Category: เอดส์ AIDS & เอชไอวี HIV
-
สอนวัยรุ่นใช้ถุงยางอนามัย ป้องกันการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์
สอนวัยรุ่นใช้ถุงยางอนามัย ป้องกันการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ ในปัจจุบันนี้การมีแฟนตั้งแต่วัยเรียนเห็นจะเป็นเรื่องที่ยอมรับการได้มากขึ้น เพียงแต่ก็ยังต้องให้คบกันอยู่ในขอบเขต รู้จักรักนวลสงวนตัวไว้บาง อย่าเพิ่งไปมีเพศสัมพันธ์กันก่อนเวลา แต่เพราะความรักในวัยรุ่นสมัยนี้ขาดความยับยั้งชั่งใจกันมาก กับทั้งยังมีโอกาสในการมีเพศสัมพันธ์กันได้ง่ายขึ้น หากไม่ต้องการให้ลูก ๆ ของท่านต้องตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร รวมไปถึงการติดโรคทางเพศสัมพันธ์ ผู้ปกครองจึงควรสอนบุตรหลานให้รู้จักการป้องกันตัวไว้ก่อนดีกว่า ต้องยอมรับว่าการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นมีเพิ่มมากขึ้นไปเรื่อย ๆ ซึ่งส่งผลกระทบมากทั้งต่อตัวเด็กเองรวมไปถึงทารกด้วย เพราะความไม่พร้อมในหลายด้าน และหากต้องติดโรคเอดส์ขึ้นมาอีก คุณภาพชีวิตก็ยิ่งย่ำแย่ไปกันใหญ่ ยังไม่นับรวมถึงว่าการมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุน้อย ๆ นั้นทำให้มีความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งปากมดลูกจากการติดเชื้อไวรัสเอชพีวีได้ ดังนั้นแม้การแนะนำเรื่องการใช้ถุงยางอนามัยให้กับเด็กวัยรุ่น อาจจะดูเหมือนเป็นการชี้โพรงให้กระรอก แต่นั่นก็ยังดีกว่าวัวหายแล้วล้อมคอกเป็นแน่ ความรู้ทางด้านเพศศึกษาเหล่านี้จึงควรได้รับการถ่ายทอดจากพ่อแม่ และคุณครูที่ควรจะสอนให้เด็กได้รู้จักว่า.. – เพศสัมพันธ์มีได้เมื่อถึงวัยอันควร ไม่ควรเข้าไปอยู่ในที่ลับตากับเพศตรงข้าม งดเง้นการเที่ยวเตร่ในที่ที่มีขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และด้วยความเป็นผู้หญิงต้องรู้จักระแวดระวังภัยที่จะเกิดขึ้นกับตัวเองด้วย – Safe Sex ทุกครั้ง การมีเพศที่ปลอดภัยต้องใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง – อย่าไปยึดถือว่าการยอมมีเพศสัมพันธ์คือการแสดงความรัก ความรักที่แท้จริงคือการให้เกียรติ ให้ความปรารถนาดี ดูแลกันและกัน ผู้ชายควรให้เกียรติแฟนของตัวเองเหมือนให้เกียรติแม่และพี่สาวน้องสาวของตัวเองด้วย – เพศสัมพันธ์คือความรับผิดชอบร่วมกันทั้งสองฝ่าย จึงควรรับผิดชอบร่วมการในการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยด้วยการใช้ทุกอย่างอนามัยทุกครั้ง และตระหนักร่วมกันทั้งสองฝ่ายด้วย – แม้จะยังไม่แต่งงาน แต่การคบหากันควรมีความซื่อสัตย์ ไม่สะเปะสะปะในกาม หรือนอกใจไปมีคนอื่นอีก
