Author: pure

  • โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ที่ผู้หญิงคนใส่ใจให้มากกว่าเพศชาย

    โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ที่ผู้หญิงคนใส่ใจให้มากกว่าเพศชาย

    โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ที่ผู้หญิงคนใส่ใจให้มากกว่าเพศชาย โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ มักพบได้ในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย โดยเฉพาะในช่วงอายุตั้งแต่ 21-50 ปี เพราะในผู้หญิงจะมีทางเดินปัสสาวะที่สั้นกว่า เชื้อแบคทีเรียบริเวณทวารหนักจึงมีโอกาสเคลื่อนเข้าสู่กระเพาะปัสสาวะได้ง่ายกว่าด้วย สำหรับคู่รักที่เพิ่งแต่งงานกันใหม่ๆ ก็มีโอกาสที่เชื้อแบคทีเรียจะหยุดเข้าไปในกระเพาะปัสสาวะได้ง่าย ทำให้เกิดการอักเสบที่เรียกว่า Honey Moon Cystitis ด้วยค่ะ อาการของโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ หลังจากเชื้อแบคทีเรียเข้าไปฟักตัวแล้วจะมีอาการปัสสาวะบ่อย ๆ แต่จะปัสสาวะได้น้อย แต่กลั้นไม่ได้ต้องเข้าห้องน้ำทันที มีอาการแสบในท่อปัสสาวะและปวดเสียวตอนถ่ายสุด ตึงและปวดหน่วงบริเวณท้องน้อย ปัสสาวะมีกลิ่นผิดปกติหรือมีเลือดปน หากไปพบแพทย์จะทำการตรวจด้วยการเก็บปัสสาวะตรวจหาจำนวนเม็ดเลือดขาวและเม็ดเลือดแดงที่ผิดปกติ ในบางรายที่เป็นเรื้อรังก็อาจต้องเก็บไปเพาะเชื้อเพื่อให้ทราบถึงชนิดของแบคทีเรียด้วย การรักษาโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบนั้น แพทย์จะสั่งยาปฏิชีวนะให้ทานประมาณ 3-5 วัน แต่ถ้าผู้ป่วยมีอาการมากอาจต้องทานให้นานขึ้นเป็น 7-10 วัน ในผู้ที่มีอาการอักเสบได้ง่าย เช่น อักเสบหลังการมีเพศสัมพันธ์ อาจต้องทานยาเพื่อป้องกันการอักเสบไว้ก่อน การป้องกันโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบนั้น ควรหมั่นทำความสะอาดช่องคลอด ท่อปัสสาวะและทวารหนัก ควรดื่มน้ำมาก ๆ ด้วยในแต่ละวัน ไม่ควรกลั้นปัสสาวะไว้นาน ๆ เพราะจะเป็นการส่งเสริมให้เชื้อแบคทีเรียมีระยะฟักตัวนานขึ้น การอักเสบก็จะเกิดได้ง่ายขึ้น ในผู้ที่มีอาการอักเสบบ่อย ๆ ควรพบแพทย์เพื่อตรวจละเอียดว่ามีอาการอื่นแอบแฝงอยู่หรือไม่ เช่น เป็นนิ่ว หรือการอุดตันของกระเพาะปัสสาวะ ฯลฯ โรคนี้เป็นแล้วหากรักษาให้หายขาดจะไม่มีผลร้ายแรง…

