Author: pure
-
แพทย์ชี้ การทานอาหารที่ดี ช่วยให้ห่างไกลจากโรคอัลไซเมอร์
แพทย์ชี้ การทานอาหารที่ดี ช่วยให้ห่างไกลจากโรคอัลไซเมอร์ นักวิจัยกล่าวว่าความสัมพันธ์ระหว่างอาหารที่เรารับประทานกับสุขภาพของสมองเกี่ยวข้องกันอย่างมากเช่นเดียวกับความสัมพันธ์ระหว่างอาหารกับสุขภาพของหัวใจ ทั้งในเรื่องของสุขภาพสมองและสุขภาพหัวใจ คนเราจำเป็นต้องการควบคุมการบริโภคไขมันอิ่มตัวและไขมันเทียมและควรเพิ่มการบริโภคผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดขาวและถั่วชนิดต่างๆ หากเราระมัดระวังเรื่องลักษณะอาหารที่เรารับประทานและวิถีชีวิตที่สร้างเสริมสุขภาพอนามัย เราจะสามารถลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคสมองเสื่อมแบบอัลไซม์เมอร์สได้ 70 – 80 เปอร์เซ็นต์ แม้ว่าคุณอาจจะมีคนในครอบครัวที่เป็นโรคนี้ก็ตาม การรับประทานอาหารที่มีวิตมินบีสูงเพราะช่วยให้สมองแข็งแรง อาหารเหล่านี้ได้แก่ผักใบเขียวที่มีสารโฟลิคและกล้วยที่มีวิตมินบี 6 สูง ส่วนผลไม้จำพวกแบรี่สี่เข้มและองุ่นก็มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่นเดียวกับถั่วชนิดต่างๆและเมล็ดพืชที่มีวิตมินอีสูง อาหารชนิดอื่นๆที่มีวิตมินอีสูงรวมทั้งผักโขม มะม่วงและหัว sweet potatoes เม็ดวิตมินอีเสริมแบบแคปซูนไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีในการช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบตามปริมาณที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน แต่เขาเน้นว่าทุกคนควรรับประทานวิตมินบี 12 แบบเม็ดเสริมเพราะวิตมินตัวนี้ร่างกายดูดซึมจากอาหารค่อนข้างยาก วิธีปกป้องสุขภาพสมองอีกวิธีหนึ่งที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำคือการหลีกเลี่ยงสารโลหะหนักที่ปะปนในอาหารและเครื่องดื่ม การวิจัยชี้ว่าคนที่ออกกำลังด้วยการเดินเร็ว 3 หนต่อสัปดาห์จะมีความทรงจำที่ดีกว่าคนที่ไม่ออกกำลังกาย
-
ยอดผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสอีโบลา พุ่งเป็น 86 รายแล้ว
ยอดผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสอีโบลา พุ่งเป็น 86 รายแล้ว ยอดผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสอีโบลา ในประเทศชายฝั่งทวีปแอฟริกาตะวันตกยังพุ่งไม่หยุด เพิ่มเป็น 86 รายแล้ว องค์การอนามัยโลก (WHO) รายงานสถานการณ์ระบาดของเชื้อไวรัสไข้เลือดออกอีโบลา ในทวีปแอฟริกาทางตะวันตกเมื่อ 5 เม.ย.