Author: pure
-
โรคหัวใจขาดเลือด มีอาการอย่างไรบ้าง?
โรคหัวใจขาดเลือด มีอาการอย่างไรบ้าง? โรคหัวใจขาดเลือด นั้น คืออาการที่หัวใจไม่ได้รับโลหิตที่มีออกซิเจนอย่างพอเพียง ก็จะทำให้เกิดอาการเจ็บปวดที่เรียกว่า หัวใจขาดเลือด (angina) ซึ่งมีสาเหตุมาจากการกระตุกในหลอดเลือดหัวใจ อาการดังกล่าวเป็นการเตือนว่าหัวใจต้องการออกซิเจนมากขึ้นนั่นเอง ซึ่งอาการที่แสดงถึงโรคหัวใจขาดเลือดของแต่ละคนจะแตกต่างกันไป เช่น – เจ็บ ปวดหรือรู้สึกไม่สบาย – แน่นท้อง – เป็นตะคริว – ชา – หายใจลำบาก จุกเสียด – แน่นหน้าอก – ร้อน – เหงื่อแตก – วิงเวียนศีรษะ อาการดังกล่าวสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในบริเวณหน้าอก ไหล่ หลังส่วนบน แขน คอ ในลำคอ หรือกราม เป็นต้น และอาจเกิดขึ้นได้ในช่วงเวลาที่รู้สึกเครียด ขณะที่ใช้แรงมากในการทำกิจกรรมหรือหลังอาหารมื้อหนัก ๆ อย่าละเลยโรคหัวใจขาดเลือด การพักผ่อนและการรักษาด้วยยา เป็นวิธีที่ช่วยลดอาการหัวใจขาดเลือดอย่างได้ผล
-
หน้าอกใหญ่เกินไป.. ทำไงดีล่ะเนี่ย?
หน้าอกใหญ่เกินไป.. ทำไงดีล่ะเนี่ย? ปัญหาแน่นอกของสาว ๆ ไม่ได้เกิดขึ้นกับคนที่มีหน้าอกเล็กเท่านั้นนะคะ แต่คนที่มีหน้าอกใหญ่ก็เป็นปัญหาเช่นเดียวกัน ทั้งการหาเสื้อผ้าใส่ยาก ทั้งอาการปวดหลังและปวดไหล่ และเมื่อน้ำหนักตัวมากขึ้นยังทำให้ขนาดหน้าอกใหญ่ขึ้นไปอีกด้วย หาชุดว่ายน้ำใส่ก็ยาก ฯลฯ สารพัดปัญหามากกว่าสาวอกไข่ดาวเสียอีก ซึ่งปัญหาทางสุขภาพของสาวหน้าอกใหญ่นั้นก็คือ จะทำให้เกิดอาการปวดหลัง ปวดไหล่ เพราะกระดูกสันหลังทำงานหนักในการแบกรับน้ำหนักที่มากเกินพอดี ทำให้หน้าอกหย่อนคล้อยก่อนวัยอันควร เพราะเส้นยึดเต้านมที่ต้องแบกรับน้ำหนักที่มากเกินพอดี ทำให้เกิดการหย่อนคล้อยลงตามแนวโน้มถ่วงได้ วิธีการลดขนาดหน้าอกให้กระชับขึ้นก็ทำได้หลายวิธีค่ะ 1. ออกกำลังกายและใช้ท่ากายบริหารที่ช่วยกระชับกล้ามเนื้อหน้าอก ซึ่งควรออกกำลังกายควบคู่กันไปทั้งการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ และเวทเทรนนิ่ง 2. ลดปริมาณอาหารที่มีไข้มันสูง ๆ เช่น อาหารทอด เบเกอรี่ ที่มีนมเนยต่าง ๆ ทีทำให้ไขมันมาสะสมบริเวณหน้าอกเพิ่มขึ้น 3. การนวดเพื่อลดขนาดหน้าอก ให้มีความกระชับและได้รูปสวยมากขึ้น ควรทำไปพร้อมกับใช้ครีมนวดหน้าอกสำหรับสาวอกใหญ่โดยเฉพาะ ซึ่งวิธีการนวดสามารถสอบถามได้โดยตรงจากผู้ที่จัดจำหน่ายครีม 4. การผ่าตัดลดขนาดหน้า เป็นการผ่าตัดเพื่อแก้ไขปัญหาหน้าอกโตผิดปกติ โดยการผ่าตัดจะตัดต่อมท่อน้ำนมและเนื้อเยื่อด้านข้างเคียงออก และผิวหนังส่วนเกินออก กำหนดตำแหน่งหัวนมใหม่ แล้วเย็บกลับคืน ก็จะทำให้หน้าอกเล็กลง แต่จะทิ้งรอยแผลเป็นไว้ได้ คุณผู้อ่านที่มีปัญหาหน้าอกใหญ่เกินไป อย่างไรก็ลองนำเอาคำแนะนำข้างต้นไปใช้นะคะ
