Author: pure
-
ท่าเด็ดไม่ควรพลาดในรถยนต์
ท่าเด็ดไม่ควรพลาดในรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นการมีเซ็กซ์ในอ่างหรือมีเซ็กซ์ในรถยนต์ ต่างก็เป็นแฟนตาซีแบบเบา ๆ ที่ใคร ๆ ก็อยากลองกันทั้งนั้น แต่ด้วยความคับแคบของสถานที่กับทั้งยังหาโอกาสได้ยาก บทความวันนี้จะแนะนำท่วงท่าลีลาที่จะช่วยให้คุณทำรักในรถยนต์ของคุณได้อย่างสะดวกและถึงสวรรค์ด้วยความตื่นเต้นกันได้แบบง่าย ๆ สุด ๆ ซึ่งข้อดีของการทำรักในรถก็คือคุณได้นั่งอยู่บนเบาะนุ่ม ๆ เปิดเพลงเบา ๆ ไปด้วยก็ยังได้ ยิ่งถ้าเป็นรถที่เปิดหลังคาได้ ก็เหมือนคุณได้ทำรักไปชมท้องฟ้าชมดาวไปในตัว ลองสะกิดแฟนคุณมาอ่านบทความนี้สิ ถ้าอดใจไม่ไหวแล้วก็ลองนำท่วงท่าเหล่านี้ไปบรรเลงกันได้เลยนะ การทำรักในรถยนต์ทำให้อะดรีนาลีนของคุณพลุ่งพล่านแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนในที่ส่วนตัว นอกจากความคับแคบของห้องโดยสารแล้ว การกลัวว่าจะมีใครมาเห็นก็จะยิ่งทำให้มันตื่นเต้นมากขึ้นไปอีกด้วย และนี่คือคำแนะนำสำหรับสาว ๆ ทุกคน สุขสุด ๆ หลังพวงมาลัย ท่านี้คุณผู้หญิงเริ่มต้นก่อนด้วยการที่เขานั่งอยู่หลังพวงมาลัย คุณเองเริ่มต้นด้วยการโน้มตัวไปหา แล้วจูบตรงต้นคอ โลมไล้ใบหู แกะกระดุมเสื้อเขาออก แล้วเอามือลูบไล้ไปตามเนื้อตัวเขา เมื่อเครื่องร้อนได้ที เขาเริ่มเสียวซ่านแล้วให้คุณเลื่อนตัวไปบนเบาะคนขับ ทับน้องชายของเขาไว้ แล้วสอดใส่ให้พอ โน้มตัวไปทางกระจกหน้ามือจับพวงมาลัยไว้ แล้วคุณเป็นฝ่ายควบขี่พาเขาขึ้นสวรรค์ด้วยสะโพกของคุณเองเลย เบาะหลังสุดหฤหรรษ์ หากเบาะหน้าทำให้คุณรู้สึกอึดอัด ลองไปทำรักกันที่เบาะหลังก็ได้ เพราะมีความยาวและกว้างขวางกว่า ให้แฟนหนุ่มของคุณนั่งอยู่กลางเบาะ คุณขึ้นนั่งคร่อมบนตัวเขา เขาจะมองคุณได้เต็มตา เล้าโลมกันและกันได้เต็มที่ แล้วกอดคุณได้เต็มอ้อมแขนตอนที่คุณควบขี่พาเขาขึ้นสวรรค์ไง ยิ่งถ้าเขาได้เอนตัวพิงเบาะหลังมากเท่าไร จุดกระสันของคุณก็จะยิ่งสัมผัสกับน้องชายของเขามากเท่านั้น ให้เขาสะโพกของคุณเอาไว้ แล้วโน้มตัวคุณไปด้านหลังให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ …
-
ขนบริเวณทวาร.. ผู้ชายมีไว้ทำไม?