ว่า จำนวนผู้เสียชีวิตได้เพิ่มขึ้นเป็น 86 รายแล้ว จากจำนวนผู้ป่วยที่ต้องสงสัยติดเชื้ออีโบลาทั้งหมด 137 ราย ที่น่าวิตกคือ การระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลาดำเนินไปอย่างรวดเร็วมาก นับตั้งแต่พบการระบาดในภูมิภาคนี้ครั้งแรกที่เมืองกูเกดัว ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศกินี ใกล้ชายแดนติดกับประเทศเซียร์รา ลีโอน และไลบีเรีย ตามรายงานของ WHO ระบุด้วยว่า มีผู้ป่วยติดเชื้ออีโบลา ในกรุงโกนากรี เมืองหลวงของสาธารณรัฐกินี เสียชีวิตเพิ่มอีก 5 ราย ด้วยเหตุนี้ จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งที่ทางการกินีต้องรีบแจ้งเตือนประชาชนในเมืองหลวงและเมืองต่างๆ ถึงสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสอีโบลาในเวลานี้ ทั้งนี้ ที่ประเทศไลบีเรีย มีผู้เสียชีวิตจากไวรัสอีโบลา ซึ่งจัดเป็นหน่ึ่งในไวรัสที่อันตรายที่สุดในยุคนี้แล้ว 7 ราย จากจำนวนผู้ป่วยที่ต้องสงสัยติดเชื้อ 14 ราย ขณะที่ประเทศเซียร์รา ลีโอน มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 ราย
-
รู้หรือไม่! การแอบปัสสาวะในสระว่ายน้ำ จะทำให้สระน้ำเป็นพิษ
รู้หรือไม่! การแอบปัสสาวะในสระว่ายน้ำ จะทำให้สระน้ำเป็นพิษ อาจสงสัยกันมานานแล้วว่า การเล่นน้ำในสระที่ใช้ร่วมกันหลายคนจะปลอดภัยหรือไม่ เพราะต้องมีใครแอบปล่อยปัสสาวะลงในน้ำบ้าง และบัดนี้นักวิทยาศาสตร์ได้พิสูจน์แล้วว่า มันอาจเกิดอันตรายได้ วารสาร “สิ่งแวดล้อมและเทคโนโลยี” ของอเมริกาได้เปิดเผยว่า ได้มีนักวิทยาศาสตร์ศึกษาเรื่องนี้แล้ว และพบว่า แม้ว่าสระว่ายน้ำทุกแห่งจะใส่คลอรีน เพื่อฆ่าเชื้อโรคและป้องกันผู้เล่นน้ำติดโรคแล้วก็ตามแต่การที่มีคนลงเล่นน้ำ ว่ายน้ำ กระทุ่มน้ำ และบางคนแอบปล่อยของเสียลงไปด้วย ถึงจะมีระเบียบห้ามอยู่ก็ตาม เพราะจะไปทำให้เกิดสารประกอบในน้ำขึ้น 2 ชนิด คือไตรคลอรามีน และไซยานเจน คลอไรด์ สารอย่างแรกมีส่วนเกี่ยวข้องกับโรคปอด และอย่างหลังนอกจากจะกระทบปอดด้วยแล้วยังมีผลถึงหัวใจและระบบประสาทกลางอีกด้วย สารทั้งคู่ยังก่อให้เกิดกรดยูริกและคลอรีนขึ้น ภายในเวลาชั่วโมงเดียว กรดยูริกส่วนใหญ่เกิดจากเหงื่อ แต่นักวิทยาศาสตร์คำนวณพบว่า สาร ประกอบที่มีอยู่ในสระน้ำกว่าร้อยละ 90 มาจากปัสสาวะ ดังนั้นพวกเขาจึงลงความเห็นว่า หนทางดีที่สุดที่จะช่วยทำให้น้ำในสระสะอาดขึ้นอย่างง่าย ก็คือ ควรปฏิบัติตามระเบียบ ด้วยการเข้าห้องน้ำก่อนลงสระ.