-
เซ็กซ์ทางประตูหลัง..อันตรายหรือไม่
เซ็กซ์ทางประตูหลัง..อันตรายหรือไม่ เพศสัมพันธ์ทางประตูหลังนั้น มีประโยชน์สำหรับผู้ที่อยากลิ้มลองรสชาติไม่ให้เซ็กซ์มีความน่าเบื่อหรือจำเจ แต่ก็เป็นท่วงท่าที่มีข้อห้ามและข้อแนะนำมากอยู่เช่นกัน เพราะว่าอวัยวะส่วนนี้ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อการมีเพศสัมพันธ์ แต่ถูกออกแบบมาเพื่อการขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย สิ่งที่ควรระวังก็คือหากทำอย่างรุนแรงเกินไปจนเกิดการฉีกขาดทางประตูหลัง ก็อาจมีความเสี่ยงทำให้เกิดการติดเชื้อและติดโรคได้ง่ายกว่าปกติด้วย ดังนั้นการมีเซ็กซ์ทางประตูหลังถือเป็นการมีเซ็กซ์ที่มีความเสี่ยงมากอย่างหนึ่ง
-
ประสบการณ์การ เป็นโรคอีสุกอีใสในวันสงกรานต์
ประสบการณ์การเป็นโรคอีสุกอีใสในวันสงกรานต์ วันนี้จะมาขอเล่าประสบการณ์การเป็นอีสุกอีใสในช่วงเวลาสงกรานต์ให้ฟังกัน แม้ตอนนี้จะหายเป็นปกติแล้ว จะเหลือก็เพียงร่อยรอยของตุ่มที่แห้งและกำลังตกสะเก็ด เลยจะมารวบรวมข้อมูลไว้เผื่อจะมีประโยชน์ต่อคนอื่น ๆ ในอนาคตบ้างนะครับ โรคอีสุกอีใส หรือในภาษาอังกฤษว่า Chickenpox นั้นเป็นโรคที่เกิดจากไวรัสวาริเซลลา มีอาการเป็นผื่นแดงราบ ตุ่มใส ตุ่มหนอง กระจายตามลำตัว แผ่นหลัง ใบหน้า และมีไข้ร่วมด้วย ต้นเหตของโรคเกิดจาก ไวรัสวาริเซลลา หรือ Human herpes virus type3 เป็นไว้รัสชนิดเดียวที่ทำให้เกิดโรคงูสวัด สามารถติดต่อได้ด้วยการสัมผัสถูกตุ่มน้ำโดยตรง หรือสัมผัสถูกของใช้ที่ผู้ที่ป่วยเป็นอีสุกอีใสหรืองูสวัดใช้อยู่ รวมทั้งการสูดหายใจเอาละลองของตุ่มน้ำ ผ่านทางเยื่อเมือกมีระยะฟักตัวประมาณ 10-20 วัน สำหรับในรายที่เป็นงูสวัด สามารถติดต่อในรูปแบบของอีสุกอีใสได้ โดยเฉพาะมารดาที่ให้นมบุตร หากมารดางูสวัด ลูกก็อาจเป็นอีสุกอีใสได้ อาการของโรคนั้น หากเป็นเด็กจะมีไข้ต่ำ ๆ มีอาการอ่อนเพลียและเบื่ออาหาร ส่วนในผู้ใหญ่จะมีไข้สูง ปวดเมื่อยตามเนื้อตัวคล้ายไข้หวัด แต่ก็จะมีผื่นขึ้นไปด้วยตั้งแต่วันที่เริ่มมีไข้ หรือหลังจากมีไข้แล้วหนึ่งวัน ซึ่งในช่วงแรกผื่นจะเป็นผื่นแดงราบก่อน แล้วจึงกลายมาเป็นตุ่มนูน มีน้ำใส ๆ และคัน ต่อมาอีก 2-3 วันจะตกสะเก็ด โดยจะเกิดขึ้นไล่จากไรผมก่อนแล้วกระจายไปตามใบหน้าและลำตัว แผ่นหลัง…
