Category: ไต

  • ใช้ชีวิตให้ดี ห่างไกลจากโรคไต

    ใช้ชีวิตให้ดี ห่างไกลจากโรคไต

    ใช้ชีวิตให้ดี ห่างไกลจากโรคไต  ไตของคนเรานั้น เป็นอวัยวะที่มีขนาดเท่ากับกำปั้นของเจ้าของ มีรูปร่างคล้ายถั่วแดง อยู่บริเวณด้านหลังของลำตัวในระดับของกระดูกซี่โครงส่วนล่าง ทำหน้าที่ควบคุมปริมาณน้ำและเกลือแร่ ควบคุมการทำงานของฮอร์โมนในร่างกาย กรองของเสียในร่างกาย หากไตบกพร่องก็อาจทำให้คุณเป็นโรคไตได้ด้วย โรคไตนั้นมีหลายชนิด แต่ที่อันตรายที่สุดเห็นจะเป็นไตวายเรื้อรัง มีอาการที่เห็นได้ก็คือ นอนไม่หลับ เบื่ออาหาร คลื่นไส้ ซึม วิงเวียน ปวดหัว การรับรสเปลี่ยนไป มีอาการชาตามปลายมือและปลายเท้า รวมทั้งน้ำหนักตัวลดลงได้ และที่เป็นสัญญาณเตือนของโรคไตที่สำคัญคือ พฤติกรรมการถ่ายปัสสาวะเปลี่ยนไปทั้งในเรื่องความถี่ ปริมาณของน้ำปัสสาวะ สีของปัสสาวะ เช่น เข้าห้องน้ำบ่อยขึ้นเวลากลางคืน ปริมาณลดน้อยลง ปัสสาวะเป็นสีน้ำล้างเนื้อ หรือมีเลือดปนออกมา รวมทังปวดหลังปวดเอว ความดันโลหิตสูง หน้าบวม เท้าบวมและท้องบวม กลุ่มเสี่ยงในการเป็นโรคไตวายนั้นจะมีอยู่สองกลุ่มก็คือ กลุ่มที่เป็นโรคที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคไตอยู่แล้ว เช่น ความดันสูง หรือเบาหวาน กับอีกกลุ่มคือเป็นโรคไตซ่อนอยู่ และไม่เคยแสดงอาการอะไรออกมาเลย ไม่เคยป่วยเจ้าโรงพยาบาลแต่ความจริงมีโรคไตซ่อนอยู่ หากไม่ตรวจก็จะไม่รู้ว่าเป็นโรคไต โรคไตนี้สามารถป้องกันและหลีกเลี่ยงได้โดย – อย่าทรมานไตมากเกินไป ด้วยการกินยาที่ซื้อมาเอง หรือกินยาผิดขนาด ผิดชนิด และปริมาณ รวมทั้งกินยาซ้ำซ้อนไปหมด หากซื้อยามากินเองไม่ปรึกษาแพทย์อาจทำให้เกิดผลเสียต่อไต ทำให้ไตอักเสบและเป็นโรคไตได้ –…

  • กลูต้าไทโอนทำให้ผิวขาวใสได้จริงหรือ?

    กลูต้าไทโอนทำให้ผิวขาวใสได้จริงหรือ?

