใช้น้ำเกลือทำแผล ห้ามใช้แอลกอฮอล์ ยาแดง หรือไอโอดีนเพราะจะระคายเคือง และควรปิดบาดแผลด้วยผ้าทำแผลที่สะอาด – ในช่วงฤดูหนาว หรืออากาศแห้งและเย็น ให้ใช้เครื่องทำความชื้นในบ้าน เพราะบาดแผลบนผิวหนังของผู้ป่วยโรคเบาหวานจะหายยาก ดังนั้นควรรักษาสุขภาพผิวหนังไว้ก่อนจะดีกว่าค่ะ

  • หนุ่มสาวออฟฟิศ ดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะ

    หนุ่มสาวออฟฟิศ ดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะ

    หนุ่มสาวออฟฟิศ ดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะ สำหรับหนุ่มสาว ๆ วัยทำงานที่ทั้งวันต้องใช้เวลากับการทำงานนั่งโต๊ะในออฟฟิศนั้น อาจลืมใส่ใจสุขภาพของตนเองจนทำให้เกิดผลเสียในระยะยาว มีโรคภัยต่าง ๆ ตามมากได้ ดังนั้นยิ่งคุณอยู่ในวัยหนุ่มสาวเพิ่งเริ่มทำงานก็ยิ่งควรหันมาดูแลสุขภาพตนเองแต่เนิ่น ๆ ด้วยเคล็ดลับง่าย ๆ ดังนี้ค่ะ จัดท่านั่งให้ดี เพราะเราต้องนั่งบนเก้าอี้ทั้งวันไม่ค่อยมีโอกาสในการลุกไปไหนมากนัก อาจทำให้เกิดความปวดเมื่อย โรคอ้วน และโรคตามส่วนอื่น ๆ ด้วย การนั่งที่ถูกต้องนั้นควรให้ระดับสายตาเราอยู่ในตำแหน่งเดียวกับส่วนบนของหน้าตา และหน้าจอคอมพิวเตอร์ควรอยู่ห่างจากสายตาไม่ต่ำกว่า 20 นิ้ว ข้อมือควรพักอยู่ที่โต๊ะ หัวเข่าอยู่ต่ำกว่ามุมของสะโพก และเท้าต้องแบนราบไปกับพื้น หากใครขาสั้นควรหากเก้าอี้เล็ก ๆ มารองเท้าไว้ ที่สำคัญก็คือในขณะนั่ง ลำคอ หลัง ไหล่ต้องไม่เกร็ง ควรยืดเส้นยืดสายทุกครึ่งชั่วโมง นั่งเก้าอี้ให้เต็มก้น และหลังพิงพนัก เหล่านี้จะช่วยให้คุณไม่ต้องปวดเมื่อยหรือมีปัญหากระดูกสันหลังในระยะยาวด้วยค่ะ จัดระเบียบโต๊ะทำงาน ควรดูแลความสะอาด ให้โต๊ะทำงานสะอาดปราศจากฝุ่น จัดของให้เป็นระเบียบง่ายต่อการใช้งาน พยายามจัดโต๊ะให้โล่งที่สุดเท่าที่จะทำได้ เก็บสิ่งต่าง ๆ ที่ไม่จำเป็นออกจากโต๊ะทำงาน เพื่อประสิทธิภาพในการทำงานและจะได้ไม่ต้องลุกไปหยิบ หรือเอื้อมมือบ่อย ๆ ด้วยค่ะ ของว่างที่ดีต่อสุขภาพ ในช่วงบ่าย ๆ หนุ่มสาวออฟฟิศมักหมดแรง…