ขนบริเวณทวาร.. ผู้ชายมีไว้ทำไม? เป็นเรื่องที่น่าสงสัยแล้วก็ชวนให้ค้นหาคำตอบกันมานานแล้ว ซึ่งเจ้าขนตรงทวารเนี้ย บางคนก็มี บางคนก็ไม่มี หรือมีน้อย วันนี้ผู้เขียนพบคำตอบแล้วล่ะว่าทำไมผู้ชายต้องมีขนบริเวณนั้น เรามาดูกันเลยดีกว่าว่าร่างกายเราสร้างขนไว้บริเวณนั้นเพื่ออะไรกันบ้าง ซึ่งข้อดีของการมีขนทวารก็คือ 1. ป้องกันเสียดสีของเนื้อก้นในระหว่างการเดินหรือการวิ่ง คล้าย ๆ กับขนรักแร้นั่นล่ะ 2. เพื่อไว้ดักกลิ่นเฉพาะตัวทางเพศ ซึ่งมีไว้สำหรับสัญชาติญาณการเลือกคู่ของมนุษย์ตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์แล้ว แม้จะมีกลิ่นที่ไม่ได้แรงชัดเจนนักก็ตาม 3. เป็นส่วนหนึ่งของวิวัฒนาการ เพราะตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์มาแล้วมนุษย์ยังไม่ได้นุ่งห่มเนื้อผ้า ขนตรงนั้นจึงพัฒนามาเพื่อป้องกันฝุ่น หรือสิ่งแปลกปลอมที่จะผลัดหลุดเข้าไปในรูทวารนั่นเอง สำหรับหนุ่ม ๆ ที่มีขนตรงนั้นแล้วอยากกำจัดออก แนะนำว่าอย่าโกนเลย เพราะหากมันขึ้นใหม่จะเป็นตอแข็ง ๆ เหมือนหนวดคุณนั่นล่ะ เวลาเดินหรือวิ่งคงเจ็บน่าดู แนะนำว่าหากต้องการจำกัดควรใช้การแว๊กซ์จะดีกว่า แต่ความจริงแล้วเพียงการรักษาความสะอาดให้ถี่ถ้วน อาบน้ำ หรือทำความสะอาดให้เรียบร้อยแล้วเช็ดให้แห้งทุกครั้งหลังเข้าห้องน้ำ ก็น่าจะเพียงพอแล้ว
-
ช่วยตัวเองบ่อย ๆ เกิดผลเสียอะไรหรือเปล่า?
ช่วยตัวเองบ่อย ๆ เกิดผลเสียอะไรหรือเปล่า? มีข้อสงสัยจากคุณผู้ชายวัยหนุ่มทั้งหลายที่ยังโสดอยู่ แล้วก็ช่วยเหลือตัวเองเป็นประจำ หากวันไหนไม่ได้ทำก็จะนอนไม่หลับเลย เขาสงสัยกว่าการช่วยตัวเองนั้นจะทำได้บ่อยแค่ไหน แล้วจะมีผลเสียอะไรเกิดขึ้นกับปริมาณน้ำเชื้อในอนาคตหรือเปล่า เรามาดูคำตอบกันค่ะ คำถามทำนองนี้มีถามมาบ่อยมาก แต่ก็ยังมีปัญหาอยู่เหมือนเดิม ดังนั้นจะขอย้ำว่าการช่วยตัวเองนั้นไม่เป็นอันตรายอะไร แล้วยังมีข้อดีคือช่วยกระตุ้นให้ลูกอัณฑะมีการสร้างตัวอสุจิและน้ำอสุจิในปริมาณที่เหมาะสมและต่อเนื่องจึงช่วยให้สมรรถภาพทางเพศดีขึ้น ซึ่งหากจะถามว่ามากไปหรือน้อยไปไหน ก็ขึ้นอยู่กับสุขภาพร่างกายของตัวคุณเอง หากคุณป่วยหรืออ่อนแออวัยวะเพศก็จะไม่สามารถแข็งตัวได้ คุณก็ไม่สามารถช่วยตัวเองได้แล้ว ยิ่งคุณสุขภาพแข็งแรงเท่าไร อวัยวะเพศของคุณก็ยิ่งแข็งตัวพร้อมปฏิบัติการง่ายเท่านั้น สำหรับน้ำเชื้อนั้น หากต้องการให้มีสุขภาพดีก็ควรรับประทานอาหารให้ครบทุกหมู่ ก็จะผลิตน้ำเชื้อได้ดี อีกทั้งควรเข้านอนก่อนเที่ยงคืน และปิดไฟนอนด้วย จะทำให้มีการผลิตน้ำเชื้อมีปริมาณที่พอเพียงและมีสมรรถภาพทางเพศที่ดีตลอดไปค่ะ
-
เช็คความรู้กันก่อนดีไหม.. ท่าไหนป้องกันการตั้งครรภ์ได้