-
อาการร้อนจัด ระวังโรคหวัดแดด
อาการร้อนจัด ระวังโรคหวัดแดด ช่วงนี้อากาศในเมืองไทยร้อนจนแผ่นดินแทบเดือนกันเลยทีเดียว นอกจากแสงแดดจะทำร้ายทำลายผิวแล้ว ความร้อนจากอากาศยังอาจทำให้เสียสุขภาพได้อีกด้วย เพราะอุณหภูมิสูง ๆ ของแดดร้อน ๆ ทำให้ร่างกายมีอาการเพลียแดด แม้จะเป่าพัดลมหรือดื่มน้ำแล้ว ความร้อนก็ดูจะไม่ยอมจางลงเลย แต่ทำท่าจะสะสมอยู่ข้างในเหมือนคนเป็นไข้เข้าไปอีก ยิ่งคนที่ทำงานกลางแจ้งยิ่งต้องระวัง ไม่ควรดื่มน้ำเย็นจัดเพื่อดับร้อนทันที ควรดื่มน้ำธรรมดาดีกว่า และพยายามใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดหน้าเข้าจะช่วยบรรเทาอากาศร้อนได้นะคะ แม้แต่คนที่ทำงานนั่งห้องแอร์ก็ไม่ควรชะล่าใจนัก เพราะถ้าออกไปปะทะกับอากาศร้อนแล้วจะทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทัน มีอาการเหมือนจับไข้ได้ แม้จะดูไม่หนักหนาแต่ก็ไม่ยอมหายขาดเสียที ทำให้ร่างกายอ่อนแอลงเรื่อย ๆ โอกาสติดเชื้อจากโรคอื่น ๆ ก็มากขึ้น ซึ่งอาการของโรคหวัดแดดนั้นเป็นดังนี้ค่ะ 1. มีไข้ต่ำ ๆรุม ๆ ปากแห้งแข็ง แต่ไม่แตกลอก 2. ปากแห้ง คอแห้ง แสบคอ 3. ปวดศีรษะ แต่บางท่านที่ร้อนจัด ๆ อาจะรู้สึกเหมือนถูกกระตุก 4. ขมปากทานอาหารไม่อร่อย เบื่ออาหาร 5. นอนไม่ค่อยหลับ หรือหลับ ๆ ตื่น ๆ 6. ขับถ่ายไม่ปกติ ถ่ายยาก ไม่เป็นเวลา…
-
เชื้อราแคนดิดา อัลไบแคนส์ และ แบคทีเรียกสเตรปโทค็อกคัซ มูแทนส์ ตัวการก่อฟันผุ
เชื้อราแคนดิดา อัลไบแคนส์ และ แบคทีเรียกสเตรปโทค็อกคัซ มูแทนส์ ตัวการก่อฟันผุ เชื้อราแคนดิดา อัลไบแคนส์ และ แบคทีเรีย สเตรปโทค็อกคัซ มูแทนส์ ตัวการก่อฟันผุ มีผลการศึกษาถึงความเชื่อมโยงระหว่าง เชื้อแบคทีเรียสเตรปโทค็อกคัซ มูแทนส์ ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดคราบเพลก, คราบจุลินทรีย์ และไบโอฟิล์ม ที่นำเป็นต้นเหตุของฟันผุ กับเชื้อราแคนติดา อัลไบแคนส์ เชื้อหาที่จะสะสมบริเวณลิ้นและกระพุ้งแก้มหากมีการติดเชื้อ พบว่า ในกรณีที่ผู้ป่วยมีประวัติฟันดุแต่เด็ก จะพบแบคทีเรียสเตรปโทค็อกคัซ และเชื้อรา แคนดิดาเกาะอยู่กับคราบเพลกบนฟัน ที่สเตรปโทค็อกคัซ ใช้กระบวนการย่อยสลายเปลี่ยนคาร์โบไฮเดรต และน้ำตาล เป็นสารเหนียวเคลือบฟัน ทั้งยังเพิ่มความเสียหายต่อการสลายแร่ธาตุซึ่งเป็นโครงสร้างของฟัน