Author: pure
-
10 เทคนิคลับเพื่อพลังรักให้ซาบซ่า
10 เทคนิคลับเพื่อพลังรักให้ซาบซ่า 1. เริ่มต้นแบบง่าย ๆ ไม่จำเป็นว่าการทำรักต้องหมายถึงตอนที่คุณก้าวขึ้นเตียงเท่านั้น แต่เรื่องตั้งแต่ก้าวแรกที่คุณตื่นกันเลย ไม่ว่าจะเป็นการจูบลากันเนิ่นนาน การโทรหากันจี๋จ๋า ส่งข้อความหวาน ๆ หากัน ฯลฯ สารพัดที่คุณจะงัดมาเอาใจกันในเวลากลางวัน เพื่อเตรียมอุ่นเครื่องให้เวลากลางคืนสุดเร่าร้อน 2. เอาใจใส่ทุกสัมผัส หากแฟนคุณเคยบอกว่า “เวลาเดียวที่คุณแตะต้องเนื้อตัวฉันก็คือตอนมีเซ็กซ์” นั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนว่าคุณสัมผัสตัวเธอน้อยเกินไปแล้ว หากอยากให้เซ็กซ์ในเวลากลางคืนเร่าร้อนมากขึ้น การสัมผัสการในระหว่างวัน ไม่ว่าจะเป็นการจุมพิตเบา ๆ การจูบมือ ลูบไล้แขนเวลานั่งข้างกันในรถ ก็ช่วยได้ไม่น้อยเลยทีเดียว 3. สวยหล่อเข้าไว้ มันไม่เกี่ยวหรอกว่ารักแท้จะต้องหมายถึงการรักหรือยอมรับได้แม้คุณจะหน้าเป็นสิวเขรอะ หรือมันย่องตลอดเวลา การดูแลหน้าตารูปร่างให้ดูดีเข้าไว้ เพิ่มอารมณ์รักให้แก่กันและกันได้ไม่น้อย กับทั้งยังทำให้เขารู้สึกว่าตัวเขามีค่ามากพอที่คุณจะทำให้ตัวเองดูดีอีกด้วย 4. กลิ่นหอมตัว จุดไฟให้ลุกพล่าน การทำตัวให้หอม ๆ สะอาด ๆ ไว้สร้างอารมณ์รักให้กระเจิงได้ เพราะหากเวลาแฟนคุณเข้าใกล้แล้วได้กลิ่นหอม ๆ ก็จะทำให้อยากอยู่ใกล้ชิดคุณมากขึ้น ไฟสวาทจึงลุกโชนได้ง่ายขึ้นด้วย หากปล่อยตัวคุณเหงื่อท่วมเวลาอยู่ด้วยกัน จะทำให้ไปยับยั้งกลิ่นของฟีโรโมนเข้า ก็จะทำให้อารมณ์หดตัวไปเลยน่ะสิ 5. รับฟังกันและกัน การพูดคุยแบ่งปันความคิดเห็นไม่ว่าจะเป็นเรื่องในชีวิตประจำตัวทั่วไปของเขา หรือเรื่องราวรอบ ๆ บ้านของเธอกับลูก ๆ สร้างความสนิทชิดเชื้อและความไว้วางใจซึ่งกันและกัน ซึ่งจำเป็นมากสำหรับสุขภาพทางเพศที่ดี 6.…
-
ท่วงท่าทีเด็ด มัดใจสาว ๆ ให้หลงไหล
ท่วงท่าทีเด็ด มัดใจสาว ๆ ให้หลงไหล การร่วมรักกันในท่วงท่าเดิม ๆ เนี่ย ช่วงแรกก็เหมือนน้ำผึ้งแสนหวานอยู่หรอกค่ะ แต่นานไปแล้วก็อาจสร้างความเบื่อหน่ายได้ ก็แหม พ่อคุณ..ถนัดแต่ท่าเดิม ๆ แค่ไม่กี่ท่า น้ำผึ้งที่ทานบ่อย ๆ ที่เคยหวาน ก็กลายเป็นเหม็นหืนน่าเบื่อไปได้เหมือนกัน วันนี้ลองมาศึกษาท่วงท่าทีเด็ดใหม่ ๆ ซัก 9 ท่าไหม คุณสาว ๆ ข้างกายคุณจะได้ไม่เหม็นเบื่อคุณไปเสียก่อนไงคะ – ปล่อยให้เธอสารถี.. ท่านี้อาศัยความไว้วางใจระหว่างคุณทั้งสองคนแล้วในระดับหนึ่ง เพราะฝ่ายหญิงต้องเปลือยเปล่าทุกสัดส่วนให้เค้าเห็นต่อหน้า ด้วยการที่เธอควบขี่เขาอยู่ข้างบน