    กลูต้าไทโอนทำให้ผิวขาวใสได้จริงหรือ? กลูต้าไทโอนเป็นสารที่พบได้ในพืช ผัก ผลไม้ทั่วไป รวมทั้งเนื้อสัตว์ด้วย แหล่งของกลูต้าไทโอนที่พบได้มากได้แก่ อะโวคาโด หน่อไม้ฝรั่ง สตรอเบอ์รี่ มะเขือเทศ ส้ม บร็อกโคลี่ ผักโขม เกรปฟรุต ฯลฯ และกลูต้าไทอนนี้ยังพบได้ในเซลล์ตับของเราเอง ซึ่งมนุษย์ผลิตได้เองตามธรรมชาติ แต่ลดลงเมื่ออายุมากขึ้น กลูต้าไทโอนเป็นกรดอมิโนที่สำคัญในการต้านอนุมูลอิสระ จึงช่วยชะลอความเสื่อมของร่างกายได้ ช่วยให้ตับขับสารพิษออกจากร่างกายด้วย นอกจากนี้แล้วยังเป็นสารที่นำมารักษาโรคข้ออักเสบ มะเร็ง พาร์กินสัน โรคตับ โรคไต โรคเอดส์ รักษาอาการหูตึงจากเสียงดัง รักษาภาวะเป็นหมันในเพศชายได้ ส่วนที่ทานแล้วผิวขาวขึ้นนั้นเป็นผลข้างเคียงที่เกิดขึ้น เพราะกลูต้าไทโอนนั้นจะเข้าไปยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานินบนผิวหนังและตามร่างกายด้วย ด้วยความที่สารนี้เป็นสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกายเทียบเท่าวิตามินซีหรือวิตามินอี การเพิ่มสารนี้เข้าไปในร่างกายจะช่วยให้มีสุขภาพแข็งแรงขึ้น ช่วยให้อายุยืนยาวขึ้น ซึ่งนั่นเป็นวัตถุประสงค์หลักของกลูต้าไทโอนมากกว่าผิวขาวใส แต่ก็ใช่ว่าจะกินกลูต้าไทโอนเข้าไปแล้วจะได้รับผลอย่างที่ต้องการทุกครั้ง หากคุณดื่มเหล้า เบียร์ สูบบุหรี่ ดื่มกาแฟ หรือทานยาพาราเซตามอลอยู่บ่อย ๆ ตลอดจนออกกำลังกายหนัก ๆ ก็จะทำให้กลูต้าไทโอนสูญเสียประสิทธิภาพลงไปได้ และการกินกลูต้าไทโอนนี้ก็อาจทำให้มีผลข้างเคียงด้วยคือ ทำให้ผิวหนังแดง ความดันโลหิตต่ำ หอบหืดเฉียบพลัน จึงควรสังเกตอาการหลังการกินไปด้วย แต่อย่างไรก็ตามการทานอาหารทุกหมู่ที่มีความสดใหม่จากธรรมชาติ และดูแลตนเองอย่างสม่ำเสมอ ก็จะทำให้ผิวพรรณดูสดใส เปล่งปลั่งร่างกายแข็งแรงได้อย่างเต็มที่ที่สุดแล้วค่ะ  

  • ผลกระทบของแอลกอฮอล์ ที่มีต่อสุขภาพของเรา

    ผลกระทบของแอลกอฮอล์ ที่มีต่อสุขภาพของเรา

    ผลกระทบของแอลกอฮอล์ ที่มีต่อสุขภาพของเรา สุราหรือแอลกอฮอล์นั้นเป็นพิษภัยต่อสุขภาพร่างกาย ทำให้เกิดโรคได้ถึงกว่าหกสิบชนิด  เมื่อดื่มสุราลงไป  แล้วร่างกายดูซึมเข้าสู่กระแสเลือด  แอลกอฮอล์จะกระจายตัวไปทั่วร่างกาย ทำให้หัวใจเต้นเร็วและถี่ขึ้น  ความดันเลือดจึงเพิ่มขึ้น  แล้วยังมีฤทธิ์ต่อสมองส่วนกลางด้วยการไปกดสมองทำให้เซลล์สมองเสื่อม มีปัญหาความจำเสื่อม และสมองลีบฝ่อ  หากเป็นมากเข้าก็จะอาจเกิดอาการประสาทหลอนได้  อีกทั้งสุราเข้าออกฤทธิ์เข้ากดศูนย์กลายใจและศูนย์ควบคุมการไหลเวียนของโลหิตในสมองจะทำให้เสียชีวิตได้ การดื่มสุรายังทำให้เกิดการระคายเคืองเฉพาะที่  สังเกตง่าย ๆ เลยก็คือเมื่อดื่มลงคอไปก็จะรู้สึกบาดคอแล้ว  แล้วลามลงไปสร้างความระคายเคืองที่หลอดอาหาร  จนทำให้เกิดการอักเสบของเยื่อบุชั้นในสุดของผนังหรือกระเพาะอาหาร แล้วยังทำให้ลำไส้เล็กเกิดทะลุได้อีก   นอกจากนั้นแอลกอฮอล์ยังเข้าขัดขวางการดูดซึมของอาหารบางชนิด ไม่ว่าจะเป็น ไขมัน กรดอะมิโน กรดโฟลิก วิตามินบี 1 วิตามินบี 6 วิตามินบี 12  ที่อาจทำให้เซลล์ของตับได้รับการระคายเคือง และทำให้ตับโตขึ้น  แอลกอฮอล์ยังทำให้การน้ำย่อยจากตับอ่อนไม่สามารถไหลเข้าไปในลำไส้เล็กได้  น้ำย่อยจึงย่อยตับอ่อนเอง ทำให้ตับอ่อนเลือดออกอย่างฉับพลันและทำให้อักเสบได้  มักพบว่าผู้ที่มีอาการเช่นนี้ 20% ของจะเสียชีวิตตั้งแต่ครั้งแรกที่มีปัญหากับตับอ่อน  ทำให้การสร้างอินซูลินบกพร่อง จนกลายเป็นโรคเบาหวานได้ในที่สุด  และทำให้เกิดอาการตับแข็งขึ้นทุกครั้งที่ดื่มด้วย แต่กลับมีนักวิจัยบางกลุ่มที่บอกว่าแอลกอฮอล์มีประโยชน์ต่อระบบหลอดเลือดและหัวใจของทั้งเพศชายและหญิง  โดยได้กล่าวว่า หากได้ดื่มแอลกอฮอล์อย่างเหมาะสมจะช่วยเพิ่มระดับของคอเลสเตอรอลตัวดี ๆ ที่จะช่วยป้องกันระบบภายในหลอดเลือดได้  หากยิ่งเป็นคนที่ไม่ทานอาหารทอด ๆ มัน ๆ แล้วยังออกกำลังกายอยู่เสมอแล้ว  การดื่มแอลกอฮอล์วันละเล็กน้อยแบบนี้จะสร้างคอเลสเตอรอลตัวดี ๆ…