-
แพทย์เตือนภัยจากสงกรานต์ สาดน้ำเปียกเสี่ยง 5 โรค
แพทย์เตือนภัยจากสงกรานต์ สาดน้ำเปียกเสี่ยง 5 โรค เทศกาลสงกรานต์ นับเป็นเทศกาลแห่งความสุขของคนไทย ส่วนมากคนไทยมักจะกลับไปกราบไหว้ รดน้ำดำหัว ผู้ใหญ่ เพราะถือเป็นวันปีใหม่ของไทย และยังเป็นเทศกาลเล่นน้ำคลายร้อนอย่างสนุกสนาน แต่จะรู้หรือไม่ว่า มีอันตรายจากโรคต่างๆ ที่จะตามมาทีหลังได้จากการเล่นน้ำสงกรานต์ แล้วยิ่งเป็นน้ำที่ไม่สะอาดด้วยแล้วหละก็ ยิ่งไปตัวนำของโรคที่จะเข้าสูร่างกายเราได้ผ่าน ทาง ตา หู จมูก ปาก หรือแม้กระทั่งการสัมผัส ทั้งเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และไวรัสต่างๆ ยิ่งในช่วงอากาศร้อนอบอ้าวด้วยแล้ว ความเสี่ยงในการเกิดโรคก็ยิ่งมีโอกาสเพิ่มมากขึ้น เรามาดูกันดีกว่าว่าโรคอะไรบ้างที่มากับอากาศร้อนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพื่อเตรียมตัวในการรับมือได้อย่างถูกวิธี 1.โรคอาหารเป็นพิษ โรคท้องร่วง โรคอหิวาตกโรค โรคไวรัสตับอักเสบเอ เนื่องจากในช่วงเทศกาลสงกรานต์เป็นช่วงที่อากาศร้อนและแห้งเหมาะกับการเจริญเติบโตของเชื้อโรคโดยเฉพาะแบคทีเรียส่งผลให้อาหารที่ทำออกมารับประทานนั้นอาจบูดเสียได้ง่าย โดยเฉพาะพวกแกงที่มีส่วนผสมของกะทิหรือนมด้วยแล้ว รวมถึงการทานอาหารหรือน้ำที่ไม่สะอาดปนเปื้อนเชื้อโรค อาจทำให้เกิดโรคดังกล่าวได้ ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ป่วยจะมีอาการถ่ายเหลว ปวดท้อง คลื่นไส้อาเจียน แต่หากมีภาวะขาดน้ำรุนแรงจะทำให้เกิดภาวะช็อค หมดสติ และเสียชีวิตได้ 2.โรคไข้หวัดและปอดอักเสบ เนื่องจากการเล่นน้ำสงกรานต์ทำให้ร่างกายเปียกชื้นเป็นเวลานาน ยิ่งในต่างจังหวัดมีการเล่นติดต่อกันตั้งแต่เช้าถึงเย็นด้วยแล้ว ควรต้องระมัดระวังในผู้ป่วยที่มีภูมิต้านทานโรคต่ำและในกลุ่มเด็ก ไม่ควรสาดแรงจนเกินไปอาจทำให้สำลักน้ำ จนกลายเป็นที่มาของโรคปอดอักเสบได้ หากรู้สึกมีไข้หรือไม่สบายควรงดเล่นน้ำทันที เพราะจะทำให้อาการยิ่งรุนแรงมากขึ้น 3.โรคตาแดง เป็นอีกโรคที่พบบ่อย เมื่อเราเล่นน้ำแล้วน้ำที่ไม่สะอาดที่มีเชื้อโรคปะปน เช่น น้ำในคลอง น้ำบาดาล หากน้ำกระเด็นเข้าตาและมือเราที่ไม่สะอาดอาจไปขยี้ตาก็จะทำให้เกิดการติดเชื้อและอักเสบบวมแดงขึ้นมาได้ ถ้ามีอาการเคืองตา…
-
โยเกิร์ตรสธรรมชาติ สามารถลดความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานได้