  • ภาวะไตวาย

    ภาวะไตวาย

    ภาวะไตวาย ภาวะไตวาย คือการสูญเสียการทำงานของไต สามารถแบ่งออกได้เป็นสองชนิดได้แก่ 1. ไตวายแบบเฉียบพลัน เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมากกินเวลาแค่เป็นชั่วโมงหรือเป็นวันเท่านั้น เกิดจากการคั่งของของเสียที่ทำให้เกลือแร่ กรด ด่าง และการควบคุมปริมาณน้ำในร่างกายผิดปกติ ผู้ป่วยเหล่านี้ส่วนใหญ่จะปัสสาวะน้อยกว่าวันละ 400 ซีซี เกิดจากจากหลายสาเหตุ แต่ส่วนใหญ่เกิดจากความผิดปกติของระบบการไหลเวียนเลือดในร่างกาย เช่น ผู้ป่วยติดเชื้อ หรือเสียเลือดมาก หรือขาดน้ำรุนแรง ผู้ป่วยอาจอาจกลับมาเป็นปกติได้หากได้รับการรักษาทันท่วงที 2. ภาวะไตวายเรื้อรัง จะเกิดการสูญเสียการทำงานของไตไปอย่างช้า ๆ กินเวลาตั้งแต่ 1-2 ปี จนถึง 10 ปี จนกระทั่งเข้าสู่ภาวะไตวาย ซึ่งต้องได้รับการรักษาแบบทดแทน เช่น การฟอกเลือด หรือเปลี่ยนไต จึงจะทำให้ผู้ป่วยสามารถดำรงชีวิตต่อไปได้ สัญญาณเตือนและอาการที่บอกว่าเป็นโรคไต 1. ปัสสาวะเป็นเลือด หรือมีสีคล้ายน้ำล้างเนื้อ 2. มีโปรตีนหรือไข่ขาวรั่วออกมาในปัสสาวะ อาจทำให้ปัสสาวะมีฟองมากแกละไม่สลายตัวไปง่าย ๆ 3. บวมรอบ ๆ ตาและข้อเท้า 4. ปวดหลังบริเวณบั้นเอว บางครั้งก็ร้าวไปที่ขาหนีบและลูกอัณฑะ หากปวดบริเวณเหนือกระดูกหัวเหน่าแสดงว่าอาจมีการอักเสบของกระเพาะปัสสาวะ ถ้าเจ็บปวดและมีไข้หนาวสั่น อาจมีการติดเชื้อทางเดินปันสาวะส่วนบนคือท่อไตและกรวยไต…

  • อย่าปล่อยให้ตัวเองหลับใน ป้องกันไว้ก่อนเกิดอุบัติเหตุ

    อย่าปล่อยให้ตัวเองหลับใน ป้องกันไว้ก่อนเกิดอุบัติเหตุ

    อย่าปล่อยให้ตัวเองหลับใน ป้องกันไว้ก่อนเกิดอุบัติเหตุ อาการหลับในนั้น แม้จะเกิดขึ้นเพียงชั่วครู่ แต่หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นก็เรียกได้ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงชีวิตคุณไปตลอดกาลเลยทีเดียว ดังนั้นเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ เราต้องสังเกตตัวเองด้วยว่าเริ่มๆ จะมีอาการหลับในแล้วหรือยัง ได้แก่การสังเกตว่าตัวเองหรือคนใกล้ชิดนั้น ขับรถไปหาวไปหรือหาวบ่อยและต่อเนื่องหรือเปล่า เหม่อลอยหรือมีสมาธิหรือไม่อย่างไร จำเส้นทางในระยะ 2-3 กิโลเมตรที่ผ่านมาได้หรือไม่ และหากรู้สึกว่าเหนื่อยล้า หงุดหงิด มึนหนักหัว กระวนกระวาย ลืมตาไม่ขึ้น เริ่มขับรถส่ายหรือออกนอกเส้นทาง มองข้ามสัญญาณไฟและป้ายจราจรแล้วล่ะก็ คุณกำลังจะหลับในแล้วล่ะ ซึ่งเป็นอันตรายมากไม่ควรขับรถต่อไป แม้อาการจะเกิดขึ้นเพียงไม่กี่ข้อหรือหลายข้อด้วยกัน ควรแก้ไขด่วนด้วยด้วยการปฏิบัติดังต่อไปนี้ 1. หาผลไม้รสชาติเปรี้ยว ๆ มาทาน เพราะผลไม้รสเปรี้ยวนอกจากมีวิตามินซีสูงแล้วยังช่วยกระตุ้นให้สดชื่นขึ้นได้ 2. ใช้น้ำแข็งถูขมับหรือดื่มน้ำเย็น ๆ อมน้ำแข็งเย็น ๆ จะตื่นตัวขึ้น 3. ปิดแอร์แล้วเปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเท ลดปริมาณก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ในรถออกไป ลมจากธรรมชาติจะทำให้คนขับรู้สึกสดชื่นขึ้น 4. เปิดเพลงจังหวะเร็ว ๆ ดัง ๆ ร้องตามไปด้วยก็ได้ จะช่วยแก้ง่วงได้ 5. หากทนไม่ไหวจริง ๆ ให้หาที่จอดรถที่ปลอดภัยนอกพักสัก 10-15 นาที อย่างตามจุดจอดรถของด่านตรวจฯ หรือตามสถานีตำรวจฯ…