ปล่อยให้ชายหนุ่มประคองสะโพกและเล้าโลมทรวงอกเธอข้างล่าง มีข้อดีตรงที่สาว ๆ สามารถควบคุมจังหวะและการสัมผัสได้ทุกสัดส่วน – เหนี่ยวกันเอาไว้.. ท่านี้ให้หญิงสาวเอาสองขาของเธอโอบรัดเอวของเขาเอวไว้ ส่วนสองแขนโอบรอบต้นคอเขาเพื่อเหนี่ยวตัว ส่วนฝ่ายชายใช้มือประกอบก้นของเธอเอาไว้ด้วย ท่านี้อาจต้องเคลื่อนไหวช้าสักหน่อย แต่ก็โรแมนติกไม่น้อยเลยทีเดียว – มิชชันนารีอัพเลเวล ก็คือท่ามาตรฐานธรรมดา แต่ให้ลองหาหมอนมาหนุนก้นของเธอขึ้น จะทำให้อวัยวะของเธอสัมผัสแนบชิดกับของฝ่ายชายมากขึ้น หรือลองแยกขาเธอออกไปด้านข้างก็จะเพิ่มพื้นที่สัมผัสได้มากขึ้นด้วย ท่านี้ไม่โลดโผนมากนัก แต่การปรับประยุกต์เล็กน้อยช่วยสร้างความหฤหรรษ์ได้มากขึ้นไม่น้อยเลยทีเดียว – ช้อนจากด้านหลัง.. ก็คือท่าที่ฝ่ายชายกอดเธอแล้วสอดใส่เธอจากด้านหลัง พร้อมกับโอบรัดเธอ เล้าโลมซุกไซ้แผ่นหลังและลำคอไปด้วย เป็นท่าที่สร้างความรู้สึกผูกพันได้ไม่น้อย…
-
ขจัดไขมัน.. สร้างสรรค์สุขภาพดี ๆ
ขจัดไขมัน.. สร้างสรรค์สุขภาพดี ๆ ตั้งแต่ที่การกินแบบชาวตะวันตกหลั่งไหลเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้นเมื่อหลายสิบปีก่อน วิธีการเลือกอาหารการกินของคนไทยก็เริ่มเปลี่ยนไป จากอาหารพื้นบ้านจำพวกน้ำพริก ผักต้ม หรืออาหารประจำภาคอื่น ๆ เริ่มได้รับการสนใจน้อยลง เพราะต้องใช้เวลาในการเตรียมมากกว่าอาหารฟาสต์ฟู้ดจากตะวันตก ซึ่งมีส่วนประกอบเป็นไขมันผ่านกรรมวิธีทั้งสิ้น ซึ่งไขมันผ่านกรรมวิธีหรือไขมันทรานส์นี้มาจากส่วนผสมประเภท เนยเทียม มาการีน ครีมเทียม เนย นมหวาน ๆ ซึ่งมาจากการนำไขมันไม่อิ่มตัวมาเติมไฮโดรเจนทำให้มันอิ่มตัวมากขึ้น ทำให้อยู่ในสภาพกึ่งแข็ง ลดโอกาสการเกินออกซิเดชั่น จึงทำให้มีกลิ่นเหม็นหืนได้ง่าย ไขมันดังกล่าวจะทนความร้อนมากขึ้น จึงสามารถปรุงอาหารได้หลาย ๆ รอบ เช่น ทอดซ้ำได้หลาย ๆ ครั้งโดยไม่เหม็นหืน มีรสชาติใกล้เคียงไขมันสัตว์แต่ราคาถูก ผู้ประกอบการส่วนมากจึงมักนำเอาไขมันทรานส์มาประกอบอาหาร ไม่ว่าจะเป็นพวก ไก่ทอด มันฝรั่งทอด โดนัน ครีมเทียม หรือเบเกอรี่ต่าง ๆ แล้วไขมันทรานส์ยังเกิดจากการนำไขมันปกติไปผ่านอุณหภูมิสูงซ้ำ ๆ กันหลายครั้ง เช่น การทอดซ้ำ ๆ หลายหนได้อีกด้วย สำหรับโทษต่อร่างกายก็เกิดจาก น้ำมันเหล่านี้จะจับตัวเป็นไขที่อุณหภูมิร่างกาย แล้วกลายเป็นไขมันเกาะตามลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่ หลอดเลือดต่าง ๆ หลังจากนั้นก็จะกลายเป็นคราบน้ำมันที่น้ำซึมผ่านไม่ได้ พอดื่มน้ำไปได้สักครู่จะต้องไปปัสสาวะ…
-
เซ็กซ์ครั้งแรก.. เค้าทำกันยังไงเหรอ?