  • กินร้อนช้อนกลาง.. ป้องกันเชื้อร้ายอีโคไล

    กินร้อนช้อนกลาง.. ป้องกันเชื้อร้ายอีโคไล

    กินร้อนช้อนกลาง.. ป้องกันเชื้อร้ายอีโคไล เชื้ออีโคไล เป็นเชื้อที่แพร่ระบาดและติดต่อกันได้ทางอาหารและน้ำ มีอาการถ่ายอุจจาระอย่างรุนแรง ปวดท้อง อาเจียน ถ่ายเหลวมีเลือดหรือมีมูกเลือด และมีอาการรุนแรงขึ้นขนาดไตวายและเสียชีวิตได้ เชื้ออีโคไลนี้เป็นโรคติดต่อทางเดินอาหารที่ร้ายแรง แต่ก็สามารถป้องกันได้ด้วยการระวังป้องกันดังต่อไปนี้ – ทานแต่อาหารที่ปรุงสุกใหม่ และไว้ใจว่าสะอาดเท่านั้น หรือหากเป็นอาหารที่ทำเก็บไว้ก็ควรอุ่นให้เดือนก่อนทานทุกครั้ง หลีกเลี่ยงอาหารดิบ ๆ สุก ๆ ที่อาจมีเชื้อร้ายหลบซ่อนอยู่ได้ – ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ และเครื่องปรุงอาหารทั้งหมด ควรเลือกชนิดที่สะอาดและสดใหม่มาประกอบอาหาร ไม่ควรเลือกชนิดที่ไม่แน่ใจว่าเน่าเสียแล้วหรือไม่มาปรุงเด็ดขาด แม้จะมีราคาถูกก็ตาม – ล้างผักและผลไม้ให้สะอาด หากผักซ้อนเป็นชั้น ๆ ควรลอกหรือปอกเปลือกของผักหรือผลไม้ออกเป็นกลีบ ๆ หรือใบ ๆ แล้วตัดเล็มขอบรอบออก แช่น้ำไว้อย่างน้อย 30 oรที คลี่ใบเอานิ้วถูให้สะอาด หรือเปิดก๊อกน้ำให้น้ำไหลผ่านไว้อย่างน้อย 2 นาที ทั้งนี้สามารถใช้สารอื่น ๆ ช่วยล้างให้สะอาดขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นน้ำส้มสายชู เบกกิ้งโซดา หรือเกลือ ฯลฯ – แยกอาหารดิบและอาหารสุกปรุงแล้วออกจากกัน รวมไปถึงมีด เขียง…

  • อาหารที่เหมาะสำหรับผู้ที่หลีกเลี่ยงโซเดียม (เกลือ)

    อาหารที่เหมาะสำหรับผู้ที่หลีกเลี่ยงโซเดียม (เกลือ)