  • การป้องกันโรคฉี่หนู

    การป้องกันโรคฉี่หนู

    การป้องกันโรคฉี่หนู ในช่วงฤดูฝนที่มักมีน้ำท่วมขัง เป็นระยะที่มีการระบาดของโรคเลปโตสไปโรซิสหรือโรคฉี่หนูได้ง่ายมาก ดังนั้นเราจึงควบคุมดูแล และป้องกันโรคฉี่หนูด้วยการปฏิบัติตัวตามนี้ค่ะ 1. กำจัดหนูในบริเวณที่อยู่อาศัย บ้านพัก สถานที่ทำงาน ร้านอาหาร ตลาด สถานที่ท่องเที่ยว ทุกที่ที่ต้องมีคนเข้าไปใช้งาน 2. ไม่ควรทานอาหารค้างคืนที่เก็บไม่มิดชิด เพราะอาจมีหนูมากินก็ได้ 3. หากต้องทำงานลุยน้ำ ลุยโคลนหรือต้องเกี่ยวข้องกับสัตว์ที่เป็นพาหะ ควรสวมถุงมือยาง รองเท้าบู้ตให้มิดชิด และอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายด้วยสบู่ให้หมดจดหลังจากเสร็จงาน 4. ไม่ควรลงไปเล่นน้ำหรือว่ายน้ำในแหล่งที่อาจมีเชื้อโรคปนเปื้อน เช่น แหล่งน้ำกินของวัว ควาย หมู ทั้งหลาย และควรดูแลเด็ก ๆ ไม่ให้เล่นน้ำด้วย 5. เกษตรกรที่ทำปศุสัตว์ควรแยกบริเวณเลี้ยงสัตว์กับคนอยู่อาศัยให้ชัดเจน กั้นคอกให้เป็นบริเวณ แยกภาชนะใส่น้ำของสัตว์และของคนออกจากกัน ห้ามใช้ร่วมกัน 6. แม้สัตว์จะได้รับการฉีดวัคซีนไม่ให้แสดงอาการของโรคแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าจะรับเชื้อเข้าสู่ร่างกายไม่ได้ ดังนั้นก็ยังควรระวังจะแพร่เชื้อมาสู่คนได้อยู่ดี 7. ในวัคซีนที่ฉีดให้คนนั้นไม่ได้ป้องกันโรคฉี่หนูได้ทุกเชื้อ และการไล่ฉีดทุกเชื้อก็เป็นไปได้ยากด้วย และเป็นวัคซีนที่ไม่ได้ป้องกันตลอดชีวิตเหมือนวัคซีนชนิดอื่น ๆ จึงไม่แนะนำให้ฉีด 8. แม้จะเคยเป็นโรคนี้มาแล้ว ผู้ป่วยก็จะมีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อย่อยชนิดนี้เท่านั้น แต่ไม่ได้ป้องกันเชื้อย่อยชนิดอื่น ๆ ดังนั้นก็อาจเป็นใหม่จากเชื้อย่อยตัวอื่นได้อีก 9. หากในบ้านมีผู้ป่วยก็ไม่จำเป็นต้องแยกห้องนอน…