เซ็กซ์ครั้งแรก.. เค้าทำกันยังไงเหรอ? แม้จะเป็นเรื่องธรรมชาติ.. แต่นี่ก็ยังเป็นคำถามที่อยู่ในใจใครหลายคนที่ไม่เคยมีเซ็กซ์มาก่อน แม้จะพยายามบอกว่าการมีเซ็กซ์ก็เหมือนกับกิจกรรมที่เมื่อเราพยายามหัดแล้วก็เป็นไปเลย เช่น ขี่จักรยาน ขับรถ ขี่มอเตอร์ไซต์ ว่ายน้ำ ฯลฯ แต่ก็ยังคงสงสัยอยู่ดีกว่าแล้วมันจะเริ่มอย่างไร ทำอย่างไรต่อไม่ให้เก้ ๆ กังๆ งั้นก็มาลองอ่านขั้นตอนของการมีเพศสัมพันธ์เหล่านี้กันดีกว่าค่ะ การมีเพศสัมพันธ์ในครั้งแรก ขอให้ทั้งคู่คือฝ่ายชายและฝ่ายหญิงทำใจให้สบายทั้งสองฝ่าย ปล่อยตัวและใจไปตามอารมณ์ธรรมชาติ หากเป็นครั้งแรกของฝ่ายหญิงด้วย ฝ่ายชายควรเล้าโลมอย่างนุ่มนวลเพื่อให้เธอได้มีอารมณ์มากขึ้น มีน้ำหล่อลื่นออกมาทางช่องคลอดมาก ๆ หน่อย เพราะครั้งแรกของผู้หญิง มักจะเจ็บเพราะยังไม่เคยถูกขยายมาก่อน รวมทั้งในช่วงของการสอดใส่ก็ควรทำให้เบามือที่สุด หากรุนแรงเกินไปก็อาจทำให้ฝ่ายหญิงบาดเจ็บจนเข็ดหลาบการมีเพศสัมพันธ์ได้ ในส่วนของฝ่ายหญิง หากมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกอาจทำให้มีเลือดซึมออกมาเล็กน้อยได้ เพราะเยื่อพรหมจรรย์เกิดการปริหรือฉีกขาด แต่บางคนอาจไม่มีเลือดออกมาเลยก็ไม่ผิดแปลกอะไร นั่นเพราะเยื่อดังกล่าวอาจฉีกขาดไปก่อนหน้านี้แล้วจากการขี่จักรยาน เล่นกีฬา กระโดดโลดเต้นหรือช่วยตัวเองมาก่อน ฯลฯ ระหว่างฝ่ายชายกับฝ่ายหญิงนั้น ฝ่ายชายจะถึงจุดสุดยอดได้เร็วกว่าฝ่ายหญิง ซึ่งบางครั้งอาจใช้เวลาเพียง 4-5 นาที แต่ฝ่ายหญิงจะใช้ระยะเวลานานกว่านั้น ดังนั้นการเล้าโลมปลุกเร้าอารมณ์ให้กับฝ่ายหญิงให้มากเพียงพอ จึงจะทำให้เธอได้ไต่ถึงสวรรค์พร้อม ๆ กันกับฝ่ายชายได้ และสิ่งที่สำคัญสำหรับการมีเพศสัมพันธ์ก็คือความปลอดภัย ควรสวมถุงยางอนามัยเพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ไม่พึ่งประสงค์ อีกทั้งคู่ที่ต้องการมีเพศสัมพันธ์กันนั้นควรมีความพร้อมทั้งเรื่องของอายุ การศึกษา การเงินและการงานด้วย จึงจะเป็นการดีทั้งสองฝ่าย
-
การลดน้ำหนักกับแอลคาร์นิทีน