    อาหารที่เหมาะสำหรับผู้ที่หลีกเลี่ยงโซเดียม (เกลือ) มีผู้ป่วยอยู่หลายโรคที่จำเป็นต้องจำกัดปริมาณของโซเดียม หรือเกลือในอาหาร ไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วยโรคหัวใจ ผู้ป่วยโรคไต เพราะโซเดียมนี้จะทำให้เกิดอาการบวม ทำให้หัวใจเต้นผิดปกติ การเลือกทานอาหารจึงจำเป็นต้องระวังอาหารที่มีปริมาณของโซเดียมให้ดี โดยรายการอาหารด้านล่างนี้จะรายชื่อและปริมาณของโซเดียมต่อหน่วย มก. ในอาหารที่มีน้ำหนัก 100 กรัม 1. ผักทั่วไป (ส่วนใหญ่มีโซเดียม 1 – 20 มิลลิกรัมม) ถั่ว (1- 6) และผลไม้ (1 – 15) ดังนั้นหากเป็นผักต้มหรือข้าวโพดต้มจึงไม่ควรเติมเกลือเพิ่ม 2. อาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรต เช่น ข้าว เผือก มัน ข้าวโพด (มีโซเดียม 2 – 7 มก. / 100 กรัม) แต่หากแปรรูปแล้วจะทำให้มีโซเดียมเพิ่มขึ้นได้ เช่น ซีเรียลคอร์นเฟลค (1,158) มันฝรั่งแผ่น (997) ขนมปังแครกเกอร์ (613) ขนมปังขาว ขนมปังโฮลวีต (541)…

  • วิธีทานผลไม้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพ

    วิธีทานผลไม้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพ

    วิธีทานผลไม้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพ วิธีทานผลไม้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพ ในประเทศไทยนั้นเป็นประเทศในแถบเมืองร้อนที่มีผลหมากรากไม้ที่มีรสชาติอร่อยมากมาย ยิ่งในฤดูร้อนที่ผลไม้หลายชนิดพากันตกลูกแล้ว วัน ๆ เราก็คงอยากแต่จะทานผลไม้เหล่านี้กันให้อิ่มหนำไปเลย แต่ผลไม้หลายชนิดในหน้าร้อน ไม่ว่าจะเป็น ทุเรียน ลำไย เงาะ ลองกอง มะม่วงสุก เหล่านี้มีน้ำตาลสูงมาก อาจทำให้อ้วนได้ อีกทั้งยังมีการใช้สารเคมีและยาฆ่าแมลงระหว่างการปลูกอยู่มาก ดังนั้นเราจึงควรเรียนรู้วิธีการทานผลไม้อย่างถูกต้องเพื่อให้ร่างกายได้รับประโยชน์สูงสุดจากผลไม้โดยไม่เป็นอันตราย ดังต่อไปนี้ค่ะ 1. เมื่อซื้อผลไม้มาแล้วให้ทำการล้างให้สะอาดมาก ๆ หลาย ๆ น้ำ โดยเฉพาะผลไม้ที่ทานได้ทั้งเปลือกยิ่งต้องใส่ใจเป็นพิเศษ อาจแช่น้ำทิ้งไว้สักครึ่งชั่วโมงแล้วล้างทิ้งเพื่อความปลอดภัย 2. ซื้อผลไม้มาทานแค่พอกินเท่านั้น อย่าซื้อมาตุนไว้เยอะ ๆ เพราะวิตามินและแร่ธาตุที่เต็มเปี่ยมจะอยู่ในผลไม้สด ๆ ยิ่งทิ้งไว้นานเท่าไรคุณค่าทางโภชนาการก็จะยิ่งลดลงไปเรื่อย ๆ อีกทั้งควรกินให้มีความหลากหลาย เปลี่ยนชนิดหมุนเวียนไปเรื่อย ๆ ตามฤดูกาลเพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่หลากหลาย 3. สำหรับผู้ที่ป่วยเป็นเบาหวาน หรือผู้ที่เป็นโรคอ้วน ควรระมัดระวังผลไม้ที่หวานจัด โดยทานผลไม้หวานจัดเหล่านี้แค่ 1 ส่วนต่อวันเท่านั้น ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 5-6 คำ ผลไม้หวาน ๆ เหล่านี้ได้แก่ ขนุน มะม่วงสุก กล้วย…

  • อาหาร 11 ชนิดที่อาจทำให้คุณแก่เร็วขึ้น!

    อาหาร 11 ชนิดที่อาจทำให้คุณแก่เร็วขึ้น!