  • ผู้สูงอายุทำอย่างไรไม่ป่วย อายุยืนยาว

    ผู้สูงอายุทำอย่างไรไม่ป่วย อายุยืนยาว

    ผู้สูงอายุทำอย่างไรไม่ป่วย อายุยืนยาว ผู้สูงอายุทำอย่างไรไม่ป่วย อายุยืนยาว!!! วันนี้จะนำเอาเคล็ดลับอายุยืนไม่เจ็บป่วย ไม่ต้องกินยาบำรุงหรืออาหารเสริมใด ๆ เลยของคุณหมอเฉกมาฝากกันนะคะ ลำดับแรกเลยก็คือ ต้องหมั่นออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็นการว่ายน้ำ เดิน วิ่ง ขี่จักรยาน โยคะ ทำต่อเนื่องกันมาตั้งแต่เกษียณ ซึ่งบางคนที่อายุมากอาจไม่เคยออกกำลังกายเลยก็สามารถเริ่มต้นเลือกกีฬาอย่างที่ชอบได้ โดยให้เหมาะสมกับกำลังร่างกายของตัวเอง ออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละสามวัน ทำให้ร่างกายแข็งแรงได้รับออกซิเจนมากขึ้น มีพลังชีวิตไม่เหนื่อยง่าย กล้ามเนื้อหัวใจดีขึ้นแข็งแรงขึ้น รวมไปถึงเซลล์สมองด้วย ในส่วนของการทานอาหาร คุณหมอเฉกจะเน้นการทานผลไม้ไทยเท่านั้น เพราะสดและมีวิตตามินแร่ธาตุ เน้นทานอาหารให้ครบห้าหมู่ ในระหว่างการทานอาหารจะไม่ดื่มน้ำเลย เพราะน้ำจะเข้าไปทำให้น้ำย่อยในกระเพาะอาหารเจือจางลง หลังทานอาหารแล้วควรรอสักพักแล้วค่อยดื่มน้ำสะอาดดีกว่า และระหว่างวันควรดื่มให้มากด้วยเพื่อล้างพิษในร่างกาย ในด้านของอาหารโปรตีนก็ควรเลือกทาน ไข่ ปลาทู เป็นโปรตีนที่หาได้ง่ายและมีไขมันต่ำ ช่วยให้น้ำหนักตัวสมดุลกับส่วนสูง ไม่อ้วนเกินไป นอกจากนี้สิ่งที่สำคัญก็คือต้องรักษาจิตให้นิ่ง รักษาศีลห้าให้ครบ ไม่ว่าจะอายุเท่าไรก็ควรปฏิบัติธรรม ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อตนเอง ต่อสังคม ต่อประเทศและต่อโลก เท่านี้ก็จะช่วยให้คุณแข็งแรงไปตลอดและมีอายุยืนยาวได้แล้ว