การลดน้ำหนักกับแอลคาร์นิทีน ในปัจจุบันนี้มีการโฆษณาอาหารเสริมผสมแอลคาร์นิทีนเพื่อช่วยลดน้ำหนักกันมากขึ้น ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักหลาย ๆ คนจึงยอมควักกระเป๋าเสียเงินมากทาน แต่บางคนก็ทานอย่างขาดความเข้าใจ เรามาดูความจริงของการลดน้ำหนักกับแอลคาร์นิทีนกันค่ะ คาร์นิทีนนั้น คือ กลุ่มของสารที่เป็นอนุพันธ์ของกรดอะมิโน ประกอบไปด้วย แอล-คาร์นิทีน, อะเซติล แอล-คาร์นิทีนและ โพรพิโอนิล แอล-คาร์นิทีน ซึ่งแอลคาร์นิทีนที่ร่างกายดูดซึมไปใช้มากที่สุดก็คืออะเซติล แอล-คาร์นิทีน แหล่งกำเนิดของคาร์นิทีน มาจากการสังเคราะห์ได้ด้วยตนเองในร่างกายของเรา แล้วยังได้จากอาหารที่มีโปรตีนสูง เช่นเนื้อสัตว์ต่าง ๆ อีกด้วย โดยหน้าที่ของคาร์นิทีนที่มีแต่การลดน้ำหนักก็คือการขนส่งกรดไขมันสายยาวเข้าสู่ไมโตรคอนเดรียเพื่อสร้างพลังงาน แล้วยังขนส่งของเสียที่เซลล์สร้างขึ้นออกจาอวัยวะของเซลล์ อีกทั้งคาร์นิทีนยังป้องกันการสร้างไขมันในตับและหัวใจด้วย โดยคาร์นิทีนนี้จะนำไขมันไปใช้เป็นพลังงาน ทำให้คุณเผาผลาญไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในส่วนนี้จำเป็นต้องอาศัยการออกกำลังกายด้วย จึงจะทำให้ร่างกายเกิดการเผาผลาญไขมันส่วนเกินอย่างสมบูรณ์ได้ ดังนั้นหากคุณจะอาศัยทานแอลคาร์นิทีนอย่างเดียวแล้วนอนเฉย ๆ รับรองได้ว่า อ้วนเหมือนเดิมแน่นอน ไม่มีทางที่จะลดไขมันได้เลย สำหรับคนที่ต้องการลดความอ้วน แล้วต้องการเลือกอาหารเสริมมาทาน ควรเลือกอาหารเสริมที่ประกอบไปด้วยอะเซทิล แอลคาร์นิทีนจะดีกว่า แล้วให้หลีกเลี่ยงอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของน้ำตาลและคาร์เฟอีนมาก ๆ เพราะเป็นโทษต่อร่างกาย สรุปว่า การจะลดความอ้วนหรือลดน้ำหนักอย่างได้ผลนั้นจำเป็นต้องอาศัยการควบคุมอาหาร การออกกำลังกายเข้าร่วมด้วย จะอาศัยพึ่งแอลคาร์นิทีนอย่างเดียวไม่ได้เลย
-
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับโรคไซนัสอักเสบ
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับโรคไซนัสอักเสบ โรคไซนัสอักเสบ ที่หลายคนรู้จักชื่อกันดีนี้ มักจะมีหลายคนที่เข้าใจผิดคิดว่าเป็นโรคนี้ ทั้งที่ป่วยเป็นไข้หวัดคัดจมูกธรรมดาเท่านั้น กับทั้งยังคิดว่าเป็นโรคที่รักษาไม่หาย เป็นแล้วต้องกลับมาเป็นอีก ซึ่งนี่คือความเข้าใจที่ผิดทั้งสิ้น ความจริงแล้วโรคไซนัสอักเสบนั้นมักเกิดจากเชื้อไวรัสหวัดทั่วไปแล้วติดเชื้อในโพรงจมูกจนลุกลามเข้าไปในโพรงไซนัส ผู้ป่วยกลุ่มนี้มักจะหายได้เอง