จึงทำให้ฟันผุได้ง่ายกว่าการตรวจพบแต่เชื้อแบคทีเรียกสเตปโทค็อกคัซ เพียงตัวเดียว อีกทั้งผู้เชี่ยวชาญยังแนะนำอีกว่า แม้ฟันผุในวัยเด็กจะเป็นฟันน้ำนม แต่ความเคยตัวในการกินแต่อาหารหวานและน้ำอัดลม รวมไปถึงการละเลยไม่ทำความสะอาดฟัน เป็นปัจจัยเสี่ยงของฟันผุร้ายแรงได้เมื่อเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่
-
6 เรื่องน่ารู้ที่คุณอาจคิดไม่ถึงเกี่ยวกับครีมกันแดด
6 เรื่องน่ารู้ที่คุณอาจคิดไม่ถึงเกี่ยวกับครีมกันแดด แสงแดดที่ร้อนแรงในประเทศไทยขนาดนี้ ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงวัยใดก็จำเป็นต้องใช้ครีมกันแดดกันอย่างแน่นอน ซึ่งถ้าจะให้ไหวก็ต้องเป็น SPF50 ขึ้นไปแล้ว แต่นอกจากค่า SPF แล้ว ครีมกันแดดยังมีแง่มุมอื่น ๆ ที่เราจำเป็นต้องรู้จักและใส่ใจ เพื่อการเลือกใช้ครีมกันแดดที่ถูกวิธีและเหมาะสมกันนะคะ 1. คุณรู้หรือไม่ว่าครีมกันแดดส่วนมากมักป้องกันได้แค่รังสียูวีบี เป็นความจริงค่ะ เพราะครีมกันแดดส่วนมากป้องกันได้แค่รังสียูวีบีเท่านั้น ซึ่งเป็นรังสีที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนังและริ้วรอยเหี่ยวย่น แต่ยังมีรังสียูวีเออีกชนิดที่ทำให้ผิวหนังไม้และเกิดจุดด่างดำได้อยู่ด้วย แต่ครีมกันแดดส่วนมากที่ขายอยู่มักจะระบุไว้แต่ค่า SPF ซึ่งป้องกันได้แต่รังสียูวีบีเท่านั้น ซึ่งหมายความว่าไม่สามารถป้องกันรังสียูวีเอได้เลย ดังนั้นหากอยากให้ผิวสวยครบสูตรควบหาครีมกันแดดที่ป้องกันรังสียูวีเอได้ หรือระบุไว้ข้างขวดว่า PA++ นั่นเองค่ะ 2. ยิ่งใช้ครีมกันแดดที่มี SPF สูงมาก ๆ ก็ยิ่งดี? ข้อนี้ไม่เป็นความจริง เพราะหากคุณใช้ครีมกันแดดที่ค่า SPF lง ๆ หากไม่ได้โดนแดดจัด แต่ดันโปะครีมที่มี SPF สูง ๆ อย่าง SPF70 หรือ 90 เข้าไป กลับจะเป็นผลเสียมากกว่า เพราะเป็นการเพิ่มสารเคมีให้กับผิว โดยเฉพาะหากคุณเป็นผู้ที่มีผิวบอบบางก็ยิ่งทำให้เกิดอาการแพ้ได้ง่ายๆ ด้วย ซึ่งทางเลือกก็คือควรใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF…
-
ประโยชน์ของธัญพืชแต่ละชนิด