  • ฟอร์มาลีนและยาฆ่าแมลง สารปนเปื้อนในอาหารสุดอันตราย

    ฟอร์มาลีนและยาฆ่าแมลง สารปนเปื้อนในอาหารสุดอันตราย

    ฟอร์มาลีนและยาฆ่าแมลง สารปนเปื้อนในอาหารสุดอันตราย แม้แต่ชาวประมงหรือเกษตรกรเองก็ยังแบ่งปลาที่ไม่แช่ฟอร์มาลีน หรือแบ่งแปลงผักที่ไม่ฉีดยาฆ่าแมลงไว้กินในครอบครัวเลย แสดงว่าสารสองชนิดต้องเป็นอันตรายมาก ๆ แน่นอน แล้วยังจะทานอาหารที่มีสารปนเปื้อนสองชนิดนี้อยู่อีกหรือคะ? สารฟอร์มาลิน หรือน้ำยาดองศพนั้น เป็นสารที่ใช้กันในอุตสาหกรรมเคมี พลาสติก สิ่งทอ การแพทย์ เป็นยาฆ่าเชื้อโรค ฆ่าเชื้อรา และใช้ในการดองศพ แต่ได้มีการนำเอามาแช่สารฟอร์มาลีนเพื่อให้อาหารคงความสดไม่เน่าเสียง่าย เก็บได้นาน อาหารที่ตรวจพบฟอร์มาลีนมักจะเป็น อาหารทะเลต่าง ๆ ผักสด ผลไม้สด หรือเนื้อสัตว์สด ๆ สารนี้ก่อให้เกิดอันตรายคือ ปวดท้องรุนแรง ท้องเดิน หมดสติและเสียชีวิตได้ แต่หากได้รับในปริมาณน้อยจะทำให้การทำงานของตับ ไต สมองหัวใจ เสื่อมลง การสังเกตเวลาซื้อหาจากตลาดนั้นให้ดมกลิ่นดูต้องไม่มีกลิ่นฉุนแสบจมูก ส่วนผักที่ขายทั้งวันก็ยังไม่สลดไม่เหี่ยวทั้งที่โดนแดดหรือตากลม รวมไปถึงเนื้อสัตว์ที่มีสีเข้มและสดผิดปกติทั้งที่ไม่ได้แช่เย็น ก็ให้ระวังว่าอาจมีการฉีดฟอร์มาลีนด้วย ควรหลีกเลี่ยง ในส่วนของเนื้อสัตว์ควรล้างน้ำสะอาดหลาย ๆ ครั้ง ยาฆ่าแมลง ปัจจุบันพบว่ามีการใช้การมากขึ้น จนตกค้างในพืชผักต่าง ๆ รวมไปถึงอาหารแห้ง เช่น ปลาเค็ม ปลาแห้ง หมึกแห้ง กุ้งแห้ง ปลาร้าด้วย ฯลฯ ทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายก็คือ…

  • จัดฟันแฟชั่น… อันตรายที่คาดไม่ถึง

    จัดฟันแฟชั่น… อันตรายที่คาดไม่ถึง

    จัดฟันแฟชั่น… อันตรายที่คาดไม่ถึง การจัดฟันแฟชั่น ยังคงเป็นแฟชั่นที่ได้รับความนิยมในเด็กวัยมัธยมอยู่ เพราะมีค่านิยมว่าการจัดฟันจะเป็นการเพิ่มเสน่ห์ ทำให้ดูน่ารัก ดูเป็นคนรวย มีเงินจัดฟัน ฯลฯ ซึ่งเป็นค่านิยมที่ผิดและสร้างอันตรายมาก ความจริงของการจัดฟันนั้น เป็นไปเพื่อแก้ปัญหาการสบฟันและการเรียงตัวของฟัน เพื่อให้ฟันมีสมดุลและกลับสู่สภาพที่ปกติ ควรได้รับการจัดฟันจากทันตแพทย์ผู้ชำนาญเท่านั้น เพราะการจัดฟันจะทำให้เกิดการเคลื่อนที่ของฟันที่จะส่งผลต่อตัวของฟันและอวัยวะโดยรอบ เช่น เหงือก กระดูกที่ห่อหุ้มฟัน และการจัดฟันยังต้องมีการเตรียมช่องปากหลายอย่างทั้งการอุดฟัน การขูดหินน้ำลาย อีกด้วย แล้วการจัดฟันแฟชั่น มีอันตรายได้อย่างไร ? เพราะโดยส่วนใหญ่แล้วผู้ที่ให้บริการจัดฟันแฟชั่น จะไม่มีความรู้ทางทันตกรรมเทียบเท่าทันตแพทย์ จึงอาจเกิดอันตรายต่อผู้มาใช้บริการได้มากมาย เช่น อันตรายจากขั้นตอนการติดเครื่องมือจัดฟันโดยไม่ฆ่าเชื้ออุปกรณ์อย่างถูกวิธี อาจทำให้ได้รับโรคติดต่อได้, อันตรายจากวัสดุที่ใช้ในการจัดฟันแฟชั่นที่ไม่เหมาะสม ไม่มีคุณภาพ อาจมีการปนเปื้อนของสารพิษต่าง ๆ ทำอันตรายต่อร่างกาย ฟัน และอวัยวะในช่องปาก อีกทั้งการจัดฟันที่ผิดวิธีจะทำให้เกิดความผิดปกติทั้งต่อฟันและอวัยวะอื่น ๆ เกิดปัญหาตามมาอีกมากมาย การจัดฟันแฟชั่นสร้างผลเสียและเสี่ยงอันตรายมากนะคะ ได้ความสวยงาม เก๋เท่แค่แป๊บเดียว แต่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพและชีวิตคุณทั้งในระยะสั้นและระยะยาวได้ ได้ไม่คุ้มเสียสักนิดเลยค่ะ