    อาหาร 11 ชนิดที่อาจทำให้คุณแก่เร็วขึ้น! ขึ้นชื่อว่าอาหารแล้ว มีทั้งอาหารที่เป็นคุณและเป็นโทษต่อร่างกายนะคะ ดังนั้นการทานอาหาร จึงใช่การสักแต่ทานเพราะเห็นว่าเป็นอาหารเท่านั้น แต่หากคุณไม่อยากแก่ และไม่อยากให้ร่างกายและอวัยวะต่าง ๆ เสื่อมสภาพก่อนวัยอันควร ก็ควรหลีกเลี่ยงอาหาร 11 ชนิดดังต่อไปนี้ด้วย 1. เกลือ เพราะเกลือจะไปดูดซึมน้ำในร่างกาย ทำให้อ่อนเพลียและมีความเสี่ยงในการเป็นโรคความดันโลหิต และโรคไต 2. น้ำตาล เมื่อบริโภคน้ำตาลเข้าไป จะไปจับกับคอลลาเจนในร่างกาย ทำให้ผิวหนังเกิดรอยเหี่ยวย่อน ทำให้ดูแก่ลง 3. น้ำตาลเทียม แม้น้ำตาลเทียมจะไม่ทำให้คุณเป็นเบาหวาน แต่ก็อาจก่อปัญหากับร่างกายได้ด้วย ทำให้เกิดอาการปวดหัว และปวดข้อ ตลอดจนอยากทานน้ำตาลจริง ๆ ขึ้นมาได้ 4. ลูกอม มีน้ำตาล น้ำเชื่อมต่าง ๆ เป็นส่วนประกอบ ทำให้ร่างกายเกิดความระคายเคือง และทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย 5. น้ำอัดลม ทำให้ร่างกายขาดน้ำและรู้สึกอ่อนเพลียได้ 6. เครื่องดื่มชูกำลังต่าง ๆ ทำลายเคลือบฟัน ทำให้ฟันสึก และผุกร่อนเร็ว 7. กาแฟ ดูดซึมน้ำในร่างกาย จึงทำให้รู้สึกเหนื่อยล้า…

  • อาหารต้องห้ามของ 10 โรค

    อาหารต้องห้ามของ 10 โรค

    อาหารต้องห้ามของ 10 โรค อาหารต้องห้ามหรือของแสลง ก็คืออาหารท่านเข้าไปแล้วทำให้อาการกำเริบหรือโรคที่เป็นอยู่หายช้าลง มีพื้นฐานมาจากภูมิปัญญาทางการแพทย์พื้นบ้าน รู้ไว้จะดีกว่านะคะ ..หากเป็นโรคกระเพาะ หลีกเลี่ยงอาหารจำพวกกาแฟ ชาแก่ ๆ ของทอด อาหารรสเผ็ด หรือมีไขมันสูง อาจทำให้โรคหายยากขึ้น ควรทานอาหารให้ตรงเวลาและเลือกอาหารที่ย่อยง่ายดีกว่า .. หากเป็นไข้ หรือเป็นไข้หวัด เลี่ยงอาหารที่มีความเย็น ของทอด ของมัน ที่ย่อยยาก จะยิ่งทำให้ตัวร้อนขึ้น .. หากเป็นโรคความดันโลหิตสูง หลีกเลี่ยงอาหารที่ไขมัน และคอเลสเตอรอลสูง เช่น โกโก้ ไข่ปลา ไขกระดูก หมูสามชั้น สุรา แอลกอฮอล์ต่าง ๆ รวมทั้งหลีกเลี่ยงอาหารรสเผ็ดจัดและผลไม้ที่มีความหวานอย่างขนุน ทุเรียน ลำไย ด้วย .. หากเป็นโรคตับหรือถุงน้ำดี เลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอลด์ อาหารติดมัน เนื้อสัตว์ติดมัน เครื่องใน ของทอด ของหวานจั เพราะอาจทำให้ประสิทธิภาพของการย่อยอาหารลดลง เพิ่มภาระให้กับตับและถุงน้ำดี ..หากเป็นโรคหัวใจและโรคไต เลี่ยงอาหารที่มีความเค็ม เพราะจะทำให้การไหลเวียนของเลือดช้าลง หัวใจทำงานหนักขึ้น ไตเองก็ต้องขับเกลือมากขึ้น…

  • ความรู้ทางยาจาก “หอยแครง”