-
ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อเอดส์ รวมทั้งการถูกข่มขืน
ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อเอดส์ รวมทั้งการถูกข่มขืน สถานการ์ของโรคเอสด์ในโลกขณะนี้นั้นมีผู้ติดเชื้อทั่วโลกแล้วสามสิบกว่าล้านคน และเสียชีวิตไปแล้วเกือบสองล้านคน แม้ในแต่ประเทศไทยเอง ก็มีผู้ป่วยโรคเอดส์ถึงกว่าสี่แสนคนแล้วด้วย ทั้งหมดนี้ติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์ถึงร้อยละ 84 ร้อยละ 4 เกิดจากการใช้ยาเสพติดชนิดฉีด และร้อยละ 3.6 เกิดจากการติดเชื้อจากแม่ลูกสู่ ในแต่ละปีประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่นับหมื่นคน และยังมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ การป้องกันตนเองจากเชื้อเอดส์ที่ดีที่สุดนั้นก็คงไม่พ้นการใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ แต่แม้จะใช้ทุกครั้ง ก็ยังพบว่ามีผู้ติดเชื้อเอดส์จากสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดเพิ่มขึ้นอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการถูกข่มขืน การโดนมอมยา หรือเมาจนไม่ได้สติ ฯลฯ ดังนั้นแล้วเราจึงควรหาทางป้องกันตนเองจากเหตุไม่คาดคิดเหล่านี้ไว้ก่อนดีกว่า ด้วยการนำเอาข้อควรระวังเหล่านี้ไปใช้ค่ะ – ไม่ควรเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในสถานการณ์ล่อแหลม หลีกเลี่ยงการอยู่ตามลำพังกับเพศตรงข้ามในที่ลับตาคน เพราะอะไร ๆ ก็เกิดขึ้นได้เสมอ (แม้แต่เพศเดียวกันก็ตามที) – การดื่มเหล้า หรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ อาจทำให้ขาดสติ เสี่ยงต่อการถูกมอมยา และการล่อลวงให้ใช้ยาเสพติด ฯลฯ เหล่านี้เพิ่มความเสี่ยงในการมีเพศสัมพันธ์ไม่พึงประสงค์ และขาดสติในการมีเพศสัมพันธ์ด้วย – แม้แต่การไปเที่ยวในสถานเริงรมย์ที่มีบรรยากาศเป็นใจ ก็อาจเป็นชนวนยั่วยุให้เกิดการมีเพศสัมพันธ์ได้ ยิ่งหากดื่มเหล้าด้วย ความเสี่ยงก็ยิ่งสูง – สำหรับสื่อยั่วยุอารมณ์ทางเพศ หากดูคนเดียวแล้วบรรเทาความต้องการของตัวเองได้ก็โอเค แต่หากคุณดูกับคนอื่น มันก็เสี่ยงมากอยู่เหมือนกันที่อารมณ์จะเตลิดจนยับยั้งไม่อยู่ – สำหรับสาว ๆ…
-
เสพสม..ให้สมรัก