แต่ในบางครั้งอาจมีเชื้อแบคทีเรียติดมาบ้างทำให้โรคไม่หายขาดและรุนแรงขึ้น การรักษาเพื่อที่จะไม่กลับมาเป็นอีกก็คือต้องพบแพทย์เพื่อรักษาให้หายขาดนั่นเอง อาการของไซนัสอักเสบที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียนั้น ผู้ป่วยจะมีอาการคัดแน่นจมูก มีน้ำมูกหรือเสมหะลงคอสีเหลืองหรือเขียว มีอาการปวดบริเวณ หัวตา หว่างคิ้ว ใบหน้า และตามโหนกแก้ม การได้กลิ่นลดลงและมีอาการเกิน 10 วัน หรือมีอาการแย่ลงใน 5 วันแรกก็ควรมาพบแพทย์ได้แล้ว อาการของโรคแบ่งออกเป็นกลุ่มเฉียบพลันและเรื้อรัง ซึ่งกลุ่มเฉียบพลันจะมีอาการน้อยกว่า 12 สัปดาห์ และกลุ่มเรื้อรังจะมีอาการมาเกิน 12 สัปดาห์ขึ้นไป ทำให้การรักษามีความแตกต่างกัน โดยกลุ่มที่มีความเสี่ยงมากจะเป็นกลุ่มที่ผู้ป่วยมีภูมิคุ้มกันต่ำ หรือบกพร่อง เช่น ผู้ป่วยเบาหวาน หรือผู้ที่รับยากดภูมิระหว่างการทำเคมีบำบัด หรือภาวะขาดภูมิคุ้มกันตั้งแต่เกิดเป็นต้น โรคไซนัสอักเสบไม่มีสาเหตุจากพันธุกรรม อีกทั้งยังเป็นโรคที่ทำให้ผู้ป่วยโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้เข้าใจผิดคิดว่าตนป่วยเป็นโรคไซนัสอักเสบได้ ดังนั้นจึงควรพบแพทย์เพื่อรักการวินิจฉัย โดยในปัจจุบันนี้ยังไม่ทราบแน่ชัดได้ว่าผู้ป่วยจมูกอักเสบภูมิแพ้เกิดจากไซนัสอักเสบได้บ่อยกว่าคนที่เป็นภูมิแพ้หรือไม่ แต่การสูบบุหรี่ทำให้การงานของเยื่อบุโพรงไซนัสทำงานบกพร่องได้ ในส่วนของการรักษา โรคไซนัสอักเสบเฉียบพลันหากมีสาเหตุจากเชื้อไวรัสมักจะหายได้เอง แต่ถ้าติดเชื้อแบคทีเรียกควรมาพบแพทย์เฉพาะทาง หู คอ จมูก เพื่อทำการส่องกล้องเข้าไปตรวจช่องโพรงจมูกและไซนัส ซึ่งหากมิใช่แพทย์เฉพาะทางหรือไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญโรคไซนัสมักให้คนไข้ทำการเอกซเรย์ วิธีนี้ไม่แม่นยำนัก ทั้งยังทำให้เสียค่าใช้จ่ายโดยสิ้นเปลือง…
-
ข่าวร้าย 7 อย่าง ของคนที่ชอบนอนดึก
ข่าวร้าย 7 อย่าง ของคนที่ชอบนอนดึก ด้วยความเคยชินของสังคมคนรุ่นใหม่ ทั้งยังกิจกรรมก่อนนอนต่าง ๆ นา ๆ รวมทั้งการทำงานหนักกลับบ้านดึก ทำให้หนุ่มสาววัยทำงานทั้งหลายไม่มีเวลาให้ตัวเองมากนัก นอนก็ดึก ทั้งยังต้องตื่นเช้าขึ้นมาทำงานต่ออีก ทำให้ร่างกายพักผ่อนได้ไม่เพียงพอ แต่ข้อเสียมิใช่แค่นั้น การนอนดึกและไม่เพียงพอยังทำให้เกิดปัญหาสุขภาพอื่นๆ ตามมาอีกด้วย ลองมาดูผลเสียต่อสุขภาพของคุณกันค่ะ 1. การนอนดึกทำให้หลง ๆ ลืม ๆ พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง การตอบสนองช้า เพราะสมองขาดการพักผ่อนอย่างเพียงพอ หากนอนดึกบ่อย ๆ จะทำให้เป็นโรคสมองเสื่อมได้ง่าย 2. ผิวพรรณหม่นหมองไม่เปล่งปลั่งสดใส ร่างกายก็แก่ก่อนวัย ฮอร์โมนทำงานได้ไม่เต็มที่ ว่าง่าย ๆ ก็คือร่างกายแก่ก่อนอายุจริงนั่นเอง 3. ขาดสมาธิทั้งการเรียนและการทำงาน เพราะสมองสั่งการช้า ไม่มีสมาธิ ความจำก็ไม่ดีอีกด้วย 4. ร่างกายขาดการพักผ่อนอย่างเต็มที่ จึงไม่แข็งแรง ป่วยง่าย ระบบต่าง ๆ ขาดการซ่อมแซมตัวเองอย่างเหมาะสมเพราะขาดการนอน 5. เพราะการนอนดึกทำให้ร่างกายหลั่งสารคอร์ติโซลออกมา จึงทำให้หิวได้ง่าย ยิ่งนอนดึกก็ยิ่งหิวมาก ระบบย่อย น้ำย่อย และการดูดซึมทำงานได้ไม่เต็ม…
-
โรคคล้ายไข้หวัดใหญ่ระบาดพัทยา คนแห่เข้าโรงพยาบาลมากขึ้น 10% ในครึ่งปีแรก
โรคคล้ายไข้หวัดใหญ่ระบาดพัทยา คนแห่เข้าโรงพยาบาลมากขึ้น 10% ในครึ่งปีแรก นายแพทย์พิชิต กังวลกิจ ประธานคณะผู้บริหารกลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพภาคตะวันออก เปิดเผยว่าด้วยขณะนี้เศรษฐกิจของพัทยาขยายตัวมากขึ้นจึงทำให้มีคนมาอยู่อาศัยเพิ่ม และมีผู้ป่วยที่ป่วยด้วยโรคคล้ายไข้หวัดใหญ่เข้ามาระบาดเมื่อต้นปี ทำให้มีผู้เข้ามาใช้บริการ โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยาเพิ่มขึ้นกว่า 10% ในครึ่งปีแรก ซึ่งโรคดังกล่าวมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่เริ่มระบาดมาตั้งกลุ่มจังหวะดภาคกลางและลุกลามมายังพื้นที่ภาคตะวันออกของประเทศ กับทั้งเศรษฐกิจของเมืองพัทยาที่อยู่ในเกณฑ์ดีไม่ว่าจะเป็นการขยายตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ การก่อสร้างคอนโด ห้างร้านรวมไปถึงผู้จำหน่ายวัสดุสร้างและตกแต่งบ้าน จึงทำให้บริษัทต่าง ๆ มีการว่าจ้างพนักงานเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ผู้ที่เข้ามาอาศัยในพื้นที่เพิ่มมากขึ้น กลุ่มผู้มาใช้บริการโรงพยาบาลกรุงเทพพัทยาก็เพิ่มมากขึ้นด้วย นายแพทย์พิชิตยังเปิดเผยอีกว่า อาการโรคคล้ายไข้หวัดใหญ่ดังกล่าวนี้จะระบาดในเด็กมากกว่า โดยจะมีอาการไข้ และไอเล็กน้อยคล้ายไข้หวัดธรรมดาหรือไข้หวัดนก ส่วนของไข้หวัดนกยังไม่ปรากฏการแพร่ระบาดในประเทศไทย ซึ่งจากแหล่งข่าวการระบาดนั้นได้หยุดไปแล้วเมื่อเดือนมีนาคม อีกทั้งข้อมูลจากกระทรวงศึกษาธิการทราบว่า ช่วงนี้มีการระบาดของโรคอหิวาต์ และโรคอีสุกอีใส เพราะเป็นช่วงฤดูร้อนที่เกิดขึ้นเป็นประจำ ในส่วนของโรคอีสุกอีใสนั้นทางโรงพยาบาลฯ ได้เตรียมวัคซีนไว้พร้อมให้บริการแล้ว แต่ส่วนของโรคอหิวาต์แม้จะไม่มีวัคซีนป้องกัน แต่ทางโรงพยาบาลก็สามารถรับรองผู้ป่วยได้ด้วยเช่นกัน
-
เลือกท่วงท่าให้เหมาะกับขนาดน้องชายของคุณ
เลือกท่วงท่าให้เหมาะกับขนาดน้องชายของคุณ คุณผู้ชายส่วนมาก ยังคงยึดติดอยู่กับความคิดที่ว่า ยิ่งขนาดใหญ่หรือยาวเท่าไรก็จะยิ่งสร้างความสุขทางเพศให้กับฝ่ายหญิงมากขึ้น ขอบอกว่านั่นไม่ใช่ความจริงทั้งหมด คำว่า “size doesn’t matter” ยังคงเป็นความจริงอยู่เสมอ เพราะความจริงแล้ว การที่ฝ่ายหญิงจะมีความสุขบนเตียงเท่าไรนั้นขึ้นอยู่กับการเอาใส่ในตัวเธอก่อนสอดใส่ และการเลือกท่วงท่าในการร่วมรักอย่างเหมาะสมกับขนาดของน้องชายคุณมากกว่าค่ะ ซึ่งความจริงแล้ว ผู้หญิงส่วนใหญ่มักชอบการสอดใส่แบบตื้น ๆ มากกว่าการสอดใส่เข้าไปลึก ๆ นั่นเป็นเพราะบริเวณจุดกระสันที่สร้างความสุขมากที่สุดของผู้หญิงอยู่บริเวณปากช่องคลอดหรือปากทางเข้านั่นเอง ดังนั้นเราจึงต้องมาค้นหาท่วงท่าที่เหมาะสมกับขนาดของน้องชายคุณ เพื่อป้อนความสุขให้เต็มที่แก่ฝ่ายหญิงนั่นเอง ท่วงท่าการร่วมรักสำหรับชายหนุ่มที่มีขนาดน้องชายยาวกว่า 7 ½ นิ้วตอนตื่นตัว – ท่านอนตะแคง หรือจะเรียกชื่อใหม่ว่าท่า “เพรตเซล” ท่านี้ให้เธอนอนหงาย โดยคุณลองนอนตะแคงข้าง ๆ เธอ ขาข้างหนึ่งสอดอยู่ระหว่างขาทั้งสองของเธอ แล้วเธอเอาขาบนก่ายสะโพกของคุณเอาไว้ ส่วนขาล่างนั้นเหยียดได้เต็มที่ เมื่อคุณสอดใส่น้องชายของคุณเข้าทางด้านข้างแล้วจึงค่อยเลื่อนขึ้นไปอยู่บนตัวเธอ เมื่อคุณหมุนน้องชายของคุณก็จะถูกดันเข้าไปข้างใน – ท่า Woman on top ก็เหมาะสมกับน้องชายขนาดพี่บิ๊กเหมือนกัน เพราะฝ่ายเธอสามารถคุมเกมส์ได้เอง คุมน้ำหนักได้เองแล้วก็ยังคุมการสอดใส่ได้เองอีกด้วย ท่วงท่าการร่วมรักสำหรับชายหนุ่มที่มีขนาดน้องชายยาวประมาณ 5-7 นิ้วตอนตื่นตัว – ท่าที่เหมาะก็คือท่า Woman on top แบบให้เธอหันหลังไปมองปลายเท้า…