เช็คความรู้กันก่อนดีไหม.. ท่าไหนป้องกันการตั้งครรภ์ได้ ยังมีคู่รักบางส่วนที่ใช้หลักการ “นับวัน” เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์กันอยู่ รู้อยู่แก่ใจว่ามันไม่ได้ผลร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วก็ยังมีสิทธิ์พลาดตั้งครรภ์ขึ้นมาได้ง่ายอีกด้วย วันนี้เช็คก่อนหน่อยดีกว่าว่าคุณมีความรู้ด้านอื่น ๆ ในการป้องกันการตั้งครรภ์ดีขนาดไหน .. อ่านคำถามไปแล้วตอบตัวเองในใจก่อนเฉลยก็ดีนะคะ 1. การป้องกันการตั้งครรภ์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดคือวิธีไหน..? ไม่ว่าจะเป็นการสวมถุงยาง การใช้ยาคุม ก็ยังดีไม่เท่าการทำรักทางช่องคลอด (ก็แล้วแต่ชอบนะ หากไม่สะดวกใจ ใช้ถุงยางเถอะ) 2. ระหว่างมีรอบเดือนจะตั้งครรภ์ได้หรือเปล่า ตั้งครรภ์ได้ อีกอย่าง..ในระหว่างคุณมีรอบเดือน คุณแน่ใจได้ยังไงว่านั่นคือรอบเดือน ไม่ใช่การตกเลือดแบบอื่น ๆ 3. มีเซ็กซ์ทางช่องทางไหนที่ทำให้ทั้งครรภ์ได้? ก็ต้องทางช่องคลอดน่ะสิ ช่องทางอื่น อย่างปากหรือประตูหลัง ทำคุณท้องไม่ได้หรอก 4. มีเซ็กซ์ท่าไหนที่ป้องกันการตั้งครรภ์ได้ ระหว่างมิชชันนารี, Woman on Top หรือท่ายืน ท่าไหนก็ท้องได้ทั้งหมด ดังนั้น.. ใช้วิธีป้องกันแบบอื่นมาช่วยเถอะ 5. แล้วถ้าใช้วิธี “ออกข้างนอก” ล่ะ จะมีโอกาสการตั้งครรภ์อยู่หรือเปล่า ถ้าทำแบบถูกต้องเลยนะ จะมีโอกาสอยู่ 1 ใน 25 แต่ถ้าทำดีบ้างพลาดบ้าง โอกาสก็จะพุ่งขึ้นไปที่ 7…
-
แพทย์สหรัฐใช้ปลิงช่วยผ่าตัดหูเด็กสาววัย 19 หลังถูกหมาพิทบูลขย้ำขาด
แพทย์สหรัฐใช้ปลิงช่วยผ่าตัดหูเด็กสาววัย 19 หลังถูกหมาพิทบูลขย้ำขาด เมื่อวันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา สำนักข่าวต่างประเทศได้รายงานว่า แพทย์ในโรงพยาบาลโรดไอร์แลนด์ สเตฟาน ซัลลิแวน ศัลยแพทย์ประจำโรงพยาบาล ได้ทำการผ่าตัดหูของเด็กสาวชาวอเมริกันวัย 19 ที่ถูกหมาพันธุ์พิทบูลขย้ำบริเวณศีรษะจนหูขาด และคุณหมอได้นำปลิงมาช่วยดูดเลือดที่เสียออกก่อนผ่าตัดต่อหูเข้าไปได้ใหม่ จากรายงานพบว่าสุนัขพิทบูลตัวดังกล่าวได้กระโดดเข้าจู่โจมเด็กสาวโดยไม่ทันตั้งตัว โดยมันได้ขย้ำเข้าที่ หู ใบหน้า และแขนของเธอจนมีบาดแผลฉกรรจ์ โดยเฉพาะใบหูที่โดยกัดขาดจนห้อยออกมา เมื่อเธอได้ถูกนำส่งเข้าโรงพยาบาลแล้วศัลยแพทย์ผู้รับผิดชอบการผ่าตัดต้องหนักใจกับเคสคนเจ็บรายนี้มาก เพราะต้องทำการผ่าตัดเส้นเลือดที่มีขนาดเล็กเพียง 0.03 มม ทำให้ต้องใช้กล้องและเครื่องมืออื่น ๆ ในการผ่าตัดเข้ามาช่วยอีกมากมาย ซึ่งอุปสรรค์ของการผ่าตัดนี้ก็คือเมื่อต่อเส้นเลือดแดงได้แล้ว ต้องรอสักพักให้ร่างกายสร้างขึ้นมาใหม่ ระหว่างนั้นแพทย์ได้นำปลิงช่วยผ่าตัดมาดูดเลือดเสียก่อนที่ร่างกายจะสร้างหลอดเลือดดำขึ้นมาในภายหลัง การผ่าตัดใบหูด้วยการใช้ปลิงเป็นตัวช่วยนี้สำเร็จด้วย และเด็กสาวก็ได้หูของเธอคืนกลับมา