เสพสม..ให้สมรัก ระหว่างชีวิตคู่ของคนสองคนนั้น การจะประสบกับความราบรื่นและความสุขได้ก็มักจะมีเรื่องของเพศสัมพันธ์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งการจะเสริมสร้างให้ชีวิตคู่มีความสำเร็จสมปรารถนานั้นต้องมีปัจจัยต่าง ๆ เป็นพื้นฐาน ได้แก่ ทั้งคู่ต้องเต็มใจและสมัครที่จะใช้ชีวิตร่วมกันด้วยความรักความเข้าใจ ทั้งสองฝ่ายต่างมีความพึงพอใจในรสนิยม นิสัย ฐานะ ความรูป และรูปร่างภายนอกของกันและกัน รวมทั้งทั้งสองฝ่ายก็ต้องการมีเพศสัมพันธ์ มีความสุขหรือความพอใจในความปรารถนาในร่างกายของอีกฝ่าย รวมไปถึงทั้งสองคนต้องมีความเต็มใจ และมีความรู้สึกที่เป็นอิสระหรือยินยอมพร้อมใจที่จะมีเพศสัมพันธ์กันโดยไม่ได้รู้สึกว่าถูกบังคับ ข่มขู่หรือใช้กำลังในการมีเพศสัมพันธ์ นอกจากนั้นการจะร่วมครองเรือนกันให้มีความสุขนั้น ควรมีการเปิดใจกันทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะฝ่ายหญิงที่มักคิดว่าเรื่องนี้ความเก็บความรู้สึกไว้ไม่ควรบอกใคร หากบอกแล้วอาจจะทำให้คนอื่นมองดูตนเองไม่ดีได้ บางครั้งจึงส่งผลให้การมีเพศสัมพันธ์กลายเป็นความทุกข์ไม่สุขสมเท่าที่ควรได้ ทางที่ดีควรหันหน้าเข้าหากันดีกว่า โดย.. 1. เปิดใจถึงความต้องการของกันและกันอย่างจริงใจและให้เกียรติ อาจเป็นการพูดคุย การเขียนโน้ตบอก หรือการแสดงออกด้วยหน้าตาและสีหน้า รวมทั้งสัมผัสทางกาย 2. ยอมรับซึ่งกันและกัน โดยการยอมรับว่าเรื่องเพศสัมพันธ์นั้นสามารถปรับปรุงให้ดีขึ้นได้ และไม่ควรเก็บหรือปิดบังไว้เพราะจะกลัวว่าทำร้ายความรู้สึกของอีกฝ่าย สำหรับการเสริมสมรรถภาพทางเพศ ก็คือการทำร่างกายให้แข็งแรงไปด้วยทางหนึ่ง ด้วยการทานอาหารที่มีคุณค่า ดูแลจิตใจให้เบิกบาน ออกกำลังกายเป็นประจำ รวมทั้งมีทัศนคติที่ดีในเรื่องของการมีเพศสัมพันธ์กับคนที่ตนรัก รักษาความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งหาอะไรที่แปลกใหม่มาเพิ่มความสุขให้แก่กันและกัน บางครั้งอาจเปลี่ยนสถานที่เป็นที่ ๆ โรแมนติกมากขึ้น ลองใส่ชุดหรือเสื้อผ้าที่ไม่เคยใส่ สร้างบรรยากาศภายในห้องนอนเหมาะสม เป็นต้น สิ่งที่ทั้งสองฝ่ายต้องตระหนักก็คือ ควรมีความรับผิดชอบในการมีเพศสัมพันธ์กันทุกครั้ง ควรเป็นเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยจากโรคติดต่อ ใช้ถุงยางอนามัยเพื่อป้องกันโรคเอดส์และการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ รวมทั้งป้องกันไวรัสเอชพีวีที่อาจเป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูกด้วย
-
โรคซิฟิลิส อาการ การรักษา วิธีป้องกัน