ประโยชน์ของธัญพืชแต่ละชนิด ธัญพืช คือเมล็ดพืชที่ใช้สำหรับเป็นอาหาร อาทิเช่น ข้าวเจ้า ข้าวสาลี ข้าวไรน์ ข้าวโพด ฯลฯ ซึ่งเป็นพืชจำพวกหญ้าแต่ก็มีประโยชน์กับร่างกายมนุษย์ด้วย รับประทานกันมาแต่โบราณแล้ว ธัญพืชที่เป็นนิยมในปัจจุบันนี้มากที่สุดจะอยู่ในรูปแบบสำเร็จรูปแล้ว เช่น เครื่องดื่มธัญพืชชนิดต่าง ๆ การบริโภคธัญพืชนั้นช่วยให้สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง แล้วยังช่วยป้องกันโรคบางชนิดไดด้วย ดังนั้นการเลือกทานธัญพืชที่ให้ประโยชน์ได้มากที่สุดก็คือการเลือกทานธัญพืชที่ไม่ผ่านกระบวนการขัดสี เพราะจะให้สารอาหารที่มากกว่าชนิดที่ผ่านการขัดสี เช่น ข้าวที่ผ่านการขัดขาว จะทำให้ข้าวสูญเสียสารอาหารไปจนเหลือไม่ถึงครึ่ง ไม่ว่าจะเป็นแมกนีเซียมหรือวิตามินบีหนึ่งซึ่งในข้าวขัดขาวแทบไม่เหลือให้เห็นเลยทีเดียว ดังนั้นการเลือกธัญพืชที่ดีต่อร่างกายของเราที่สุดก็คือควรเลือกชนิดที่ไม่ขัดสี ทานหลาย ๆ ชนิดเพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่หลากหลาย นั่นเอง ธัญพืชหลากชนิดนั้นช่วยให้ร่างกายมีอายุยืนยาว ชะลอความชรา ผิวพรรณงดงามสดใส แล้วยังช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายด้วย นอกเหนือจากสารอาหารที่มีคุณค่าที่หลากหลายแล้ว ทั้งยังช่วยไม่ให้สารอาหารชนิดใดชนิดหนึ่งสะสมอยู่ในร่างกายมากเกินไปจนกลายเป็นโทษ ต่อไปนี้เป็นประโยชน์ของธัญพืชแต่ละชนิดที่มีคุณสมบัติเฉพาะตัว ที่คุณสามารถเลือกทานได้ตามต้องการค่ะ – อัลมอนด์ ช่วยบำรุงเส้นประสาทในร่างกาย อุดมไปด้วยวิตามินอีและบีสอง รวมทั้งแคลเซียม เหล็ก โปรตีน แมกนีเซียมที่มีประโยชน์อย่างยิ่งต่อสมองด้วย อีกทั้งโพแทสเซียมในอัลมอนด์ยังช่วยขนัดน้ำออกจากร่างกายได้ดี ทำให้ไม่บวมน้ำ – งาดำ มีแคลเซียมสูงมาก ทำให้กระดูกแข็งแรง การกินงาดำแค่ 4 ช้อนโต๊ะต่อวันให้แคลเซียมที่เพียงพอได้แล้ว – เมล็ดดอกทานตะวัน แค่วันละ…
-
โรคเริม.. ติดต่อง่ายหายช้า แต่ป้องกันได้
โรคเริม.. ติดต่อง่ายหายช้า แต่ป้องกันได้ โรคเริม นั้นแม้จะเป็นโรคที่ได้ยินชื่อกันจนคุ้นหูมาแล้ว แต่ก็มีน้อยคนที่จะรู้จักกว่ามันเกิดขึ้นจากเชื้ออะไร โรคเริมนี้เป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่งที่เกิดจากไวรัสเฮอร์ปีส์ พบบ่อยได้บริเวณริมฝีปากและอวัยวะเพศ เริมบริเวณริมฝีปาก จะมีลักษณะเป็นตุ่มน้ำใส ๆ แสบและคันนิดหน่อย เมื่อตุ่มนี้แตกออกและตกสะเก็ดแล้วจะหายไปในเวลาประมาณ 7-10 วัน ก่อนการเกิดตุ่มน้ำใสอาจรู้สึกตึง ๆ และร้อนวูบวาบบริเวณปาก บางรายที่เป็นครั้งแรกจะมีตุ่มน้ำใสจำนวนมาก มีไข้ ต่อมน้ำเหลืองโตได้ เมื่ออาการหายไปแล้ว เชื้อไวรัสจะหลบซ่อนภายในปมประสาท เมื่อร่างกายอ่อนแอ หรือเครียด หรือโดนแดดมาก เชื้อไวรัสนี้จะแสดงอาการอีกครั้ง