โยเกิร์ตรสธรรมชาติ สามารถลดความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานได้ โรคเบาหวานเป็นหนึ่งในโรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่เป็นปัญหาสาธารณสุขของประเทศไทยในปัจจุบัน เมื่อเกิดโรคเบาหวานขึ้นแล้วหากไม่ควบคุมหรือดูแลตัวเองให้ดีก็จะทำให้เกิดโรคเรื้อรังที่ตามมาทั้งโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไต และโรคระบบประสาท ซึ่งก่อให้เกิดการสูญเสียทั้งคุณภาพชีวิตและค่าใช้จ่ายที่สูง อาหารเป็นปัจจัยหนึ่งที่สามารถเป็นทั้งตัวเร่งและตัวชะลอการเกิดโรคเบาหวาน โดยปกติแล้วอาหารที่มีน้ำตาลสูงจะเป็นตัวเร่งให้ตับอ่อนทำงานหนักนานวันเข้าการทำงานของตับอ่อนก็จะลดลงจนอาจทำให้เกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้ ส่วนอาหารที่ช่วยชะลอการเกิดโรคเบาหวานจะเป็นอาหารในกลุ่มที่ให้สารต้านอนุมูลอิสระ นอกจากนี้ยังมีการศึกษาผลของการรับประทานโยเกิร์ตรสธรรมชาติกับการลดความเสี่ยงของโรคเบาหวาน โยเกิร์ต เป็นผลิตภัณฑ์จากนมที่ทำจาก นม นมพร่องมันเนย หรือนมขาดมันเนยอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างรวมกัน โดยผ่านกระบวนการหมักด้วยแบคทีเรียหลัก 2 ชนิด คือ Lactobacillus bulgaricus และ Streptococcus thermophilus แบคทีเรียจะย่อยน้ำตาลแลคโตสในนมให้เป็นกรดแลคติก ทำให้มีรสเปรี้ยวและมีลักษณะกึ่งแข็งกึ่งเหลว โยเกิร์ตให้คุณค่าทางอาหารสูง มีโปรตีนที่มีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย เป็นแหล่งของวิตามินที่ละลายในน้ำ (วิตามินบี 12 และไรโบฟลาวิน) และวิตามินที่ละลายในไขมัน (วิตามินเอ ดี และเค) มีแร่ธาตุหลายชนิด ได้แก่ แคลเซียม แมกนีเซียม และโพแทสเซียม สารสำคัญที่มีอยู่ในโยเกิร์ตคือโพรไบโอติก (Probiotics) เป็นจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ จากการศึกษาพบว่าโพรไบโอติดจะช่วยสารอนุมูลอิสระในร่างกาย และช่วยต้านการอักเสบ ซึ่งเป็นการลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 และช่วยเพิ่มความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระ นอกจากนี้อาจจะมีผลช่วยในการปรับระดับไขมันในเลือด ลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจได้อีกด้วย ดังนั้น การรับประทานโยเกิร์ตธรรมชาติที่…
-
กรมอนามัย เตือน 8 โรคต้องระวัง เมื่อต้องไปขูดหินปูน
กรมอนามัย เตือน 8 โรคต้องระวัง เมื่อต้องไปขูดหินปูน กรมอนามัยเผยผู้ป่วย 8 โรคควรระวังพิเศษ หากรับบริการ “ขูดหินปูน” ย้ำต้องแจ้งทันตแพทย์ก่อนทุกครั้ง เตรียมพร้อมรักษาหากอาการกำเริบ… ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า การดูแลสุขภาพช่องปากเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะการขูดหินปูนหรือหินน้ำลายเพื่อป้องกันเหงือกอักเสบและโรคปริทันต์ ซึ่งการสำรวจโดยสำนักทันตสาธารณสุข ในปี 2555 พบว่า คนไทยวัยทำงานกว่าร้อยละ 70 มีหินปูนเกาะบนตัวฟัน ต้องได้รับการดูแลโดยการขูดหินปูน ซึ่งการขูดหินปูนทันตแพทย์จะใช้เครื่องมือขจัดหินปูนแบบที่ทีความสั่นสะเทือนทำให้หินปูนหลุดออก และยังมีเครื่องมือชิ้นเล็ก (Hand instruments) ขูดหินปูนโดยละเอียดอีกครั้ง ซึ่งในขั้นตอนนี้อาจทำให้มีเลือดออกบ้างตามอาการของเหงือกอักเสบหรือโรคปริทันต์ที่ส่วนใหญ่จะมีอาการมากน้อยแตกต่างกันไป แต่จะไม่มากจนมีผลใดๆ ต่อผู้ป่วย “ทั้งนี้ เฉพาะผู้ป่วยบางโรค ที่ต้องระวังและแจ้งทันตเพทย์ก่อนทุกครั้งที่เข้ารับบริการทำฟันหรือขูดหินปูน ซึ่งกลุ่มแรกเป็นกลุ่มโรคที่เลือดออกง่ายและหยุดไหลยาก ได้แก่ โรคเกล็ดเลือดต่ำหรือโรคลูคีเมีย อาจมีจ้ำเลือดหรือจุดเลือดออกตามร่างกายร่วมด้วย โรคไตและผู้ที่มีประวัติเคยล้างไต เพราะจะได้รับยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด ผู้ที่มีประวัติการผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจและการใช้ยาละลายลิ่มเลือด และกลุ่มที่สองเป็นกลุ่มที่อาจแสดงอาการในระหว่างการทำฟัน ได้แก่ โรคหัวใจอาจมีอาการเจ็บหน้าอก หอบเหนื่อยใจสั่น โรคหอบหืดอาจมีอาการหอบเหนื่อย ต้องมียาพ่นประจำ และได้รับยา Steriod โรคลมชักและโรคความดันโลหิตสูง และสุดท้าย คือ…
-
แพทย์โรคหัวใจมช.’สกว.’หนุนคว้ารางวัลนักวิจัยรุ่นใหม่ที่สหรัฐ
แพทย์โรคหัวใจมช.’สกว.’หนุนคว้ารางวัลนักวิจัยรุ่นใหม่ที่สหรัฐ 5เม.ย.2557 ดร. นพ.เกริกวิชช์ ศิลปวิทยาทร อาจารย์ประจำศูนย์วิจัยและฝึกอบรมสาขาโรคทางไฟฟ้าของหัวใจ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คว้ารางวัลรองชนะเลิศในการแข่งขันชิงรางวัลนักวิจัยรุ่นใหม่ ของสมาคมแพทย์โรคหัวใจแห่งสหรัฐอเมริกา ในสาขาสรีรวิทยา พยาธิวิทยา และเภสัชวิทยา ประจำปี พ.ศ. 2557 ณ กรุงวอชิงตัน ดีซี ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นเวทีระดับโลกที่คัดเลือกผลงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับโรคหัวใจและหลอดเลือดจากทั่วโลกให้เหลือเพียง 5 เรื่อง เพื่อเข้าร่วมนำเสนอผลงานวิจัยในงานประชุมวิชาการประจำปีของสมาคมฯ โดยมีคู่แข่งจากโรงเรียนแพทย์ที่มีชื่อเสียงของสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ อาทิ มหาวิทยาลัยจอห์น ฮอพกินส์ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และมหาวิทยาลัยอิมพีเรียล คอลเลจ ลอนดอน ทั้งนี้นับเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 63 ปี ที่มีผลงานที่ทำในประเทศไทยตลอดทั้งโครงการถูกคัดเลือกให้เข้าร่วมนำเสนอในเวทีแห่งนี้ ศ. นพ.