  • เดินลุยน้ำช่วงหน้าฝน ระวังโรคฉี่หนู

    เดินลุยน้ำช่วงหน้าฝน ระวังโรคฉี่หนู

    เดินลุยน้ำช่วงหน้าฝน ระวังโรคฉี่หนู ในหน้าฝนของทุกปีนั้น นอกจากโรคไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ไข้เลือดออกทั้งหลายแล้ว โรคที่ควรระวังอีกโรคหนึ่งก็คือ โรคฉี่หนู หรือ เลปโตสไปโรสิส นั่นเอง เป็นโรคที่ติดต่อจากสัตว์มาสู่คนได้ โดยสัตว์ที่เป็นพาหะพบได้บ่อยก็คือหนูทุกชนิด โดยเชื้อโรคจะมาจากปัสสาวะของหนู แต่ก็สามารถพบได้ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดอื่นด้วยเช่น หมู วัว ควาย ม้า แกะ แพะ นก กระรอก หมา แมว ฯลฯ เมื่อสัตว์ที่มีเชื้อเหล่านี้ฉี่ลงในแหล่งน้ำที่เราไปเหยียบย่ำเข้า เชื้อโรคก็จะเข้าสู่ร่างกายผ่านทางผิวหนังที่มีบาดแผลหรือเยื่อบุอ่อน ๆ หรือจากการกินน้ำที่มีเชื้อปนเปื้อน รวมไปถึงการหายใจเอาละอองเชื้อเข้าไป โรคนี้ยังไม่พบการติดต่อจากคนสู่คนโดยตรง เมื่อผู้ป่วยได้รับเชื้อนี้ไปแล้วจะมีระยะฟักตัวประมาณ 1-2 อาทิตย์ แล้วแสดงอาการสองแบบ แบบแรกก็คืออาการไม่รุนแรงนัก มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ หนาวสั่น มีไข้ติดต่อกันหลายวันสลับกับระยะไข้ลด ปวดหัวมาก มีเลือดออกที่เยื่อบุตา คลื่นไส้ อาเจียน ปวดกล้ามเนื้อมากโดยเฉพาะปวดน่องสองข้าง และอาจปวดท้องและหลังด้วย สามารถรักษาให้หายได้ แต่แบบที่สองนั้นจะรุนแรงจนสามารถเสียชีวิตได้เลย จะมีอัตราการเสียชีวิตอยู่ราว 5-15% ผู้ป่วยจะมีอาการตัวเหลือง ตาเหลือง ตับและม้ามโต ตับวายไตวายเฉียบพลัน ตับอ่อนอักเสบรุนแรง…