โรคจึงเป็น ๆ หาย ๆ การติดเชื้อเริมจะไม่รุนแรง แต่ในคนที่ภูมิต้านทานต่ำกว่าปกติ อาจมีอาการที่รุนแรงได้ สำหรับการปฏิบัติตนเมื่อเป็นตุ่นน้ำใสขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์ เพื่อรับยาที่ช่วยรักษาอาการเฉียบพลันให้ดีขึ้น ควรรักษาความสะอาดของร่างกาย และล้างมือให้สะอาด หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นการจูบ หรือใช้ผ้าเช็ดหน้าร่วมกัน ยิ่งโดยเฉพาะกับเด็กหรือผู้ป่วย มีภูมิต้านทานต่ำ เพราะจะติดเชื้อได้ง่าย เริมบริเวณอวัยวะเพศ เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่เคยเป็นเริมมาก่อน หรือกำลังมีอาการของโรคอยู่ อาการจะมีตุ่มน้ำพองใสเป็นกลุ่ม ปวดแสบและคันมาก เมื่อตุ่มน้ำแตกออกจะเป็นแผล และเมื่อแผลหายแล้วไวรัสจะหลบซ่อนในปมประสาท และพร้อมจะกลับมาเป็นได้อีกเมื่อมีความเครียด ร่างกายอ่อนแอ โดนแสงแดด…
-
ชนะเบาหวานใน 6 เดือนด้วยการล้างพิษตับอ่อน สูตรที่ได้ผลจริง
ชนะเบาหวานใน 6 เดือนด้วยการล้างพิษตับอ่อน สูตรที่ได้ผลจริง ต่อไปนี้เป็นเรื่องจริงที่อาจต้องใส่นามสมมุติไว้เพื่อความเป็นส่วนตัวของคนไข้นะคะ เป็นเรื่องจริงที่เกิดผู้ป่วยโรคเบาหวานสามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดลงได้จนสามารถเอาชนะโรคเบาหวานได้ในเวลาเพียงแค่ 6 เดือน ที่เพียงแค่ควบคุมอาหารและกินให้ถูกต้องเท่านั้นเอง ชายหนุ่มคนนี้มีนามสมมุติว่า พิรุณ อายุ 38 ปี ชอบเล่นฟุตบอล พอหลังแล่นเหนื่อย ๆก็ชอบดื่มน้ำอัดลมขวดใหญ่ ในเวลาหนึ่งปี น้ำหนักเขาทะยานขึ้นจาก 65 กก. เป็น 75 ก.ก. แต่จะมีคนเตือนว่าเขาไม่ควรกินน้ำอัดลม และควรดูแลสุขภาพให้มากกว่านี้ ไม่ใช่แค่ออกกำลังกายแล้วกินไม่เลือกเลย เขาจึงหันมาสนใจสุขภาพมากขึ้น เขารู้ว่าการกินผักผลไม้ต้องดีกว่ากินน้ำหวานหรือน้ำอัดนมแน่ ๆ แต่ครั้นจะกินแต่ผักอย่างเดียวก็ไม่อร่อย เขาเลยเลือกหันมากินแตงโมแทนการน้ำอัดลมหลังการเล่นฟุตบอล เขากินได้ถึง 2 ลูกในบางวัน กินแทนอาหารเย็นด้วยซ้ำ ผลก็คือน้ำหนักตัวของเขาลดลงจาก 75 เหลือ 65 กก. ภายในระยะเวลา 6 เดือนเท่านั้น เขาหลงเข้าใจว่าตัวเองสุขภาพแข็งแรงขึ้นแล้ว แต่กลับกลายเป็นว่าเขารู้สึกอ่อนเพลียอย่าไม่เคยเป็นมาก่อน แล้วยังปัสสาวะบ่อยมาก กลางคืนต้องลุกขึ้นมาปัสสาวะถึง 2-3 หน ซึ่งสุดท้ายทำให้เขาเล่นฟุตบอลกับเพื่อน ๆ ไม่ไหวอีกต่อไป ภรรยาจึงพาไปพบแพทย์ ผลการตรวจเลือดทำให้เขาแทบล้มทั้งยืนพบว่า…