  • ดูแลรักษาหนังศรีษะห่างไกลรังแคในหน้าหนาว

    ดูแลรักษาหนังศรีษะห่างไกลรังแคในหน้าหนาว

    ดูแลรักษาหนังศรีษะห่างไกลรังแคในหน้าหนาว รังแคนั้น เกิดจากการที่เซลล์ผิวหนังที่ตายไปแล้วแห้งหลุดออกมา ตกสะเก็ดบนผนังศีรษะ ทำให้ดูเหมือนมีหิมะร่วงอยู่บนศีรษะ ยิ่งเป็นในช่วงหน้าหนาวที่มีอากาศแห้งแล้ว สะเก็ดผิวหนังก็ยิ่งมากขึ้นเพราะอากาศที่แห้งทำให้หนังศีรษะแห้งไปด้วย กระบวนการผลัดเซลล์บนหนังศีรษะนี้ความจริงเป็นกระบวนการตามธรรมชาติ แต่หากเกิดขึ้นในปริมาณมากก็อาจทำให้ระคายเคืองได้ เชื้อราก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งเช่นกัน นอกจากนี้การแพ้อาหารบางชนิด การขาดกรดไขมันโอเม้าสาม และวิตามินบีคอมเพล็กซ์ที่ช่วยลดการผลัดเซลล์ผิว รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ทำสีผม จัดแต่งทรงผมต่าง ๆ ก็อาจสร้างความระคายเคืองให้หนังศีรษะคุณจนหลุดลอกออกมาได้เช่นกัน ซึ่งวิธีการแก้ไขนั้นก็ควรทำควบคู่กันไปทั้งภายนอกและภายในร่างกายได้แก่ ในส่วนของภายนอก ให้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่บำรุงเส้นผม รักษารังแคโดยเฉพาะ ไม่ควรสระผมด้วยน้ำอุ่นมากเกินไป เพราะยิ่งทำให้หนังศีรษะแห้งมากขึ้นได้ สำหรับภายในร่างกายควรป้องกันการผลัดเซลล์ผิวที่มากเกินความจำเป็น ด้วยการเสริมสารอาหารอย่างกรดไขมันโอเมก้าสามและวิตามินบีคอมเพล็กซ์ ดื่มน้ำให้มากให้ร่างกายชุ่มชื้น ป้องกันผิวแห้ง ทานอาหารให้เหมาะสม นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ พยายามอย่างเครียด หรืออดนอน การนั่งสมาธิ โยคะ หรือรำมวยจีนก็ช่วยให้ร่างกายมีการสูบฉีดโลหิตที่ดี ช่วยลดอาการรังแคบนหนังศีรษะได้อีกวิธีหนึ่งค่ะ

  • สุขภาพช่องปากและการตั้งครรภ์

    สุขภาพช่องปากและการตั้งครรภ์

    สุขภาพช่องปากและการตั้งครรภ์ ในระหว่างการตั้งครรภ์นั้น ช่องปากของคุณแม่ ก็เป็นส่วนที่ต้องให้ความสำคัญเช่นกัน เพราะมีผลต่อสุขภาพโดยตรงของลูกในครรภ์ได้ค่ะ ไม่ว่าจะเป็น… – การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนทำให้ระหว่างตั้งครรภ์ทำให้เกิดเหงือกอักเสบ หรือมีหินปูนจำนวนมาก เป็นโรคปริทันต์ เหงือกบวม อักเสบมีเลือดออกได้ – ในมารดาที่มีภาวะเหงือกอักเสบรุนแรง มักจะคลอดลูกน้ำหนักตัวน้อย และคลอดก่อนกำหนดได้ – การคลื่นไส้แพ้ท้องอาเจียนบ่อย ทำให้มีกรดจากกระเพาะอาหารย้อนขึ้นมาในช่องปาก ทำให้ฟันสึกกร่อนได้เร็ว รวมไปถึงอาหารเปรี้ยว ๆ ก็เช่นกัน – หญิงตั้งครรภ์มักจะทานได้น้อย แต่ทานบ่อย การทานบ่อย ทานของหวาน อาหารเหนียวติดฟันทำให้ฟันผุได้ – การมีฟันผุที่ไม่ได้รักษาจะทำให้มีเชื้อแบคทีเรียในช่องปากเป็นจำนวนมาก อาจส่งผ่านไปสู่ลูกทางพันธุกรรม แต่ส่งผลได้ทางน้ำลาย เช่น การกอดจูบลูก การเป่าอาหาร การกัดแบ่ง และการใช้ช้อนร่วมกับลูก – สำหรับเด็กในครรภ์จะเริ่มสร้างฟันน้ำนมตั้งแต่อายุครรภ์ได้ 4-6 สัปดาห์ ซึ่งต้องการสารอาหารหลายชนิดโดยเฉพาะอย่างยิ่งจำพวกแคลเซียม ฟอสฟอรัส ซึ่งจะมีผลให้เคลือบฟันและเนื้อฟันมีความแข็งแรง ดังนั้นคำแนะนำสำหรับคุณแม่ในการดูแลช่องปากระหว่างการตั้งครรภ์ก็คือ 1. แปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันทุกวัน ควรบ้วนปากหรือแปรงฟันทุกครั้งหลังอาหารว่างด้วย 2. หากแพ้ท้องอาเจียน ควรบ้วนปากด้วยน้ำเปล่า หรือน้ำยาบ้วนปากผสมฟลูออไรด์ เพื่อลดปริมาณกรดจากกระเพาะอาหาร แต่ห้ามแปรงฟันเป็นเวลาอย่างน้อย…