    ความรู้ทางยาจาก “หอยแครง”

    ความรู้ทางยาจาก “หอยแครง” หอยแครงเป็นยาชนิดหนึ่งนะคะ แต่เป็นยาในตำราแพทย์แผนไทยค่ะ จัดอยู่ในเปลือกหอย 9 เวลานำมาปรุงยาจะนำไปเผาไฟให้สุกจะได้ปูนหอย ซึ่งมีฤทธิ์ในการรักษาอาการเจ็บป่วยได้ดังต่อไปนี้ค่ะ – ลดกรดในกระเพาะอาหาร ช่วยขับลม และบรรเทาอาการจุกเสียดในช่องท้อง – ช่วยให้ระบายแก๊สได้ดี ทำให้เรอได้ – ช่วยล้างลำไส้ – แก้กระษัยนิ่ว ขับนิ่ว ขับปัสสาวะ – บำรุงไตพิการ – บำรุงกระดูก – ใช้ร่วมกับสมุนไพรอื่น ๆ เพื่อรักษากระษัย หรือ ปวดท้องน้อยเป็นกำลัง – หากใช้ร่วมกับพืชและหอยชนิดอื่นๆ จะช่วยขับพยาธิได้ด้วย – รักษากระษัยจุก ด้วยการขับลม ล้างลำไส้ ขับปัสสาวะ แก้ท้องร่วง และสมานลำไส้ แต่ทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นคือการนำเปลือกหอยไปปรุงยาแล้วนำมาทานเท่านั้น การปรุงยาก็จำเป็นต้องอาศัยแพทย์แผนไทยที่มีความรู้นะคะ อย่าเพิ่งไปลองทำเองค่ะ

  • ไตของคุณกำลังลำบากเพราะปากอยู่หรือเปล่า?

    ไตของคุณกำลังลำบากเพราะปากอยู่หรือเปล่า?

    ไตของคุณกำลังลำบากเพราะปากอยู่หรือเปล่า? คุณรู้ตัวหรือเปล่าว่าตัวคุณเองกำลังทำร้ายไตของคุณด้วยพฤติกรรมการกินของตัวคุณเอง  จากสถิติแล้วมีคนไทยถึง 17.5%  ที่ตายด้วยโรคไต หรือคิดเป็นตัวเลขเฉลี่ยมีคนตายจากโรคไตถึงวันละ 108 คนเลยทีเดียว ซึ่งสาเหตุของโรคไตในคนไทยก็คือ คนไทยมีพฤติกรรมติดอาหารรสจัด และมักชอบเติมน้ำปลาหรือซอสปรุงรสมากเกินความจำเป็น   ทั้งที่ความจริงแล้วในอาหารจานด่วนบางชนิดมีปริมาณโซเดียมที่สูงมากอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็น ก๋วยเตี๋ยวหนึ่งชาม มีปริมาณโซเดียม 750 มิลลิกรัม, ผัดซีอิ๊ว มีปริมาณโซเดียม 1000 มิลลิกรัม, ข้าวราดแกง มีปริมาณโซเดียม 1250  มิลลิกรัม และ ยำวุ้นเส้น มีปริมาณโซเดียม 1500 มิลลิกรัม ในขณะที่ปริมาณโซเดียมที่ร่างกายเราต้องการอยู่ที่วันละ 2000 มิลลิกรัม  แต่จากการสำรวจนั้น คนไทยบริโภคโซเดียมถึงวันละ 4000 มิลลิกรัมต่อวันเข้าไปแล้ว!  นับเป็นตัวเลขที่น่ากลัวทีเดียว  เพราะหากร่างกายของเราได้รับโซเดียมมากเกินกว่าความต้องการของร่างกาย  จะเกิดผลทำให้ไตทำงานไม่ปกติ เพราะโซเดียมตกค้างเกิดปริมาณ ก่อให้เกิดโรคไต  ซึ่งเป็นต้นเหตุให้คุณอาจต้องฟอกไตตลอดชีวิต, เป็นโรคความดันโลหิตสูง, เป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด  ตลอดจนเป็นอัมพาตได้ ดังนั้นนอกจากตัวคุณเองแล้ว เรามาร่วมกันรณรงค์ “ลดเค็มก่อนสาย เพื่อไตคุณเอง” กันเถอะ เพื่อสุขภาพที่ดีของคุณและคนที่คุณรักตลอดไปนะคะ