-
การรักษาโรคภูมิแพ้ และทางเดินหายใจ
การรักษาโรคภูมิแพ้ และทางเดินหายใจ โรคภูมิแพ้นั้น เป็นโรคที่สมัยนี้คนรุ่นใหม่ที่อาศัยอยู่ท่ามกลางมลพิษเริ่มเป็นกันมากขึ้น โรคภูมิแพ้เป็นภาวะที่ภูมิคุ้มกันของร่างกายมีปฏิกิริยากับ “สารก่อภูมิแพ้” เช่น ไรฝุ่น เกสรดอกไม้ หรือขนสัตว์ชนิดต่าง ๆ ฯลฯ จนร่างกายปล่อยสารที่เรียกว่าฮิสตามีนอกมา จึงทำให้เยื่อบุของร่างกายนั้นเกิดอาการระคายเคืองขึ้น ซึ่งอาการหลัก ๆ ของผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ทางเดินหายใจก็คือ มีน้ำมูกใส จาม คัดจมูก คันจมูก บางท่านก็มีอาการของไซนัสอักเสบ และมีอาการที่ดวงตาด้วย เช่น คันตา ตาแดง ขอบตาคล้ำ หรือบางคนก็มีอาการที่หูก็คือหูอื้อ หรือหูชั้นกลางอักเสบได้ด้วย ซึ่งการจะหลีกเลี่ยงอาการภูมิแพ้ได้นั้น ก่อนอื่นเราต้องรู้ก่อนว่าเราแพ้อะไรบ้าง ซึ่งวิธีการที่จะรู้ได้ก็คือการทดสอบภูมิแพ้ โดยแพทย์จะทำการหยดน้ำยาสลัดจากสารก่อภูมิแพ้บนผิวหนังของเราแล้วใช้เข็มสะกิดที่ผิวหนัง ซึ่งการทดสอบนี้จะไม่เจ็บและจะทราบผลภายในระยะเวลาแค่ 15 นาทีเท่านั้น และเมื่อเราได้ทราบแล้วว่าเราแพ้สารอะไร ก็จะช่วยให้เราหลีกเลี่ยงสารก่ออาการแพ้นั้นได้ดียิ่งขึ้น ในส่วนของการรักษาและดูแลตนเองร่วมกันทั้งแพทย์และผู้ป่วยจะเป็นดังต่อไปนี้ 1. ผู้ป่วยควรหลีกเลี่ยงสิ่งที่ตนเองแพ้ เช่น หากแพ้ขนสัตว์ก็ไม่ควรเลี้ยงสัตว์ไว้ในบ้าน หรือหากแพ้ไรฝุ่น ก็ไม่ควรปูพรมในห้องนอน หรือควรทำความสะอาดเครื่องนอนด้วยน้ำร้อนทุกสองสัปดาห์ หรืออาจเปลี่ยนไปใช้เครื่องนอนที่สามารถกันไรฝุ่นได้ 2. หากสัมผัสกับสารก่ออาการแพ้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ให้ทานยาแก้แพ้พวกยาแอนตี้ฮิสตามีนบางชนิด แต่ก็อาจทำให้มีอาการง่วงนอน คอแห้ง ปากแห้ง หรือปัสสาวะลำบากได้ด้วย 3.…
-
ประโยชน์ของวิตามินซีที่มีต่อร่างกายของเรา
ประโยชน์ของวิตามินซีที่มีต่อร่างกายของเรา คุณสมบัติเด่น ๆ ของวิตามินซีเลยก็คือ การที่มีคุณสมบัติเป็นวิตามินที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ นั่นเอง ซึ่งประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับจากการบริโภควิตามินซีอย่างพอเพียงและเป็นประจำก็คือ 1. ทำให้ร่างกายมีภูมิต้านทานสูงขึ้น 2. ช่วยป้องกันการก่อตัวของเซลล์มะเร็งในร่างกาย 3. ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง สดใส ไม่เหี่ยวย่นก่อนวัน 4. ป้องกันโรคเหงือก โรคในช่องปากต่าง ๆ เช่น โรคลักปิดลักเปิด หรือโรคเหงือกอักเสบได้ ฯลฯ และในทางกลับกันหากร่างกายของเราได้รับวิตามินซีไม่เพียงต่อความต้องการ ก็อาจก่อผลเสียได้ดังต่อไปนี้ 1. มีภูมิต้านทานโรคต่ำ เป็นหวัดและติดเชื้อได้ง่าย กับทั้งความสามารถในการกำจัดพิษยังลดลงอีกด้วย 2. ผิวหนังเหี่ยวย่น ไม่สดใส ขาดความยืดหยุ่น ปรากฏจุดด่างดำ และเกิดโรคเลือดออกตามไรฟัน 3. ประสาทสัมผัสด้อยลง อ่อนเพลีย ไม่สดใส ไม่มีเรี่ยวแรง 4. มีความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งตับ มะเร็งกระเพาะ และมะเร็งในส่วนอื่น ๆ 5. การทำงานของต่อมหมวกไตลดลง และเป็นโรคภูมิแพ้ได้ง่าย 6. ทำให้เป็นโรคโลหิตจาง หรือโรคอื่น ๆ ได้ง่าย แผลหายช้า อ่านแล้วอย่าเพิ่งเครียดไป…
-
ปรับความเชื่อเกี่ยวกับเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เสียใหม่
ปรับความเชื่อเกี่ยวกับเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เสียใหม่ การเลี้ยงลูกด้วยนมตนเองนั้นเป็นความรู้สึกที่ดีมากเกินกว่าจะพรรณนาออกมาได้ ซึ่งปัจจุบันนี้ก็ยิ่งรณรงค์ให้มีการเลี้ยงลูกด้วยนมตนเองกันมากขึ้น แต่ก็ยังมีความเชื่อบางอย่างที่อาจน่าสงสัยอยู่บ้าง เรามาลองหาคำตอบกันในวันนี้ค่ะ – หากเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ครบหกเดือนแล้ว ต้องใช้นมชนิดอื่นให้ลูกดื่มด้วย ไม่เป็นความจริง เพราะนมแม่นั้นมีคุณค่าทุกอย่างที่เหมาะสมและพอเหมาะกับทารก และมีมากกว่านมชนิดอื่น ๆ ด้วย แต่เด็กทารกที่อายุมากกว่าหกเดือนแล้ว ให้เริ่มกินอาหารเสริมสำหรรับทารก เพื่อให้ทารกได้รู้จักวิธีการกินและได้รับธาตุเหล็กจากอาหารชนิดอื่น ๆ นอกจากนมแม่ เพราะในระยะ 7-9 เดือนหากดื่มนมแม่อย่างเดียวเด็กอาจได้รับธาตุเหล็กไม่พอ ดังนั้นหากทารกกินนมแม่ และกินอาหารเสริมไปด้วยได้ นมวัวหรือนมอื่น ๆ ก็ไม่จำเป็นเลย – นมผงสำหรับทารกสมัยนี้นั้น ดีพอ ๆ กับนมแม่ ไม่เป็นความจริง แม้นมผงสมัยใหม่นี้คล้ายคลึงกับนมแม่แค่ผิวเผินเท่านั้น เพราะนมผงไม่มีแอนติบอดี เซลล์ที่มีชีวิต เอนไซม์ และฮอร์โมนด้วย แม้นมผงจะมีสารอาหารชนิดอื่นที่มากกว่านมแม่ รวมทั้งโปรตีนด้วย แต่โดยพื้นฐานแล้วแตกต่างจากสารอาหารในนมแม่ นมผงต่าง ๆ ไม่มีความแตกต่างของสารอาหารไม่ว่าจะวันเวลาใด แต่นมแม่ถูกสร้างขึ้นตามความเหมาะสมกับลูกของคุณโดยเฉพาะเท่านั้น – ทำความสะอาดหัวนมแม่ทุกครั้งก่อนลูกดูด ไม่เป็นความจริง หากให้ทารกดื่มนมผงนั้นต้องใส่ใจเรื่องความสะอาด เพราะนมผงไม่ได้ช่วยป้องกันทารกจากการติดเชื้อ และยังปนเปื้อยและเป็นแหล่งแพร่แบคทีเรียได้ง่ายด้วย แต่ในนมแม่จะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันการติดเชื้อให้กับทารกอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องล้างทำความหัวนมตนเองก่อน เพราะอาจทำให้ยุ่งยากอีกด้วยแล้วยังทำให้ไขมันตามธรรมชาติที่ช่วยต่อต้านแบคทีเรียออกไปจากหัวนมด้วย –…