  • คุณพ่อคุณแม่ ควรเสริมสร้างความภูมิใจในตนเองให้กับลูก ๆ

    คุณพ่อคุณแม่ ควรเสริมสร้างความภูมิใจในตนเองให้กับลูก ๆ

    คุณพ่อคุณแม่ ควรเสริมสร้างความภูมิใจในตนเองให้กับลูก ๆ ความภาคภูมิใจในตนเอง เป็นสิ่งที่สำคัญในการดำรงชีวิต ที่ควรได้รับการเสริมสร้างตั้งแต่เด็ก เพื่อที่จะได้เติบโตมาเป็นคนที่มีความมั่นใจในตนเอง สามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้ มีความอดทนต่อความกดดันและข้อขัดแย้งได้ดี เป็นคนมองโลกในแง่ดีขึ้นด้วย ซึ่งบทบาทของพ่อแม่ผู้เลี้ยงดูในการเสริมสร้างความภูมิใจในตนเองให้กับเด็กๆ นั้น ควรเริ่มตั้งแต่ขวบปีแรกเลย ได้แก่ 1. ช่วงขวบปีแรก พ่อแม่ควรให้ความรัก ให้เวลา ให้ความใกล้ชิดผูกพัน เช่น ให้นมเมื่อเด็กหิว ปลอบเมื่อเด็กหงุดหงิด หรือเล่นด้วยเมื่อลูกต้องการ จะช่วยให้เขารู้สึกดีกับตนเองที่ได้รับการตอบสนองหรือความรักจากคนอื่น 2. อายุ 1-3 ปีแรก ให้เด็กได้ลงมือทำอะไรด้วยตนเอง เมื่อเขาทำได้สำเร็จ จะเกิดความภูมิใจในตนเองและมองว่าตนเองเป็นคนมีความสามารถ 3. เด็กวัยอนุนาลและวัยเรียน พ่อแม่ควรมอบหมายหน้าที่ในบ้านแบบง่าย ๆ ให้เด็กได้ทำเอง รวมไปถึงให้เด็กได้มีกิจกรรมสร้างสรร หรือจิตอาสาทำงานแบ่งปันกับผู้อื่น 4. พ่อแม่ควารสื่อสารและสร้างบรรยากาศที่ดีในครอบครัว แสดงท่าทีหรือชื่นชมเมื่อเด็กทำสิ่งที่ดี หากทำไม่ดีก็ควรชี้แนะและให้กำลังใจอย่างสร้างสรรค์ ไม่ควรตำหนิหรือต่อว่าเด็กซ้ำ ๆ เพราะจะทำให้เขามองว่าตัวเองไม่ดีจนขาดแรงจูงใจ 5. พ่อแม่ควรเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูก ๆ เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้ในการมองคุณค่าของตนเองและผู้อื่นไปด้วย เด็กที่ขาดความมั่นใจ หรือความภาคภูมิใจในตนเองมักเป็นคนวิตกกังวล เครียดกับปัญหาต่าง ๆ จนไม่สามารถแก้ไขปัญหาของตัวเองทั้งในปัจจุบันและอนาคตไปด้วย…

  • เคล็ดลับการวิ่งเพื่อลดความอ้วน

    เคล็ดลับการวิ่งเพื่อลดความอ้วน

    เคล็ดลับการวิ่งเพื่อลดความอ้วน การออกกำลังกายด้วยการวิ่งนั้น เป็นอีกวิธีหนึ่งในการลดความอ้วนได้อย่างรวดเร็ว ทำได้ง่าย ไม่ต้องใช้อุปกรณ์อะไรมากก็สามารถทำได้ มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายอย่าง เช่น ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันโรค ป้องกันโรคหัวใจ เพิ่มสมรรถภาพให้กับร่างกาย ฯลฯ แต่สำหรับผู้ที่เริ่มต้นวิ่งใหม่ ๆ ควรรู้จักวิธีการวิ่งเสียก่อน มิเช่นนั้นอาจเหนื่อยหอบจนล้าหรือบาดเจ็บได้ค่ะ ท่าวิ่งและการลงน้ำหนักที่ถูกต้อง ควรวิ่งด้วยแรงจากกล้ามเนื้อโคนขา ไม่ควรลงน้ำหนักที่ปลายเท้า ควรวิ่งก้าวยาว ๆ จนกว่าจะเมื่อย เพราะกล้ามเนื้อนั้นจะใช้พลังงานจากไกลโคเจน เมื่อใช้ไกลโครเจนหมดแล้วร่างกายจะเริ่มสร้างขึ้นมาใหม่ ซึ่งจะทำให้สะสมได้มากกว่าเดิม ช่วยให้เราออกกำลังด้วยการวิ่งได้ไกลและนานมากขึ้น ควรวิ่งให้เร็ว ๆ บ้าง เพราะการวิ่งเร็วจะทำให้หัวใจต้องทำงานให้หนักขึ้นเพื่อลำเลียงออกซิเจนและพลังงาน เส้นเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจจึงขยายตัว เป็นการป้องกันโรคเส้นเลือดหัวใจอุดตันได้ไปในตัว อีกทั้งในขณะที่วิ่งควรจะใช้กระบังลมในการหายใจ จะสามารถหายใจได้ลึกและยาวขึ้นกว่าปกติ ซึ่งการหายใจด้วยกระบังลมสามารถฝึกได้โดยการนอนหงายแล้วใช้หนังสือวางบริเวณท้อง หายใจให้หนังสือขยับขึ้นลงในขณะที่สูดลมหายใจ การหายใจแบบนี้จะทำให้ปอดขยายตัว ทำงานได้เต็มที่ ทำให้ไม่เหนื่อยง่าย วิ่งได้ระยะทางที่มากกว่าเดิม การวิ่งสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นนั้น มีคำแนะนำว่า ควรเลือกรองเท้าสำหรับวิ่งที่สวมสบาย สวมถุงเท้า ดื่มน้ำให้พอเพียงก่อนวิ่ง จิบบ่อย ๆ ระหว่างวิ่ง และดื่มทดแทนหลังจากวิ่ง ควรวอร์มร่างกายก่อนและหลังการออกกำลังกาย เลือกสนามวิ่งที่มีความปลอดภัย เช่น ตามสนามกีฬา ในฟิตเนสหรือตามสวนสาธารณะ ฯลฯ หากเป็นระยะแรกที่เพิ่งออกกำลังกาย…

  • ผื่นลมพิษอาจกำเริบในหน้าหนาวได้

    ผื่นลมพิษอาจกำเริบในหน้าหนาวได้

    ผื่นลมพิษอาจกำเริบในหน้าหนาวได้ ผื่นลมพิษ ก็คือการคันบนผิวหนัง อาจมีลักษณะบวมเป็นผื่นปื้นแดง มีขนาดต่าง ๆ กันไป ไม่มีขึ้น เกิดขึ้นและกระจายตัวได้เร็ว มักอยู่ไม่นาน หายได้เองโดยไม่มีร่องรอยอะไร แต่ก็อาจมีผื่นใหม่เกิดขึ้นในที่อื่น ๆ ได้อีก ซึ่งมีสาเหตุที่แตกต่างกันไม่ว่าจะเป็น… – อากาศที่หนาวเย็นลง – ผื่นที่เกิดขึ้นจากความร้อน เช่น เกิดลมพิษทุกครั้งหลังเล่นกีฬาจนเหงื่อออก – ผื่นบริเวณที่ถูกเข็มขัดหรือยางยืดเสื้อผ้าที่สวมอยู่กดรัดแน่นเกินไป – แพ้อาหาร หรือสิ่งที่ผสมอยู่ในอาหาร ไม่ว่าจะเป็นสารแต่งสี แต่งรส แต่งกลิ่น สารกันบูด หรือสิ่งปนเปื้อนอื่น ๆ – การแพ้ยา บางชนิดก็อาจเป็นยาที่นึกไม่ถึงได้ เช่น วิตามิน ยาถ่าย ยาระบาย ยาหยอดตา หยอดหู หรือยาแผนโบราณต่าง ๆ – เกิดลมพิษเพราะติดเชื้อ ที่พบได้บ่อยก็คือการติดเชื้อในทางเดินหายใจส่วนบนเช่น หวัด ไซนัสอักเสบ ทอนซิลอักเสบ เป็นต้น เมื่อเกิดผื่นลมพิษไม่ควรเกาผิวหนัง เพราะอาจทำให้เป็นแผลและอักเสบได้ หากคันมากให้ทาด้วยคาลามายน์โลชั่นเพื่อลดอาการคัน ในรายที่เป็นรุนแรง (ซึ่งอาจพบได้น้อยมาก)…