โรคซิฟิลิส อาการ การรักษา วิธีป้องกัน โรคซิฟิลิส (Syphilis) เกิดขึ้นได้จากเชื้อแบคทีเรีย Treponema Pallidum เป็นอีกโรคหนึ่งที่ติดต่อทางเพสสัมพันธ์ หรือ ติดต่อจากสิ่งมีชีวิต เชื้ออาจเข้าสู่ร่างกายได้ทางเยื่อเมือก เช่น ช่องคลอด ท่อปัสสาวะ ปาก เยื่อบุตา หรือทางผิวหนังที่มีแผล เชื้อโรคจะแพร่กระจายในร่างกายไปตามกระแสเลือด ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาตั้งแต่ระยะต้นแล้ว อาจทำให้เกิดอาการแทรกซ้อน หรือร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ การติดต่อของโรคซิฟิลิส – ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โดยติดต่อผ่านทางเยื่อบุช่องคลอด รูทวาร ท่อปัสสาวะ – ติดต่อจากการสัมผัสแผลที่มีเชื้อ โดยติดต่อได้ผ่านทาง ผิวหนัง เยื่อบุตา และปาก – ติดต่อจากแม่สู่ลูก เชื้อซิฟิลิสจะถ่ายทอดสู่ทารกในครรภ์ได้ จะเรียกเด็กที่ติดเชื้อนี้ว่า ซิฟิลิสแต่กำเนิด อาการจะแสดงเมื่อเด็กคลอดออกมาได้ 3-8 สัปดาห์ ถ้าไม่ได้สังเกต จะแทบไม่เห็นเลย อาจจะมีตุ่มผื่นขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ถ้าไม่ได้ทำการรักษา เมื่อเข้าสู่ตอนโต อาการจะออกมาก ซึ่งเข้าสู่ระยะที่สี่แล้ว บางรายจะแสดงอาการพิการออกมาให้เห็นได้ชัดเจน อาการของโรคซิฟิลิส ส่วนมากผู้ที่ติดเชื้อซิฟิลิส มักจะพบกับผู้ชายมากกว่าผู้หญิง โดยผู้ป่วยจะมีอาการหลายแบบ แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับระยะที่ติดเชื้อ…
-
โรคเอดส์ อาการ การรักษา วิธีป้องกัน
โรคเอดส์ อาการ การรักษา วิธีป้องกัน โรคเอดส์ หรือ ภูมิคุ้มกันบกพร่อง เกิดจากการติดเชื้อไวรัส ฮิวแมนอิมมิวโนเดฟีเซียนซีไวรัส หรือเรียกว่า HIV โดยเชื้อ HIV จะเข้าไปทำลายเซลล์เม็ดเลือดขาวที่มีหน้าที่สร้างภูมิคุ้มกันโรค ทำให้ผู้ป่วยที่ติดเชื้อมีภูมิคุ้มกันต่ำลง จนร่างกายไม่สามารถต้านทานเชื้อโรคได้อีก โรคต่างๆ หรือโรคฉวยโอกาส จึงเข้ามาซ้ำเติมได้ง่าย เช่น วัณโรค ปอดบวม ติดเชื้อในระบบโลหิต เชื้อรา ฯลฯ และทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตในที่สุด โรคเอดส์สามารถติดต่อได้ โดย 1. เพศสัมพันธ์ กับผู้ติดเชื้อเอดส์ โดนไม่ใช้ถุงยางอนามัย เกิดขึ้นได้ทั้งชายกับชาย หญิงกับหญิง หรือชายกับหญิง ไม่ว่าจะเป็นการมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอดหรือรูทวาร ก็สามารถติดเชื้อ HIV ได้เหมือนกัน – การรับเชื้อทางเลือด ส่วนมากจะพบกับคนที่ใช้เข็มฉีดยาเข้าเส้นร่วมกัน – ติดต่อผ่านทางแม่สู่ลูก เกิดจากแม่ที่มีเชื้อเอดส์และถ่ายทอดให้ทารก