-
เฝ้าระวัง “โรคเมิร์สคอฟ” รุนแรงเท่าซาร์ส จับตาใกล้ชิดผู้กลับจากตะวันออกกลาง
เฝ้าระวัง “โรคเมิร์สคอฟ” รุนแรงเท่าซาร์ส จับตาใกล้ชิดผู้กลับจากตะวันออกกลาง จากการประการเตือนคนไทยในภาคตะวันตก ของประเทศซาอุดีอาระเบีย ให้ดูแลป้องกันการติดเชื่อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2012 หรือโรคเมิร์สคอฟ หลังจากมีรายงานการแพร่ระบาดตั้งแต่ปี 2555 ซึ่งปัจจุบันนี้ยังไม่พบผู้ป่วยในประเทศไทยแต่อย่างใด แต่ก็ยังไม่สามารถไว้ใจได้ เนื่องจากมีคนไทยจำนวนมากเดินทางไปทำงานใน 11 ประเทศ ได้แก่ จอร์แดน ซาอุดีอาระเบีย กาตาร์ อังกฤษ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ฝรั่งเศส ตูนิเซีย เยอรมนี อิตาลี โอมาน และคูเวต โดยล่าสุดองค์การอนามัยโลก รายงาน ณ วันที่ 16 เม.ย. พบผู้ป่วยยืนยัน 238 ราย เสียชีวิต 92 ราย ซึ่งการป้องกันต้องเน้นมาตรการ 2 ข้อหลักได้แก่ 1. โรงพยาบาลและสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกแห่ง เฝ้าระวังผู้ป่วยที่มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ คือ มีไข้สูง ไอ ถ่ายเหลว อาเจียน และมีประวัติเดินทางกลับจากประเทศที่พบผู้ป่วย หรือเป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากประเทศที่พบผู้ป่วย ซึ่งหากพบผู้ป่วยที่เข้าข่ายดังกล่าว…
-
4 ท่าฟิตขาเรียว สุดเซ็กซี่
4 ท่าฟิตขาเรียว สุดเซ็กซี่ สาว ๆ คนไหนก็อยากอวดเรียวขาสวย ๆ ใส่กระโปรงหรือกางเกงขาสั้นได้อย่างมั่นใจ แต่หากต้นขาของคุณมีเซลลูไลท์สะสมอยู่ คงไม่มีใครอยากอวดให้อับอายเป็นแน่ แต่หากคุณต้องการกระชับกล้ามเนื้อต้นขาและน่องให้เรียวสวยเป๊ะ แล้วล่ะก็ การออกกำลังกายกล้ามเนื้อต้นขาช่วยคุณได้อย่างแน่อน นอกจากช่วยลดเซลลูไลท์ทำให้ผิวสวยเรียบแล้วยัง ทำให้กล้ามเนื้อมีขนาดเล็กลง เรียวสวยได้รูปอย่างแน่นอน ขอแค่มีวินัยในการบริหารกล้ามเนื้อเท่านั้นเอง เพียงบริหารตามท่าต่อไปนี้ค่ะ ท่าที่ 1 บริหารต้นขาข้างขวา เตรียมพร้อมในท่า ยืนตรง มือจับไว้ตรงเอว ก้าวเท้าขวาไปด้านหลัง แล้วย่อหัวเข่าลงช้า ๆ ให้รู้สึกตึงบริเวณต้นขาขวามากที่สุดเท่าที่ทำได้ จากนั้นยืดตัวขึ้นกลับสู่ท่าเตรียมพร้อม นับ 1 ครั้ง ทำทั้งหมด 15 ครั้ง ท่าที่ 2 บริหารต้นขาข้างซ้าย เตรียมพร้อมในท่า ยืนตรง มือจับไว้ตรงเอว ก้าวเท้าซ้ายไปด้านหลัง แล้วย่อหัวเข่าลงช้า ๆ ให้รู้สึกตึงบริเวณต้นขาซ้ายมากที่สุดเท่าที่ทำได้ จากนั้นยืดตัวขึ้นกลับสู่ท่าเตรียมพร้อม นับ 1 ครั้ง ทำทั้งหมด 15 ครั้ง ท่าที่ 3 บริหารต้นขาขวา-ด้านข้าง…