  • สารเคมีปนเปื้อนในอาหาร 6 ชนิดที่พบได้บ่อย ๆ

    สารเคมีปนเปื้อนในอาหาร 6 ชนิดที่พบได้บ่อย ๆ

    สารเคมีปนเปื้อนในอาหาร 6 ชนิดที่พบได้บ่อย ๆ บอแรกซ์ (Borax) มีหลายชื่อ เช่น น้ำประสานทอง สารข้าวตอก ผงกันบูด เพ่งแซ ผงเนื้อนิ่ม มักใช้ในอุตสาหกรรมแก้ว หรือเป็นสารเชื่อมประสานทอง แต่แม่ค้านำมาผสมอาหารเพื่อให้อาหารมีความหยุ่นกอบ คงตัวได้นานไม่บูดเสียง่าย อาหารที่พบบอแรกซ์ได้บ่อย ๆ ก็ได้ หมูบด ลูกชิ้น หมูเด้ง ทอดมัน หมูสด เนื้อสด ไส้กรอก ผลไม้ดอง ทับทิมกรอบ ลอดช่อง ฯลฯ พาของสารบอแรกซ์นี้จะทำให้มีอาการคลื่นไส้อาเจียน ท้องเดิน ปวดหัว อ่อนเพลีย ผิวหนังอักเสบ และผมร่วง ส่วนอีกแบบจะเป็นพิษเรื้อรัง ทำให้อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ผิวหนังแห้ง หน้าตาบวม ตับไตอักเสบ ซึ่งผู้บริโภคไม่ควรซื้อเนื้อหมูผิดธรรมชาติ ควรซื้อมาบดหรือสับเอง ไม่กินอาหารที่มีความกรอบเด้งหรืออยู่ได้นานผิดปกติด้วย สารกันบูด หรือสารกันรา เป็นกรดที่มีอันตรายมาก มักนำมาใส่ในอาหารแห้งเพื่อป้องกันเชื้อรา พบได้มากในน้ำผักดอง น้ำดองผลไม้ แหนม หมูยอ ฯลฯ…

  • แยกให้ออกระหว่าง เวียนหัว กับมึนหัว

    แยกให้ออกระหว่าง เวียนหัว กับมึนหัว

    แยกให้ออกระหว่าง เวียนหัว กับมึนหัว คนเป็นจำนวนมากแยกไม่ออกว่าตัวเองกำลังเวียนหัวหรือกำลังมึนหัวกันแน่ บางครั้งไปขอซื้อยาจากเภสัชกรหรืออธิบายให้แพทย์ฟังก็ไม่ชัดเจน ทำให้ยากที่จะวินิจฉัยโรคและจ่ายยาได้อย่างถูกต้อง วันนี้เรามาเรียนรู้กันค่ะว่าระหว่าง เวียนหัว กับมึนหัวนั้น ต่างกันอย่างไร อาการเวียนหัว คือ อาการที่ทำให้เรารู้สึกหมุนค่ะ มีสองแบบก็คือ แบบแรกตัวเราจะอยู่นิ่ง ๆ แต่สิ่งแวดล้อมรอบตัวเราหมุนหรือไหล แบบที่เรียกว่าบ้านหมุนนั่นเอง และอีกแบบก็คือสิ่งแวดล้อมรอบกายเราอยู่เฉย ๆ แต่ตัวเรารู้สึกหมุน หรือเอียงเหมือนจะล้ม รู้สึกโคลงเคลง ตาลาย สาเหตุของอาการเวียนหัวนั้นเกิดจากความผิดปกติของระบบประสาทการทรงตัวเพียงเล็กน้อย ไม่มีอันตรราย แต่ให้ระวังการเกิดอุบัติเหตุเวลาเวียนหัว หากเป็นคนชราพอเริ่มมีอาการต้องให้ท่านนอนหรือนอนพัก ต้องระวังอย่าให้ล้มหัวฟาด หรือหากคุณเกิดระหว่างการขับรถต้องรีบหาที่จอดพักทันที อาการเวียนหัวนั้นมักเกิดจากการเปลี่ยนท่าแบบฉับพลันทันที บางคนก็อาจเซเล็กน้อย บางคนก็คลื่นไส้ หากไม่มีอาการผิดปกติอื่น ๆ ก็ไม่จำเป็นต้องหาหมอ แต่ให้ฝึกหัดฝืนความรู้สึกเพื่อทรงตัวไว้ ทำบ่อย ๆ ก็จะหายไปเอง แต่หากทนไม่ไหวก็ควรขอรับคำปรึกษาจากเภสัชกรหรือแพทย์ได้ แต่หากคุณมีอาการเวียนหัวด้วย และมีอาการอื่นร่วมด้วยอย่างเช่น พูดไม่ชัด เห็นภาพซ้อน กลืนลำบาก สำลักบ่อย หรือชาตามตัว ตามมือและขา ชักหรือเป็นอัมพาต นี่เป็นสัญญาณอันตรายอาจเป็นความผิดปกติที่สมอง ควรรีบส่งแพทย์โดยด่วนค่ะ อาการมึนหัว คือ อาการหนักหัว…