ในขณะตั้งครรภ์ ขณะคลอด และภายหลังคลอด ปัจจุบันมีวิธีป้องกันการแพร่เชื้อเอดส์จากแม่สู่ลูก โดยการทานยาต้านไวรัสในช่วงตั้งครรภ์ จะสามารถลดโอกาสเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอดส์เหลือเพียงร้อยละ 8 แต่ยังคงมีความเสี่ยงอยู่ ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือ การตรวจเลือดก่อนแต่งงาน นอกจากนี้โรคเอดส์ ยังสามารถติดต่อผ่านทางอื่นได้ แต่โอกาสมีน้อยมาก…
-
การป้องกันการติดเชื้อจากผู้ป่วยโรคเอดส์
การป้องกันการติดเชื้อจากผู้ป่วยโรคเอดส์ การป้องกันการติดเชื้อ เนื่องจากผู้ป่วยมีภูมิคุ้มกันที่ไม่แข็งแรงติดเชื้อได้ง่าย ผู้ดูแลจำเป็นต้องป้องกันผู้ป่วยมิให้รับเชื้อโรคซึ่งมีวิธีการดังนี้ 1. การล้างมือ เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการทำลายเชื้อโรคให้ล้างมือบ่อยๆ ล้างมือหลังจากเข้าห้องน้ำ ล้างมือก่อนทำอาหาร ก่อนป้อนอาหาร ก่อนอาบน้ำให้ผู้ป่วย ต้องล้างมือทุกครั้งเมื่อจามหรือไอ หรือเอามือจับจมูก ปาก อวัยวะเพศ เมื่อคนดูแลเปลื้อนเลือด น้ำเหลือง น้ำอสุจิจะต้องล้างมือทันที วิธีการล้างให้ล้างด้วยน้ำอุ่นและสบู่ 15 วินาที 2. ปิดแผลของท่าน ถ้าท่านมีแผลหรือตุ่มน้ำที่ผิวหนังหรือ การอักเสบที่ผิวหนังต้องระวังเป็นพิเศษที่จะนำเชื้อไปติดผู้ป่วยและอาจจะติดเชื้อจากผู้ป่วย ท่านมีแผลต้องใช้พลาสเตอร์ปิดแผลสวมถุงมือ 3. แยกคนไม่สบายออกจากผู้ที่ติดเชื้อ หากมีสมาชิกในครอบครัวปวดเป็นไข้หวัดหรือโรคอื่นต้องแยกจากผู้ที่ติดเชื้อ HIV หากเลี่ยงไม่ได้ก็ต้องสวมหน้ากาก ปิดปากและจมูก 4. ห้ามคนไข้สุกใสเข้าใกล้ผู้ป่วย ไข้สุกใสอาจจะทำให้ผู้ป่วย HIV เสียชีวิตได้ดังนั้นผู้ที่เป็นไข้สุกใสต้องไม่อยู่ห้องเดียวกับผู้ป่วยจนกระทั่งผื่นแห้ง สำหรับผู้ที่สัมผัสผู้ป่วยที่เป็นไข้สุกใสหากจะไปเยี่ยมผู้ที่ติดเชื้อ HIV ต้องหลัง 3 สัปดาห์ ผู้ที่เป็นงูสวัดก็ไม่ควรเยี่ยมผู้ป่วยติดเชื้อ HIV และถ้าท่านอยู่ใกล้ชิดกับผู้ที่เป็นโรคไข้สุกใสและท่านต้องดูแลผู้ป่วยติดเชื้อ HIV ท่านต้องสวมหน้ากากปิดปากปิดจมูก ล้างมือก่อนที่จะไปช่วยเหลือคนไข้ และอยู่ในห้องคนไข้ให้น้อยที่สุด ถ้าหากผู้ที่ติดเชื้อ HIV สัมผัสผู้ป่วยไข้สุกใสหรือโรคงูสวัดต้องแจ้งแพทย์ทราบทันที 5. สมาชิกของผู้ที่ติดเชื้อ HIV ควรจะได้รับการฉีดวัคซีนให้ครบเพื่อป้องกันโรคติดต่อไปยังผู้ป่วยและเพื่อให้แน่ใจอาจจะต้องฉีดกระตุ้นอีกครั้ง…
-
เรื่องไม่ลับ “ถุงยางอนามัย” มีดีอย่างไร?