สุทธิพันธ์ จิตพิมลมาศ ผู้อำนวยการ สกว. กล่าวว่า รู้สึกยินดีและภาคภูมิใจที่นักวิจัยผู้รับทุนพัฒนาศักยภาพในการทำงานวิจัยของอาจารย์รุ่นใหม่ของ สกว. ได้รับรางวัลอันทรงคุณค่าดังกล่าว งานวิจัยนี้นับเป็นการค้นพบใหม่ที่สำคัญของโลก แต่ในขณะนี้อยู่ในระยะการวิจัยในสัตว์ทดลอง จึงจะต้องดำเนินวิจัยในมนุษย์เพิ่มเติมก่อนจะนำไปใช้ในการรักษาผู้ป่วยต่อไป ทั้งนี้ขอแสดงความชื่นชมนักวิจัยและ ศ.(เชี่ยวชาญพิเศษ) ดร. นพ.นิพนธ์ ฉัตรทิพากร เมธีวิจัยอาวุโส สกว.…
-
รู้หรือไม่! การใช้น้ำยาบ้วนปากบ่อยๆ มีความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็ง
รู้หรือไม่! การใช้น้ำยาบ้วนปากบ่อยๆ มีความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็ง ในชีวิตคนเรา หนีไม่ได้เรื่องการสนทนากับผู้อื่น แล้วเรื่องที่สำคัญที่สุดในการสนทนาคือ กลิ่นปาก นอกจากจะทำให้รู้สึกมั่นใจเมื่อสนทนากับผู้อื่นแล้ว ยังช่วยสร้างความประทับในครั้งแรงที่ได้พูดคุยและพบกันอีกด้วย ดังนั้นผู้คนส่วนใหญ่มักเสริมความมั่นใจให้กับตนเอง ด้วยการใช้น้ำยาบ้วนปาก เพราะคิดว่า การแปรงฟันเท่านั้น คงจะไม่เพียงพอ แต่รู้หรือไม่ว่า ทันแพทย์ได้ศึกษาในเรื่องนี้และพบว่า คนเราไม่ควรใช้น้ำยาบ้วนปากแทนการแปรงฟัน เพราะจะส่งผลทำให้สุขภาพทางช่องปากไม่ดี และ เป็นอาจนำไปสู่โรคมะเร็งในช่องปากและลำคอได้อีกด้วย ผลการวิจัยจากแพทย์ ยืนยันว่า น้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอร์จะเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดโรคในช่องปาก เพราะแอลกอฮอร์จะแทรกซึมเข้าเยื้อบุในช่องปากจนอาจนำไปสู่การเกิดโรคมะเร็ง โดยผู้ที่มีเลือดออกตามเหงือกและผู้ที่ใส่ฟันปลอมมีความเสี่ยงสูง ซึ่งความเสี่ยงดังกล่าวยังจะมีผลต่อกล่องเสียงรวมทั้งหลอดอาหาร จึงไม่แนะนำให้ใช้น้ำยาบ้วนปากทดแทนการแปรงสีฟันและไหมขัดฟัน อย่างไรก็ตาม ทันตแพทย์ยังไม่อาจสรุปได้ว่าน้ำยาบ้วนปากจะช่วยล้างหรือปกปิดกลิ่นของบุหรี่และแอลกอฮอล์ในช่องปากได้ ดังนั้นการใช้น้ำยาบ้วนปากควรทำตามคำแนะนำของผู้ผลิต.
-
คณะแพทย์ รามา แนะนำวิธีป้องกันมะเร็งมดลูก และ มะเร็งไข่ในผู้หญิง ที่ยังไม่มีลูก
คณะแพทย์ รามา แนะนำวิธีป้องกันมะเร็งมดลูกและมะเร็งไข่ในผู้หญิง ที่ยังไม่มีลูก ในผู้หญิง เมื่อมีการเจริญเติบโตขึ้น ก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งร่างกายและจิตใจ รวมถึงด้านสังคม ารพัฒนาของระบบเจริญพันธุ์ เกิดการตกไข่และมีประจำเดือน สามารถตั้งครรภ์และมีบุตรได้ กระบวนการเจริญสู่วัยสาว ทำให้เกิดอาการทางร่างกายที่เด็กหญิงไม่เคยประสบมาก่อน