เรื่องไม่ลับ “ถุงยางอนามัย” มีดีอย่างไร? รู้หรือไม่ว่า ถุงยางอนามัยนั้น มีดีอย่างไร ? – ถุงยางอนามัยถ้าใช้อย่างถูกวิธี สามารถช่วยในการคุมกำเนิด โดยมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับยาเม็ดคุมกำเนิด – ถุงยางอนามัยไม่มีผลข้างเคียงเหมือนวิธีการอื่น – ถุงยางอนามัยใช้เฉพาะเวลาที่ต้องการเท่านั้น – ถุงยางอนามัยไม่ทำให้หญิงบริการต้องเสี่ยงและต้องคอยระมัดระวังตัว – ถุงยางอนามัยซื้อหาได้ง่าย ใช้ง่าย ไม่ต้องปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ – ถุงยางอนามัยช่วยป้องกันการแพร่กระจายโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์รวมทั้งโรคเอดส์ – ถุงยางอนามัยช่วยให้ฝ่ายชายหลั่งน้ำอสุจิช้าลงบ้าง จนพอดีกับความรู้สึกสุดยอดของฝ่าย หญิง จึงมีการนำมาใช้ในการรักษาภาวะที่เกิดการหลั่งน้ำอสุจิเร็วของผู้ชาย – ถุงยางอนามัยสามารถตรวจเช็คได้หลังจากมีเพศสัมพันธ์ว่าฉีกขาดหรือไม่และสามารถมั่น ใจได้ถ้าใช้อย่างถูกวิธี * ถ้ารู้อย่างนี้แล้ว คุณผู้ชายที่จะมีเพศสัมพันธ์กับผู้อื่นที่ไม่ใช่ภรรยา ก็ควรสวมถุงยางอนามัยทุกครั้ง เพื่อป้องกันโรคเอดส์ และสาเหตุของการตั้งครรภ์กันด้วยนะค๊ะ
-
รู้จักการป้องกันไม่ให้ติดเชื้อ HIV
รู้จักการป้องกันไม่ให้ติดเชื้อ HIV วิธีการป้องกันโรคเอดส์ที่ดีที่สุด และทุกๆคนสามารถทำได้ คือ การใช้ถุงยางอนามัยเมื่อมีเพศสัมพันธ์ และสิ่งที่ควรเลี่ยงต่อการติดเชื้อโรคเอดส์นั้น ก็ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของเราด้วย แต่ที่สำคัญ เราต้องลดพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อโรคเอดส์ทั้งหมด เช่น การใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน และอีกหลายๆอย่าง ในสมัยก่อยผู้ที่เป็นรักร่วมเพศ มักจะมีเปอร์เซ็นต์ติดเชื้อ HIV ได้มากกว่า ผู้หญิงหรือผู้ชาย แต่ในปัจจุบันกลับพบว่า เชื้อ HIV พบได้ใน วัยรุ่น คนทำงาน ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์กับหญิงอื่น แม่บ้าน คือสามารถพบได้ทั่วๆไป ดังนั้นทุกคนเสี่ยงต่อการติดเชื้อ HIV หากไม่ป้องกันหรือประมาท โดยเฉพาะผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ดังนั้นเรามาดูวิธีการป้องกัน และหลีกเลี่ยงไม่ให้ติดเชื้อ HIV กันดูค่ะ การป้องกันการติดเชื้อ HIV จากเพศสัมพันธ์ การติดเชื้อ HIV จะสามารถติดต่อทางเยื่อเมือก (mucous membranes)เช่น ปลายอวัยวะเพศชาย ปาก ทวารหนัก ช่องคลอด หากเยื่อเมือกเหล่านี้ได้รับเชื้อ HIV จาก น้ำอสุจิ น้ำหล่อลื่นของทั้งหญิงและชาย เลือด ทำให้เกิดการติดเชื้อได้ – วิธีป้องกันที่ได้ผลมากที่สุดแต่ทำยากที่สุดคือการไม่มีเพศสัมพันธ์กับผู้อื่น…
-
อาการและแพร่กระจายของโรคเอดส์
อาการและแพร่กระจายของโรคเอดส์ อาการและการดำแนินโรคของโรคเอดส์ 1. โรคเอดส์มีกี่ระยะ แต่ละระยะมีอาการอย่างไร โรคเอดส์แบ่งออกเป็น 3 ระยะ ระยะที่ 1 ระยะที่ไม่ปรากฏอาการ (Asymptomatic Stage or Carrier Stage) หรือเรียกว่า ระยะติดเชื้อโดยไม่มีอาการ สุขภาพจะแข็งแรงสมบูรณ์เหมือนคนปกติทุกประการ แต่อาจจะเจ็บป่วยเล็กๆน้อยๆเช่นเดียวกับคนปกติอื่นๆ เป็นไข้หวัด ซึ่งจะหายใจได้เหมือนปกติทั่วไป ไม่มีโรคแทรกซ้อน บางคนอาจจะอยู่ในระยะนี้ 2-3 ปีก่อนที่จะเข้าสู่ระยะต่อไปโดยเฉลี่ยประมาณ 7-8 ปีแต่บางคนอาจจะไม่มีอาการนานถึง 10 ปี หรือนานกว่านั้นก็ได้ ผู้ติดเชื้อทุกรายที่อยู่ในระยะนี้แม้จะไม่มีอาการก็สามารถแพร่เชื้อให้กับบุคคลอื่นๆ ได้ ระยะที่ 2 ระยะมีอาการสัมพันธ์กับเอดส์ (Aids Related Complex หรือ ARC) ระยะนี้นอกจากมีเลือดบวกแล้ว ยังอาจมีอาการอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างปรากฏ ให้เห็นได้ เช่น – ต่อมน้ำเหลืองโตหลายแห่งติดต่อกันนานกว่า 3 เดือน – น้ำหนักตัวลดลงอย่างรวดเร็วมากกว่า 10% ของน้ำหนักตัวใน 1 เดือน –…
-
โรคเอดส์กับการตั้งครรภ์
โรคเอดส์กับการตั้งครรภ์ โรคเอดส์กับการตั้งครรภ์ 1. หญิงที่ติดเชื้อเอดส์ ควรปล่อยให้ตั้งครรภ์หรือไม่ ไม่ควร เพราะการตั้งครรภ์อาจกระตุ้นให้หญิงที่ติดเชื้อนั้นมีอาการป่วยของโรคเอดส์เร็วขึ้น นอกจากนี้หากทารกคลอกออกมาก็มีโอกาสได้รับเชื้อจากแม่ได้ 2. อัตราเสี่ยงของทารกที่เกิดจากมารดาที่มีเชื้อเอดส์มีมากน้อยเพียงใด หญิงที่มีเชื้อเอดส์อยู่ในร่างกายสามารถแพร่เชื้อไปยังทารกในครรภ์ได้ประมาณ20-40? ของทารกที่เกิดมา และทารกที่ติดเชื้อจะมีอาการเป็นโรคเอดส์ และตายในเวลาประมาณ 2-5ปี ผู้ติดเชื้อเอดส์แล้วจะมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยได้หรือไม่ > ได้ แต่เนื่องจากเชื้อเอดส์ออกมากับน้ำหลั่งจากอวัยวะเพศ เช่น น้ำจากช่องคลอด น้ำอสุจิ จึงทำให้มีโอกาสแพร่เชื้อเอดส์ไปยังคู่นอนได้ ผู้ที่ติดเชื้อควรทราบความจริง มีความเข้าใจเกี่ยวกับโรคเอดส์และแนวทางการปฏิบัติตัวที่จะไม่ให้เชื้อเอดส์แพร่ไปสู่ผู้อื่นได้เช่น ใช้ถุงยางอนามัยในการร่วมเพศโดยแน่ใจว่าถุงยางนั้น ไม่ชำรุด และปฏิบัติตามหลักการ “การมีเพศสัมพันธ์อย่าง ปลอดภัย” เป็นต้น การมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย (Safe Sex) ต้องทำอย่างไรบ้างการมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย (Safe Sex) คือการร่วมเพศกับเพศตรงข้ามหรือเพศเดียวกันจนสำเร็จความใคร่ด้วยวิธีที่ปลอดภัย ไม่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อเอดส์ ซึ่งจะปฏิบัติดังนี้คือ – พยายามเล้าโลมด้วยการกอดจูบลูบคลำตามร่างกาย – จูบตามร่างกายได้ รวมทั้งจูบตามริมฝีปากได้ แต่ห้ามจูบอย่างดูดดื่มระวังอย่าให้น้ำลายเข้าไปในปากฝ่ายตรงข้ามในปริมาณที่มากพอ รวมทั้งห้ามใช้ลิ้นสอดเข้าไปด้วย – ห้ามสอดอวัยวะเพศเข้าไปในช่องคลอด ทวารหนัก หรือปากของฝ่ายตรงข้าม – พยายามใช้ส่วนของร่างกาย (ซึ่งไม่มีแผล) ที่เป็นร่องเช่นร่องขา ร่องแขน ร่องหน้าอก…