เช่น อาการคัดตึงของเต้านม จากการกระตุ้นของฮอร์โมนที่สร้างจากรังไข่ อาการปวดท้องน้อยข้างเดียวจากการตกไข่ อาการปวดหน่วงขณะมีประจำเดือนอันเกิดจากมดลูกบีบตัว ในแต่ละรอบเดือน รังไข่จะสร้างฮอร์โมนเพศหญิงปริมาณมหาศาล ฮอร์โมนเหล่านี้จะไปกระตุ้นอวัยวะของความเป็นหญิง เช่น เต้านม มดลูก ปีกมดลูก และอวัยวะในอุ้งเชิงกราน ในสตรีบางคนการกระตุ้นของฮอร์โมนเพศหญิง ทำให้เกิดภาวะบางอย่าง เช่น เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ ซึ่งมักร่วมกับอาการปวดประจำเดือนอย่างมาก ฮอร์โมนอาจกระตุ้นการเจริญของเนื้องอกในตัวมดลูกและเต้านม ทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกให้หนาขึ้นจนกลายเป็นมะเร็งได้ การกระตุ้นให้เนื้องอกในมดลูกมีขนาดใหญ่ขึ้น หรือในรายที่เป็นมะเร็งเต้านม อาจกระตุ้นให้มะเร็งแพร่กระจาย สภาวะเหล่านี้จะลดน้อยลง หรือหายไปได้หากปราศจากการกระตุ้นของฮอร์โมนเพศหญิงในรายที่เป็นมะเร็งมดลูก หรือเต้านมจำเป็นต้องกำจัดแหล่งที่มาของฮอร์โมนเพศหญิงให้หมด และอาจจำเป็นต้องผ่าตัดรังไข่ออกทั้งสองข้างหรือให้ยาต่อต้านฮอร์โมนเพศหญิง ในสตรีโสดการทำงานของรังไข่ จะเป็นไปตามรอบเดือนอย่างต่อเนื่อง จึงมีความเสี่ยงจะเกิดภาวะอันเกิดจากฮอร์โมนเพศหญิงได้สูง เช่น เกิดภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ เยื่อบุโพรงมดลูกหนา เป็นถุงน้ำหรือก้อนที่เต้านม ติ่งเนื้อหรือเนื้องอกของตัวมดลูก ซึ่งภาวะเหล่านี้จะพบมากขึ้นตามอายุ ในสตรีโสดที่อายุเกิน 40 ปี อาจตรวจพบเนื้องอกตัวมดลูกได้ถึงร้อยละ 30-50 มะเร็งสตรีที่ร้ายแรง คือ…
-
ยาสามัญประจำบ้าน ยาที่ทุกบ้านควรต้องมี !
ยาสามัญประจำบ้าน ยาที่ทุกบ้านควรต้องมี ! “ยาสามัญประจำบ้าน” เป็นชื่อกลุ่มยาที่กระทรวงสาธารณะสุขกำหนดให้ ในยาสามัญประจำบ้านนี้จะมีทั้งยาแผนปัจจุบัน และ ยาแผนโบราณ และเป็นยาที่สามารถให้คนทั่วไปสามารถใช้ได้ โดยไม่มีความเป็นอันตราย มีติดบ้านไว้เพื่อรักษาต้นเองเบื้องต้น เช่น ปวดหัว ปวดท้อง ท้องอืด น้ำร้อนลวก มีดบาด เป็นต้น ยาสามัญประจำบ้าน สามารถหาซื้อได้ทั่วไปโดยที่ไม่ต้องมีใบสั่งแพทย์ มาดูรายการยาสามัญประจำบ้านที่ทุกบ้านควรต้องมีติดไว้กันค่ะ… ยาแก้ปวดลดไข้ : ยาเม็ดพาราเซตามอล 500 มก. ยาแก้แพ้, ลดน้ำมูก : ยาเม็ดคลอเฟนิรามีน 4 มก. ,2 มก. ยาแก้ปวดท้องท้องอืด ท้องเฟ้อ : ยาธาตุน้ำแดง ,ยาธาตุน้ำขาว , โซดามิ้นท์ , ขมิ้นชันแคปซูล ยาโรคกระเพาะ : ยาเม็ดอลูมินาเมกนีเซีย , ไตรซิลิเคท ยาแก้ท้องเสีย : ยาน้ำเคาลินเปคติน ผงน้ำตาลเกลือแร่ ยาใส่แผล : ทิงเจอร์ใส่แผลสด…